Chapter 8: อ่อยไม่รู้ตัว

2042 Words
กังสดาลต้องทนนั่งรอสองนายจ้างหนุ่มรับประทานอาหารจนเสร็จราวครึ่งชั่วโมงทั้ง ๆ ที่ท้องเธอเริ่มร้อง ไม่รู้นายจ้างทั้งสองจะได้ยินหรือไม่ แต่ถึงได้ยินพวกเขาก็ทำเหมือนไม่ได้ยิน ใจน่ะอยากกินกับพวกเขาด้วยแต่เมื่อกี้ดันปากดีบอกว่าไม่หิวไปแล้ว จู่ ๆ จะขอกินด้วยก็เสียหน้าแย่น่ะสิ สองหนุ่มรับประทานอาหารทางปากไปด้วยชำเลืองมองร่างเล็กอวบอัดในเสื้อนอนตัวบางไปด้วยเป็นอาหารตา พวกเขาต้องแอบมองโดยไม่ให้เธอรู้ว่าแอบมอง เก็บเกี่ยวให้เต็มที่เพราะคืนนี้อาจยังไม่ถึงเวลาเผด็จศึกเจ้าหล่อน ฉะนั้นเก็บภาพทุกส่วนไว้ในใจแล้วกลับไปช่วยตัวเองในห้องก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวนัก เมื่อสองหนุ่มรับประทานอาหารเสร็จพวกเขาก็เดินขึ้นห้องเหมือนที่รชตเคยบอกไว้ตั้งแต่ต้น กังสดาลจึงเริ่มเก็บกวาดโต๊ะอาหารแล้วรีบเปิดตู้เย็นค้นสลัดกุ้งที่พี่อินบอกจะเก็บไว้ในตู้เย็นให้เธอออกมากิน เธอต้องไปเอาชั้นในออกมาอบแห้งด้วย เพราะตอนนี้ด้านในมันโล่งโจ้งชอบกลแต่ด้วยท้องที่หิวเธอจึงขอกินก่อน พอเห็นกล่องสลัดใสด้านในมีผักสีเขียวและกุ้งอยู่สาวน้อยก็รีบดึงออกมาแล้วทำหน้าเศร้า นี่พี่อินเห็นเธอเหมือนพวกสาว ๆ ที่ชอบลดหุ่นด้วยการกินสลัดตอนเย็นหรือเปล่านะ? ถึงสั่งของแค่นี้มาให้เธอกินเนี่ย มันจะพอยาไส้ได้ยังไงเล่า! ? เธอเป็นชนชั้นแรงงานนะ ไม่ใช่พวกนางแบบสาว ๆ หุ่นบาง ๆ ที่ต้องลดน้ำหนัก กังสดาลได้แต่คิดบ่นในใจแล้วเปิดกล่องสลัดพลางใช้ส้อมพลาสติกที่อยู่บนฝากล่องจิ้มกุ้งส่งเข้าปากก่อน สาวน้อยกินสลัดทั้งกล่องเกลี้ยงภายในเวลาไม่ถึงห้านาทีจากนั้นจึงลุกไปเปิดตู้เย็นหาของกินต่อ บ้านนี้เขาไม่มีอะไรให้กินกันเลยหรือไงนะ? ในตู้เย็นมีแต่พวกน้ำเปล่า เบียร์ น้ำผลไม้ นม ไข่... โอเค มีไข่... ว่าแล้วสาวน้อยก็หยิบไข่ออกมาสองฟอง เธอเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์ทำอาหาร หยิบกระทะออกมา มองหาเตา หันซ้ายหันขวาอยู่ตั้งนานก็ไม่เจอ จนกระทั่ง... “เธอทำอะไรน่ะ?” เสียงทุ้มห้าวถามขึ้นมาอย่างห้วน ๆ กังสดาลสะดุ้งสุดตัวแล้วมองไปทางต้นเสียง เธอเห็นหนุ่มหล่อมาดเข้มยืนกอดอกจ้องมองมาที่เธอ เขาอยู่ในชุดนอนเรียบร้อย น่าจะเตรียมตัวเข้านอนแล้ว แล้วเขาจะเดินลงมาอีกทำไมเนี่ย? ! “เออ... หนูหิวน่ะค่ะ เลยกะจะทอดไข่กิน” “ไอ้อินสั่งสลัดมาไว้ให้ไม่ใช่เหรอ? “ก็มัน... น้อยไปอะค่ะ กินหมดแล้วยังหิวอยู่เลย” สาวน้อยพูดหน้าจ๋อย “เธอนี่มัน... วันหลังถ้าแค่สลัดไม่พอก็บอกสิ ไอ้อินมันคบแต่พวกนางแบบดารา พวกนั้นก็กินกันแค่นี้ ไม่ได้กินเป็นยัดทะนานเหมือนเธอ แล้วจะทอดไข่ทำไมถึงไม่เปิดเตา?” “เออ... เตาอยู่ไหนอะคะ?” สาวน้อยถาม หน้าจ๋อยยิ่งกว่าเดิมอีก “ยัยบื้อเอ๊ย!” รชตบ่นแล้วเดินไปที่เคาน์เตอร์ตรงจุดที่มีแผ่นกระจกสีดำวางอยู่ จากนั้นจึงเปิดลิ้นชักด้านใต้ออกแล้วหยิบวัตถุทรงกระบอกแบน ๆ คล้ายปุ่มเตาแก๊สขึ้นมาวางไว้บนแผ่นกระจกสีดำ “นี่เป็นเตาไฟฟ้า สมัยนี้เพนต์เฮาส์หรู ๆ เขาใช้เตาแบบนี้กันทั้งนั้น เขาไม่ใช้เตาแบบโบราณแล้ว เธอแค่เอาปุ่มแม่เหล็กนี่มาวางบนแผ่นกระจกส่งความร้อนแล้วบิดเปิด อย่างนี้... แล้วก็ทำแบบนี้ เอากระทะมาวางสิ เอาไข่มาด้วย” เขาแสดงวิธีการใช้เตาไฟฟ้ารุ่นใหม่ให้เธอดูแล้วออกคำสั่ง กังสดาลส่งทุกอย่างที่ชายหนุ่มขอให้ทันที เขาเปิดตู้เก็บของด้านบนศีรษะแล้วเอื้อมหยิบน้ำมันพืชลงมา จัดการทอดไข่สองฟองให้เธออย่างคล่องแคล่วจนกังสดาลต้องนิ่งอึ้ง เห็นทีต้องมองท่านประธานในมุมใหม่เสียแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าท่านประธานผู้หื่นกามจะทำครัวได้คล่องแคล่วขนาดนี้ “อ้าว! มัวแต่ยืนมองอยู่นั่นแหละ ไปเปิดฟรีซเซอร์สิ ด้านในมีข้าวสวยแช่เย็นสำเร็จรูปอยู่ เอาออกมาอุ่นในไมโครเวฟสิ นี่กะจะกินไข่เปล่า ๆ หรือไง? แล้ววันหลังถ้าหิวก็เปิดในฟรีซเซอร์ดูก่อน อาหารแช่แข็งเยอะแยะ พวกฉันไม่ตุนอาหารสดไว้หรอกนะ เวลาเน่าเสียขี้เกียจโยนทิ้ง เก็บไว้แต่ไข่กับนมแค่นั้น” รชตสั่งต่อ กังสดาลรีบพยักหน้ารับคำแล้วจัดการตามคำบอกของชายหนุ่มทันที หลังจากเขาทอดไข่เสร็จเขาก็เก็บปุ่มแม่เหล็กควบคุมเตาลงไปในลิ้นชักแล้วเช็ดทำความสะอาดเตาเสียสะอาดวาววับ กังสดาลได้แต่สังเกตการณ์มองเขาอยู่ในขณะที่เธออุ่นข้าวแล้วถือจานไข่ดาวไปนั่งที่โต๊ะอาหาร นี่แสดงว่ารชตเป็นคนรักสะอาดและเจ้าระเบียบมาก “นั่งมองฉันอยู่ได้ มองทำไม? เดี๋ยวก็จับปล้ำอีกหรอก มองแบบนี้ใครเขาจะไม่คิดว่าอ่อยล่ะ?” รชตตะคอกถาม กังสดาลจึงรีบหลบตาเขาแล้วก้มหน้าเตรียมกินข้าว “แล้วกินแต่ไข่ดาวกับข้าวเนี่ยนะ?! ไปหยิบซอสหยิบน้ำปลามาสิ จืดชืด” รชตสั่งแล้วเดินมานั่งที่โต๊ะอาหารฝั่งตรงข้ามกับเธอ เอ๊ะ! นี่สรุปท่านประธานเป็นคนดีหรือเปล่าเนี่ย? อาหารก็ทำให้กิน เป็นห่วงกลัวจะกินไม่อร่อยด้วย แต่... ทำไมต้องตะคอกด้วยอะ? มันตกใจนะตาบ้า! หญิงสาวได้แต่คิดในใจแล้วเดินไปตรงตู้เก็บของที่เก็บเครื่องปรุงอยู่ เธอพยายามเขย่งสุดปลายเท้าเพื่อที่จะหยิบซอสปรุงรสออกมาแต่ด้วยความสูง 160 เซนติเมตร เอื้อมมืออย่างไรก็ไปไม่ถึง งื้ออออ... บ้านนี้มันออกแบบมาเพื่อคนหุ่นนายแบบอย่างท่านประธานและพี่อินโดยเฉพาะหรือไงนะ? ทุกอย่างถึงอยู่ในที่สูงทั้งนั้นเลย กังสดาลคิดบ่นอยู่ในใจแล้วจู่ ๆ ตัวเธอก็ถูกยกลอยขึ้น “ว้าย!” สาวน้อยร้องด้วยความตกใจเพราะจู่ ๆ ชายหนุ่มร่างสูงที่ตะคอกเธอเมื่อครู่ก็สอดมือเข้ามาใต้รักแร้ของเธอแล้วยกตัวเธอขึ้น มือใหญ่ของเขาสัมผัสโดนสองเต้านิ่มผ่านเสื้อนอนแสนบางเบา แบบนี้เขาก็รู้น่ะสิว่าข้างใต้เสื้อนอนเธอไม่ได้ใส่อะไรเลย! “เร็วสิ! หาเจอหรือยัง? เมื่อยนะเนี่ยไม่ใช่ไม่เมื่อย เห็นตัวเล็กเท่าเด็กประถม แม่งโคตรหนัก” เขาบ่นออกมาเหมือนหัวเสียทำให้กังสดาลไม่ทันคิดเรื่องที่ไม่ได้ใส่ชุดชั้นในต่อ สาวน้อยรีบยื่นมือไปหยิบขวดซอสลงมา เธอรู้สึกได้ว่ามือใหญ่ของรชตบีบหน้าอกด้านข้างของเธอแรงมาก หรือเธอจะตัวหนักจริง ๆ ? “เออ... เรียบร้อยแล้วค่ะท่านประธาน” กังสดาลรีบบอกประธานหนุ่มหลังจากเธอคว้าขวดซอสมาได้แล้ว รชตค่อย ๆ ปล่อยเธอลงบนพื้น พอเท้าของสาวน้อยแตะพื้นปุ๊บเธอก็หันหน้ามาชนเข้ากับแผงอกกำยำของเขาทันที “อุ๊ย!” กังสดาลอุทานออกมาเบา ๆ เธอได้กลิ่นสบู่ของผู้ชายโชยออกมาจากตัวเขา มันเป็นกลิ่นที่ชวนหลงใหล หอมเย็น ๆ แต่มีความลึกลับอยู่ด้วย รชตถอยออกมาแล้วปล่อยให้เธอเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะอาหาร เขานั่งมองเธอกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย “ท่านประธานมานั่งเฝ้าหนูทำไมคะ?” กังสดาลถามพลางตักข้าวเข้าปาก “ก็ต้องเฝ้าดูเอาไว้สิ ฉันกลัวเธอทำครัวฉันเสียหาย นี่ถ้าฉันไม่ลงมาเจอเธอทำท่าเงอะ ๆ งะ ๆ อยู่ตรงเคาน์เตอร์ไม่รู้จะพังครัวฉันหรือเปล่า” “แหม... ท่านประธานก็พูดเกินไป ถ้าหาเตาไม่เจอหนูก็แค่ตัดใจแล้วกินนมกินน้ำรองท้องแก้หิวไปก็แค่นั้น” กังสดาลตอบแล้วกินต่อ “วันหลังถ้าหิวก็บอก หรือจะสั่งอาหารให้มาส่งก็ได้ ไม่ต้องแอบกิน ฉันไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น” เหอะ! ไม่ได้ใจร้ายแต่หื่นกามน่ะสิ! แล้วใครมันจะไปกล้าบอกล่ะ! จะบอกพี่อินก็เกรงใจ พี่อินอุตส่าห์สั่งสลัดกุ้งมาให้แล้วนี่นา “ค่ะ” รับ ๆ คำไปงั้น จะได้จบ “พรุ่งนี้วันเสาร์ ไปซื้อของใช้เพิ่มด้วย พวกชุดชั้นใน ชุดนอน ไม่ใช่มาเดินว่อนทั่วบ้านไม่ใส่เสื้อในกางเกงในแบบนี้ อย่างนี้จะไม่ให้ผู้ชายคิดว่าอ่อยได้ยังไง?” ว้าย! เขารู้! แสดงว่าเมื่อกี้ที่เขาจับหน้าอกเธอเขาก็รู้อยู่แล้วเหรอว่าเธอไม่ได้ใส่เสื้อชั้นใน! ? “ท่านประธานใส่ร้ายหนู” เธอพูดเสียงอ่อยแล้วตักข้าวคำสุดท้ายเข้าปากเคี้ยว ก้มหน้าหลบสายตาเขา รชตไม่โต้ตอบ เขาลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปใกล้เธอทันที หญิงสาวที่นั่งอยู่ได้แต่วางช้อนส้อมในมือแล้วเงยหน้าขึ้นมองเขา นี่เขาจะทำอะไรเนี่ย? ชายหนุ่มส่งมือหนาไปขยำหน้าอกอิ่มข้างหนึ่ง อีกข้างก็ล้วงลงไปใต้เสื้อนอนแล้วไล้นิ้วไปตามกลีบอูมอิ่มใจกลางกายของสาวน้อยอย่างอุกอาจ “ว้าย! ท่านประธาน! อย่าค่ะ!” อ้าส์... นมโคตรรรรรรรจะนิ่ม หอยก็เต็มมือ แม่งแค่จับเอ็นก็แข็งแล้ว เมื่อไหร่ยัยนี่จะยอมให้เอาวะ? “ก็เธอบอกว่าฉันใส่ร้าย ฉันแสดงให้ดูว่าฉันไม่ได้ใส่ร้าย... เธอไม่ได้ใส่ชุดชั้นในจริง ๆ” เขาบอกแล้วขยับนิ้วข้างที่จับอกอยู่ไปสะกิดตรงส่วนหัวนมผ่านเนื้อผ้าบางเบาทำเอาสาวเจ้าครางฮือในลำคอ ส่วนมือด้านล่างก็พยายามแทรกเข้ากลางหว่างขาของสาวน้อยล่วงเข้าไปสัมผัสกลีบนุ่มร้อน อา... ยัยกั้งแฉะแล้ว อยากสอดนิ้วเข้าไปด้วยจัง... “งื้อออออ... ท่านประธาน... เอามือออก... หนูไม่ได้ปฏิเสธเรื่องที่หนูไม่ใส่ชุดชั้นในเสียหน่อย หนูปฏิเสธเรื่องที่ว่าหนูอ่อยต่างหาก ท่านประธานใส่ร้ายหนูหาว่าหนูอ่อย หนูไม่ได้ตั้งใจเสียหน่อย” เธอเถียงเสียงค่อยเพราะตอนนี้มันเสียววูบวาบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ยิ่งถูกนิ้วสะกิดยอดอกแรงขึ้น อีกนิ้วหนาก็ถูไถกลีบฉ่ำแฉะเธอก็ยิ่งเสียว “ไม่ได้ตั้งใจ? แสดงว่าอ่อย แต่ไม่รู้ตัว” เขาบอกเสียงเรียบ... เป็นเสียงที่เขาพยายามข่มให้เรียบ... “งื้อออ... ยอมรับก็ได้ค่ะ หนูขอโทษ หนูอ่อยแต่หนูไม่รู้ตัวเอง ท่านประธานเอามือออกนะคะ... นะคะ...” เธอร้องขอเพราะถ้าเขาโจมตีหนักกว่านี้เธอคงขาดใจตาย รชตยอมถอนสองมือออกมาแต่โดยดี “รู้ตัวว่าผิดก็ดีแล้ว จะได้รู้ว่าที่ฉันลวนลามเธอไปน่ะเป็นเพราะเธอผิดเองทั้งนั้น อ่อยฉัน อ่อยแบบไม่รู้ตัว ยั่วฉันแล้วยังไม่รู้อีก ไม่โง่ก็โง่แหละ ฉันว่า” เขาทำเป็นส่ายหัวอย่างระอาแล้วปล่อยให้สาวน้อยนั่งหอบอยู่บนเก้าอี้ในขณะที่ตัวเขาหมุนตัวเดินกลับขึ้นห้องไป กังสดาลมองตามหลังร่างสูง ทำไมเธอไม่ร้องโวยวาย? ทำไมเธอไม่เตะเขาเหมือนที่เธอทำไปเมื่อตอนกลางวัน? ทำไมไม่ต่อต้านเขาเนี่ยยัยบื้อกั้ง? ! อยากด่าตัวเองจริง ๆ! หรือแค่เขาทำดีด้วยนิดหน่อยก็ใจอ่อนเห็นข้อดีเขาขึ้นมาเสียแล้ว? โอ๊ย! อยากจะบ้าตาย! อย่าเผลอใจให้เขาเชียวนะไม่งั้นชีวิตรักเธอดับแน่ยัยบื้อกั้ง! ต้องเตือนตัวเองไว้ว่าห้ามเผลอใจ ไม่ว่าจะเป็นหนุ่มหล่อเข้มหรือหล่อหน้าหวานเธอก็ไม่อาจต่อกรกับเขาสองคนได้แน่นอน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD