ตอนที่ 5

3469 Words
หลังจากกลับจากโคราชสามสาวต่างก็แยกย้ายกันไปทำงานสุพิชชากับกนกพัชรทำที่เดียวกันแผนกออกแบบเหมือนกันจนตอนนี้สองสาวทำงานที่Y&Sได้สี่เดือนแล้วส่วนปนาลีก็ไปช่วยงานของแม่เธอก่อนเพราะท่านไม่ยอมให้เธอไปทำงานที่อื่น “พิชชาเสร็จหรือยังเดี๋ยวรถติดเราจะไปทำงานสายกันนะ” กนกพัชรเรียกเพื่อนที่กำลังหิ้วกระเป๋าวิ่งออกมาจากห้องในสภาพที่เธออึ้ง “เสร็จแล้วจ้า” สุพิชชาออกมาในสภาพหัวเปียกซกหน้าก็ยังไม่ได้แต่งยังดีที่ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยมือถือผ้าขนหนูผืนเล็กมาด้วย “เฮ้ย, ยัยพิชชานี่แกไปทำอะไรมาเนี่ย” กนกพัชรถามเพื่อนรักที่ยิ้มแหยให้เธอ “ก็ ตื่นสายไงเลยรีบไปหน่อยมันจึงเป็นอย่างนี้น่ะ แหะๆแหะๆ.” สุพิชาหัวเราะเบาๆเธอจะบอกเพื่อนได้อย่างไรล่ะว่าตัวเองฝันว่าจูบอย่างดูดดื่มกับใครก็ไม่รู้เธอไม่เห็นหน้าแต่เขามีกลิ่นหอมเย็นๆสดชื่นจนเธอจำกลิ่นในฝันได้และได้ยินเหมือนคนมาเรียกเธอและตกใจสะดุ้งตื่นยังร้อนวูบวาบที่ปากบางอิ่มสีชมพูของเธออยู่เลย ถ้าในฝันไม่มีคนมาเรียกเธอจะเป็นยังไงต่อนะ ยัยลามกเอ้ย “งั้นเร็วๆเลยนะแกฉันว่าวันนี้เราท่าจะไปทำงานสายแน่นอนถ้าแกยังเอามือลูบปากอยู่อย่างนี้น่ะ” กนกพัชรพูดแล้วก็เดินนำออกไปอย่างรีบเร่งสุพิชชาเดินตามไปและลืมเรื่องจูบในฝันไปเลยเมื่อดูนาฬิกาอีกครั้ง เมื่อถึงที่ทำงานสองสาวก็รีบวิ่งไปที่เครื่องสแกนลายนิ้วมือตรงข้างประตูเข้าห้องทำงานที่ตอนนี้ทุกคนมากันครบแล้วต่างหันมามองเด็กใหม่สองคนกันเป็นแถวยังดีที่ห้องนี้มีผู้ชายมากกว่าผู้หญิงจึงไม่มีเรื่องให้เม้าท์กันมากนักเพราะพวกผู้ชายในห้องส่วนมากมีเมียกันหมดแล้วบางคนก็เจ้าชู้แต่ไม่กล้าจีบเพราะทุกคนรู้ว่าเป็นเด็กเส้นของผู้บริหารที่มีฝีมือไม่ใช่มานั่งเล่นเหมือนหลายคนที่ผ่านมาทำให้พนักหนุ่มในห้องให้เกียรติสองสาวและไม่กล้าจีบแต่ก็คุยกันหยอกล้อแซวกันสนุกๆเท่านั้น “วันนี้ทำไมมาสายกันล่ะคะน้องพิชชาน้องพัชร” พี่ตุ่นรองหัวหน้าแผนกออกแบบถามลูกน้องสาวทั้งสองคน “ตอบตรงๆเลยนะคะพี่ตุ่น พิชชาหลับเพลินไปหน่อยค่ะก็เมื่อคืนเอางานไปแก้ให้ก็เลยสายค่ะ” สุพิชชาพูดเสียงอ่อยในตอนท้ายก็เธอกลัวมันจะไม่เสร็จน่ะสิ “ทำไมไม่แก้ที่นี่ละพี่ไม่ได้รีบนะจ้ะ” พี่ตุ่นบอกลูกน้องคนขยันตั้งแต่พวกเธอมาฝึกงานกันที่นี่เมื่อต้นปีแล้วและตอนนี้พวกเธอก็เป็นพนักงานประจำแล้ว “ไม่เป็นไรจ้ะ วันนี้มันยังทันเวลาอยู่เห็นมั้ย” พี่ตุ่นชี้นาฬิกาตรงโต้ะทำงานของเธอที่ตั้งเผื่อลูกน้องมาสายแต่เธอก็ไม่ได้บอกเด็กใหม่สองคนนี้เท่านั้น “ขอบคุณค่ะพี่ตุ่น” สองสาวยกมือไหว้พี่ตุ่นและไปนั่งที่โต้ะทำงานของตัวเองตอนนี้ทั้งสุพิชชาและกนกพัชรทำงานที่ Y&S ได้หลายเดือนแล้ว พอพักเที่ยงสองสาวก็พากันไปกินข้าวที่โรงอาหารของบริษัทที่มีหลายร้านให้เลือกกินกันตามใจชอบแถมราคาถูกอีกด้วย “ว่าไงคะยัยคุณหนูลีที่รัก” สุพิชชารับโทรศัพท์ของปนาลีและถามเพื่อนสาวที่โทรมาหาเธอ “เย็นนี้พวกแกว่างกันไหมพิชชา” ปนาลีถามเพื่อนรักที่เดินกลับไปที่ห้องทำงานหลังกินข้าวเที่ยงเอิ่มแล้ว “ว่างอยู่นะมีอะไรเหรอแก” สุพิชชามองนาฬิกาในมือว่ายังเหลือเวลาคุยกับเพื่อนอีกสิบห้านาทีก่อนที่จะถึงเวลาทำงาน “หนูลีมีเรื่องอยากปรึกษาน่ะสิ เรื่องนั้นแหละ” ปนาลีบอกเพื่อนเพราะเธอมีเรื่องให้กังวลอยู่เรื่องเดียว “ได้, งั้นเย็นนี้เจอกันที่ไหนดีล่ะหนูลี” สุพิชชานัดแนะสถานที่กับเพื่อนรักเรียบร้อยก็ไปทำงานต่อ “ยัยคุณหนูลีว่ายังไงเหรอพิชชา” กนกพัชรถามสุพิชชาเมื่อเธอวางโทรศัพท์ “เย็นนี้หนูลีมีเรื่องจะปรึกษาน่ะ” สุพิชชาบอกกนกพัชรที่เพิ่งนั่งลงบนเก้าอี้ที่โต้ะทำงานของเธอซึ่งอยู่ถัดไปจากโต้ะของเธอแล้วสองสาวก็ทำงานกันต่อจนถึงเวลาเลิกงานสุพิชชากับกนกพัชรก็ปตามนัดของปนาลีที่รอพวกเธออยู่ที่ร้านอาหารที่พวกเธอไปกินกันบ่อยๆ ที่ร้านอาหารไทยริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่พวกสามสาวชอบมานั่งกินและชมวิวยามค่ำคืนที่มีเรือแล่นผ่านไปมาแสงไฟวิวับสะท้อนลงในแม่น้ำสวยงาม ปนาลีนั่งรอเพื่อนและคิดถึงเรื่องของเธอกับติณณ์ที่วันนี้เขาโทรมาหาเธอและจะนัดกับเธออีกครั้งถ้าเขาว่างอย่างเพลินๆก็สะดุ้งเสียงของกนกพัชรที่ดังขึ้น “หวัดดีจ้าคุณหนูลีคนสวย” กนกพัชรทักทายเพื่อนเสียงดังจนปนาลีตกใจ “อุ้ย, ยัยพัชรตกใจหมดเลยแกจะพูดเสียงดังทำไมเนี่ย” ปนาลีว่าเพื่อเสียงแหลม “ขวัญอ่อนจังเลยนะจ้ะหนูลี หรือมัวแต่คิดถึงว่าที่สามีในอานาคตอยู่จ้ะ” สุพิชชายิ้มและแซวเพื่อนรักที่เธอเห็นกำลังนั่งเหม่ออยู่ “บ้าเหรอแก หนูลีไม่แต่งหรอกย่ะ วันนี้พี่ติณณ์โทรมาหาหนูลีแล้วล่ะเดี๋ยวถ้าว่างจะนัดคุยกันอีกทีจ้ะ” หนูลีบอกเพื่อนรักทั้งสอง “อ้าว, แล้วจะคุยกันยังไงล่ะว่าที่สามีแกอยู่อังกฤษไม่ใช่เหรอหนูลี” สุพิชชาถามปนาลีเพราะเธอรู้แต่ว่านายติณณ์คนที่เพื่อนรักจะแต่งงานด้วยยังไม่กลับเมืองไทยนี่นา “นั่นนะสิหนูลี” กนกพัชรก็อยากรู้ด้วยเหมือนกัน “พี่ติณณ์กลับมาแล้ว เพิ่งมาถึงเมื่อเช้านี้และโทรมาหาหนูลีน่ะสิ” ปนาลีบอกเพื่อน “จริงเหรอแก พัชรอยากเห็นว่าที่สามีแกจริงๆเลยหนูลีว่าจะหล่ำกล้ามแน่นขนาดไหน คิกคิกๆ...” กนกพัชรพูดแล้วก็หัวเราะเมื่อเห็นปนาลีทำหน้างอใส่เธอ “นี่ยัยพัชรขอร้องล่ะอย่างเรียกว่าที่สามีหนูลีเลยนะมันขนลุกอ่ะ” ปนาลีพูดแล้วลูบแขนทำท่าขนลุก “แล้วแกจะบอกเขาว่ายังไงล่ะหนูลี” สุพิชชาถามเพื่อน “หนูลีถึงนัดพิชชากับพัชรมาปรึกษานี่ไงล่ะ” ปนาลีบอกเพื่อนเสียงหวานเมื่อเธอต้องการความช่วยเหลือจากเพื่อนรักทั้งสอง “เรื่องของแกนี่มันน้ำเน่ายิ่งกว่าละครอีกเนาะหนูลี คุณแม่ดาคงดูละครเยอะไปหน่อยมั้งแกเลยเจอแจ๊กพ๊อตน่ะ” กนกพัชรพูดออกไปตรงๆ “คิดดูนะเพื่อนรัก ถ้าไม่ทำตามก็เสียผู้ใหญ่พูดแล้วไม่มีสัจจะจะเสียเพื่อนอีก แล้วกรรมก็มาตกอยู่ที่ลูกๆนะ” สุพิชชาพูดให้ปนาลีได้คิดเพราะยังไงพ่อแม่ก็สำคัญที่สุดและมักจะหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกๆอยู่แล้วแต่ลืมคิดไปว่าอาจจะดีสำหรับลูกหรือเปล่า “แล้วเขาว่ายังไงบ้างล่ะหนูลีตกลงเขาจะแต่งงานกับแกใช่มั้ย” สุพิชชาถามปนาลีด้วยความอยากรู้ “ไม่หรอก พวกแกอยากรู้มั้ยล่ะถ้าพี่ติณณ์นัดเมื่อไหร่เราไปด้วยกันนะ” ปนาลีถือโอกาศชวนสุพิชชากับกนกพัชรไปเป็นเพื่อนเธอ “ก็ได้ ถ้าตรงกับวันทำงานหนูลีต้องบอกพิชชาก่อนนะ” สุพิชชาบอกปนาลีซึ่งเธอก็เข้าใจ “พัชรก็เหมือนพิชชานั่นหละเพื่อนสำคัญกว่างานอยู่แล้ว” กนกพัชรพูดจนปนาลีซึ้งใจเพื่อนรักที่ไม่ทิ้งกันแม้มีปัญหา "ขอบใจแกสองคนมากนะพิชชา พัชร" ปนาลีขอบใจเพื่อนที่ไม่ทิ้งเธอ “กินข้าวกันเถอะอาหารเย็นหมดแล้วนะพวกแก” กนกพัชรบอกสุพิชชากับปนาลีที่มองเธออย่างขำๆก็อาหารมันจะเย็นได้อย่างไรล่ะก็น้องเขาเพิ่งจะเอามาเสิร์ฟ “เย็นบ้านแกน่ะสิยัยพัชร ควันฉุยขนาดนี้ซดเข้าไปลิ้นพองเลยนะแก” สุพิชชาพูดกับกนกพัชรที่กำลังหิว “ก็มันหอมยั่วให้น้ำลายไหลเลยอ่ะแก” กนกพัชรพูดแล้วลงมือตักอาหารตรงหน้าชิมและยกนิ้วให้เพื่อน “ถามจริง แกกินอะไรแล้วไม่อร่อยบ้างไหมยัยพัชร” สุพิชชาถามเพื่อนรักและก็กินอาหารกันอย่างอร่อยและคุยกันไปด้วยจนอิ่มแล้วก็พากันกลับบ้านของตัวเอง Y&S วันนี้ดูคึกคักเป็นพิเศษสาวๆต่างยืนเม้าท์กันเป็นกลุ่มถึงเรื่องข่าวของว่าที่เจ้านายหนุ่มรูปหล่อที่ตกเป็นข่าวกับนางเอกสาวทั้งที่เพิ่งมาถึงเมืองไทยได้แค่วันเดียวเท่านั้น “นี่แกสาวๆเขาเม้าท์เรื่องอะไรกันอ่ะ” สุพิชชาก็อดถามเพื่อนไม่ได้ตามนิสัยผู้หญิงที่อยากรู้เรื่องราวตามกระแสข่าวเม้าท์ทั้งหลายแหล่ “อ้าว, นี่แกยังไม่เห็นข่าวที่แชร์กันอีกเหรอ ก็ว่าที่สามีของยัยหนูลีควงยัยนางเอกแอ๊บแบ้วหายไปกับความมืดน่ะสิ” กนกพัชรบอกกับสุพิชชาที่ไม่ค่อยสนใจข่าวเม้าท์พวกนี้ “จริงเหรอแก ไหนพิชชาขอดูหน่อยสิ” สุพิชชาขอดูรูปในโทรศัพท์ของกนกพัชร “อ่ะ นี่ไงหลักฐานชัดเจนเลยอ่ะแก ดูสิมาวันเดียวยัยนางเอกแอ๊บแบ้วเอาไปกินซะแล้ว” กนกพัชรพูดแล้วแบะปากใส่โทรศัพท์ของเธอ “แล้วอย่างนี้คุณแม่ดายังจะให้หนูลีแต่งงานกับเขาอีกเหรอ” สุพิชชาพูดแล้วก็หมั่นใส้ติณณ์ ก็หล่ออยู่นะแต่ถ้าเจ้าชู้อย่างนี้เป็นเธอก็ไม่เอามาทำสามีเหมือนกัน “นั่นสิแก ไม่รู้ท่านจะเห็นข่าวหรือยังนะ เดี๋ยวแคปหน้าจอไปให้ยัยหนูลีดูดีกว่า” พูดแล้วกนกพัชรก็แคปหน้าจอข่าวส่งไปให้ปนาลีทันทีและก็ได้รับสติ๊กเกอร์ขอบคุณตอบกลับมา “ไปทำงานก่อนเถอะ เดี๋ยวตอนเที่ยงค่อยคุยกัน” สุพิชชาชวนกนกพัชรไปทำงานก่อนที่จะโดนหัวหน้าว่าอีกเมื่อทำงานไปสักพักสุพิชชาก็ปวดเบาจึงไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ด้านอกห้องทำงานแผนกออกแบบและต้องเดินผ่านลิฟต์ไปแต่ปนาลีโทรมาหาเธอก่อนสุพิชชาจึงรับสายของเพื่อนและหยุดคุยกับเพื่อน “ว่าไงจ้ะหนูลี” สุพิชชาถามเพื่อน “หนูลีโทรมากวนพิชชาหรือเปล่าจ้ะ” ปนาลีถามเพื่อนอย่างเกรงใจ “ไม่หรอกจ้ะ พิชชามาเข้าห้องน้ำมีเวลาคุยได้นิดหน่อยจ้ะ ว่ามาเลย” สุพิชชาตอบเพื่อนรักและอยากรู้ว่าปนาลีจะคุยเรื่องของติณณ์หรือเปล่า “พิชชาแกเห็นข่าวพี่ติณณ์แล้วใช่ไหม หนูลีว่าจะให้เอาคุณแม่ดูแกว่าดีมั้ย” ปนาลีถามสุพิชชาเพราะเธอไม่อยากเป็นคนขี้ฟ้องแต่เพื่อความสุขของตัวเองจึงต้องบอกให้แม่ของเธอรู้ “ดีสิทำไมจะไม่ดีล่ะ คุณป้าจะได้รู้ว่านายติณณ์นั่นเจ้าชู้ขนาดไหนถ้าแต่งงานไปแกช้ำใจตายแน่ๆ”สุพิชาพูดคุยกับปนาลีอย่างไม่ได้สนใจใครที่เดินผ่านเข้าออกลิฟต์และเดินผ่านเธอจึงไม่รู้ว่าคนที่เธอกำลังพูดถึงยืนชะงักเมื่อได้ยินชื่อของเขาจากปากของผู้หญิงผมสวยในชุดสูทสีดำกระโปรงสั้นเหนือเข่าเข้ารูปหุ่นแจ่มสะโพกผายพอดีมือขาเรียวสวยสูงแค่ไหล่เขานี่แค่ด้านหลังนะแล้วด้านหน้าเขาจะผิดหวังมั้ยนะ ติณณ์ยืนฟังเธอว่าให้เขาอยู่เงียบๆโดยที่สุพิชชายังไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังจะถูกเจ้าของชื่อฟังอยู่ด้วยและมั่นใจว่าเธอพูดถึงเขาจริงๆ “ดีสิหนูลีให้นายติณณ์หลงเสน่ห์ยัยนางเอกแอ๊บแบ้วนั่นไปเลยแกจะได้หาข้ออ้างไม่แต่งงานกับคุณป้าได้” สุพิชชาบอกเพื่อนให้พูดกับแม่ของเธอไปเลย “ขอบใจมากจ้ะพิชชา งั้นหนูลีไม่รบกวนเวลาทำงานแล้วนะ บ้ายบ่ายจ้ะ” “ตายแล้วหนูลีแค่นี้นะแล้วค่อยคุยกัน บายจ้ะ” สุพิชชานึกขึ้นได้ว่าเธอมาเข้าห้องน้ำแต่มัวคุยกับปนาลีเพลินเลยจึงรีบเก็บโทรศัพท์และเดินไปที่ห้องน้ำอย่างไม่สนใจใครและบ่นไปด้วย “ตายๆพิชชาเอ้ย มัวแต่เม้าท์ป่านนี้หัวหน้ารอเฉ่งแล้วมั้งเนี่ย โอ้ย เพราะนายติณณ์นั่นทีเดียวเลย” ติณณ์ยืนมอง สุพิชชาบ่นแล้วเขาไปทำให้เธอเสียเวลาได้อย่างไรล่ะ ก็เธอเป็นคนนินทาเขาเองแท้ๆละยังมาโทษเขาอีกนะ ติณณ์กอดอกยืนนิ่งอยู่หน้าลิฟต์เพื่อรอดูหน้าผู้หญิงผมสวยตัวเล็กที่นินทาเขาว่าจะสวยเหมือนที่เขาคิดไหม สุพิชชาเดินออกมาจากห้องน้ำและผ่านหน้าลิฟต์ไปโดยไม่มองซ้ายมองขวาเธอต้องรีบกลับไปทำงานเพราะเมื่อกี้มัวแต่เม้าท์กับปนาลีเธอเดินผ่านหน้าติณณ์ไปอย่างรวดเร็วจนติณณ์มองตามอย่างพอใจที่เขาคิดไม่ผิด “อืม ไม่ผิดหวังจริงๆแฮะเต็มร้อยให้เก้าสิบเหลืออีกสิบต้องสัมผัส สวยน่ารักน่าฟัดเป็นบ้าเลยว่ะ” ติณณ์พูดออกมาเบาๆแต่ไม่ตามหรือจะต่อว่าอะไรเธอและคิดไปด้วยว่าสาวสวยคงจะทำงานที่นี่และยังรู้จักหนูลีด้วยคงจะเป็นเพื่อนสนิทแน่ๆถึงกล้าให้ความเห็นเรื่องเขากับปนาลีแล้วยังว่าเรนุกาแอ๊บแบ้วอีกต่างหากรู้ดีจริงเลยนะยัยตัวเล็ก สงสัยเขาต้องรีบไปคุยกับปนาลีให้รู้เรื่องก่อนแล้วล่ะนี่แสดงว่าที่บ้านเขายังไม่มีใครเห็นข่าวของเขากับเรนุกาแน่ๆจึงไม่มีใครถามเขา ติณณ์คิดแล้วก็โทรหาปนาลีถามว่าเธอว่างมั้ยเขาจะได้นัดเธอพอปนาลีตอบกลับมาว่าว่างและอยู่ที่บ้านเขาจึงบอกว่าจะไปหาเธอที่บ้าน เดี๋ยวค่อยมาจัดการยัยตัวเล็กผมสวยทีหลังก็แล้วกัน ติณณ์ก็โทรหาปนาลีและออกไปหาเธอที่บ้านเมื่อเธอบอกว่าทางสะดวกเพราะพ่อแม่ของเธอไม่อยู่บ้านเมื่อถึงบ้านของปนาลี เขาก็เห็นปนาลียืนรอเขาอยู่ตรงบันไดบ้าน “สวัสดีค่ะพี่ติณณ์ ไม่ได้เจอกันนานหล่อขึ้นเป็นกองเลยนะคะ” ปนาลียกมือไหว้ทักทายติณณ์ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเปลี่ยนไปเยอะหล่อขึ้นเหมือนโอปป้าดาราเกาหลีที่เธอคลั่งไคล้เลยแต่ทำไมใจเธอไม่เต้นรัวเหมือนตอนเธอเจอเพื่อนของเขานะ “สวัสดีครับหนูลี พี่ไม่เอาหล่อเป็นกองได้มั้ยเอาแค่หล่อเฉยๆดีกว่านะครับ” ติณณ์พูดแล้วยิ้มให้ปนาลี “ก็ได้ค่ะหล่อเฉยๆนะคะ คิกคิกๆ..” ปนาลีหัวเราะขำที่ติณณ์พูดเขาก็ยังเป็นพี่ติณณ์ของเธอคนเดิมนั่นแหละแต่เพิ่มเติมตรงที่เธอกับเขาโดนจับคลุมถุงชนนี่แหละ “หนูลีสวยขึ้นนะครับ ถ้าไม่เจอที่บ้านนี่พี่จำไม่ได้เลยนะครับเนี่ย” ติณณ์น้องสาวคนสวยที่เขาเห็นมาตั้งแต่เด็กๆ “คงสู้สาวๆของพี่ติณณ์ไม่ได้หรอกค่ะ” ปนาลีล้อติณณ์ที่ยิ้มแล้วเดินตามเธอไปที่ห้องรับแขกเพราะวันนี้พ่อกับแม่ของเธอไม่อยู่ทางสะดวกจึงทำให้เธอนัดเขามาคุยกันที่นี่ “หนูลีสวยสู้ได้อยู่แล้วครับ” ติณณ์ตอบและนั่งลงฝั่งตรงข้ามเธอ “แหม, อย่างหนูลีจะไปสู้นางเอกคนสวยได้ยังไงคะ” ปนาลีแซวติณณ์เรื่องข่าวที่เธอเห็นเมื่อเช้านี้ “ไม่มีอะไรหรอกครับแค่ทำความรู้จักกันทักทายกันเป็นธรรมดาน่ะ” ติณณ์พูดอย่างไม่ใส่ใจ “พี่ติณณ์เพิ่งมาถึงคงไม่ได้ยินชื่อเสียงของยัยนางเอกแอ๊บแบ้วคนนี้หรอกค่ะ เธอแซ่บมากค่ะหนูลีขอบอกเลย” ปนาลีบอกติณณ์เพราะเธอกลัวเขาหลงเสน่ห์นางเอกสาว ติณณ์คิดว่ายัยตัวเล็กผมสวยคงเป็นเพื่อนสนิทของปนาลีแน่ๆถึงได้เรียกเรนุกาเหมือนกันเลย “ขอบคุณครับที่บอกพี่ แต่มาคุยเรื่องของเราก่อนดีมั้ยครับ” ติณณ์บอกปนาลี “ดีค่ะพี่ติณณ์ หนูลีว่าเราควรยกเลิกการแต่งงานของเรานะคะ” ปนาลีไม่อ้อมค้อมพูดกับเขาตรงๆเลย “ตอนแรกพี่ก็คิดอย่างหนูลีนั่นแหละครับ แต่มาคิดอีกทีถ้าเราไม่แต่งงานกันพวกท่านก็คงเสียใจที่ผิดคำพูดกันพี่ก็ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น” ติณณ์ให้เหตุผลกับปนาลี “แล้วเราจะต้องแต่งงานกันจริงๆเหรอคะ” ปนาลีถามเสียงเบาลงอย่างเห็นได้ชัด “หนูลีมีแฟนหรือยังครับ ถ้ามีเราก็ยกเลิกได้นะครับ” ติณณ์ถามปนาลี “หนูลียังไม่คิดจะมีแฟนตอนนี้ค่ะ หนูลีอยากทำงานก่อนเรื่องแฟนเอาไว้ทีหลังค่ะ” ปนาลีบอกติณณ์ตรงๆ “พี่ก็ยังไม่อยากแต่งงาน งั้นเราร่วมมือแต่งงานกันที่พ่อแม่ต้องการดีมั้ย ฟังพี่ให้จบก่อนครับ” ติณณ์บอกปนาลีเมื่อเห็นเธออ้าปากจะจะพูดแย้งเขา “ค่ะ” ปนาลีจึงนั่งเงียบฟังติณณ์พูด “พี่บอกว่าเราจะแต่งงานกันในนามตามที่ผู้ใหญ่ต้องการ แต่เราต่างคนต่างอยู่พี่จะไม่ก้าวก่ายเรื่องของหนูลี ถ้าหากหนูลีมีคนที่ชอบหรือมีแฟนก็ตามสบายพี่ให้อิสระเต็มที่เลยหนูลีจะว่ายังไงครับ” ติณณ์ถามความเห็นปนาลี “หนูลีขอคิดดูก่อนได้ไหมคะพี่ติณณ์” ปนาลีบอกติณณ์เพราะเธอก็ไม่ได้สนใจเรื่องแต่งแล้วเลิกสักเท่าไหร่หรอกเพราะยิ่งคนดังไฮโซดาราหลายคู่รักกันมาห้าปีสิปปีแต่แต่งงานกันได้ไม่ถึงปีก็เลิกกันเธอก็เห็นว่ามันเป็นเรื่องปกติ “ได้ครับ พี่คิดว่าตอนนี้ทางออกเรามีแค่ทางเดียว ไม่งั้นถ้าเราแต่งงานกันแล้วหนูลีก็ไปเรียนต่างประเทศก็ได้นี่ครับ” ติณณ์แถมท้ายทางออกให้ปนาลีน้องสาวที่เขารักและเอ็นดูมาตั้งแต่เล็กๆ “ก็น่าคิดนะคะพี่ติณณ์ บางทีมันจะเป็นทางออกที่ดีของเรานะคะ” ปนาลีชักคล้อยตามติณณ์ “งั้นพี่จะรอฟังคำตอบของหนูลีนะครับ” ติณณ์บอกปนาลีแล้วเขาก็ขอตัวกลับก่อนเพราะจะกลับไปที่บริษัทอีกครั้งหนึ่งหลังจากไปถึงแล้วแต่ไม่ได้ขึ้นไปหาพ่อของเขาเพราะดันได้ยินผมสวยตัวเล็กนินทาเขาอยู่ก็เลยเลือกไปหาปนาลีก่อนแล้วก็กลับมาใหม่อีกครั้ง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD