“มึงจะตกใจอะไรนักหนา กูแค่มาซื้อบัวลอยไปแจกลูกน้อง พวกนั้นทำงานหนักกูก็เป็นคนใจดีแบบนี้อยู่แล้ว”
เอกภพงงใจกับเจ้านายเมื่อกี้ตอนอยู่บนรถยังบอกว่าจะมาไล่อยู่เลย ทำไมตอนนี้กลายมาเป็นลูกค้าเฉย
“เปล่าครับ”
“รออะไรล่ะช่วยเด็กมันใส่ถุงสิ”เมื่อเห็นว่าลูกน้องเอาแต่จ้องหน้าด้วยความสงสัย เขาจึงออกปากให้ช่วยเด็กสาวที่รีบเร่งเอาบัวลอยใส่ถุงทันที
“ไม่เป็นไรพี่เอก เดี๋ยวไข่หวานเก็บเอง ให้ไข่หวานช่วยถือไปส่งที่สำนักงานให้มั้ยคะ”
“ได้สิ!”
“อ้าว เสี่ย”ยังไม่ทันที่เอกภพจะได้รับถุงบัวลอยเจ้านายก็เดินตัวปลิวไปไม่บอกกล่าว
“งั้นน้องไข่หวานปั่นจักรยานไปส่งที่สำนักงานหน่อยนะ พี่ไปก่อน”
“ค่ะ”
“เสี่ยรอผมด้วย”เอกภพวิ่งตามผู้เป็นนาย
“แหกปากทำไมเนี่ยไอ้เอก กูรำคาญ! ยิ่งร้อนๆอยู่”
“ก็เสี่ยไม่รอผม ว่าแต่เสี่ยเหมาบัวลอยไปทำไม ร้อยวันพันปีไม่เคยจะใจดีวันนี้เกิดใจดีเฉย ไหนบอกมาไล่ไง หรือว่ากินยาผิด หรือแดดทำให้เสี่ยเปลี่ยนไป”
“เสือก”
ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้เสี่ยหมีก็ยังเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน เขายังคงออกปากไล่หญิงสาวเหมือนทุกวัน
“เสี่ยไม่เบื่อบ้างเหรอ ไล่หนูได้ทุกวันตั้งแต่ไข่หวานอายุสิบแปดจนตอนนี้ไข่หวานอายุยี่สิบแล้วนะ”
“แล้วเธอไม่เบื่อบ้างรึไงมาให้ฉันไล่ได้ทุกวัน”ภวิศเอ่ยตอบหน้าตาเฉย
เขาปรับเปลี่ยนการพูด จากที่เมื่อก่อนเคยพูดจาห่ามๆขึ้นมึงขึ้นกูกับเธอทุกวัน แต่พอเห็นเด็กสาวยิ้มหวานให้กับคนที่พูดจาเพราะๆกับเธอเส้นเอ็นตรงขมับของเขามันกระตุกขึ้นมาทันที และเขาก็จับสังเกตได้ว่าทุกครั้งที่เขาเรียกเธอว่ามึง เด็กสาวจะแอบเบ้ปากใส่เขาอยู่ทุกครั้งร่ำไป เขาจึงเลิกพูดจาห่ามๆแล้วปรับตัวพูดกับเธอดีๆแทน
“ป้าก็เหมือนกันอยากให้ผมเก็บค่าที่สองเท่ารึไงถึงให้ยัยบัวลอยมาขายอยู่ได้”
“เอ็นดูเด็กมันนะเสี่ย เด็กมันหาทุนเรียน เสี่ยก็ออกจะหล่อดูดีขนาดนี้ใจดีกับไข่หวานมันหน่อยเถอะ”
“แล้วผมไม่ใจดีตรงไหนป้า ไล่ก็ไม่ไปหน้าด้านชิบหาย ค่าที่ก็ไม่จ่าย ถ้าผมไม่ใจดีป่านนี้เธอได้ไปนอนในหลุมตรงวัดท้ายตลาดไปแล้ว”
“นั่นไงป้ารู้หรอกว่าเสี่ยหมีนะเป็นคนดี”
เฮ้อ! อย่างเสี่ยเนี่ยนะใจดี ถ้าเธอไม่มีป้าพิณคอยช่วยทุกครั้ง คนอย่างเสี่ยคงลากเธอไปเก็บตั้งแต่อายุสิบเจ็ดแล้ว
“ฉันใจดีขนาดนี้แล้ว บัวลอยฉันล่ะ”
โถ่เสี่ย! กำไรก็น้อยนิดเสี่ยก็มาขอกินฟรีทุกวัน มันน่าจะทุบให้หัวแตกเสียจริง
“นี่ค่ะ”ขวัญจิรายื่นถุงบัวลอยพิเศษใส่ขาสองฟองที่เธอเตรียมมาให้เขาโดยเฉพาะ เป็นของกำนันให้เสี่ยหมีที่จ้องจะกินหัวเธออยู่ได้ทุกวัน ไม่รู้ว่าเสี่ยเป็นหมาบ้าเพราะอากาศร้อนหรือเป็นสันดานของเขากันแน่
“เสี่ยกินบัวลอยทุกวันไม่เบื่อบ้างเหรอคะ เดี๋ยวก็เป็นเบาหวานหรอก”
“เสือก!”
อะไรของเขาคนอุตส่าห์เตือนด้วยความหวังดี ยังมีหน้ามาทำหน้าระรื่นอีก ได้ตายเพราะน้ำตาลในเลือดสูงอย่าหาว่าไข่หวานไม่เตือนนะเสี่ย
“ก็ไข่หวานมันน่ากิน”
“อย่าไปแกล้งไข่หวานเลยเสี่ย เด็กมันยังอ่อนต่อโลก”
“โตจะเป็นควายแล้วยังอ่อนต่อโลกอีก”
“อ้าวเสี่ย ทำไมมาว่าหนูแบบนี้ล่ะคะ”
“ก็มันเรื่องจริง”
“พรุ่งนี้ทำมาให้ฉันสักร้อยถุงนะ ไม่ต้องปั่นไปขายที่ไหน ฉันจะเอาไปไหว้แก้บน”
“พรุ่งนี้หนูต้องไปเรียนจนถึงบ่าย ได้ขายก็เกือบเย็นเสี่ยไปสั่งคนอื่นเถอะค่ะ”
“อ้าว ยังเรียนอยู่เหรอ”
“เสี่ยมาขอบัวลอยพิเศษใส่ไข่ตั้งแต่ไข่หวานอายุสิบแปด ตอนนี้หนูยี่สิบแล้ว เสี่ยไม่รู้เหรอว่าหนูเรียนอยู่”
“เหรอ โทษทีฉันลืม”
“แก่ก็งี้แหละค่ะ”
“ใครแก่ฉันเพิ่งสามสิบเจ็ด วัยกำลังอร่อยเธอลองไหมล่ะ”พูดบ้าอะไรของเสี่ยอีกละเนี่ย
“ไม่ล่ะคะ ขอบคุณ”ขวัญจิราปฏิเสธทันควัน จะว่าไปเธอก็ไม่เคยชินเลยสักครั้ง ถึงแม้เสี่ยมักพูดแบบนี้ทุกครั้งที่เจอกัน
“ว่าแต่มีแฟนหรือยัง”
“ไม่มีค่ะ ไข่หวานยังไม่สนใจเรื่องนั้น ตอนนี้ลำพังเรียนให้จบยังยากเลยค่ะ”
“ทำไม โง่เหรอ”
กรี๊ดดด...อยากจะกรี๊ดออกมาเสียงดังๆ โดดงับคอสักทีดีมั้ยเนี่ย เอะอะก็ว่าหนูโง่ตลอด
“เปล่าค่ะ ไข่หวานเรียนโดยใช้ทุน แต่ว่าค่าชีทในแต่ละเดือนอย่าว่าแต่ทุนเลยค่ะ”ขวัญจิราแทบจะขายไตไปซื้อชีทเลยก็ว่าได้ ลำพังเงินที่ขายบัวลอยเธอก็นำมาใช้เป็นค่าดำรงชีวิต และหมุนเวียนซื้อวัตถุดิบในแต่ละวันเท่านั้น เหลือนิดหน่อยก็เก็บไปหยอดกระปุกเพื่อไว้ใช้ยามฉุกเฉิน
“ไปทำงานกับฉันไหมล่ะ ดีกว่ามาปั่นจักรยานขายบัวลอยอีก”
“งานอะไรเหรอคะ”
“เด็กเสี่ย”
“เด็กเสี่ย! คืออะไรคะ?? เสี่ยอยากมีลูกเหรอ?”
“โง่ชิบหายเลย”
“เสี่ย!! ถ้าเสี่ยอย่างมีลูก เสี่ยไปรับเด็กคนอื่นมาเลี้ยงเถอะค่ะ ที่บ้านเด็กกำพร้ามีน้องๆที่ยังเด็กอยู่เยอะ ไข่หวานทำงานได้แล้วไม่รบกวนเสี่ยดีกว่า”
“เฮ้อ!! กูเหนื่อยใจ ไปดีกว่าไอ้เอกไปเก็บค่าแผงดีกว่า คุยกับยัยนี่แล้วกูปวดหัวทุกที”
อะไรของเขา แล้วหนูพูดผิดตรงไหนอยากเลี้ยงเด็กหนูก็เสนอให้ สงสัยจะเพี้ยนอากาศร้อนก็งี้แหละ สงสัยคนแก่กำลังจะใกล้วัยทอง
“ป้าพิณไข่หวานพูดผิดตรงไหนจ๊ะ ทำไมเสี่ยถึงเดินหนีแบบนั้นล่ะ”ป้าพิณยิ้มแป้นส่ายหัวเบาๆให้กับความไร้เดียงสาของเด็กคนนี้
“ไม่ผิดหรอกไข่หวาน แต่ว่าเสี่ยเขาไม่ได้อยากเลี้ยงหนูเป็นลูก”
“แล้วเด็กเสี่ยคืออะไรล่ะคะป้า”
“เด็กเสี่ยก็…ไปอยู่กับเสี่ยหมีคอยปรนนิบัติพัดวี ทำตามที่เสี่ยสั่งถ้าหนูเอาใจเก่งเสี่ยเขาก็มีรางวัลให้ อาจจะเป็นสิ่งของหรือเงิน”
ขวัญจิราพยักหน้าเหมือนเข้าใจสิ่งที่ป้าพิณพยายามอธิบาย แต่ความเป็นจริงแล้วเธอไม่เข้าใจแม้แต่น้อย แม้จะเคยได้ยินเพื่อนพูดผ่านหูมาบ้างแต่เธอไม่เคยสนใจรายละเอียดของงานนี้