13

1369 Words
๑๓ ร่างอวบอิ่มถูกโอบอุ้มลงวางบนเตียงนุ่มในเวลาต่อมา หลังจากถูกเจ้าของร่างสูงใหญ่ปลุกเร้าเสียจนแทบสิ้นเรี่ยวแรง ก่อนบรรจงจุมพิตพรมไล้ไปทั่วดวงหน้าหวานซึ้ง ซอกคอขาวผ่อง เนินอกเต่งตูมและปลายถันสั่นระริกด้วยท่วงท่าเว้าวอนเร่าร้อนเสียจนเจ้าของร่างเปลือยระหงอ่อนอกอ่อนใจ เขาไม่ปล่อยให้หล่อนได้มีเวลาตั้งตัวรีบเบียดร่างหนาเข้าหาแนบแน่น พร้อมกับลูบไล้อย่างจงใจให้รู้สึกถึงสัมผัสอันเย้ายวน ชวนลุ่มหลง แล้วก้มลงกระซิบกับใบหูบอบบางสีชมพูเรื่อด้วยน้ำเสียงต่ำพร่า... “ลองดูบ้างไหม” ดวงตาคมกริบประสานสายตาพร่ามัวด้วยแรงปรารถนา สมองน้อยๆ ครุ่นคิดตามคำร้องขอนั้นอย่างมึนงง ลองดูบ้างไหม... หมายความว่า หากแต่อีกฝ่ายไม่ปล่อยให้หญิงสาวสับสนได้นาน เมื่อร่างระหงถูกรั้งให้ลุกขึ้นนั่ง พร้อมกับมือเรียวเล็กที่ถูกนำพามาสู่ปลายทางแห่งความหฤหรรษ์ เท่านั้นร่างบางก็ถึงกับสะดุ้ง ใช่เพียงแค่ร่างเล็กที่สั่นเทา ทว่ามือเรียวก็สั่นระริกอยู่กับความแกร่งร้อนระอุกลางกายนั่นเอง... น่าแปลก... ทำไมหล่อนจึงไม่สามารถดึงมือนั้นกลับคืนมาได้ ชั่วขณะหล่อนรู้สึกซ่านระทึกคล้ายกำลังถูกดูดลงสู่ห้วงหลุมดำแห่งเวิ้งอวกาศ จากวินาทีจนขยายกลายเป็นนาทีที่นั่งนิ่งคล้ายถูกสาป ร่างกายคล้ายเป็นอัมพาต ต่างจากคนนอนราบกลับหลับตาพริ้ม ทว่าลึกลงไปในห้วงรู้สึกคือการข่มกลั้นอารมณ์อย่างสุดแสนทรมาน ดวงตากลมโตที่ปรือเยิ้มหลุบลงมองส่วนเสี้ยวสำคัญแห่งการเจริญพันธุ์ด้วยความรู้สึกสะท้าน ขณะนั้นมือเรียวสวยคล้ายอวัยวะส่วนเกิน ไม่อาจเคลื่อนไหวอย่างใจปรารถนา มันสั่น มันชา อยากดึงกลับแต่ทว่ากลับนิ่งเฉย แม้มือหนาที่นำพามาสู่จะละผละห่างไปนานแล้ว... คนที่เคยเป็นจ้าวแห่งความหฤหรรษ์ในเวลานี้ผงกศีรษะปรือตามอง พร้อมกับเปรยเสียงพร่าออกมาเบาๆเมื่อคนที่เขายอมสยบชั่วขณะยังคงนิ่งเฉยราวมนุษย์หิน... “อย่ากลัว... เธอจะมีความสุขที่สุด ฉันสัญญา แต่เวลานี้ ช่วยเอ็นดูฉันหน่อยเถอะทูนหัว...” เสียงทุ้มพร่าลง เมื่อเรียวนิ้วเริ่มขยับไหวราวต้องมนตร์… ดวงตากลมโตราวนางกวางน้อยหลบเร้นตาคมกริบที่หรี่มอง แล้วหลุบประสานบางอย่างที่ดิ้นเร่าต้องการปลดปล่อย พวงแก้มร้อนผ่าวครั้งแล้วครั้งเล่า ทว่าบางอย่างที่ตั้งใจผุดพรายสว่างวาบขึ้น แววหวาดหวั่นแปรเปลี่ยน กลับกลายคล้ายวาววับวูบหนึ่ง ก่อนลงมือเสกสรรบันดาลสุขซ่านสะท้านอารมณ์ให้กับคนตรงหน้าอย่างเชื่องช้า แต่เร้าใจ... ดวงตานางเสือหรี่ลงอย่างพอใจ ขณะเฝ้ามองความหฤหรรษ์ที่พุ่งทะยานขึ้นเรื่อยๆ จากคนเบื้องล่าง ริมฝีปากอิ่มเรื่อขยับยิ้ม กระชับนิ้วบรรจงละเลียดสุขลงไปอย่างพร้อมสรรพ ความสุขแสนทรมานกำลังเล่นงานเขาแล้ว และทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกขณะ ตามจังหวะการเลื่อนไล้! ขากรรไกรเขียวครึ้มขึ้นเป็นสัน เมื่ออุทิศกายถวายตัวตกเป็นทาสปรารถนาแก่เจ้าของมือน้อยๆ นั่น ความรู้สึกขณะนี้จึงเปี่ยมล้นจนแทบทนไม่ไหว สะโพกหนาแกร่งหยัดรับสัมผัสการเคลื่อนไหวโบกโบยคล้ายผีเสื้อโฉบไล้ หัวใจเต้นถี่ระทึก ก่อนปลดปล่อยเสียงแหบห้าวให้คนที่บรรจงสรรสร้างทางสวรรค์รู้สึกชาวาบไปทั้งร่าง ดวงตาฉ่ำที่ปิดลงปรือเปิดขึ้นอีกครั้ง แต่แล้วต้องหรี่มองอย่างฉุกใจเมื่อสบตาหวานล้ำที่ยั่วเย้าส่งยิ้ม ทว่าเพียงเสี้ยววินาทีดวงตาคมกริบฉายแววปรารถนาร้อนแรงกลับค่อยๆ หรี่ปรือ เมื่อดวงหน้างดงามค่อยๆ เลื่อน ค่อยๆ ไล้ ต่ำลงไปกับผิวกายเป็นมัดกล้าม... มือหนาสองข้างกำขยำผ้าขาวสะอาดจนยับย่น สมองชาญฉลาดพร่าเบลอเผลอคิดไปไกล เขาเคยได้ยินมาว่า... ยิ่งสูง ก็จะยิ่งหนาวนั้นเห็นทีจะจริงเสียแล้ว เพราะเวลานี้ หล่อนยิ่งเคลื่อนต่ำ เขาก็ยิ่งร้อน... ร้อนจนแทบจะปลดปล่อยบางอย่างให้พวยพุ่งออกมาเป็นลาวาวินาทีใดวินาทีหนึ่ง! ทว่าความคิดต้องมาสะดุดหยุดลง เมื่อความเร่าร้อนปานเหล็กกล้าที่แข็งขืนในฝ่ามือน้อยถูกไถลด้วยความไร้เดียงสา สะโพกแกร่งหยัดยกสอดรับ ลมหายใจสะดุดเป็นห้วง และก่อนที่จะถูกแผดเผาไปทั้งกายด้วยไฟปรารถนา ร่างบางก็ถูกกระชากขึ้นมาบดจุมพิตอย่างดุเดือด!! ใบหน้าคมคายแดงก่ำ เขาไม่อยากเชื่อว่าแค่หล่อนเริ่มเขาก็ร้อนฉ่าราวถูกแผดเผา! กับคนอื่น ต่อให้ทั้งเล้าทั้งโลมเขายังแทบไม่รู้สึกรู้สา ทว่าหล่อน! หล่อนคือตัวร้าย ที่ทำลายความมั่นใจของเขาให้หมดลงไปทีละนิด! เสียงทุ้มคำรามในลำคอ พร้อมกับเป็นฝ่ายยึดบทบาทของการเป็นผู้นำกลับคืนมาทั้งหมด แล้วแสยะยิ้มเมื่อทำให้ร่างระหงบิดเร่าเป็นงูเลื้อยได้อย่างง่ายดาย โดยไม่มีส่วนไหนที่เขาไม่ได้สัมผัส! แต่แม้เขาจะขึ้นมาเป็นผู้นำอีกครั้ง ก็ไม่ได้ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นเลยสักนิด ตรงกันข้ามกลับรู้สึกว่า ยิ่งนานไปคนที่แทบขาดใจก็คือเขานั่นเอง... และเพียงไม่นานร่างบางก็ถูกพลิกให้อยู่ภายใต้ร่างหนาแกร่ง คิ้วเรียวขมวดมุ่น ริมฝีปากเม้มแน่น เหงื่อกาฬผุดพราย ทั่วทั้งเรือนกายร้อนผ่าว และแล้วความหฤหรรษ์ก็ถูกส่งเข้ามาในตัวหล่อน! ริมฝีปากที่เม้มไว้คลายออกด้วยสิ้นสุดความอดกลั้น เสียงผะแผ่วแว่วหวานสั่นความรู้สึกคนเบื้องบน คล้ายจะเร่งเร้าระคนเว้าวอนให้ขยับเขยื้อนเคลื่อนกายและโยกไหวไปตามใจปรารถนา แต่ก็ทนได้ไม่นาน ต้องปล่อยเสียงหวีดหวานตามจังหวะผลักดันเร่าร้อนเบื้องบน ทนไม่ไหวมากๆ เข้าหญิงสาวก็ตวัดเรียวขาขึ้นโอบเกี่ยวเอวสอบที่รัวกระหน่ำย้ำสวาท ราวกับต้องการให้เขาเติมเต็มแนบชิดเพิ่มมากขึ้น ความกระสันรันจวนก่อเกิดปรารถนาที่มิอาจสิ้นสุด หยุดยั้งไม่ได้ ใคร่แต่จะชิมรสเสน่หาจากกายแกร่งอย่างที่เขาก็ต้องการจากกายหล่อน! ไม่นานต่อมา ร่างแบบบางก็ถูกช้อนนั่งบนตักกว้าง แต่ขณะเดียวกันคนช้อนก็ยังคงขยับเขยื้อนเสือกกายเข้าออกในซอกเร้นเป็นจังหวะเนิบนาบ เรียกเสียงครางอู้จากคนตัวบางให้ดังขึ้น ก่อนเผยอปากอิ่มเรื่อสูดลมหายใจเข้าปอดเมื่อเอวคอดถูกจับให้ครอบครองความแข็งแกร่ง สองมือเรียวเกี่ยวกอดศีรษะทุยได้รูปเมื่อริมฝีปากหนาบดบี้ครอบครองยอดถัน ทั้งตวัดรัดเลียดูดดื่มและรัวถี่ปลุกอารมณ์สวาทให้ร้อนผ่าวขึ้นเป็นระลอกคลื่น ความกระสันซ่านถาโถมตามแรงสอดกระแทก ยิ่งเขาสาดเสยก็ยิ่งเสียดเสียวสั่นสะท้าน ร้อนผ่าววูบวาบทั่วสรรพางค์กายชวนหน้ามืด ยิ่งเขาเปลี่ยนท่านอนราบลงไปกับเตียงกว้างแล้วปล่อยให้หล่อนเป็นผู้คุมเกมก็ยิ่งเหมือนกับโลกจะถล่ม ฟ้าจะทลาย ทุกอย่างหมุนวนไม่รู้ทิศทาง รู้เพียงว่าสิ่งที่กำลังได้รับและมอบสู่เขาช่างอยู่เหนือความคาดหวังทั้งปวง มันสุขสะท้านซ่านทรวงไปหมด และเติมเต็มอารมณ์พิศวาสได้อย่างถึงอกถึงใจกับท่วงท่าของผู้นำขณะนี้! เพียงไม่นานเกมรักควบคุมโดยคนตัวบางที่ดำเนินต่อไปอย่างเชื่องช้า อ่อนโยนนุ่มนวล ก็ค่อยๆ เร่าร้อนขึ้นเมื่อถูกคนตัวโตกว่ามากยึดบทบาทกลับคืน ไม่มีคำว่าสะดุดหรือแผ่วลงด้วยความเหนื่อยอ่อนแต่อย่างใด จะมีก็แต่เรี่ยวแรงมหาศาลที่โถมใส่ไม่ยั้งหากแต่ก็ซาบซึ้งอ่อนหวานในที ก่อนจะหนักแน่น แต่ก็หน่วงไว้ด้วยจังหวะเนิบนาบ ค่อยเป็นค่อยไป เคลื่อนไหวตามครรลองประคับประคองให้ดำเนินอย่างต่อเนื่อง ช้าบ้าง เร็วบ้าง สลับสับเปลี่ยนจังหวะรักอันเร่าร้อนด้วยเทคนิคเหนือชั้น ก่อนจะพากันพุ่งทะยานขึ้นไป ณ จุดเส้นสายที่ปลายโค้งรุ้ง...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD