@30 นาที ต่อมา
บรรยากาศภายในบ้านยังเต็มไปด้วยความเงียบเหงาและความตึงเครียด ไนท์ยืนพิงเสาไม้ใหญ่ของระเบียง ดวงตาจับจ้องไปยังประตูทางเข้าบ้านด้วยความใจจดใจจ่อ มือเกาหัวอย่างรำคาญเล็กน้อย ขณะที่ริมฝีปากเม้มแน่นด้วยความหงุดหงิด
"มาหรือยังรอนานแล้วนะ ถ้ายังไม่มาจะขึ้นไปนอน"
เสียงของไนท์แฝงด้วยความหงุดหงิด แต่ก็แฝงความหวังเล็กๆ ว่าจะได้เจอใครสักคนในเร็ววัน
ไวน์ยืนพิงราวบันได มือในกระเป๋ากางเกง ถอนหายใจออกมาอย่างอารมณ์เสีย ดวงตาสอดส่ายไปมาเหมือนคนเบื่อหน่ายกับการต้องรอใครบางคน เขาหรี่ตาเล็กน้อยก่อนพูดเสียงต่ำแฝงความหงุดหงิด
"เสียเวลาล่าเหยื่อซะมัด"
ถ้าไม่ติดว่าพี่ชายคนโตบังคับให้เขาอยู่รอต้อนรับน้องสาวที่ไม่ใช่น้องแท้ๆ ป่านนี้คาสโนว่าตัวพ่ออย่างเขาคงกำลังกุ๊กกิ๊กอยู่กับสาวสวยนมโตที่ไหนสักแห่งแล้ว
ฝั่งเวย์ นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น บนโซฟาหลุยส์ตัวใหญ่ ขาไกวห้างอย่างสบายๆ ดวงตาไม่ละจากหนังสือในมือ น้ำเสียงของเขาเงียบเชียบไม่พูดอะไร ใบหน้าสุขุมเยือกเย็นสะท้อนความไม่เดือดร้อนอะไรนัก
"......."
ทันใด ไวน์ที่เริ่มทนรอไม่ไหว ยกมือโบกไล่พร้อมทำหน้ารำคาญอย่างเห็นได้ชัด
"จิ! ไม่รอแล้ว ผมขออกไปข้างนอกนะ วันนี้ผมมีนัด"
เวย์ลุกขึ้นยืนทันที ดวงตาคมเฉียบจ้องตรงมาที่น้องชาย พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดและไม่อ้อมค้อม
"หยุด .... มึงไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น จนกว่าเด็กนั่นจะมา"
ใบหน้าของไวน์ขมวดคิ้ว กรอกสายตาไปมาอย่างรำคาญใจ ดวงตาเต็มไปด้วยความเบื่อหน่ายและขัดใจ
"เห่อะ! ก็แค่เด็กเก็บมาเลี้ยง จะอะไรกันนักหนา ไม่เชิญนายกมาตัดริบบิ้นต้อนรับเลยล่ะ"
เขาพูดพร้อมกับถอนหายใจยาวๆ ก่อนจะเอื้อมมือจับผมตัวเองอย่างหัวเสีย เหมือนโลกทั้งโลกนี้ช่างน่าเบื่อหน่าย แค่เด็กผู้หญิงคนเดียว ทำไมพวกเขาต้องมายุ่งยากวุ่นวาย ต้องมารอต้อนรับเธอแทนที่จะได้ไปทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำ
เวย์ได้แต่ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจต่อความขี้บ่นของน้องชายสองคน
"........."
จู่ๆ เสียงแม่บ้านก็เดินเข้ามาในบ้าน ด้วยก้าวเดินที่มั่นใจและแววตาที่เป็นมิตร ก่อนแจ้งข่าวสำคัญด้วยน้ำเสียงสดใส
"มาแล้วค่ะคุณเวย์"
เสียงแม่บ้านทำให้ทุกสายตาหันไปทางประตูหน้าบ้าน พอดีรถตู้ที่ไปรับคุณหนูบุญธรรมเลี้ยวเข้ามาอย่างช้าๆ ท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่เริ่มอ่อนล้าในยามเย็น
ไวน์กัดฟันบ่นงึมงำอย่างไม่หยุดหย่อน ขณะที่เดินตามพี่ชายคนโตออกมา
"มาถึงแล้วก็ดี...วันหยุดแท้ๆ แต่กลับถูกจองจำเพราะคนๆ เดียว อย่าให้เจอ..พ่อจะด่าให้สำนึกผิดไม่ทันเลยคอยดู"
ไม่นานรถตู้คันหรูหยุดนิ่งอยู่หน้าบ้าน ชายหนุ่มสองคนเดินออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย สะท้อนความเซ็งสุดๆ ถ้าไม่ใช่เพราะพี่ชายคนโตบังคับ พวกเขาคงไม่ต้องมายืนรอจนเสียเวลาขนาดนี้
"ไหนล่ะ...กว่าจะมาก็ว่านานแล้ว มาถึงยังจะลีลาอีก"
ไนท์พูดเสียงห้วน สายตาที่จับจ้องไปยังประตูรถด้วยความหงุดหงิด
เนปจูน น้องสาวบุญธรรม เปิดประตูรถลงมาอย่างนุ่มนวล ใบหน้าสวยหวานแต่งแต้มรอยยิ้มอ่อนโยน สะท้อนความสุภาพและความประหม่าเล็กน้อย เธอยกมือไหว้ทักทายด้วยความเคารพ ท่ามกลางความตึงเครียดของบรรดาพี่ชายทั้งสามที่ไม่คุ้นเคยกับเธอ
"ขอโทษที่ให้รอนะคะ พอดีเครื่องมันดีเลย์ จูนเลยมาถึงช้ากว่าเวลาที่คุณอาเดชาแจ้งไว้"
คำพูดแสนสุภาพนั้น ทำเอาหนุ่มๆ ถึงกับตาค้าง ชะงักราวกับถูกมนต์สะกดจากรอยยิ้มและสายตาอบอุ่นของเธอ
ไวน์ถึงกับอ้าปากค้าง จะด่าเรื่องการมาสาย แต่กลับทำไม่ออก เพราะความคิดเชิงลบพวกนั้นสลายไปหมด
ไนท์เองก็ไม่ต่างกัน รีบสะกิดพี่ชายคนกลางด้วยสายตาเปล่งประกายและรอยยิ้มที่ติดอยู่บนใบหน้า
เวย์ยังคงนั่งนิ่ง กอดอก มองอย่างเงียบๆ ดวงตาจับจ้องใบหน้าหวานของน้องสาวอย่างไม่วางตา
ทนายเดชาซึ่งยืนอยู่ใกล้ๆ ต้องเอ่ยเสียงดังขึ้น เรียกชื่อทั้งสามหนุ่มอย่างรีบร้อน เมื่อต้องการเรียกความสนใจ
"คุณชาย! คุณชายครับ!"
แต่ทั้งสามกลับไม่ตอบสนอง ใบหน้าทุกคนต่างจดจ้องที่น้องสาวบุญธรรมคนใหม่
เวย์ถึงกับเลิ่กลั่ก กระแอมออกมาช้าๆ ราวกับเพิ่งรู้ตัวว่าตนเองเผลอเสียการควบคุมไปชั่วขณะ
"อืม!!"
ทนายเดชากล่าวเชื้อเชิญทุกคนอย่างเป็นมิตร
"เข้าบ้านกันก่อนดีกว่า เดี๋ยวผมจะแนะนำให้ทุกคนรู้จักกัน เชิญครับคุณหนูจูน"
เนปจูนตอบรับด้วยรอยยิ้มหวานและพยักหน้าอย่างอ่อนโยน แววตาเต็มไปด้วยความหวังและความเกรงใจที่แอบซ่อนอยู่เบาๆ
"ค่ะคุณอา"
บรรยากาศอบอุ่นขึ้นเล็กน้อยเมื่อรอยยิ้มของเนปจูน ทำให้หนุ่มๆ ที่ดูเครียดและหัวเสียก่อนหน้านี้ ต้องเผลอยิ้มตามกันไม่รู้ตัว
@ภายในบ้าน
ทนายเดชาแนะนำด้วยน้ำเสียงเป็นทางการอย่างสุภาพ
"คุณเวย์ คุณไวน์ คุณไนท์ นี่คือคุณหนูจูน ชื่อเต็มๆ คือ เนปจูน น้องสาวบุญธรรมของพวกคุณ"
เนปจูนยกมือไหว้ด้วยความสุภาพ ดวงตาเปล่งประกายแต่ยังคงแฝงความประหม่า เธอพยายามเก็บอาการไม่ให้ใครเห็น
"สวัสดีค่ะพี่ๆ"
ไวน์ส่งยิ้มกว้าง ราวกับตกหลุมรักคนง่าย มองใบหน้าหวานของน้องสาวด้วยสายตาไม่กะพริบ ดวงตาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและความสนใจ เขาไม่รอให้ทนายแนะนำ แทรกขึ้นมาแนะนำตัวเองด้วยน้ำเสียงขี้เล่น
"พี่ชื่อไวน์นะครับ เป็นพี่ชายคนกลาง"
ไนท์ยิ้มแฉ่ง เอ่ยแนะนำตัวเองด้วยความอบอุ่น พร้อมส่งสายตาเปี่ยมความหวานไปให้น้องสาวอย่างเต็มใจ
"ส่วนพี่ชื่อไนท์ เป็นพี่ชายคนเล็ก มีอะไรถามพี่ได้นะครับ คนกันเอง ไม่ต้องเกรงใจ"
เนปจูนพูดเสียงนุ่ม รอยยิ้มที่ทำให้บรรยากาศรอบตัวดูอบอุ่นขึ้น แม้จะยังมีความเกรงใจอยู่บ้าง
"ขอบคุณค่ะ...คงจะรบกวนพี่ๆ แย่เลยนะคะ หากจูน ทำอะไรไม่เหมาะไม่ควร พี่ๆ บอกจูนได้เลยนะคะ จูนคงจะอยู่ที่นี่ไม่นาน อีกปีกว่าๆ จูนก็จะอายุครบสิบแปดแล้ว"
ไวน์ทำหน้าตาเลิ่กลั่ก หัวเราะอย่างเขินอายที่ได้ฟังคำพูดหวานหูที่แตกต่างจากเมื่อวานอย่างสิ้นเชิง
"หมายความว่าไง พึ่งจะมาถึงเอง เอ่ยลาพวกพี่ซะแล้ว"
ทนายเดชาช่วยอธิบายอย่างใจเย็น
"คืออย่างนี้ครับ ก่อนหน้าที่คุณท่านจะเสีย ท่านบอกกับคุณหนูจูนเอาไว้ ว่าถ้าท่านเป็นอะไรไป จะให้คุณหนูจูนมาอยู่กับคุณชายทั้งสาม คุณหนูจูนเองปฏิเสธท่านไปแล้ว แต่คุณท่านสร้างเงื่อนไขเอาไว้ว่า..ถ้าคุณหนูจูนไม่ยอมมา มันจะมีผลกับทรัพย์สมบัติที่ท่านจัดสรรไว้ให้คุณชาย คุณหนูจูนจึงยอมตกลง และระบุไว้ในพินัยกรรมว่าจะหมดพันธะตามเงื่อนไขพินัยกรรมฉบับนี้เมื่ออายุครบสิบแปดปีบริบูรณ์"
ไวน์หันไปมองหน้าพี่ชายทั้งสองด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ พลางพูดด้วยน้ำเสียงติดตลก
"สิบแปดปีอะไรกัน อยู่แล้วก็อยู่เลยสิครับ พี่เองก็อยากมีน้องสาวน่ารักๆ แบบนี้มานานแล้ว"
คำพูดที่เต็มไปด้วยความจริงใจและความหวัง ถูกตัดด้วยเสียงลั่นที่ดังออกมาแบบไม่ทันตั้งตัว
"คว่ำ!!!!"
ทนายเดชาหันมามองอย่างตกใจ รอยยิ้มหวานบนใบหน้าของเนปจูนในตอนนี้แตกต่างจากวันที่เจอเธอเมื่อวานอย่างชัดเจน
"ใช่ครับ...พี่เองก็อยากมีน้องสาวมานานแล้ว จูนเดินทางมาเหนื่อยๆ กินน้ำหวานๆ ให้ชื่นใจก่อน ป้านวลเอาน้ำเย็นๆ มาให้น้องหน่อยครับ"
ไนท์ตะโกนสั่งคนรับใช้ด้วยความเอ็นดู และส่งรอยยิ้มอบอุ่นให้น้องสาวบุญธรรม
"ดื่มน้ำก่อน..เดี๋ยวพี่จะพาขึ้นไปดูห้อง"
เวย์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่นุ่มนวลกว่าปกติ แถมยังใช้คำว่าพี่แทนตัวเองอย่างเป็นทางการ ทำเอาน้องชายสองคนแอบแลกสายตากันเล็กน้อยด้วยความแปลกใจ
"ห้องเหรอ?"
เนปจูนถามเสียงนุ่มด้วยความสงสัย
"เออ...จูนนั่งเล่นรอสักครู่นะ พอดีเมื่อเช้าพี่เข้าไปดูห้อง รู้สึกเหมือนมันจะยังไม่เรียบร้อยดีสักเท่าไหร่ พี่ขอขึ้นไปตรวจดูสักหน่อย"
ไนท์ตอบด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้นและรอยยิ้มเล็กๆ
"ใช่..เห็นว่าเครื่องปรับอากาศก็น่าจะเสียด้วย คงต้องเรียกช่างมาซ่อมก่อน"
ไวน์เสริมขึ้นอย่างมั่นใจ
"เมื่อวานก็เช็ค..ห้องเรียบร้อย แอร์ก็ปกติดีนิ"
เวย์ตอบกลับเสียงเรียบนิ่ง สายตายังคงจับจ้องไปยังเนปจูน
"พี่เวย์ ผมว่าผมกับพี่ไวน์ไปเช็คอีกรอบดีกว่า เดี๋ยวมานะ คุยกับน้องรอ"
ไนท์กับไวน์ยิ้มหน้าเจื่อนก่อนจะหาทางถ่วงเวลาออกไปนานที่สุด
"ขอบคุณค่ะ ถ้าแอร์เสีย จูนเปิดพัดลมก็ได้นะคะ "
เนปจูนพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ไม่น่าเป็นกังวล
"น้องมาทั้งทีจะให้ลำบากแบบนั้นได้ยังไง รอแปบเดียว เดี๋ยวพี่ไปดูให้"
ไนท์กับไวน์รีบวิ่งขึ้นไปบนห้องนอนของจูนด้วยความร้อนรน ในขณะที่ห้องนั้นเต็มไปด้วยความรกและเศษกระดาษกระจัดกระจายไปทั่ว ฝีมือของสองพี่ชายที่ตั้งใจ “จัดการ” อย่างตั้งใจ