ครืด ครืด ครืด...
มองหน้าจอแล้วก็แทบไม่อยากจะกดรับสาย อยากจะปล่อยให้สายตัดไปเลย แต่ก็ทำไม่ได้ ผมไม่ได้มีความกล้าขนาดนั้น
“ครับ”
(มาทานข้าวที่บ้านหน่อยสิ แม่เหงา)
“วันไหนครับ” คำว่าแม่เหงาทำให้ผมไม่สามารถปฏิเสธได้ ไม่ว่าจะไม่ว่างแค่ไหนก็ต้องหาเวลาว่างตามที่แม่ต้องการ
ผมไม่ควรปล่อยให้แม่เหงาเพราะผม
(มะรืนแล้วกัน)
“ไหนว่าเหงา ไปวันนี้เลยไม่ได้เหรอครับ”
(วันนี้ยังไม่เหงาเท่าไหร่)
“นัดวันเหงาเหรอครับ”
(ใช่ มีปัญหาเหรอ)
“ลูกจะกล้ามีปัญหากับแม่ได้ยังไงครับ”
(มะรืนเจอกัน สวัสดีวันพุธลูกชาย)
“ครับ สวัสดีวันพุธ”
ผมธีร์ทัศ แห่งตระกูลอิทธิฤทธิ์ ลูกชายคนที่สองของคุณหญิงปภาพิน บ้านผมมีพี่น้องสามคน พี่คนโต ธันวา ผม ธีร์ทัศ น้องคนเล็ก ธารณ์
คนโตเป็นประธานบริษัทนำเข้าส่งออกสินค้า
คนเล็กเป็นหมอเฉพาะทางที่โรงพยาบาลเอกชน
ผมคนกลางเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยเอกชน
คุณหญิงท่านวางแนวทางการใช้ชีวิตไว้ให้พวกผมเรียบร้อยครับ คุณหญิงของผมท่านมีหุ้นส่วนที่มหาวิทยาลัย มีหุ้นในโรงพยาบาลเอกชน ส่วนบริษัทขนส่งก็ของท่านเอง อิทธิฤทธิ์ครอบคลุมครับ
พี่ชายคนโตของผมมีครอบครัวแล้ว มีลูกสาวโตแล้วและก็มีหลานสาวที่น่ารัก คุณหญิงปภาพินเห็นว่าพี่ชายของผมมีหลานสาวตัวน้อยก็อยากจะเร่งรัดให้ผมหาคู่ดี ๆ สักคน
แม่เร่งมาตลอด ผมก็หาอ้างเสมอว่ายังไม่คิดเรื่องความรัก ยังไม่อยากสร้างครอบครัว ก็ไม่รู้ว่าจะอ้างไปได้นานสักแค่ไหน ไม่รู้ว่าวันไหนแม่จะตีหัวผมแล้วบังคับให้เข้าพิธีวิวาห์กับคนแปลกหน้า
คิดแล้วก็เซ็ง
(ธีร์: คืนนี้เจอกันหน่อย ที่เดิม)
(บัวบูชา: รับทราบค่ะ)
ผมกลับไปสอนเด็กใหม่ในสังกัดให้เป็นงานสักหน่อยดีกว่า เผื่อว่าจบงานกับผมเธอจะมีประสบการณ์ชีวิตมากขึ้น สามารถเอาไปใช้ในวันข้างหน้าได้ อยู่ที่นี่ก็มีแต่เซ็ง หลังจากรับสายแม่ก็ยิ่งเซ็ง
หาอะไรทำแก้เซ็งดีกว่าเยอะ
สอนคนก็ถือว่าได้บุญ ฉะนั้นผมไม่ควรรอช้า
“กูกลับนะ” ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มแล้วก็ลุกขึ้นยืน
“กลับเร็วจังวะ เพิ่งมาปะ” มาวินทักท้วงขณะที่สาวสวยเซ็กซี่ขนาบสองข้าง
“เบื่อ ๆ”
“หิ้วกลับสักคนไหมอะ แก้เบื่อ” เป็นความหวังดีที่เพื่อนมักมีให้ผมเสมอ มันคือเรื่องปกติ ซึ่งน้อยครั้งที่ผมจะปฏิเสธ
“ไม่อะ”
“อ้อ กลับไปสอนงานเด็กว่างั้น”
“อืม” เรื่องที่รู้ ๆ กันอยู่มีอะไรที่จะต้องปฏิเสธ มันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอยู่แล้ว
ก็แค่มีเซ็กซ์ แค่มีเซ็กซ์เท่านั้น เซ็กซ์ที่ใช้เงินซื้อมาไม่ต้องมีความรู้สึกมาผูกมัดเป็นอะไรที่ดีที่สุด
“ขอโทษนะคะที่หนูมาช้า” เด็กที่ผมเพิ่งผูกปิ่นโตเอ่ยหลังจากที่เราจบกิจกรรมบนเตียงไปหนึ่งรอบ
“ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่นะ ปกติเธอต้องเป็นฝ่ายมารอ”
“ค่ะ ต่อไปถ้าคุณอยากเจอหนูรบกวนคุณบอกก่อนล่วงหน้าสักหนึ่งชั่วโมงได้หรือเปล่าคะ”
“ทำไม” ทำไมเรื่องมากจังวะ สรุปผมหรือเธอที่เป็นคนคุม
“บ้านหนูอยู่ไกลจากคอนโดคุณธีร์ค่ะ”
“นึกว่าแอบผิดกฎรับงานอื่น”
“หนูไม่ได้อยากมีผู้ชายหลายคนในเวลาเดียวกันค่ะ”
“อืม”
“งั้นหนูกลับเลยได้เลยใช่ไหมคะ”
“ดึกแล้วค้างคืนได้ไหม เดี๋ยวจ่ายพิเศษให้”
“เท่าไหร่คะ” เธอเป็นคนตรง ๆ หรือว่าเธอหิวเงินถึงได้ถามกลับด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจังขนาดนี้
“อยากได้เท่าไหร่”
“หนูเรียกจากคุณได้เหรอคะ”
“ได้สิ อยากได้เท่าไหร่ว่ามาเลย”
บัวบูชายืนมองหน้าผมอยู่ครู่หนึ่งก็คลานขึ้นมานั่งพับเพียบบนเตียง
เธอมองหน้าผมแล้วเอ่ย “ตอนนี้หนูต้องการสองแสนค่ะ คุณธีร์สะดวกให้หนูก่อนได้หรือเปล่าคะ หนูสัญญาว่าจะชดใช้คืนให้ค่ะ”
ได้ยินคำตอบมุมปากผมก็ยกยิ้มโดยอัตโนมัติ ไม่ได้จะดูถูกเธอนะ แต่เธอเรียกร้องเกินตัวจริง ๆ
“ค้างคืนเธอเรียกสองแสน นี่เธอคิดว่าเธอเป็นตัวท็อปหรือเป็นคนดังที่ฉันตั้งจ่ายเงินให้มากมายขนาดนั้นเลยเหรอ เราเจอกันแค่สองครั้ง เธอจะเรียกร้องครึ่งล้านทั้งที่ไม่เป็นงานอะไรเลย แล้วฉันก็ยังเป็นคนสอนงานเธออีกต่างหาก มาคิดดูแล้วคนที่ได้กำไรมีแต่เธอเลยนะ”
“...ขอโทษค่ะ หนูคิดน้อยไป” สาวสวยตรงหน้าทำหน้าเศร้า เธอเป็นผู้หญิงหน้าตาสะสวยที่มีแววตาเศร้าหมอง เหมือนคนแบกโลกไว้ทั้งใบ
หึ ก็แค่มารยาหญิงเท่านั้น เธอแค่อยากได้เงินก็เลยทำตัวน่าสงสาร
คนแบบนี้ผมเจอมาเยอะ
“ถ้าเรียกร้องถึงสองแสนแบบนี้ เราก็ต้องเพิ่มเงื่อนไขนะ”
“คุณให้ได้จริง ๆ เหรอคะ” สีหน้าเธอเปลี่ยนทันที ดูเหมือนมีความหวัง หวังเอาเงินไปใช้สบาย ๆ แหละมั้ง
“ได้สิ สำหรับผมเงินไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้ว”
“ตกลงค่ะ”
“ใจเย็นคนสวย เธอยังไม่ได้ฟังเงื่อนไขเลย อย่าเพิ่งดีใจขนาดนั้น”
“ไม่ว่าเงื่อนไขจะเป็นอะไรหนูยินดีค่ะ”
“งั้นตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเธอย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ก็แล้วกัน อยู่จนกว่าเราจะตกลงแยกย้ายกัน”
“...นั่นเงื่อนไขเหรอคะ” ทำหน้าสงสัยอะไรขนาดนั้นวะ
“อืม ผมขี้เกียจรอ ขี้เกียจจะส่งข้อความ ไม่ว่าผมมาเมื่อไหร่เราต้องเจอกัน แบบนี้ดีไหม”
“แต่บัวยังมีเรียนนะคะ ถ้าคุณธีร์มาตอนที่บัวเรียน”
“ส่งตารางเรียนมาให้ผมแล้วกัน แล้วถ้าติดงานหรืออะไรก็คุยกันอีกที”
“...”
“ทำไม ไม่ยินดีเหรอ”
“เปล่าค่ะ ยินดีค่ะ ยินดีมากเลย”
“ยินดีแล้วร้องไห้ทำไม”
“คุณธีร์ใจดีค่ะ บัวดีใจ”
“ถ้าบัวเป็นเด็กดี ผมก็ต้องใจดีอยู่แล้ว”
“บัวจะเป็นเด็กดีของคุณธีร์ค่ะ” อืม เวลายิ้มแล้วดีกว่าหน้าเศร้าเยอะเลย
“ต่อไปเรียกว่าพี่ธีร์แล้วกัน เราจะได้สนิทกันมากขึ้น”
“ค่ะพี่ธีร์”
“น่ารักมาก”
ไม่มีอะไร ก็แค่ผมรู้สึกอยากเป็นพี่บ้างก็เท่านั้นเอง มีเด็กสาวเรียกพี่แล้วรู้สึกดีเหมือนกันนะ