🃏 หึงใช่ไหม

1413 Words
ช่วงเย็นใกล้ค่ำ ลานกิจกรรมเริ่มซาลง เสียงดนตรีเบาลง เหลือแค่ทีมงานเก็บอุปกรณ์ ไฟเวทีบางดวงถูกปิด เหลือแสงสลัวจากเสาไฟรอบลาน เพลงพิณยืนเช็กงานรอบสุดท้าย โน้ตในมือเกือบครบ สมาธิควรจะอยู่ตรงหน้า แต่สายตาของใครบางคน ยังทำให้เธอรู้สึกเหมือนมีอะไรค้างอยู่ ขุนเขายืนอยู่ไม่ไกล คุยกับทีมวิศวะ แต่สายตากลับหันมาทางเธอเป็นระยะ ไม่หลบ ไม่ปิด ไม่พยายามซ่อน เหมือนคนที่เริ่มเหนื่อยกับการแกล้งไม่รู้สึก เพลงพิณสูดหายใจลึก ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปหาเขา “ขุนเขา” เธอเรียก น้ำเสียงปกติ ไม่ประชด ไม่ยิ้ม เขาหยุดพูดกับทีม หันมามองเธอ “มีอะไร” เสียงเขานิ่ง แต่แววตายังตึง “คุยหน่อยได้ไหม” เธอถาม “สองคน” แทนกับโอมมองหน้ากัน ก่อนจะถอยออกไปเงียบ ๆ เหลือแค่สองคน กับพื้นที่กว้างที่เงียบลงกว่าก่อนหน้า เพลงพิณยืนตรงหน้าเขา ไม่ใกล้ ไม่ไกล “เมื่อกี้” เธอเริ่ม แล้วหยุด เหมือนเลือกคำ “นายโกรธอะไรฉันหรือเปล่า” ขุนเขาขมวดคิ้ว “ผมไม่ได้โกรธ” “งั้นหงุดหงิด” เธอแก้ น้ำเสียงยังเรียบ “ผมจริงจังกับงาน” เขาตอบทันที เหมือนซ้อมคำนี้มาแล้ว เพลงพิณพยักหน้า เหมือนรับฟัง แต่สายตาไม่เชื่อทั้งหมด “ฉันก็จริงจัง” เธอพูด “เพราะงั้นฉันถึงอยากถามตรง ๆ” ขุนเขานิ่ง รอ เพลงพิณสบตาเขา ไม่หลบ ไม่ยิ้ม “นายหึงฉันใช่ไหม” คำถามนั้น ตรง ชัด และไม่มีทางหนี ขุนเขาชะงัก เสี้ยววินาทีเดียว แต่เพลงพิณเห็นทัน “ไม่ใช่” เขาตอบเร็ว เร็วเกินไป “แน่ใจนะ” เธอถามซ้ำ เสียงไม่กดดัน แต่หนักแน่น “แน่ใจ” เขาย้ำ น้ำเสียงเข้มขึ้น เพลงพิณเงียบไป ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ “งั้นฉันขอถามอีกแบบ” เธอพูด “ถ้าวันนี้ฉันคุยกับใครกี่คน หัวเราะกี่ครั้ง มันควรจะเกี่ยวกับนายไหม” ขุนเขาขบกราม ไม่ตอบทันที “มันไม่ควร” เขาพูดในที่สุด “แต่” เพลงพิณต่อ “นายก็ยังไม่ชอบอยู่ดี” ประโยคนั้น ทำให้เขาเงียบ ลมเย็นพัดผ่าน เสื้อช็อปที่พาดไหล่เขาขยับเล็กน้อย “ขุนเขา” เธอเรียกอีกครั้ง เสียงเบาลง “ถ้ามันไม่ใช่หึง แล้วมันคืออะไร” เขาหลบสายตาเป็นครั้งแรก มองไปทางเวทีที่ไฟเริ่มดับ “ผมไม่ชอบความวุ่นวาย” เขาพูด “ไม่ชอบอะไรที่ควบคุมไม่ได้” เพลงพิณยิ้มบาง ยิ้มแบบเข้าใจมากกว่าที่คิด “แล้วฉันอยู่ในหมวดนั้นเหรอ” เขาหันกลับมามองเธอ สายตาตึง จริงจัง “เธอทำให้ผมเสียสมาธิ” เขาพูด ช้า ชัด เพลงพิณหัวใจเต้นแรง แต่ยังคุมสีหน้าได้ “ฟังดูไม่เหมือนเรื่องงานแล้วนะ” เธอพูดเบา ๆ ขุนเขาเงียบ เงียบจนคำตอบมันชัดกว่าการพูด เพลงพิณก้าวเข้าไปใกล้อีกนิด ระยะที่ไม่ล้ำเส้น แต่ใกล้พอจะรู้สึก “ฉันไม่ได้ถามเพื่อเอาชนะ” เธอพูด “ฉันแค่อยากรู้ว่า ฉันควรวางตัวกับนายยังไง” ขุนเขาสบตาเธอ ใกล้ นิ่ง เดือด “เธอไม่ต้องเปลี่ยนอะไร” เขาพูด “ผมจัดการของผมเองได้” “แม้จะหึง?” เธอถามซ้ำ คราวนี้น้ำเสียงมีรอยยิ้มบาง ๆ แทรกอยู่ เขาขบกราม ถอนหายใจแรงครั้งหนึ่ง “ผมไม่ได้หึง” เขาพูด ชัด แต่ไม่มั่นใจเท่าเดิม เพลงพิณยิ้ม ไม่กดดัน ไม่ซ้ำเติม “โอเค” เธอพยักหน้า “งั้นฉันก็จะถือว่า นายแค่ห่วงงานมาก” เธอถอยออกมา หมุนตัวจะเดินกลับไป แต่ก่อนจะไป เธอหันกลับมาอีกครั้ง “แต่ถ้าวันไหนนายรู้สึกมากกว่านั้น” เธอพูด “อย่าเอาเรื่องงานมาอ้างนะ” ขุนเขามองเธอ ไม่พูด ไม่ตาม แต่หัวใจกลับเต้นแรง แรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพลงพิณเดินจากไป ทิ้งไว้แค่คำถามที่เขายังไม่กล้าตอบ และอาการที่เขายังเรียกมันว่า “ไม่หึง” ทั้งที่ความจริง มันชัดขึ้นทุกวินาที ⸻ 🃏 เส้นที่เธอขีด และไฟที่เขาคุมไม่อยู่ ค่ำคืนนั้น ลานกิจกรรมเงียบลงเกือบหมด เหลือแค่ไฟบางดวงที่ยังเปิดไว้ให้ทีมเก็บงาน อากาศเย็นกว่าตอนเย็น แต่บรรยากาศกลับตึงกว่าทุกครั้ง เพลงพิณยืนคุยกับทีมรอบสุดท้าย สั่งงานสั้น ๆ ชัดเจน ก่อนจะโบกมือให้ทุกคนแยกย้าย พอหันกลับมา เธอก็เห็นขุนเขายืนรออยู่แล้ว ไม่ใกล้ ไม่ไกล แต่สายตาที่มองมา ไม่ได้ปกติ “มีอะไรอีกไหม” เธอถาม น้ำเสียงเรียบ “คุยกันหน่อย” เขาตอบ เสียงต่ำ แข็งกว่าตอนกลางวัน เพลงพิณพยักหน้า เดินนำไปทางด้านข้างเวที จุดที่ไม่มีใครอยู่ ไฟสลัว เสียงเมืองด้านนอกดังแผ่ว ๆ ทั้งสองยืนเผชิญหน้ากัน เงียบอยู่ครู่หนึ่ง “วันนี้เธอทำเกินไป” ขุนเขาเปิดก่อน น้ำเสียงไม่ดัง แต่ชัดเจน “เกินอะไร” เพลงพิณถามกลับ ยังคุมอารมณ์ได้ดี “เธอรู้ว่าผมหมายถึงอะไร” เขาพูด “คุยกับคนอื่นใกล้เกินไป หัวเราะมากเกินไป ทำเหมือนไม่เห็นว่ามีคนกำลังทำงานอยู่” เพลงพิณเลิกคิ้ว หัวเราะหึสั้น ๆ “นายยังอ้างเรื่องงานอยู่อีกเหรอ” เธอถาม ไม่ประชด แต่ผิดหวังชัด “ผมพูดเรื่องงานมาตลอด” เขาตอบ เร็ว แรง “ไม่” เพลงพิณตัด เสียงเริ่มแข็ง “นายพูดเรื่องความรู้สึกของนาย แต่ไม่ยอมเรียกมันตรง ๆ” ขุนเขาขบกราม ก้าวเข้ามาใกล้โดยไม่รู้ตัว “แล้วเธอต้องการอะไร” เขาถาม เสียงต่ำลง อารมณ์เริ่มล้น “ฉันต้องการขอบเขต” เพลงพิณตอบทันที ไม่ถอย ไม่หลบสายตา คำว่า ขอบเขต ทำให้เขาชะงัก “ฟังให้จบก่อน” เธอพูดต่อ เสียงนิ่ง แต่หนักแน่น “นายไม่มีสิทธิ์มาไม่พอใจ เพราะฉันคุยกับใคร หัวเราะกับใคร หรือยืนใกล้ใคร” “แต่—” เขาจะพูด “ไม่มีแต่” เธอตัด ชัด แรง “เราไม่ได้เป็นอะไรกัน” เธอพูด ช้า ชัดทุกคำ “และต่อให้วันหนึ่งจะเป็น มันก็ไม่ใช่เหตุผลให้ใครมาควบคุมฉัน” ขุนเขานิ่ง ลมหายใจหนักขึ้น “ผมไม่ได้จะควบคุม” เขาพูด แต่เสียงไม่มั่นคง “แต่นายกำลังทำอยู่” เพลงพิณสวน “และฉันไม่โอเค” ความเงียบตกลงกลางอากาศ หนักหน่วง “ขุนเขา” เธอเรียกชื่อเขา เสียงอ่อนลงนิดหนึ่ง แต่ยังชัด “อะไรที่ได้” เธอพูด “คือคุยกันตรง ๆ ทำงานร่วมกัน เคารพกันในฐานะประธานสโมสร” “แล้วอะไรที่ไม่ได้” เขาถาม เสียงแผ่วลงโดยไม่รู้ตัว “คือการใช้อารมณ์ ใช้อำนาจ หรือเอาความรู้สึกที่นายยังไม่ยอมรับ มาล้ำเส้นชีวิตฉัน” คำพูดนั้น เหมือนกระแทกตรงกลางอก ขุนเขาหลับตา ถอนหายใจแรง “เธอคิดว่ามันง่ายเหรอ” เขาพูด เสียงต่ำ จริงใจเกินกว่าจะโกหก “ฉันไม่ได้บอกว่าง่าย” เพลงพิณตอบ “แต่ฉันจะไม่ยอมให้มันทำร้ายฉัน” เขาลืมตาขึ้น สบตาเธอ “แล้วถ้าผมคุมไม่ได้ล่ะ” คำถามหลุดออกมา โดยไม่ทันคิด เพลงพิณนิ่ง ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจนที่สุดในคืนนั้น “ถ้านายคุมไม่ได้” เธอพูด “ฉันจะเป็นคนถอยเอง” ประโยคนั้น ทำให้ขุนเขาเดือด แต่เดือดกับตัวเองมากกว่าใคร “ผมไม่อยากให้เธอถอย” เขาพูด เสียงอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด “งั้นนายก็ต้องเคารพเส้นของฉัน” เพลงพิณตอบ ไม่อ่อน ไม่แข็ง แต่มั่นคง ทั้งคู่ยืนเงียบ ความรู้สึกยังค้าง ไฟยังไม่ดับ แต่เส้นหนึ่ง ถูกขีดไว้ชัดเจนแล้ว “คืนนี้พอแค่นี้” เพลงพิณพูด ก่อนจะหันหลัง เธอเดินออกไป ไม่วิ่ง ไม่เร่ง ไม่หันกลับมา ขุนเขายืนอยู่ตรงนั้น ท่ามกลางลานกิจกรรมที่มืดลงเรื่อย ๆ เขารู้แล้วว่า นี่ไม่ใช่แค่ความหึงธรรมดา และถ้าเขาไม่เรียนรู้จะคุมมัน เขาอาจเป็นคนที่ผลักเธอออกไปเอง เป็นครั้งแรก ที่เขาไม่อยากชนะ แต่อยากรักษา สิ่งที่ยังไม่มีชื่อเรียก แต่สำคัญเกินกว่าจะเสียไป ⸻
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD