บทนำ

1236 Words
บทนำ “ตกลงโลกจะแตกตามคำทำนายหรือไงนะ อากาศถึงได้ร้อนจับจิตจับใจเช่นนี้” รสิกาพึมพำกับตัวเองเบาๆ พลางหรี่ตากลมโตมองผู้คนที่พากันเดินเบียดเสียดยัดเยียดอยู่ภายในบริเวณตลาดนัดสวนจตุจักรยามใกล้เที่ยง ท่ามกลางอากาศอันแสนจะร้อนอบอ้าวจากแสงร้อนแรงของดวงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมาราวกับต้องการจะแผดเผาผิวกายให้มอดไหม้กลายเป็นจุณ ทว่าหญิงสาวก็เอ่ยปากบ่นออกไปอย่างนั้นเอง ด้วยตนเองชอบมาเดินที่สวนจตุจักรแทบจะทุกวันหยุดเลยก็ว่าได้ แม้ว่าที่พักกับที่นี่จะอยู่ห่างไกลกันมากโขก็ตาม เพราะการมาเดินยังสถานที่นี้มักจะทำให้ได้พบเห็นพฤติกรรมหลากหลายของผู้คนรอบตัวด้วยตาของตัวเอง และอาจจะได้แนวความคิดแปลกใหม่กลับไปนำเสนอลูกค้า ด้วยอาชีพครีเอทีฟอย่างเธอต้องหมั่นเสาะแสวงหา พร้อมทั้งพัฒนาความคิดของตัวเองให้ก้าวล้ำนำหน้าอยู่ตลอดเวลานั่นเอง ร่างสูงระหงได้สัดส่วนสวยงามของครีเอทีฟสาวในชุดกางเกงยีนเอวต่ำทันสมัยสีซีด ตรงช่วงหัวเข่ามีรอยขาดลุ่ยทั้งสองข้าง สวมเสื้อยืดตัวเล็กพอดีตัวสีดำ ยามเยื้องย่างเผยให้เห็นช่วงเอวขาวๆ อยู่รำไร เพราะมัวแต่เดินหลบหลีกผู้คนที่พากันหลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย เจ้าตัวจึงไม่ทราบเลยว่าดวงหน้าสวยแปลกตาของตัวเองนั้นชวนมอง จนตกเป็นเป้าสายตาของคนรอบข้างให้หันกลับมามองอย่างชื่นชมเพียงใด เท่านั้นไม่พอ! ยังต้องคอยยกสองมือขึ้นอุดหูเพราะเสียงเรียก รวมทั้งเสียงประกาศผ่านไมค์จากบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่เชิญชวนให้เลือกซื้อสินค้าของตนเองจนฟังแทบไม่ได้ศัพท์ นึกก่นด่าตัวเองที่ดันเลือกเสื้อยืดสีดำมาสวมใส่ เพราะเป็นสีที่ดึงดูดความร้อนได้อย่างดีเยี่ยม จนแผ่นหลังของเธอในเวลานี้ชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ หญิงสาวควักผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่จากกระเป๋ากางเกงขึ้นซับเหงื่อที่เกาะพราวบนใบหน้า ซึ่งถูกไอแดดจนรู้สึกร้อนวูบวาบไปหมด ดีที่ตัวเธอไม่ชอบแต่งหน้า ไม่งั้นสภาพตอนนี้คงดูไม่จืดเป็นแน่ เธอกวาดสายตามองผู้คนรอบข้างก่อนส่ายหน้าแล้วบ่นพึมพำกับตัวเอง โดยลืมไปว่าตัวเองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย “วันหยุดพักผ่อนไม่รู้จักนอนอยู่กับบ้านกันหรือไงนะ จะมาเดินกันทำไมเนี่ย” รสิกาก้าวตรงไปยังโซนโปรดปรานของตัวเองคือหนังสือ และก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อมาถึงร้านประจำ เจ้าของร้านซึ่งคุ้นหน้ากันเป็นอย่างดีหันมาเห็นเธอเท่านั้นก็ส่งเสียงทักทายออกมาอย่างยินดี “สวัสดีค่ะน้องโรส อาทิตย์นี้พี่น้อยมีหนังสือใหม่ๆ ออกหลายเล่มเลยจ้ะ” “เหรอคะพี่น้อย ถ้างั้นโรสขอเลือกดูก่อนนะคะ” รสิกาพูดพร้อมรอยยิ้ม ทว่าในใจนั้นนึกภาวนา ถ้าปล่อยให้เธอเลือกโดยไม่รบกวนเวลาจะดีมาก เพราะเจ้าของร้านแม้จะชื่อน้อยแต่กลับพูดมากเหลือเกิน ชอบพูดโฆษณาหนังสือในร้านให้เธอฟังเป็นนกแก้วนกขุนทอง ซึ่งเธอไม่ชอบเลย เวลาเลือกซื้อหนังสือ สมาธินั้นสำคัญที่สุด เธอจึงชอบเลือกคนเดียวเงียบๆ ซะมากกว่า “จ้ะ รับรองพี่ไม่รบกวนน้องโรสแน่นอน” เจ้าของร้านสาวใหญ่พูดราวกับเข้ามานั่งในใจของเธอก็ไม่ปาน ตั้งแต่จำความได้ หญิงสาวเป็นคนชอบอ่านหนังสือแทบจะทุกชนิด จนเพื่อนๆ ต่างตั้งสมญาให้ว่าหนอนหนังสือ อาจเป็นเพราะส่วนหนึ่งมาจากอาชีพของบิดามารดาซึ่งรับราชการครูทั้งคู่ จึงปลูกฝังให้บุตรสาวคนเดียวเป็นคนรักการอ่านมาตั้งแต่เป็นเด็กตัวเล็กๆ แม้แต่หนังสือนวนิยายชุดเพชรพระอุมาที่มีหลายสิบเล่มก็ไม่อาจรอดพ้นจากเธอไปได้ แถมอ่านมาตั้งแต่เด็กจนกระทั่งจำขึ้นใจ จนจำไม่ได้ว่าอ่านไปกี่รอบแล้ว แต่ถ้าถามถึงฉากไหนในเรื่องเธอสามารถบอกได้หมด ซ้ำยังโปรดปรานการแต่งกลอน ซึ่งดูแล้วช่างขัดกับบุคลิกของตัวเองเสียนี่กระไร! หลังจากเลือกจนเวลาผ่านไปร่วมสองชั่วโมง รสิกาก็ได้หนังสือจำนวนหลายเล่ม และคิดว่าถ้าเธอยังขืนยืนเลือกต่อไปเงินก็คงจะปลิวออกจากกระเป๋าไปมิใช่น้อยเป็นแน่ จึงตัดสินใจยุติการซื้อลงแต่เพียงเท่านี้ ดังนั้นหลังจ่ายเงินเรียบร้อยจึงรีบก้าวออกจากร้านโดยไม่รั้งรอหรือเหลียวกลับไปมองแต่อย่างใด ตั้งใจไว้ว่าจะหาซื้อน้ำมะพร้าวดื่มแก้คอแห้งซะหน่อยแล้วจะกลับบ้านเลย ทว่าเมื่อเดินผ่านร้านหนังสือเก่าๆ ในซอกลึกซึ่งแทบจะไม่มีผู้ใดแวะเวียนผ่านเข้าไป ในตอนแรกหญิงสาวก้าวผ่านไปแล้ว แต่ไม่รู้ว่ามีอะไรดลใจให้เธอเดินย้อนกลับมา และนึกอยากเข้าไปดูหนังสือในร้านดังกล่าวนัก จึงก้าวเข้าไปภายในร้าน ทันใดนั้นสายตาก็พลันสะดุดเข้ากับหนังสือนิยายเก่าๆ เล่มหนึ่งจึงหยิบขึ้นมาดู สีเหลืองของกระดาษที่เห็นบ่งบอกอายุของหนังสือได้เป็นอย่างดี แต่ครั้นได้อ่านคำโปรยที่ปกด้านหลัง รสิกาก็ตัดสินใจซื้อหนังสือเล่มนี้ทันที เพียงแรกพบสบพักตร์พี่รักเจ้า อยากขอเฝ้าเคล้านางไม่ห่างหาย หากได้น้องครองแนบชิดสนิทกาย หญิงทั้งหลายพี่ไม่แลมองแค่เธอ พระเจ้าช่วย! รสิกาอุทานอยู่ในใจ ยังมีผู้ชายแบบนี้อยู่ในโลกอีกหรือ? แค่เห็นหน้าครั้งแรกก็รัก ชักจะอยากรู้แล้วสิว่าเนื้อหาในหนังสือจะเป็นอย่างไร เมื่อขึ้นมานั่งบนรถเมล์ที่ปลายทางไปสิ้นสุดระยะในซอยบ้านของเธอได้ไม่ถึงห้านาที รถก็จอดนิ่งอยู่กับที่ไม่ขยับเขยื้อนไปไหนอีกเลย หญิงสาวมองรูปการณ์แล้วคิดว่ากว่าจะถึงบ้านของเธอคงใช้เวลาหลายชั่วโมงอย่างแน่นอน จึงเลือกหยิบหนังสือนิยายเก่าเล่มนั้นมาอ่านฆ่าเวลา เพียงเธอเปิดหน้าแรกของนิยายและลงมืออ่านไปเพียงไม่กี่หน้าเท่านั้น รสิกาก็เริ่มรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศรอบตัวที่ดูเหมือนจะค่อยๆ เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ความร้อนระอุอย่างที่ในกรุงเทพฯ มีให้สัมผัสอยู่เป็นประจำ กลับกลายเป็นความเยือกเย็นจากสายลมที่พาดพัดผ่าน กลิ่นเหงื่อไคลผสมกับกลิ่นควันจากท่อไอเสียจากรถต่างๆ ถูกแทนที่ด้วยความหอมสดชื่นของกลิ่นน้ำอบน้ำปรุงที่กรุ่นกระจายอยู่รอบข้าง เสียงรถยนต์ที่ดังจอแจอยู่ก่อนหน้าพลันเงียบสงบลง และมีเสียงควบของรถม้าที่ไม่คุ้นหูดังขึ้นแทน ทำให้รสิกาที่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสืออยู่เกิดอาการแปลกใจ จนต้องปิดหน้าหนังสือลงก่อนเงยหน้าขึ้น และแล้วก็ต้องเบิกตาโตด้วยความตื่นตระหนก เพราะสภาพรอบๆ ตัวของเธอในขณะนี้เปลี่ยนไป แม้กระทั่งผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอ รวมทั้งบรรดาผู้คนภายในรถ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD