ตอนที่2
ลมหายใจอุ่นๆ ของเบสที่เป่ารดต้นคอ ทำให้ฉันขนลุกซู่ไปทั้งตัว ฉันรีบถอยห่างออกมาหนึ่งก้าว หัวใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมานอกอก
"เบส อย่าพูดแบบนั้น" ฉันพูดเสียงเบา พยายามคุมไม่ให้มันสั่น "เราเป็นเพื่อนร่วมงานกัน แล้ว... คุณกำลังจะแต่งงานนะ"
ฉันเหลือบมองไปที่รูปคู่บนโต๊ะทำงานของเขาอีกครั้ง แฟนสาวของเขายิ้มอย่างมีความสุข ภาพนั้นเหมือนน้ำเย็นจัดที่สาดใส่หน้าฉัน
เบสหัวเราะเบาๆ "ก็แค่ทานข้าวเที่ยงเองครับคุณมีนา" เขายังคงยิ้ม "ผมสัญญาก็ได้ ว่าจะนั่งฝั่งตรงข้าม ไม่ล้ำเส้นแน่นอน ผมแค่อยากคุยกับคุณจริงๆ นะครับ"
ฉันลังเล ใจหนึ่งตะโกนว่ามันผิด ผิดต่อพี่ยุทธ ผิดต่อคอนโดที่เราเพิ่งซื้อด้วยกัน แต่อีกใจหนึ่ง... มันโหยหาความตื่นเต้นเล็กๆ น้อยๆ นี้เหลือเกิน
"แค่... แค่ข้าวเที่ยงนะคะ" ฉันตอบตกลงไปในที่สุด "ในฐานะเพื่อนร่วมงาน"
"แน่นอนครับ" เบสยิ้มกว้าง "เพื่อนร่วมงาน"
เราเลือกร้านอาหารญี่ปุ่นเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยไม่ไกลจากออฟฟิศ มันเป็นร้านที่มีฉากกั้นไม้ไผ่ ให้ความเป็นส่วนตัว
บรรยากาศในตอนแรกค่อนข้างอึดอัด เราคุยกันเรื่องงาน เรื่องตัวเลขที่ฉันปวดหัว แต่ไม่นาน เบสก็เปลี่ยนเรื่อง
"แล้วพี่ยุทธเป็นไงบ้างครับ งานไอทีคงยุ่งเหมือนเดิม"
"ก็... เรื่อยๆ ค่ะ" ฉันตอบ "เขาก็ยุ่งของเขา"
"เหมือนพลอยเลยครับ" เบสพูดถึงชื่อแฟนสาวของเขา "ช่วงนี้ยุ่งแต่เรื่องเตรียมงานแต่ง จนผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแค่หนึ่งในเช็กลิสต์ที่เขาต้องจัดการให้เสร็จ"
คำพูดนั้นแทงใจฉันอย่างจัง... ฉันเข้าใจความรู้สึกนั้นดี บางครั้งฉันก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแค่ "ภรรยา" ที่ต้องดูแลเรื่องคอนโด เรื่องค่าใช้จ่าย ไม่ใช่ "มีนา" คนที่พี่ยุทธเคยจีบใหม่ๆ
"คุณมีนาก็รู้สึกเหงาบ้างไหมครับ" เบสถามขึ้นเบาๆ แต่สายตาของเขาจ้องลึกเข้ามาในตาฉัน
ฉันกลืนน้ำลาย "ฉัน... ฉันมีพี่ยุทธอยู่ค่ะ"
"แต่การมีใครสักคน ไม่ได้แปลว่าเราจะไม่เหงานะครับ"
คำพูดของเขาเหมือนกุญแจที่ไขเข้ามาในกล่องความลับที่ฉันซ่อนไว้ ฉันไม่ได้เหงา... หรือบางทีฉันอาจจะเหงามานานแล้วโดยไม่รู้ตัว
เราคุยกันอีกหลายเรื่อง เรื่องสัพเพเหระ เรื่องความฝัน เรื่องที่ทำงาน ไม่มีเรื่องไหนที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเรา แต่ทุกคำพูดมันเหมือนเชือกที่ค่อยๆ มัดเราไว้ด้วยกัน
ตอนเดินกลับออฟฟิศ เราเดินผ่านทางเชื่อมตึกที่คนไม่พลุกพล่านนัก
"ขอบคุณสำหรับมื้อเที่ยงนะคะ" ฉันพูดทำลายความเงียบ
"ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณ" เบสพูด "ผมรู้สึกดีมากที่ได้คุยกับคุณ"
จังหวะนั้นเอง มือของเราที่แกว่งอยู่ข้างตัวก็ "บังเอิญ" สัมผัสกัน ฉันสะดุ้งเล็กน้อย แต่ไม่ได้ชักมือกลับทันที ความอุ่นจากฝ่ามือของเขาแล่นปราดเข้ามาในใจ
เบสไม่ได้ปล่อยให้มันเป็นแค่อุบัติเหตุ เขาค่อยๆ... ช้าๆ... เลื่อนนิ้วของเขามาสอดประสานกับนิ้วของฉัน
ฉันตัวแข็งทื่อ
เราจับมือกัน... แค่ไม่กี่วินาที แต่มันเหมือนนานชั่วนิรันดร์
"เบส..." ฉันดึงมือกลับอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าใกล้จะถึงประตูออฟฟิศแล้ว ใบหน้าฉันร้อนผ่าว
"ขอโทษครับ" เขาพูด แต่รอยยิ้มมุมปากนั้นไม่ได้แสดงความรู้สึกผิดเลย
คืนนั้น ที่คอนโดใหม่ของเรา พี่ยุทธกลับมาดึกเหมือนเช่นเคย
"โทษทีนะมีนา วันนี้ระบบล่มยาวเลย" เขาพูดพลางถอดเนคไทโยนไว้บนโซฟา "กินอะไรหรือยัง"
"ทานแล้วค่ะ" ฉันตอบ "พี่ไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวมีนาอุ่นกับข้าวให้"
ฉันมองแผ่นหลังกว้างของสามี คนที่ฉันรักและเลือกร่วมชีวิตด้วย แต่ในใจฉันกลับนึกถึงสัมผัสอุ่นๆ ที่ฝ่ามือนั้น
ฉันเข้าห้องน้ำ ล้างหน้า และมองแหวนแต่งงานที่นิ้วนางข้างซ้าย ไฟในห้องน้ำสว่างจ้า แต่ฉันกลับรู้สึกเหมือนกำลังจมดิ่งลงไปในเงามืดที่ฉันเป็นคนสร้างขึ้นมาเอง