ตอนที่ 3 ข้ามเวลา

2122 Words
ตอนที่3 ข้ามเวลา ......แวบ..... ร่างของอิงฟ้าเซถลาเล็กน้อยมือสองข้างยึดกระเป๋าเดินทางที่ติดมือไว้มั่น เธอพยายามประคองร่างเล็กไม่ให้ล้ม ตอนนี้ศีรษะหนักอึ้งจนแทบเงยหน้าไม่ไหว ใบหน้างามของหญิงสาวส่ายไปมาเพื่อขจัดอาการมึนเวียนที่เกิดขึ้น ดวงตาคู่โตพร่ามัวเพราะหมอกควันที่ปกคลุมเธอพยายามกะพริบตาถี่ให้สายตากลับมาใช้งานได้อีกครั้ง "ที่นี่ที่ไหนเนี่ย" ห้องกว้างที่เคยว่างเปล่าจะมีก็เพียงแค่ของตกแต่งที่ทางทีมงานยังเก็บไม่เสร็จเท่านั้น ตอนนี้กลับถูกแต่งแต้มสีสันให้สวยงามมีชีวิตชีวามากขึ้น พื้นผิวที่เคยซีดจางเพราะรอยเหยียบย่ำรวมทั้งผนังที่ถูกบูรณะให้ร่วมสมัย ตอนนี้ดูแตกต่างสิ้นเชิงทุกอย่างดูใหม่ราวกับเพิ่งสร้างเมื่อวาน "เกิดอะไรขึ้นกันแน่" อิงฟ้าหรี่ตาลงพินิจภาพตรงหน้าที่ดูต่างออกไป "วิแกอยู่ไหน วิ กลับกันหมดแล้วหรือ โอ๊ย!..ทำไมมืดล่ะ เมื่อกี้ยังสว่างอยู่เลย" เธออุทานขึ้นเมื่อขาไปสะดุดกับของอะไรสักอย่าง แสงแดดจ้าที่เคยสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างตอนนี้ถูกแทนที่ด้วยความมืด สร้างความแปลกใจให้กับอิงฟ้าไม่น้อย เทียนไขที่ถูกจุดไว้ตามมุมต่างๆ ของห้องทอแสงสลัว แม้จะรู้สึกหวาดกลัวแต่อิงฟ้าก็อดที่จะเดินสำรวจไม่ได้ ยิ่งเข้าใกล้ยิ่งแปลกยิ่งสำรวจยิ่งประหลาดห้องทั้งห้องถูกตกแต่งอย่างสวยงามวิจิตรบรรจงด้วยโทนสีแดง ตอนนี้ภายในใจของอิงฟ้าเต้นรัวเพราะความหวาดกลัว ........... "องค์ชาย จะเสด็จที่ใดหรือพ่ะย่ะค่ะ" องครักษ์ฮ้าวอี้คนสนิทเอ่ยถาม ขณะที่ผู้เป็นนายกำลังจะเปิดประตูเข้าห้องหอ แต่ต้องชะงักและหันหลังเดินออกมา องค์ชายสี่หรือที่รู้จักในนามอ๋องเซี่ยหยางชายหนุ่มผู้เยือกเย็นประหนึ่งภูเขาน้ำแข็งที่ก่อตัวกันมานานนับหมื่นปีอยากยิ่งที่จะทลาย เขายืนจ้องประตูห้องราวกับว่าด้านในกักขังสิ่งชั่วร้ายไว้หากแม้นเผลอแง้มประตูแค่นิดเดียวอาจจะมีภูตผีหลุดออกมาสร้างความเดือนร้อนให้กับบ้านเมือง "คืนนี้เป็นคืนเข้าหอขององค์ชายหากหวงกุ้ยเฟยรู้เข้าจะไม่เป็นการดีนะพ่ะย่ะค่ะ" องครักษ์ฮ้าวอี้ทักท้วงอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเซี่ยหยางกำลังจะเดินจากไป เซี่ยหยางชายหนุ่มรูปงามในวัยที่เข้าใกล้เลขสามเต็มทีชีวิตส่วนใหญ่ของเขาหมดกับการออกรบทำศึกสงคราม ดูแลรักษาบ้านเมือง ส่วนเรื่องหญิงสาวที่เข้ามาในชีวิตก็มีบ้างประปรายหากแต่เขาไม่ได้ให้ค่าหรือความสำคัญกับใครเป็นพิเศษ สตรีทุกนางล้วนผ่านเขามาและผ่านเลยไปเท่านั้นไม่มีใครสามารถทลายภูเขาน้ำแข็งในใจเขาได้สักคน แม้ครั้งนี้ชีวิตของเขาจะลงเอยด้วยการแต่งงาน แต่นั่นก็เป็นเพียงสิ่งที่หวงกุ้ยเฟยจัดการให้เท่านั้น ไม่ว่าอย่างไรเขาก็มั่นใจว่าผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ต่างจากที่ผ่านมา ...แอ๊ด...เสียงประตูเปิดออก แสงจันทร์เหลืองอ่อนสาดส่องเข้ามาภายในห้องนอน สายลมเบาๆ พัดพาเอาความเย็นปะทะร่างชายหนุ่ม เหมือนครู่หนึ่งที่เขารู้สึกว่าตัวเองหยุดนิ่งราวกับต้องมนต์สะกด เซี่ยหยางค่อยๆ ก้าวเท้าเข้ามาภายในห้อง เขาพินิจหญิงสาวร่างเล็กที่สวมใส่เสื้อผ้าแปลกตาสีขาว หากพิจารณาให้ดีกลับเห็นว่าอาภรณ์ที่เธอสวมใส่เปิดไหล่กว้างไม่มีส่วนไหนที่เรียกว่าแขนเสื้อได้เลย หนำซ้ำอาภรณ์ชิ้นนี้ยังแหวกลึกถึงร่องอกเผยให้เห็นเนื้อนิ่มอิ่มเอิบที่แทบทะลักออกมา เขาไล่มองหญิงสาวตรงหน้าอีกครั้งพร้อมสายตาแปลกใจ เธอไม่ได้สนใจเขาเลยแม้แต่นิดเดียวอาจเป็นเพราะกำลังง่วนอยู่กับผ้าคลุมลูกไม้ผืนบางที่ปิดหน้า เซี่ยหยางแปลกใจกับพฤติกรรมของเธอแต่ก็อดที่จะสนใจไม่ได้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกเมินเฉย "อะไรนักหนาเนี่ย จะติดกิ๊ฟทำไมเยอะแยะ" อิงฟ้าที่ตอนนี้กำลังทะเลาะกับผ้าคลุมหน้าสีขาวเอ่ยขึ้น "โอ๊ะ..โอะ.." เธอเซถลาเล็กน้อยเมื่อรองเท้าส้นสูงเจ้ากรรมสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่าง หมับ..แขนกำยำคว้าเอวเล็กไว้ในอ้อมแขน ใบหน้าของหญิงสาวซบกับแผงอกกว้างที่แข็งแน่นด้วยกร้ามเนื้อ พวงแก้มนิ่มแนบชิดจนได้ยินเสียงเต้นของหัวใจชายหนุ่ม อิงฟ้าค่อยๆ เงยหน้ามองเจ้าของร่างสูงกำยำที่ตอนนี้เหมือนจะยิ่งกระชับกอดแน่นกว่าเดิม "ว้าว!" อิงฟ้ามองใบหน้าหล่อเหลาของชายที่เธอไม่รู้จัก เธอเผลอเอื้อมมือขึ้นไปแตะใบหน้าของเขาโดยไม่ตั้งใจ รูปหน้าคมสัน สายตาเป็นประกายดุจดั่งเพชรที่ส่องแสงระยับบนฝากฟ้าแต่ก็แฝงด้วยความเยือกเย็นยิ่งกว่าเทือกเขาหิมาลัย จมูกโด่งคมสันเข้ารูป ริมฝีปากบางชวนมอง รูปร่างสูงใหญ่หน้าอกแน่น ไหล่กว้าง แม้จะมีเพียงแสงเทียนสลัวๆ ใบหน้ายังหล่อเหลาชวนให้หลงใหลราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยาย "เจ้าจะมองข้าอีกนานไหม" เสียงของชายหนุ่มที่เอ่ย ช่วยดึงสติให้หญิงสาว เสียงเรียบขรึมและสายตาที่มองดูหญิงสาวช่างเย็นยะเยือกจนคนมองอดไหวหวั่นไม่ได้ "ขออีกเดี๋ยว...เอ๊ย! ไม่ใช่ ปล่อย..ปล่อยฉันลงได้แล้ว" อิงฟ้าเอ่ย สองมือของเธอพยายามผลักไหล่กว้างของชายหนุ่มออก "ฮึ..ปล่อยเจ้างั้นหรือนี่มันคืนเข้าหอของข้ากับเจ้า เจ้าจะให้ข้าปล่อยเจ้าไป" ชายหนุ่มหน้าตาเจ้าเล่ห์ตอนนี้เขาแสยะยิ้มที่มุมปาก "คืนเข้าหอ?คืนเข้าหออะไรกัน" อิงฟ้าพึมพำกับตัวเอง (ต้องมีเรื่องอะไรเข้าใจผิดแน่ๆ เกิดเรื่องบ้าอะไรเนี่ย) "แล้วดูอาภรณ์ที่เจ้าสวมใส่ตอนนี้ ใครเห็นก็ต้องเข้าใจว่าเจ้าจงใจใส่มายั่วยวนข้า" ไม่พูดเปล่าสายตาจ้องมองทั่วร่างของหญิงสาวและจงใจมาหยุดที่หน้าอกซึ่งตอนนี้ทะลักออกมาแทบจะหมดแล้ว คนถูกมองถึงกับต้องรีบยกมือขึ้นมาปิดบังส่วนสงวนไว้ "โรคจิต" หญิงสาวพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนของชายหนุ่ม "เดี๋ยว..เดี๋ยวก่อนนะคุณ คุณคงเข้าใจผิดแล้ว ถึงฉันจะใส่ชุดแต่งงานอยู่ก็จริงแต่ฉันไม่ได้จะแต่งงานนะ ฉันแค่...." เซี่ยหยางไม่ฟังที่หญิงสาวพูด เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้หญิงสาว ใกล้พอที่จะสัมผัสได้ถึงไออุ่นของลมหายใจ "คุณจะทำอะไรนะ" หญิงสาวมองชายหนุ่มที่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้เธอทุกที "อือ" (ม่าย..นี่มันจูบแรกของฉันนะ) ไม่ทันที่อิงฟ้าจะได้ขัดขืนตอนนี้ริมฝีปากของชายหนุ่มก็ประกบกับริมฝีปากของเธอเสียแล้ว เป็นครั้งแรกที่เซี่ยหยางรู้สึกตื่นเต้นเมื่อประทับจูบลงบนริมฝีปากของหญิงสาว กว่าจะรู้ตัวชายหนุ่มก็ถอนตัวไม่ทันเสียแล้ว เหตุการณ์เกิดขึ้นไม่ทันตั้งตัวทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเกินกว่าหญิงสาวจะรับมือได้ อิงฟ้าได้แต่ตื่นตระหนกกับสิ่งที่เกิดขึ้น ดวงตาของเธอเบิกกว้างอย่างตกใจ เธอผลักชายหนุ่มออกแล้วยกมือขึ้นเช็ดปากอย่างอัตโนมัติราวกับว่าหากปล่อยให้รอยจูบค้างคาอาจจะติดเชื้อโรคร้าย "ฮึ..ฮึ" เซี่ยหยางเค้นเสียงหัวเราะเยาะออกมาจากลำคอเบาๆ อิงฟ้าได้แต่มองชายแปลกหน้าอย่างหวาดกลัว เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย "รังเกียจข้าอย่างนั้นหรือ" "ใช่" อิงฟ้าตอบด้วยเสียงสั่นเครือใบหูแดงก่ำด้วยความโกรธ ดวงตาของเธอสั่นระริกเพราะน้ำตาที่กำลังไหลคลอ เซี่ยหยางใช้สายตามองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความดูถูกเหยียดหยาม เธอก็แค่คนที่ถูกเลือกมาแต่งงานกับเขา แล้วยังมีสิทธิ์อะไรมารังเกียจเขา แค่ได้เข้ามาอยู่จวนอ๋องก็เป็นบุญวาสนาใหญ่หลวงแล้ว "เจ้าก็จงใจแต่งตัวมายั่วยวนข้าอยู่แล้วยังจะบ่ายเบี่ยงเล่นตัวทำไม?หรือเจ้าคิดว่าการทำเช่นนี้แล้วข้าจะสนใจเจ้าอย่างนั้นหรือ" ชายหนุ่มรูปงามแสยะยิ้มมุมปากพลางดึงร่างหญิงสาวเข้ามากดจูบลงริมฝีปากแดงระเรื่ออีกครั้ง "อือ....อือ..หยุด พอได้แล้ว" หญิงสาวพยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดจากการพันธนาการที่กอดรัดอยู่ตอนนี้ แต่ดูเหมือนความพยายามจะสูญเปล่า ยิ่งเธอดิ้นร่างใหญ่กลับยิ่งกอดรัดแน่นมากกว่าเดิม มือที่เคยโอบเอวหญิงสาวตอนนี้กำลังลูบไล้ผิวเนียนขาวเป็นประกายเมื่อต้องแสงไฟขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาหยุดที่อกอวบอิ่มที่ล้นเพราะชุดเกาะอกดันทรง ซึ่งตอนนี้แทบทะลักออกมาเป็นเหมือนคำเชิญชวนให้ชายหนุ่มเข้าหา เซี่ยหยางใช้มือกำยำข้างหนึ่งประคองเอวบางให้กระชับเข้าหาตัว ส่วนมืออีกข้างตอนนี้นวดเค้นอยู่ที่อกสวยอิ่มเอิบคู่นั้น พร้อมประโลมจูบเรียวปากบางของหญิงสาวตรงหน้าอย่างเร่าร้อน " อืม..อืม.." ช่วยด้วย อิงฟ้าได้แต่ตะโกนในใจ พลางปัดป้องมือปากหมึกของชายแปลกหน้าอย่างทุลักทุเล "ฮือๆ ปล่อย..อึก..ฉันไปเถอะนะ อย่าทำอะไรฉันเลย" หญิงสาวเอ่ยคำอ้อนวอนขอร้อง ไม่มีคำตอบจากชายแปลกหน้ามีเพียงสายตาแห่งความเย็นชาเท่านั้นที่มองกลับมา "ฉันสัญญาถ้าคุณปล่อยฉันไปฉันจะไม่แจ้งตำรวจ แล้วก็ไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใคร...ขอเพียงแค่คุณปล่อยฉันไปเถอะนะ" เธอพยายามอ้อนวอนขอร้องให้เขาปล่อยเธอเป็นอิสระ เซี่ยหยางมองหน้าหญิงสาวอย่างงงงวย "นี่เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไรกันแน่ เจ้าจะใช้มารยาอะไรมาหลอกลวงข้า เจ้าคิดว่าคำพูดประหลาดของเจ้าจะทำให้ข้าสนใจเจ้าเช่นนั้นหรือ" "เปล่า เปล่า" อิงฟ้าได้แต่ส่ายหน้า "เจ้ากำลังยั่วโมโหข้าอย่างนั้นหรือ" เซี่ยหยางกดร่างหญิงสาวลงบนเตียงนอน แม้จะพยายามขัดขืนแต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สามารถต้านทานแรงของชายหนุ่มได้ เซี่ยหยางบดจูบลงที่ริมฝีปากบางของหญิงสาวอย่างเมามันก่อนถอนจูบออกปล่อยให้ใบหน้าซุกซนซุกอยู่ที่ซอกคอระหงส์ของเธอ "ปล่อย" "ช่วย.." เซี่ยหยางยกมือขึ้นมาปิดปากของอิงฟ้าไว้ เขาทำกับเธอไม่ต่างกับผู้หญิงทั่วไปที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตเขา ซึ่งทุกคนเป็นได้เพียงแค่สิ่งประโลมความต้องการทางเพศเท่านั้น ครั้นจะให้เขามารักหรือรู้สึกดีๆ ด้วยเป็นเรื่องที่เป็นไปได้สำหรับองค์ชายน้ำแข็งอย่างเขา ....... ด้วยอายุย่างเข้า30แล้ว แต่กลับไม่มีคู่ครองสักที หวงกุ้ยเฟยจึงพยายามจับคู่ให้เซี่ยหยางเรื่อยมา บ่อยครั้งที่ชายหนุ่มหาข้ออ้างในการปฏิเสธ ไม่ว่าจะเป็นออกศึกสงครามทำให้ไม่สะดวก ติดราชการในแถบชายแดน และสารพัดเหตุผลในการเลี่ยงงานแต่ง แต่ครั้งนี้กลับปฏิเสธไม่ได้ .... เซี่ยหยาง นางคือหญิงสาวแปลกหน้าที่หวงกุ้ยเฟยยัดเยียดให้แต่งงานกับข้า หญิงสาวที่แปลกเช่นนี้จะมาเป็นชายาของข้าได้เช่นไรกัน ไม่ใช่แปลกแค่หน้า หากแต่ยังรวมไปถึงเสื้อผ้าอาภรณ์ของนางด้วยช่างแหวกลึกทำให้มองเห็นเนื้อเนินอกที่แทบล้นออกมา ประกอบกับผิวขาวเนียนระยิบระยับเมื่อต้องเสียงเทียนสร้างความแปลกตากับผู้พบเห็นยิ่งนัก ไหนจะผ้าคลุมหน้าลูกไม้สีขาวที่ตอนนี้เหมือนกำลังทะเลาะกับเจ้าของศีรษะที่มันคลุมอยู่ "ว้าย!" ข้าสะดุ้งตื่นจากภวังค์ รีบคว้าเอวบางมากอดไว้ก่อนที่สายตาจะพลันสบตากับดวงตาคู่งาม หากพินิจให้ดี ใบหน้านางนั้นเรียวได้รูป จมูกดูรับกับรูปหน้า ริมฝีปากบางแดงระเรื่อนั้นช่างเย้ายวนอารมณ์ ท่าทางของนางตอนนี้ช่างน่าเอ็นดูราวกับลูกหมาตกน้ำที่ดิ้นรนหาคนช่วย ตึกตัก..ตึกตัก. เป็นครั้งแรกที่ใจข้ารู้สึกว่ามันแปลกไป มันเกิดอะไรกับข้ากันแน่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD