ตอนที่ 3/1 หัวใจไหวหวั่น

1838 Words
“อ่ะจ๊ะ เกือบดีแล้ว” ดวงตาคู่สวยของหญิงสาวกรอกไปมาอย่างหมั่นไส้ “ฮ่าฮ่า หน้าคุณตลกอ่ะ” รอยยิ้มที่ไม่เคยได้เห็นเลยของกรกล้าพลันปรากฏขึ้นต่อหน้าของปิ่นอนงค์ ถ้าตัดอคติออกไปเขาเป็นผู้ชายที่ยิ้มสวยมาก ดูแล้วมีความสุข “แต่เสียใจ ยังไงฉันก็มองนายเป็นซาตาน!” ปิ่นอนงค์รีบตัดบททันที เมื่อได้ยินดังนั้นชายหนุ่มจึงลุกขึ้นก่อนจะแกล้งหยิบเครื่องตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจขึ้นมา เล่นเอาคนป่วยถึงกับผงะทันที “เดี๋ยวก่อน นี่คุณจะทำอะไรน่ะ?” ปิ่นอนงค์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหวาดระแวง “แค่เช็คชีพจรน่ะครับ” กรกล้าเอ่ยด้วยใบหน้าเรียบนิ่งราวกับคุณหมอมืออาชีพ ทว่าคนป่วยกลับทำหน้าไม่ไว้ใจ พร้อมกับขู่ฟ่อๆ ราวกับแมวดุ “ถ้าคุณคิดจะทำอะไรฉันนะ โดนแน่” สาบเสื้อถูกแยกออกจากกันเผยให้เห็นเนินอกขาว ปิ่นอนงค์มัวแต่สนใจใบหน้าของกรกล้าโดยที่ไม่รู้สึกตัวเลยสักนิดว่าเสื้อของเธอถูกมือหนาเลิกขึ้นให้เห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว อาจจะเพราะความเคยชินที่พยาบาลพิเศษชอบมายุ่มย่ามกับเนื้อตัวเธอบ่อยๆ เลยทำให้ปิ่นอนงค์เผลอเรอให้คุณหมอหนุ่มได้มีโอกาสสัมผัสผิวกายของเธออย่างแนบเนียน บรรยากาศยามฝนตกปรอยๆ ก่อให้เกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นในใจของปิ่นอนงค์ ยิ่งมือใหญ่แตะต้องตัวเธอมากขึ้น หญิงสาวก็ยิ่งรู้สึกต้องการบางอย่าง ความต้องการที่ห่างหายมานานหลายปีนับจากเลิกกับแฟนคนล่าสุด “หัวใจคุณเต้นเร็วดีจังเลยนะ ตื่นเต้นอะไรเหรอ?” กรกล้าวางอุปกรณ์ทางการแพทย์ลงพลางใช้มือร้อนลูบไปที่คอสวยไล่ลงมายังลาดไหล่ “มันอาจจะผิดไปหน่อย ถ้าผมจะจับตรงนี้” มือหนาทาบไปที่ก้อนเนื้อสองก้อนที่ไร้บราข้างใน ทันใดนั้นหญิงสาวก็ได้สติ นัยน์ตาคู่สวยพลันเบิกกว้างพร้อมกับจะเตรียมโวยลั่น ทว่าเมื่อปากนุ่มหยุ่นพลันทาบลงมาอย่างกระชั้นชิดความรู้สึกโกรธก่อนหน้าพลันมลายหายไป “อื้อ! คุณ…เดี๋ยว” ร่างบอบบางพลันแข็งทื่อไปชั่วขณะ “ตัวคุณร้อน” กรกล้าพูดเสียงแหบพร่าก่อนจะแนบริมฝีปากของเขาลงมาที่ริมฝีปากบางอีกครั้งเพื่อวัดระดับความร้อนของร่างกายคนป่วย เนื้อตัวของปิ่นอนงค์พลันร้อนวูบวาบทันที ไม่ใช่ว่าเธอจะอ่อนต่อโลกถึงขนาดไม่เคยผ่านเรื่องพวกนี้มาก่อน แต่ความรู้สึกดีแบบนี้ เธอไม่เคยได้สัมผัสมันมาก่อนเลยสักครั้ง หลายนาทีที่ปากของทั้งคู่บดเบียดกันไปมาท่ามกลางบรรยากาศที่แสนจะเป็นใจ เมื่อเสียงฝนซาลงใบหน้าหล่อเหลาของคุณหมอหนุ่มก็ผละออกจากใบหน้าสวยหวานอย่างแนบเนียน แต่ไม่วายที่คนเจ้าเล่ห์อย่างหมอกล้าจะแอบหอมแก้มเนียนหนึ่งฟอดใหญ่ๆ “หอมจัง” กรกล้าส่งสายตายิ้มๆ ไปให้คนไข้ที่กำลังมือไม้สั่น “คุณคงลืมว่าที่นี่คือโรงพยาบาลสินะ” ปิ่นอนงค์รีบย้ำให้เขารู้สถานที่เพราะการกระทำของกรกล้ามันเกินหน้าที่ที่หมอจะกระทำกับคนไข้ “ผมรู้ว่ามันผิดสถานที่ไปหน่อย ขอโทษนะ” คุณหมอหนุ่มสบตากับปิ่นอนงค์นิ่ง “แต่คุณน่ารัก…ผมเลยอดใจไม่ไหว ก็เลยเผลอทำตามอารมณ์ของผู้ชายคนหนึ่งที่ชอบคุณ” เมื่อได้ฟังเหตุผลของคนตรงหน้า ร่างบอบบางก็ถึงกับนิ่งงันจนพูดไม่ออก เขาพูดออกมาอย่างหน้าตาเฉยว่าชอบเธอ แถมยังปากว่ามือถึงอีกต่างหาก “ห้ามทำที่นี่อีกนะ” “อะไรนะครับ?” กรกล้าไม่เข้าใจในความหมายที่เธอจะสื่อ “ก็ห้ามทำที่นี่ไง รอฉันหายก่อน” ปิ่นอนงค์เอ่ยอีกครั้ง ทว่าใบหน้าเนียนกลับขึ้นสีระเรื่อ หมอกล้าถึงกับหัวเราะลั่น เมื่อจู่ๆ ปิ่นอนงค์พูดในสิ่งที่เกินคาดหมาย ทว่าสาวเจ้ากลับไม่ขำด้วย มือเล็กฟาดไปที่ท่อนแขนคุณหมอหนุ่มทันที “คุณนี่นิสัยเสียจังนะ ไม่พอใจอะไรก็ชอบตบตี” ใบหน้าหล่อเหลาถึงกับนิ่วหน้า ทว่าในใจของคุณหมอหนุ่มกลับเต้นระทึกด้วยความสุข “ก็ทำไม มือฉัน” “อ๋อ งั้นนี่ก็มือผม จะจับตัวใคร จะทำอะไรก็ได้งั้นสินะ” ชายหนุ่มไม่พูดเปล่า มือหนารีบคว้าหมับไปที่หน้าอกอวบอูมพลางขย้ำบีบบี้อย่างเต็มไม้เต็มมือจนปิ่นอนงค์ถึงกับร้องโอดครวญ ในขณะเดียวกันมือเล็กก็พยายามประทุษร้ายอีกฝ่ายกลับ ทว่ากรกล้ากลับรู้ทันรีบรวบข้อมือเล็กไว้ได้อย่างทันท่วงทีก่อนจะก้มหน้าลงปิดปากคนป่วยจอมดื้ออย่างเผด็จการ “อื้อ!” เมื่อปิ่นอนงค์ทำอะไรไม่ได้หญิงสาวจึงรีบเบือนหน้าหนี และก่อนที่ทั้งคู่จะถลำลึกกันไปมากกว่านี้เสียงเปิดประตูห้องผู้ป่วยก็ดังขึ้นอย่างแผ่วเบา ทำให้กิจกรรมของคนทั้งสองต้องหยุดชะงักลงกลางคันในทันที พยาบาลสาวมองหน้าคุณหมอหนุ่มพลางยิ้มแหยๆ “ได้เวลาอาบน้ำทานข้าวแล้วค่ะ” กรกล้าหันกลับมาสบตาปิ่นอนงค์อย่างคาดโทษ ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินออกจากห้องไปพร้อมกับสลัดคราบคนเจ้าเล่ห์แล้วสวมบทบาทเป็นคุณหมอหนุ่มที่แสนอบอุ่นเช่นเคย ตกดึก หลังจากที่กรกล้าเสร็จธุระที่แสนยุ่งมาทั้งวัน ชายหนุ่มก็มาที่ห้องพักของปิ่นอนงค์อีกครั้ง และครั้งนี้หญิงสาวไม่มีพยาบาลพิเศษเฝ้าไข้ตอนดึกแล้ว จึงเป็นทางสะดวกที่คุณหมอจอมหื่นจะถือโอกาสมาเยี่ยมไข้ผู้ป่วยในอาณัติของเขา “ผมรู้คุณนอนไม่หลับ เลยจะมากล่อม” คำพูดเพียงสั้นๆ ของคุณหมอหนุ่มทำเอาร่างบอบบางที่นอนนิ่งถึงกลับสวนกลับทันควัน “สู่รู้ แต่ขอโทษ ฉันกำลังจะนอนย่ะ” เมื่อพูดจบร่างบางก็รีบตวัดผ้าขึ้นห่มแล้วหลับตานอนทันที กรกล้านั่งลงขอบเตียง มือหนาลูบผมนิ่มอย่างอ่อนโยน เล่นเอาปิ่นอนงค์เผลอเคลิ้มไปกับความอบอุ่นของฝ่ามือหนา จากที่คิดว่าจะแกล้งหลับหญิงสาวก็เผลอหลับเข้าจริงๆ เมื่อเห็นว่าปิ่นอนงค์นิ่งไป กรกล้าก็หยิบหยังสือขึ้นมาอ่านเพื่อฆ่าเวลา แต่เมื่อเวลาผ่านไปความง่วงงุนเริ่มทำให้เปลือกตาทั้งสองข้างของคุณหมอหนุ่มเริ่มหนักอึ้ง จนชายหนุ่มเผลอนอนฟุบหลับกับขอบเตียงในที่สุด ตุบ! เสียงหนังสือหล่นตกพื้นดังปลุกให้ปิ่นอนงค์ตื่นมากลางดึก ก่อนที่สายตาของเธอจะไปสะดุดที่ร่างของใครบางคนที่นอนฟุบหลับอยู่ข้างเตียง “ทำตัวน่ารักดีนะคุณ” ราวกับตกอยู่ในห้วงภวังค์ ปิ่นอนงค์จ้องมองใบหน้าหลอเหลาอย่างเคลิบเคลิ้ม มือเล็กเอื้อมไปลูบใบหน้าหล่อเหลาของกรกล้าช้าๆ “มีคนแอบมองผมหลับด้วยเหรอเนี่ย” ฉับพลันดวงตาคู่คมพลันลืมตาตื่นขึ้นทันที หมอกล้าจ้องมองปิ่นอนงค์ที่ตอนนี้ตัวแข็งทื่อเพราะทำอะไรไม่ถูก “…” เมื่อถูกจับได้มีหรือที่คนอย่างปิ่นอนงค์จะยอมเสียฟอร์ม หญิงสาวรีบกลับไปนอนท่าเดิมทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ทว่าแก้มเนียนกลับขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างเขินอาย ท่าทางของปิ่นอนงค์ทำให้คุณหมอหนุ่มรู้สึกหมั่นเขี้ยว ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงไปกระซิบข้างใบหูของคนที่แกล้งหลับช้าๆ ก่อนจะแอบหอมแก้มเนียนหนึ่งฟอดด้วยความหมั่นไส้ “ฝันดีนะครับ” สัมผัสของคุณหมอหนุ่มทำให้ปิ่นอนงค์ใจเต้นระรัว ร่างบอบบางถึงกับกระส่ายกระสับเพราะสัมผัสของเขาคอยตามหลอกหลอนหัวใจของเธอจนไม่อาจข่มตาหลับลงได้ เมื่อแสงตะวันโผล่ขึ้นขอบฟ้า ปินอนงค์ก็ต้องพบเจอกับความวุ่นวายอีกครั้ง เมื่อคุณหมอหนุ่มอย่างกรกล้าแอบจุ้นจ้านวุ่นวายกับเธออีกครั้ง แถมคราวนี้เจ้าตัวเล่นเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอเสร็จสรรพแบบที่ไม่บอกไม่กล่าวกันล่วงหน้าสักคำ เล่นเอาปิ่นอนงค์ถึงกับขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่พอใจ เพราะแทนที่เขาจะปลุกเธอซะก่อน แต่นี่เล่นทำตอนที่เธอหลับอยู่ มันน่าตีจริงๆ ไหมล่ะ “นี่คุณจะอายอะไรกัน ผมเป็นหมอนะครับ เห็นร่างกายของคนไข้มาจนชินแล้ว” กรกล้ารีบตีเนียนกลบเกลื่อนความผิด ก็ใครใช้ให้เธอน่ารักจนเขาอดใจไม่ไหวเองนี่ “อ๋อ แสดงว่าคงเห็นอะไรต่อมิอะไรของสาวๆ เป็นว่าเล่นเลยสิ” ปิ่นอนงค์พูดเสียงแข็ง เธอไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังหงุดหงิดอะไร แต่พอคิดว่าเขามีโอกาสมองร่างกายของผู้หญิงคนอื่นเป็นว่าเล่น เธอก็นึกขุ่นเคืองและไม่พอใจ “หึงเหรอไงคุณ” เมื่อได้ทีคุณหมอหนุ่มก็อดที่จะล้อไม่ได้ “อะไร! ฉันแค่ถาม มันคือคำถามย่ะ” “แล้วผมจำเป็นต้องตอบด้วยใช่ไหม?” เขาอยากจะขำออกมาเสียเหลือเกินเมื่อปิ่นอนงค์พยักหน้า “ใช่! ในเมื่อฉันถามคุณก็ต้องตอบ ถ้าคิดจะคุยกับฉันต่อ คุณก็ต้องตอบคำถามฉันนะคะคุณหมอ” คนปากแข็งยังคงดื้อดึงถามในสิ่งที่เธออยากรู้ “อะไรกันคุณ นี่เรากำลังอยู่ในสถานะแค่คุยกันแค่นั้นเหรอ? ผมนึกว่าเป็นมากกว่านั้นซะอีก” “นี่อีตาหมอบ้า! ได้คืบจะเอาศอกเหรอย่ะ จะให้ฉันข้ามขั้นไปเป็นเมียคุณเลยรึไงถึงจะพอใจ” ปิ่นอนงค์มองค้อนอย่างไม่พอใจ คนอะไรหน้าด้านหน้าทนเป็นที่สุด “ฮ่าๆ ถ้าคุณจะเป็นเมียผมก็ได้นะ ตำแหน่งนี้ว่างรอคุณเสมอ” เมื่อเข้าทางกรกล้าก็ขายขนมจีบไม่ยั้ง เล่นเอาคนป่วยถึงกับไปไม่เป็นจนต้องออกปากไล่ด้วยความเขินอาย “นี่นายไม่กวนฉันสักวันจะตายไหมห๊ะ!” “ผมจะตายเพราะคุณนี่แหละ คนอะไรไม่รู้น่ารักชะมัด” “…” เมื่อถูกรุกหนักเข้าคนปากเก่งอย่างปิ่นอนงค์ก็ถึงกับใบ้กิน บรรยากาศภายในห้องของทั้งคู่เริ่มตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งความรัก นับวันความรู้สึกในใจของกรกล้ายิ่งเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ ว่าตอนนี้เขารู้สึกรักเธอเข้าแล้ว ไม่ใช่เพียงเพราะสงสาร แต่เขารู้สึกว่าเธอไม่เหมือนผู้หญิงทุกคนที่ผ่านมา เธอดูพิเศษและน่าค้นหา ทำให้เขาอยากจะใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อผูหญิงคนนี้ ผมชอบคุณนะ…ปิ่นอนงค์
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD