แก้ปัญหา

1006 Words
ในเช้าวันนี้ทุกคนต่างมานั่งหารือกันกันก่อนที่จะเริ่มเปิดร้านกอแก้วรีบเอาเงินเก็บทั้งหมดที่ตัวเองมีมากองตรงหน้าพ่อกับแม่รวมประมาณหนึ่งแสนกว่าบาทเธอเก็บมันตั้งแต่เริ่มทำงานจนถึงตอนนี้ตอนแรกคิดว่าจะเก็บไปเรื่อยๆจนดาวน์บ้านหลังใหม่อีกหลังแต่ตอนนี้คงต้องเอามาช่วยครอบครัวก่อน "นี่เงินเก็บแก้วค่ะพ่อกับแม่เอาไว้จ่ายค่าน้ำค่าไฟส่วนที่เหลือก็น่าจะส่งธนาคารได้บ้าง..แล้วเงินที่ต้องจ่ายหนี้ธนาคารแก้วจะรับผิดชอบเองค่ะ..แก้วจะคิดว่าจะทำขนมฝากร้านคนรู้จักขายหารายได้อีกทาง” "แม่ก็คิดว่าแม่จะให้พ่อเฝ้าร้านคนเดียวแล้วออกไปหางานแม่บ้านทำอีกแรง" กอบัวที่นั่งฟังทุกคนหารือช่วยกันหารายได้เสริมเธอเองก็เห็นว่าถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องออกไปทำการทำงานเสียทีหากจะให้แม่เธอไปเป็นแม่บ้านทำงานหนักเธอคงไม่สบายใจแน่ "ไม่ต้องนะคะแม่..แม่ดูแลยัยหนูส่วนบัวจะไปทำงานประจำเองค่ะ" “แต่พี่ว่า...” "แต่แม่ว่า..." ทั้งมาลัยและกอแก้วต่างหันมามองกอบัวเป็นตาเดียวกันคิดค้านความคิดของกอบัวเพราะที่พวกเธอต้องการให้กอบัวอยู่แต่บ้านเลี้ยงลูกด้วยไม่อยากให้คนที่มองโลกในแง่ดีอย่างกอบัวต้องไปเจออะไรที่มันเลวร้ายอีก "บัวอยากออกไปทำงานค่ะยัยหนูก็เลิกเข้าเต้านานแล้วบัวควรออกไปหางานทำเสียทีค่ะ" กอบัวรีบโพร่งขัดจังหวะทั้งสองเธอรู้ดีว่าครอบครัวต้องการที่จะปกป้องเธอแต่เธอเป็นแม่คนแล้วควรจะออกไปเผชิญสิ่งต่างๆด้วยตัวเองรวมถึงรับผิดชอบชีวิตตัวเองและลูกให้ได้อย่างน้อยเงินจากการที่เธอได้จากการทำงานก็ทำให้ไม่ต้องไปเบียดเบียนเงินพ่อแม่หรือพี่สาวเธออีก "ขอบใจนะลูก" มาลัยยกมือลูบหัวลูกคนเล็กด้วยความภูมิใจ “ถ้าพ่อเก่งกว่านี้พ่อคงเลี้ยงลูกๆได้สบายกว่านี้นะลูกนะ..” ชำนาญที่นั่งเล่นกับหลานสาวตัวกลมได้ยินลูกๆอยากจะช่วยครอบครัวกันขนาดนี้ก็ปลื้มใจจนน้ำตาไหลทั้งตัดพ้อถึงความสามารถตัวเองที่ดูแลให้ทุกคนอยู่ดีกินดีไม่ได้ มาลัยนั่งกุมขมับมองคนเป็นสามีเขานั้นเข้มแข็งได้ทุกเรื่องหนักเอาเบาสู้จะมาอ่อนแออ่อนไหวก็แต่เรื่องในครอบครัวนี่แหละ "ตา..ตา” เจ้าก้อนกลมในชุดเงือกน้อยสีเขียวเกาะไหล่คนเป็นตาลุกขึ้นชะโงกหน้ามองตาของเธอที่กำลังร้องให้ตาแป๋วทั้งขมวดคิ้วหันมามองหน้าแม่ฉงนอยากจะถามว่าตาตนเป็นอะไรแต่ก็พูดได้แค่คำว่าตาเท่านั้น “แค่นี้พ่อก็เก่งมากแล้วค่ะ” กอแก้วและกอบัวรีบโผเข้ามากอดคนเป็นพ่อพวกเธอไม่เคยคิดว่าพ่อไม่มีศักยภาพแม้แต่น้อยเพราะตั้งแต่เล็กจนโตมาถึงตอนนี้พวกเธอยังไม่เคยลำบากกันเลย ณ สถานที่ห่างไกลอีกซีกโลกข้ามภพชายหนุ่มวัย32คุณชายไฮโซมาดเซอร์ที่รักความเป็นส่วนตัวที่สุดนั่งอยู่ที่บ้านพักริมชายหาดเขานั่งวาดแปลนบ้านหลังใหญ่อยู่คนเดียวที่ริมระเบียงพร้อมกับไวน์เกรดพรีเมี่ยมในถังน้ำแข็งอีกสองขวด ชายหนุ่มเป็นคนที่รูปร่างดีราวกับหลุดมาจากปกนิตยสารสูง183หุ่นกำยำล่ำสันผิวสีแทนผมยาวรบมัดตึงใบหน้าคมคิ้วเข้มตาคมฉายแววน่าเกรงรามจมูกโด่งเป็นสันปากหนาเป็นกระจับเขาค่อนข้างเป็นคนเก็บเนื้อเก็บตัวพูดน้อยจริงจังกับเรื่องงานมากที่สุด ข้ามภพไม่ค่อยถูกกับคนเป็นพ่อตั้งแต่เด็กๆด้วยหลังจากที่แม่ของเขาเสียไปสิบห้าปีก่อนพ่อของเขาก็พาผู้หญิงใหม่เข้าบ้านทันทีแถมเธอยังมีลูกติดเป็นผู้ชายที่รุ่นราวคราวเดียวกับเขามาเป็นไม้เบื่อไม้เมากันอีก เขาเป็นลูกชายคนเดียวของเปรม ธาราวัฒนา เจ้าของบริษัทอสังหาชื่อดังตั้งแต่เรียนจบสถาปนิกจากอเมริกาเขาได้เข้าไปทำงานของพ่อแต่ทำได้ไม่นานก็ต้องลาออกเพราะคนเป็นพ่อเห็นลูกเลี้ยงดีกว่าตัวเองโดยให้เขาทำงานไต่เต้าตั้งแต่ตำแหน่งเล็กๆส่วนลูกเลี้ยงดันให้ขึ้นเป็นผู้บริหารระดับสูงเสียอย่างนั้น ด้วยความน้อยใจจึงเลือกที่จะออกจากบ้านเปิดบริษัทเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพของตัวเองบริษัทเปิดตัวมาครั้งแรกก็ทำรายได้ถล่มทลายจนตอนนี้เปิดมาสามสี่ปีแล้วก็ยังทำยอดได้มากมายจนเขานั้นมีชื่อเสียงในวงการธุรกิจได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งบารมีพ่ออีก “ครับคุณพัฒน์...หาคนที่คุณคิดว่าจะไม่มายุ่มย่ามกับผมแล้วก็ซื่อสัตย์พอที่จะไว้ใจได้ก็พอเรื่องเนื้องานเดี๋ยวผมคุยกับเธอเอง” ข้ามภพโทรคุยงานกับพิพัฒน์ทนายที่ปรึกษาที่เขาไว้ใจที่สุดให้รับเลขาคนใหม่ให้หลังจากที่เลขาคนเก่าดันขายข้อมูลให้บริษัทคู่แข่งเมื่อตอนที่เขาล้มป่วยจากอุบัติเหตุจนเขาเสียหายหลายล้านเขาต้องรีบหาเลขาคนใหม่ให้ได้ก่อนที่จะกลับไปทำงานเพราะกลัวว่าแม่เลี้ยงตัวจุ้นจะหาเลขามาให้เพื่อทำลายบริษัทของเขาอีก ข้ามภพรู้ดีทุกอย่างว่าแม่เลี้ยงของเขาไม่เคยหวังดีต่อตัวเองเพราะอยากจะให้ลูกชายตัวเองอยู่เหนือเขาทุกอย่างแต่ตัวเองก็ไม่ได้คิดจะบอกกับคนเป็นพ่อเพราะเชื่อว่าอย่างไรพ่อของเขาก็ต้องฟังแต่ภรรยาของตัวเองอยู่ดี
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD