โปรย...ชีวิตปลานิล

910 Words
โอ๊ย!! “อะไรกันลูก แค่นี้เอง” หญิงสาววัยสามสิบปีนิดๆ ยิ้มจนตาปิดให้กับความน่ารัก น่าเอ็นดูของลูกสาวตัวน้อย ยามว่างหลังจากทำการบ้านเสร็จ เธอมักจะยกตะกร้าหวายใบขนาดย่อมที่บรรจุไหมพรมสีหวานมานั่งถักทอกับลูกสาวของเธอ งานฝีมือที่ต้องอาศัยความละเอียดอ่อน ใจเย็นและความอดทน เธอหวังว่าการถักพรมไหมจะช่วยให้ลูกสาววัยกำลังเข้าสู่วัยรุ่นไม่หมกมุ่นไปกับเรื่องที่ไม่จำเป็น “ตวัดหัวเข็มแล้วจิ้มลงในห่วง จากนั้นก็คล้องไหมพรมเกี่ยวขึ้นมาทางเดิม แล้วม้วนหัวเข็มรอดระหว่างช่องออกมาก็จะได้ลายแบบนี้” “โอ๊ย! หงุดหงิดๆ นิลไม่ทำแล้ว” “โธ่เอ๊ย! ลูกแม่” เด็กน้อยตวัดเข็มโครเชต์ควักเส้นด้ายสีสวยนุ่มฟูตามที่แม่บอกทุกขั้นตอน แต่ทว่ายิ่งทำเจ้าไหมพรมก็ยิ่งพันกันยุ่งเหยิงไปหมด กิจกรรมเสริมสร้างความสมาธิและอดทนนี้มันยิ่งให้เธอหงุดหงิดอารมณ์เสียมากกว่าได้ความใจเย็น เด็กหญิงวัยสิบสองปีอยากไปนั่งดูหนังฟังเพลงแบบที่วัยรุ่นทั่วๆ ไปเค้าทำกันมากกว่า แม่มักจะให้เธอฝึกความอดทนด้วยการนั่งหลังขดหลังแข็งถักผ้าพันคอลายง่ายๆ ให้เสร็จสักผืน และด้วยความเป็นเด็กผสมกับความใจร้อนของปลานิล เธอจึงบ่ายเบี่ยงบอกแม่ว่าผ้าพันคอผืนหนาคงไม่มีโอกาสได้ใช้จริง เพราะประเทศไทยอากาศร้อนตับจะแลบ “มันน่าเบื่อจะตายไปแม่ ทำเสร็จแล้วก็ใช่ว่าจะได้ใช้...” เด็กส่งเสียงออดอ้อน “เอาน่า...ค่อยๆ ถักไปจนกว่าจะเสร็จนะลูก” “...” . . . 6 ปีต่อมา “นางปลาเน่า แกจะพันผ้าเน่าๆ ของแกถ่ายรูปด้วยเหรอ” “แล้วมันไม่ได้เหรอ...” “ก็ต้องไม่ได้สิวะ!นี่มันบัตรนักศึกษานะเว้ย” “ก็มันได้ความรู้สึกเหมือนแม่อยู่ใกล้ๆ นี่หน่า” เจ้าตัวกำผ้าพันคอสีแดงสดที่เธอถักมันจนเสร็จตั้งแต่ตอนประถม นี้เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่เต็มไปด้วยความทรงจำ ความอบอุ่นของแม่อันเป็นที่รักเพียงคนในชีวิตของเด็กสาววัยเพียง 18 ปีคนนี้ “อย่ามาต่อมน้ำตาตรงนี้นะเว้ย” “โธ่เอ๊ยภีม! ปลาก็แค่คิดถึงแม่เฉยๆ ปลาไม่ได้เศร้าสักหน่อย” “จะไปรู้เหรอ! ฉันกลัวว่าแกจะมาน้ำตาแตกถ้าในรูปไม่มีผ้าพันคอของแม่ติดอยู่” เด็กสาววัยเดียวกับปลานิลแซวเพื่อนรักคนสนิท เพราะตั้งแต่ที่ภีมรู้จักกับปลานิลตอนประถม ชีวิตของปลานิลก็ไม่เคยห่างจากไอ้ผ้าพันคอไหมพรมผืนนี้สักครั้ง บัตรประชาชนเอย รึรูปอะไรก็ตามแต่ต้องมีผ้าเน่าสีแดงนี้ร่วมเฟลมตลอด “ปลานิล?” “หึ่ม!?” เจ้าของตอบรับคำเพื่อนโดยที่ตนเองยังนั่งหันหลังให้ แต่แล้วก็ต้องมองตามเพราะยัยเพื่อนสาวสะกิดจนเจ็บแขน “แก๊งหมอ!!” “อะไรของแกภีม” คนขี้รำคาญหันไปเอ็ดเพื่อนสาว ปลานิลมองตามฝูงชนขบวนใหญ่ พวกรุ่นพี่แห่อะไรกันก็ไม่รู้ ราวกับมีขบวนพาเหรด “นางปลาเน่า แกดูพวกศิษย์เก่าพวกนั้นสิ” “ทำไมภีม!!” คนถูกสะกิดแว้ดเสียงสูง ด้วยนิสัยส่วนตัวไม่ค่อยสนใจเรื่องคนอื่นหรอก สนก็แต่เรื่องเรียน เรื่องเงินและงานพิเศษเท่านั้น 1 วันมีค่าเท่ากับ 24 ชั่วโมง แต่สำหรับปลานิลแล้วหนึ่งวันสำหรับเธอ ทำไมมันจึงน้อยกว่าคนอื่นนัก น่าจะมีเวลาทำอะไรต่อมิอะไรได้มากกว่านี้ “นั้นมันแก๊งเทวดานางฟ้าชัดๆ เขาว่ากันว่า ดาวเดือนของมหาลัยเรามาจากคณะแพทย์ทั้งนั้นเลยนะ” “อืม...แล้ว!?” คนฟังไม่สนใจได้แต่ถามไปอย่างนั้น เพราะนางภีมมันพูดเจื้อยแจ้วไม่หยุด เดี๋ยวจะงอนหาว่าไม่สนใจฟังสิ่งที่นางพูด “ตอนเย็นมีกิจกรรมรับน้องที่ทางมหาลัยจัดด้วย วันนี้งานใหญ่เลยนะปลา รวมทุกคณะเลย” “เอ่อ...แล้ว” “แกก็แหกตาดูเหล่าบรรดาเทวดานางฟ้าตรงนั้นสิ พวกเรามีโอกาสได้ทำกิจกรรมกับพวกรุ่นพี่พวกนั้นด้วยนะ ตัวTOPของแต่ละคณะ และส่วนใหญ่ก็จบไปแล้ว” หญิงสาวประคองสองแก้มซ้ายขวาของปลานิลแล้วบิดบังคับให้เธอหันมาเหล่าบรรดาลูกรักของพระเจ้าที่เดินพาเหรดเชิญชวนน้องๆ “หึ! เย็นนี้คุณท่านจะพาไปทานข้าว” “โธ่! อีกแล้วเหรอ” ภีมทำเสียงอ่อย เพราะเพื่อนรักไม่อยู่ทำกิจกรรมด้วย เธอต้องอยู่คนเดียวมันก็จะเหงาๆ “อีกแล้วซะที่ไหนกัน ตั้งแต่สอบติดปลาก็เพิ่งว่างไปทานข้าวกับคุณท่านวันนี้แหละ” “โอเคๆ ไว้ฉันจะถ่ายรูปไปอวดนะ แกพลาดแล้วแหละ เขาบอกว่าวันนี้รวมตัวท็อปของทุกปีเลยด้วย” “จ้า!!...ขอให้ได้รุ่นพี่หล่อๆ สักคนเนาะ” “นางปลาเน่า! คนอย่างฉัน....ไม่เอาหรอกนะ” “ถามจริง?” “คนหล่อๆ มีเป็นร้อย จะเอาแค่คนเดียวทำไมก่อน...ห้ะ!” ภีม!!! ฮ่าๆๆๆ เสียงหัวเราะร่าตามประสาเพื่อนระหว่างสองสาวหน้าตึกคณะมัณฑนศิลป์ แล้วเมื่อถึงเวลาเย็นต่างคนจึงต่างแยกย้ายไปทำกิจของตนเอง เด็กสาวยังมีธุระสำคัญกับคนสำคัญที่รอให้เธอไปพบในคืนนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD