หลังจากที่เราใช้เวลาเดินชมภาพถ่ายวรรณคดีในนิทรรศการอย่างเต็มที่ ครูพีทก็พาฉันไปยังร้านอาหารเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ภายในหอศิลป์ ร้านอาหารนี้ตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์น เรียบง่าย แต่หรูหรา มีผนังที่เป็นกระจกใส มองเห็นสวนเล็กๆ ที่มีงานประติมากรรมตั้งอยู่เป็นจุดๆ ลมเย็นๆ พัดเข้ามาเบาๆ ผ่านบานหน้าต่างที่เปิดไว้ ทำให้บรรยากาศภายในร้านรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย
ครูพีทเลือกโต๊ะที่มุมหนึ่งของร้าน ซึ่งเป็นมุมที่เงียบสงบและมีวิวสวนที่สวยงามอยู่เบื้องหลัง ฉันรู้สึกว่าทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้อย่างลงตัว ราวกับว่าที่นี่เป็นที่สำหรับเราสองคนโดยเฉพาะ
“ร้านนี้มีเมนูที่น่าลองหลายอย่าง” ครูพีทพูดพลางเปิดเมนูให้ฉันดู
“เธออยากลองอะไรเป็นพิเศษไหม?”
ฉันมองเมนูที่เต็มไปด้วยรายการอาหารที่มีชื่อเสียงและการนำเสนอที่สวยงาม ทุกอย่างดูน่าทานไปหมด แต่ฉันยังลังเลเล็กน้อย
“หนูไม่แน่ใจค่ะครู เอ่อ พี่พีท... ทุกอย่างดูน่าทานไปหมด” ฉันเปลี่ยนสรรพนามทันที เมื่อเห็นดวงตาคมกริบมองจ้องมา ครูพีทคลี่ยิ้มอย่างพึงพอใจ
“งั้นฉันจะช่วยเลือกให้แล้วกันนะ ฉันคิดว่าเธอน่าจะชอบลองชิมเมนูนี้” เขาชี้ไปที่เมนูพิเศษของร้าน ซึ่งเป็นสลัดที่ทำจากวัตถุดิบสดใหม่ที่ปลูกในสวนของหอศิลป์เอง ตามด้วยพาสต้าเส้นสดที่ปรุงด้วยซอสทรัฟเฟิลหอมกรุ่น
ฉันพยักหน้าเห็นด้วย รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ลองอาหารที่ครูพีทเลือกให้
ไม่นานนัก อาหารก็ถูกนำมาเสิร์ฟบนโต๊ะ กลิ่นหอมอ่อนๆ ของสลัดสดและซอสทรัฟเฟิลลอยขึ้นมาแตะจมูก ทำให้ฉันรู้สึกหิวมากขึ้น พอเริ่มทาน ฉันพบว่าอาหารนั้นอร่อยเกินกว่าที่ฉันคาดไว้ ความสดของวัตถุดิบที่ใช้ในการทำอาหารนี้สะท้อนถึงความพิถีพิถันของเชฟ ทำให้ทุกคำที่ฉันลิ้มรสนั้นเต็มไปด้วยความสุข
“รสชาติเหมือนที่ฉันบอกมั้ย?” ครูพีทถาม
“ค่ะ... อร่อยมากจริงๆ” ฉันตอบพร้อมกับยิ้มให้
ขณะที่เราทานอาหารไปพร้อมกับพูดคุยเรื่องวรรณคดีและศิลปะที่เราได้ชมในนิทรรศการ ครูพีทก็เปิดเผยเรื่องราวบางอย่างเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของเขา เขาเล่าให้ฉันฟังถึงความรักในศิลปะและวรรณกรรมตั้งแต่วัยเด็ก และเหตุผลที่เขาตัดสินใจย้ายมาทำงานในประเทศไทย ทั้งหมดนี้ทำให้ฉันรู้สึกว่าเราสองคนมีความเข้าใจและเชื่อมโยงกันในระดับที่ลึกซึ้งขึ้น
ฉันรับฟังเรื่องราวของเขาด้วยความสนใจและเคารพในตัวตนของเขามากขึ้น ในขณะที่ฉันก็เปิดใจเล่าเรื่องราวบางส่วนของตัวเองให้เขาฟัง แม้จะไม่ได้เปิดเผยทุกอย่างที่ฉันซ่อนอยู่ในใจ แต่ฉันก็รู้สึกว่าการได้พูดคุยกับเขาทำให้ฉันรู้สึกเบาสบาย และรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ฉันสามารถวางใจได้
บรรยากาศในร้านอาหารที่เงียบสงบ มีเพียงเสียงพูดคุยเบาๆ ระหว่างเราสองคน และเสียงดนตรีคลอเบาๆ ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนเรากำลังอยู่ในโลกส่วนตัวของเราเอง
หลังจากทานอาหารเสร็จ ครูพีทก็พาฉันไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะใกล้ๆ กับหอศิลป์ เป็นสวนที่มีบรรยากาศเงียบสงบและเต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ สวนนี้เป็นสถานที่ที่คนเมืองมักจะมาใช้เวลาพักผ่อนในช่วงเย็น ฉันรู้สึกตื่นเต้นกับการได้ใช้เวลาเพิ่มเติมกับครูพีทในสถานที่ที่ดูผ่อนคลายและธรรมชาติแบบนี้
เมื่อเรามาถึงสวนสาธารณะ สายลมเย็นๆ ของยามเย็นพัดผ่าน ทำให้ฉันรู้สึกสบายใจและสดชื่น เราเดินไปตามทางเดินที่ปูด้วยหินและล้อมรอบด้วยต้นไม้สูงที่ให้ร่มเงา เสียงนกร้องและเสียงลมพัดผ่านใบไม้ทำให้บรรยากาศในสวนดูเงียบสงบและเป็นธรรมชาติมากขึ้น
“ลิลลี่ เธอชอบสถานที่นี่ไหม?” ครูพีทถามขณะที่เราหยุดยืนอยู่ริมบ่อน้ำเล็กๆ ที่มีดอกบัวเบ่งบานอยู่
“ชอบมากค่ะ” ฉันตอบพร้อมกับยิ้มออกมา
“มันทำให้ฉันรู้สึกสงบและผ่อนคลายมาก”
ครูพีทยิ้มตอบก่อนจะหันไปมองวิวรอบๆ “ฉันก็ชอบที่นี่มากเหมือนกัน เวลาที่รู้สึกเครียดหรือเหนื่อยจากงาน ฉันก็มักจะมาที่นี่ มันทำให้รู้สึกว่าสามารถปลดปล่อยความคิดและรีเซ็ตตัวเองได้”
เรายืนมองวิวทิวทัศน์รอบๆ บ่อน้ำอย่างเงียบๆ อยู่พักหนึ่ง จู่ๆ ลมก็เริ่มพัดแรงขึ้น พร้อมกับเมฆดำที่ลอยเข้ามาปกคลุมท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว ฉันเริ่มรู้สึกถึงละอองฝนที่ตกลงมากระทบผิวหน้าของฉันเบาๆ ก่อนที่ฝนจะเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็กลายเป็นพายุฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว
“ฝนตกหนักแล้ว เราต้องรีบหาที่หลบแล้วล่ะ!” ครูพีทพูดพร้อมกับพาฉันวิ่งไปที่รถ แต่ด้วยฝนที่ตกหนักและไม่มีที่หลบที่ใกล้พอ ทั้งฉันและครูพีทต่างเปียกปอนไปหมด ฝนที่ตกหนักทำให้เสื้อผ้าและผมของฉันชุ่มน้ำไปจนถึงผิวหนัง ฉันรู้สึกเย็นสั่นจากน้ำฝนที่ซึมเข้ามาทุกส่วนของร่างกาย แต่ก็ไม่สามารถห้ามความตื่นเต้นและสนุกที่เกิดขึ้นได้
เมื่อเราวิ่งมาถึงรถ ครูพีทรีบเปิดประตูและพาฉันเข้าไปนั่งในรถอย่างรวดเร็ว ฉันนั่งหายใจหอบเล็กน้อย ขณะที่ฝนยังคงกระหน่ำตกลงมากระทบกระจกหน้าต่างเสียงดัง ฝนที่ตกลงมาทำให้เสื้อผ้าตัวนอกของฉันเปียกปอนจนแนบไปกับผิว ร่างกายสั่นระริกด้วยความหนาว
“เธอเปียกหมดเลย”
สายตาของครูพีทกวาดตามร่างกายของฉันตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เสื้อผ้าที่เปียกปอนแนบชิดไปกับผิวเผยให้เห็นสัดส่วนที่น่าทึ่ง เมื่อสายตาของเขาหยุดนิ่งอยู่ที่เสื้อชั้นในสีแดงเลือดหมูที่โผล่พ้นจากคอเสื้อที่เปียกชุ่ม ความร้อนในดวงตาของเขาก็ลุกโชนขึ้นมาทันที ริมฝีปากกระชับแน่นราวกับกำลังกลั้นอะไรบางอย่างเอาไว้
“ฉันคงต้องหาที่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอ ก่อนที่จะเธอเป็นหวัด”
“แต่เราจะไปไหนคะ?” ฉันถามด้วยความกังวล
ครูพีทนิ่งคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นมา
“คอนโดฉันอยู่แค่นี้เอง เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและรอให้เสื้อผ้าแห้งก็แล้วกัน”
ฉันลังเลเล็กน้อย เพราะไม่เคยไปที่พักของครูพีทมาก่อน แต่สถานการณ์ตอนนี้ก็คงไม่มีทางเลือกมากนัก ฉันพยักหน้าตอบตกลง