Episode-10เจ้าหญิงน้ำแข็ง

1779 Words
เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เต็มที่ฉันอยู่กับน้องธาวิน เขาเป็นเด็กฉลาดนะคะ ช่างสังเกตด้วย เพียงแต่ว่าไม่มีใครคอยอยู่กับเขาเท่านั้นเอง อยู่คนเดียวไม่รู้จะคุยกับใคร ไม่รู้จะเล่นกับใคร มีจอทีวีกับขวดนมเป็นเพื่อนแค่นั้น “แม่หนูออกไปตลาดกับพี่ลูกศรนะ” “ไปสิ ซื้อขนมมาฝากน้องด้วยนะ” ฉันว่าพร้อมกับยื่นเงินให้ “ดูก่อนนะ ถ้ามีอะไรน่ากินหนูจะซื้อมาฝาก” คล้อยหลังน้ำขิงฉันก็ซักผ้าล้างขวดนมไปตามประสา รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแม่ลูกอ่อนอีกครั้งหนึ่งเลยแฮะ ต่างกันตรงที่ตอนนั้นฉันลำบากมาก นึกแล้วก็ภูมิใจที่ตัวเองสามารถผ่านมันมาได้ “วันนี้มีแกงจืดกับผัดพริกแกง หนูอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม” ป้าศรีเอ่ยถามฉัน “ของหวานก็มีนะลูก” “แค่นั้นพอแล้วค่ะ ของเด็ก ๆ เดี๋ยวหนูจัดการเอง” “ถ้าอย่างนั้นป้าไปรดน้ำต้นไม้แล้วนะ” “ค่ะ” ทำนั่นทำนี่เพลินไปหน่อย รู้ตัวอีกทีน้องวินก็ลากผ้าเน่ามาหาแล้ว “ตื่นแล้วเหรอคะ” ปึก! นอกจากจะไม่ตอบฉันแล้วยังขว้างขวดนมลงพื้นอีกด้วย “ทำแบบนี้ไม่น่ารักเลย น้องนอนไม่เต็มอิ่มน้องหงุดหงิด คราวหน้าน้องต้องบอกนะว่าอยากได้อะไรไม่โยนของแบบนี้เข้าใจไหมครับ” ฉันพูดอย่างใจเย็นพร้อมกับโอบกอดเขา ท่าทีเกรี้ยวกราดหายไปแทบจะทันที “เก็บขวดนมมาเดี๋ยวพี่จะล้างและชงให้ใหม่” ได้ยินแบบนั้นเขาจึงเดินไปหยิบมาให้ฉัน ต้องใช้ความใจเย็นกับเหตุผลเข้าสู้ค่ะ ไม่อย่างนั้นไปกันใหญ่ หลังจากได้นมขวดใหม่แล้วเขาก็ไม่ยอมกลับไปนอนที่เดิมนั่งเฝ้านอนเฝ้าฉันอยู่แบบนั้น “อะไร” นิ้วน้อย ๆ ชี้มาที่ฉัน “อันนี้เหรอคะ ไข่ค่ะ” “ไข่” “น้องอยากทำไหม” ได้ยินแบบนั้นเจ้าตัวจึงรีบวางขวดนมแล้วตรงมาที่ฉันทันที “ตอกไข่แบบนี้ค่ะ” ฉันทำให้ดูเป็นตัวอย่างหนึ่งฟอง และสอนให้เขาทำด้วยตัวเองอีกหนึ่งฟอง “เก่ง” “เก่งมาก” เอ่ยชมก่อนจะหันไปตั้งกระทะ เผลอแค่แป๊บเดียวน้องวินเกือบจะกินไข่ดิบซะแล้ว “ยังกินไม่ได้นะ” “...” “มันยังไม่สุกค่ะ เราต้องทำให้สุกก่อน” ได้ยินแบบนั้นเขาจึงวางช้อนลงแล้วเปลี่ยนเป็นนั่งดูฉันแทน เอาจริง ๆ เด็กคนนี้ฉลาดมากถ้าถูกดูแลอย่างดีพัฒนาการของเขาอาจจะไวกว่าเด็กคนอื่นที่อยู่ในวัยเดียวกันด้วยซ้ำ เขาช่างสังเกตอยากรู้อยากเห็นไปซะทุกอย่าง แค่คอยอธิบายเท่านั้นเอง แต่ก็นั่นแหละปะป๊าของเขาเงียบขรึมขนาดนั้นจะเอาอะไรมาอธิบายให้ลูกฟัง คุณธัญไม่กลับมาบ้านสามวันนี้แล้วค่ะ เขาบอกว่ามีงานสำคัญอะไรสักอย่างนี่แหละ ช่างเถอะงานอะไรก็เรื่องของเขา “เซอร์ไพร์ส!” “พี่บัว” ไม่ได้มามือเปล่านะมีของกินมาเพียบเลย “พี่เข้ามาได้ยังไง” “มากับลีโอจ้ะ” “รู้จักพี่ลีโอด้วยเหรอ ไม่สิพี่ต้องรู้จักทุกคนอยู่แล้ว” “แน่นอน! แต่ถึงจะรู้จักถ้าเจ้าของบ้านไม่อนุญาตให้เข้าก็เข้าไม่ได้นะยะ แล้วนี่น้ำขิงไปไหนฉันซื้อของกินมาฝากหลานเยอะเลย” “ไปตลาดกับแม่บ้านอีกเดี๋ยวคงมา” “อ๋อ แล้วนั่น...” พี่บัวพยักเพยิดหน้ามาทางน้องวินที่ตัวติดฉันแทบจะตลอดเวลา “ติดหนึบขนาดนี้แกเอาอะไรให้ลูกเขากินหรือเปล่าน้ำแข็ง” “น้ำมนตร์จากเกจิดังเก้าวัด” “พูดไปเรื่อย” “ฮ่า ๆ ก็ใช่ไง ตามติดแบบนี้ทั้งวันแหละ” วันแรก ๆ ไม่ค่อยกล้าเข้าหาค่ะแต่เหมือนน้องชินแล้วที่ตัวเองต้องมีพี่เลี้ยง เพราะแบบนี้หรือเปล่าที่ทำให้เขาไม่กลัวคนแปลกหน้าเลย “แล้วเป็นยังไงบ้าง โอเคไหม?” “อืม ตอนแรกเกร็งแทบตายแต่พอเอาเข้าจริงก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด” “แกคิดอะไร” “ถามมาได้คิดอะไร นี่ลูกมาเฟียเชียวนะ” ฉันว่าพลางก้มมองน้องวินที่กำลังมองฉันตาแป๋ว “แถมพ่อเขายังชอบทำหน้านิ่งตลอดเวลาอีกด้วย” “อย่าใส่ใจนักเลยนั่นมันเป็นแค่บุคลิกของเขา” “ดูพี่สนิทกับคุณธัญเหมือนกันเนอะ” พูดออกไปตามความคิด “คุณธัญเขาสนิทกับลูกน้องทุกคนแหละ แกอยู่ไปเดี๋ยวก็รู้เอง” “จริง ๆ เขาไม่ได้นิ่งเงียบขนาดนั้นหรอกนะพี่ หนูแนะนำอะไรเขาก็รับฟังนะ” “เขาก็เหมือนแกนั่นแหละน้ำแข็ง เวลาที่แกโกรธแกจะกลายเป็นเจ้าหญิงน้ำแข็งทันที เย็นชา ดุ และเยือกเย็น ส่วนคุณธัญถ้าอารมณ์ดีเขาจะกลายเป็นเจ้าชายเลยล่ะ เปย์หนักและยิ้มบ่อย คนเรามันมีสองด้านด้วยกันทั้งนั้น” “เปย์เหรอ... อันนี้หนูเชื่อ เขาให้เงินลูกน้องเหมือนกระดาษเลย และเงินที่ให้ไม่ใช่เงินเดือนด้วยนะพี่” ฉันเคยเห็นค่ะ เขาให้พี่ลุกซ์กับป้าศรีหลายครั้ง วันก่อนที่จะไปสวนสนุกเขาก็ให้ฉันด้วย “ฉันบอกอยู่นี่ไงว่าหน้านิ่ง ๆ มันเป็นแค่บุคลิก ความจริงเขาใจดีจะตาย เฉพาะกับลูกน้องนะ” อยู่คุยกับพี่บัวสักพักน้ำขิงก็กลับมาค่ะ ได้ขนมไทยมาฝากน้องด้วย ไม่ต้องห่วงว่าลูกฉันจะปรับตัวไม่ได้ รายนั้นน่ะเข้ากับทุกคนได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะธาวิน มื้อเย็นวันนี้เปลี่ยนสถานที่จากในครัวเป็นสนามหญ้าหลังบ้านแทนค่ะ ปูเสื่อกับพื้นตามความถนัดของตัวเอง ไหน ๆ พี่บัวก็มาเยี่ยมแล้วฉันเลยถือโอกาสชวนเขากินข้าว รวมไปถึงพี่ลีโอและพี่แม่บ้านด้วย “แม่น้องจะเอากุ้งอีก” ได้ยินแบบนั้นถึงกับต้องหันไปมองอีกครั้ง “หนูเอากุ้งให้น้องกินเหรอ” มื้อเย็นของน้องวินเป็นแกงจืดค่ะ แต่พอเห็นของกินอย่างอื่นเขาคงอยากกินด้วย “ใช่ ... น้องกินไม่ได้เหรอคะ” “ไม่รู้สิ แม่ไม่แน่ใจเหมือนกัน” “เดี๋ยวนะ แค่กินกุ้งแกจะเครียดทำไม” พี่บัวเอ่ย “คุณธัญบอกว่าแม่เขาแพ้อาหารทะเล กุ้งหอยปูปลาอะไรพวกนี้ หนูเลยไม่แน่ใจว่าน้องจะแพ้เหมือนแม่เขาหรือเปล่า” “ไม่น่าจะแพ้นะ เห็นกินตั้งนานแล้ว” พี่ลีโอพูดขึ้นมาบ้าง ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังไม่วางใจ ยังคงเฝ้ามองอยู่ตลอดว่ามีอาการผิดปกติอะไรไหม “เอาอีก” “พอแล้วค่ะ น้องกินเยอะแล้ว” สีหน้าเหมือนจะร้องไห้เมื่อได้ยินฉันพูดแบบนั้น “ก็ได้ ให้แค่สองตัวนะ” “ครับ” ไม่พูดเปล่ายังยกมือไหว้อีกด้วย แล้วแบบนี้ใครจะดุลงล่ะคะ นานเกือบชั่วโมงที่ฉันเฝ้าสังเกตน้องวิน ดูท่าทางแล้วน้องจะไม่แพ้นะคะ ไม่มีผื่นแดง ไม่อาเจียน ไม่มีอาการใด ๆ ทั้งสิ้น ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี จัดการอาบน้ำทาแป้งให้หอมฟุ้งเรียบร้อย แค่เพียงไม่นานก็หลับไปทั้งน้องวินและน้ำขิง กลางคืนเป็นช่วงเวลาที่ฉันเช็กบิลลูกค้า กฎคือเที่ยงคืนของวันนัดชำระ ถ้าผิดคำพูดก็คงต้องเจอกันหน่อย เด็ก ๆ หลับหมดแล้วตื่นอีกทีก็เช้าโน่นแหละ ได้เวลาจัดการคน “คุณน้ำแข็งจะไปไหนครับ” พี่ลีโอเอ่ยถามช่วงที่คุณธัญไม่อยู่เขามีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้พวกเราค่ะ “You are mine มาเฟียคลับ” “ตอนนี้?” “ใช่ค่ะ ต้องไปจัดการคน” “เดี๋ยวผมพาไปดีกว่าขืนปล่อยให้คุณไปเองผมถูกคุณธัญเล่นงานแน่ ๆ” พี่ลีโอเสนอขึ้นก่อนจะสั่งลูกน้องสองสามคนให้มาดูแลแทนเขา ราวครึ่งชั่วโมงก็มาถึง จะบอกว่าบรรยากาศมันแตกต่างกับตอนกลางวันมาก แสง สี เสียง ความสนุกและความสุขมีมากมายในที่แห่งนี้ “พี่รอตรงนี้นะเดี๋ยวหนูมาแป๊บเดียว” หันไปบอกพี่ลีโอแล้วเดินตรงไปยังบาร์เครื่องดื่มที่ตอนนี้ลูกหนี้คนสวยกำลังรับแขกอยู่ “นะ น้ำแข็ง” “ไง! แช็ตไม่อ่านเลยนะ” “ยังไม่ได้จ่ายค่าเน็ตน่ะ” “ให้พูดใหม่” “เออรู้แล้ว เอาไปทั้งต้นทั้งดอกฉันเพิ่งได้ทิปจากลูกค้าเมื่อกี้ บอกอยู่ว่าเดี๋ยวโอนให้แค่นี้ต้องมาตามยันที่ด้วย” อายสินะคงไม่คิดว่าฉันจะมาจริง “อย่ามาพูดเหมือนกูเป็นคนผิด มึงผิดคำพูดมากี่ครั้งแล้ว อย่าว่าแต่ที่นี่เลยบ้านมึงกูก็ไปได้ไม่เกินใจกูหรอก!” ฉันเริ่มหัวเสียแล้วเหมือนกัน ตอนมาเอาแทบก้มกราบแต่พอถึงเวลาคืนกลายเป็นฉันที่ต้องกราบแทน “ต่อไปกูไม่ให้แล้ว จะผ่อนนมผ่อนจมูกแล้วเงินไม่พอก็เรื่องของมึง” “นี่!” “อย่ามีเรื่อง...คุณน้ำแข็ง” เป็นพี่ลุกซ์ที่เข้ามาห้าม “มาได้ยังไงครับ” “มาจัดการคน!” “ใคร?” น้ำเสียงคุ้นหูดังขึ้นก่อนที่ร่างสูงจะหยุดยืนตรงหน้าฉัน “ดึกดื่นป่านนี้ใครบังอาจทำให้เธอหัวร้อน” “ลูกหนี้ติดแกรม และอาจจะเป็นลูกน้องของคุณด้วย” จากที่ไม่มีใครสนใจตอนนี้เริ่มไม่ใช่แล้วเพราะคุณธัญนั่นแหละ เสียงเพลงที่เคยดังกระหึ่มเงียบลงจนน่าตกใจ “ฉันจัดการให้ไหม?” ได้ยินแบบนั้นลูกหนี้คนสวยของฉันถึงกับเข่าอ่อนเลยทีเดียว ก็รู้อยู่คนอย่างเขาพูดจริงทำจริงแน่ “ไม่ต้องหรอกค่ะ หนูจัดการได้แล้ว ได้ครบทั้งต้นและดอก” “มีอะไรคาใจอีกไหม?” เขาหันไปถามลูกหนี้ของฉัน เธอทำงานที่นี่แน่นอนเธอต้องรู้นิสัยเจ้านายตัวเอง เขาเปิดโอกาสให้พูดก็ควรพูด “ฉันคืนครบแล้ว ถ้าหลังจากนี้มีการแอบอ้างชื่อฉัน ฉันไม่เกี่ยว” “ไม่มีใครอ้างใครได้หรอกนอกจากเสนอหน้ามาเอาเอง” “พอแล้วมั้งเธอจะดุไปถึงไหน” “คุณเงียบไป! ไหนว่ามีงานสำคัญไงคะบ้านช่องไม่รู้จักกลับ” “...”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD