ตอนที่3

1406 Words
ตอนที่3 เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากที่เราจับมือกันในทางเชื่อมตึก ฉันก้าวเข้าออฟฟิศด้วยความรู้สึกเหมือนคนเมาค้าง... เมาค้างจากความรู้สึกผิด ฉันพยายามหลบหน้าเบส ฉันมาถึงออฟฟิศเช้ากว่าปกติ จัดการชงกาแฟดำขมๆ มาดื่มที่โต๊ะ พยายามจมตัวเองลงไปในกองเอกสารและตัวเลขที่อยู่ตรงหน้า พี่ยุทธออกจากบ้านไปก่อนที่ฉันจะตื่นด้วยซ้ำ ทิ้งไว้เพียงโน้ตสั้นๆ ว่า "ประชุมเช้า เจอกันที่บ้าน" มันเป็นความห่างเหินที่เราต่างคุ้นชิน เก้าโมงเช้า เบสเดินเข้ามาในออฟฟิศ เขาดู... ปกติ ปกติอย่างน่าโมโห เขายิ้มทักทายเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ พลางวางกระเป๋าเอกสารลงบนโต๊ะของเขา ฉันแกล้งทำเป็นมองไม่เห็น พยายามเพ่งสมาธิไปที่หน้าจอ ปิ๊ง เสียงแจ้งเตือนจากโปรแกรมแชทภายในของบริษัทดังขึ้น ชื่อของเบสปรากฏเด่นหราบนหน้าจอของฉัน Bes: "กาแฟเช้านี้ขมไปไหมครับคุณมีนา" ฉันสะดุ้งเล็กน้อย หัวใจเต้นแรงจนเจ็บหน้าอก ฉันมองไปรอบๆ ออฟฟิศ ทุกคนยังคงก้มหน้าก้มตาทำงาน Meena: "ก็ปกติดีนี่คะ" Bes: "เหรอครับ ผมนึกว่าคุณมีนาจะอยากได้อะไรหวานๆ มาช่วย... ดับความขม" คำพูดของเขามันกำกวม ฉันรู้ว่าเขาไม่ได้หมายถึงแค่กาแฟ Meena: "ฉันไม่ว่างคุยเล่นค่ะเบส งานยุ่งมาก" ฉันกดส่งข้อความไป และพยายามจะไม่สนใจหน้าต่างแชทนั้นอีก แต่เพียงไม่กี่วินาที มันก็เด้งขึ้นมาใหม่ Bes: "เรื่องเมื่อวาน... ผมขอโทษนะครับ" ฉันตัวแข็งทื่อ Bes: "ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณอึดอัด" Meena: "ช่างมันเถอะค่ะเบส ถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น" Bes: "สำหรับคุณมีนา มันอาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น... แต่สำหรับผม..." ฉันรีบปิดหน้าต่างแชทนั้นทันที ฉันไม่พร้อมที่จะอ่านประโยคถัดไป ฉันรู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่บนขอบเหว ขาข้างหนึ่งก้าวล้ำออกไปในอากาศแล้ว เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าจนถึงช่วงบ่ายสามโมง หัวหน้าแผนกก็เรียกฉันกับเบสเข้าห้องประชุมด่วน "มีนา เบส" คุณเกริก หัวหน้าของฉันพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด "โปรเจกต์ของลูกค้ารายใหญ่ที่เราพยายามปิดดีลมาหลายเดือน เขาเพิ่งส่งคอมเมนต์ด่วนกลับมา เขาต้องการให้เราปรับแผนการเงินทั้งหมด... ภายในคืนนี้" ฉันอ้าปากค้าง "คืนนี้เหรอคะ! มันเยอะมากเลยนะคะ" "ผมรู้" คุณเกริกพยักหน้า "แต่นี่คือโอกาสสุดท้ายของเรา ผมต้องการให้คุณสองคน ซึ่งเป็นคนที่เก่งที่สุดในทีม อยู่เคลียร์ให้จบ ผมจะไม่อยู่รบกวนพวกคุณ" หัวใจฉันหล่นวูบไปอยู่ที่ตาตุ่ม อยู่เคลียร์งาน... กับเบส... สองต่อสอง? เบสที่นั่งอยู่ข้างๆ ฉัน กลับตอบรับอย่างใจเย็น "ไม่มีปัญหาครับคุณเกริก เดี๋ยวผมกับคุณมีนาจัดการให้" ฉันอยากจะกรีดร้องออกมาว่า "มีปัญหา!" แต่ฉันทำได้เพียงพยักหน้าเบาๆ "ค่ะ... ไม่มีปัญหาค่ะ" ห้าโมงเย็น ออฟฟิศที่เคยพลุกพล่านเริ่มว่างเปล่า เสียงคีย์บอร์ดที่เคยดังระงมค่อยๆ เงียบลงทีละคน... จนกระทั่งหกโมงครึ่ง ทั้งชั้นเหลือแค่ฉันกับเบส แสงไฟฟลูออเรสเซนต์สีขาวส่องสว่างจนแสบตา ความเงียบที่โรยตัวลงมาระหว่างเรามันหนักอึ้งและน่าอึดอัดกว่าเสียงใดๆ เรานั่งทำงานห่างกันคนละมุมห้อง พยายามจดจ่ออยู่กับตัวเลข แต่ฉันรู้ว่าสมาธิของฉันไม่ได้อยู่ที่หน้าจอเลย ฉันรู้สึกได้ถึงสายตาของเขาที่ลอบมองมาเป็นระยะ ครืด... เสียงโทรศัพท์มือถือของฉันสั่น พี่ยุทธส่งข้อความมา Yutth: "ดึกอีกแล้วเหรอมีนา" ฉันถอนหายใจยาว รู้สึกถึงความหงุดหงิดที่พุ่งขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล... หรืออาจจะมีเหตุผลก็ได้ Meena: "งานด่วนค่ะ ต้องส่งคืนนี้" Yutth: "โอเค งั้นพี่ขอนอนก่อนนะ พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า" Meena: "ค่ะ" ฉันวางมือถือลง รู้สึกถึงความว่างเปล่าที่ก่อตัวขึ้นในใจ พี่ยุทธไม่เคยถามว่าฉันเหนื่อยไหม เขาแค่รับทราบ... เหมือนกับที่ฉันรับทราบตารางงานของเขา "กาแฟไหมครับ" เสียงของเบสดังขึ้นทำลายความเงียบ "ดูเหมือนเราต้องอยู่กันอีกยาว" "เอาสิคะ" ฉันตอบ "ขอแบบเข้มๆ เลยนะ" ฉันเดินตามเขาไปที่ห้องแพนทรีที่อยู่สุดทางเดิน แสงไฟในห้องแพนทรีเป็นสีส้มอบอุ่น ต่างจากแสงสีขาวในออฟฟิศ มันทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลง... และอันตรายมากขึ้น เบสจัดการกดกาแฟจากเครื่อง ส่วนฉันยืนพิงเคาน์เตอร์ มองแผ่นหลังกว้างของเขา "คุณมีนา... โกรธผมเหรอครับ" เขาถามขึ้น โดยที่ยังไม่หันกลับมา "โกรธเรื่องอะไรคะ" "เรื่องเมื่อวาน... เรื่องที่ผมจับมือคุณ" "ฉันบอกแล้วไงคะว่าช่างมันเถอะ" "แต่ผมช่างมันไม่ได้" เบสหันกลับมา เขายื่นแก้วกาแฟให้ฉัน มือของเราสัมผัสกันอีกครั้งตอนที่รับแก้ว คราวนี้ฉันรีบชักมือกลับทันที "เบส... แฟนคุณ พลอยใช่ไหมคะ... เขากำลังจะแต่งงานกับคุณนะ" ฉันพูดเตือนสติเขา... และตัวเอง เบสวางแก้วกาแฟของเขาลง "พลอยเขายุ่งแต่เรื่องชุดแต่งงาน เรื่องสถานที่ เรื่องรายชื่อแขก" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยล้า "ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแค่เจ้าบ่าวในพิธี ไม่ได้รู้สึกเหมือนเป็น... คนรักของเขาเลย" คำพูดนั้น... มันเหมือนกับสิ่งที่ฉันรู้สึกกับพี่ยุทธไม่มีผิด "แล้วคุณมีนาล่ะครับ" เบสถามกลับ "พี่ยุทธเขายุ่งกับงานไอที... เขาเคยมีเวลาให้คุณมีนาจริงๆ บ้างไหม" ฉันสบตาเขา... และในแววตาคู่นั้น ฉันเห็นความเข้าใจ ความเหงา และความปรารถนาแบบเดียวกันกับที่ฉันรู้สึก "เราไม่ควรพูดเรื่องนี้กันเลยนะเบส" ฉันพยายามถอยหลัง แต่แผ่นหลังของฉันกลับชนเข้ากับเคาน์เตอร์เย็นเฉียบ "ทำไมล่ะครับ" เบสก้าวเข้ามาใกล้ กลิ่นโคโลญจน์สะอาดๆ ของเขาผสมกับกลิ่นกาแฟ "ในเมื่อเราสองคน... รู้สึกเหมือนกัน" พื้นที่ระหว่างเราหายไปแล้ว เขาไม่ได้แตะต้องตัวฉันเลย แต่ฉันรู้สึกเหมือนถูกเขากอดรัดไว้ทั้งตัว "เบส... พรุ่งนี้เราต้องมองหน้ากันที่ทำงานนะ" ฉันอ้อนวอนเสียงเบา "ผมก็อยากมองหน้าคุณมีนาทุกวันอยู่แล้ว" เขาโน้มตัวลงมาช้าๆ... ช้ามาก... เปิดโอกาสให้ฉันได้หันหน้าหนี หรือผลักเขาออกไป ฉันควรจะทำอย่างนั้น ฉันควรจะนึกถึงพี่ยุทธ นึกถึงคอนโดของเรา... แต่ฉันกลับยืนนิ่ง... ริมฝีปากของเบสสัมผัสกับริมฝีปากของฉันในที่สุด มันไม่ใช่จูบที่ร้อนแรงหรือรุนแรง มันเป็นจูบที่นุ่มนวล... ลังเล... และเต็มไปด้วยคำถามที่ไม่มีคำตอบ มันเป็นจูบที่ค่อยๆ ละลายความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของฉันไปทีละนิด ฉันควรจะผลักเขาออก... ฉันยกมือขึ้นวางบนหน้าอกของเขา... แต่แทนที่จะผลัก... นิ้วของฉันกลับขยุ้มเสื้อเชิ้ตของเขาไว้แน่น และฉันก็จูบเขากลับ... ความลังเลหายไปในทันที จูบนั้นแปรเปลี่ยนเป็นความเร่าร้อน หิวกระหาย เหมือนกับคนสองคนที่อดทนต่อความเหงามานานเกินไป มือของเขาสอดเข้ามาที่ท้ายทอยของฉัน กดให้จูบนั้นลึกซึ้งยิ่งขึ้น ลิ้นของเราพันเกี่ยวกันอย่างลืมตัว ฉันลืมไปเลยว่าเราอยู่ที่ไหน ลืมไปเลยว่าเราเป็นใคร... แคร๊ง! กระเป๋าถือของฉันที่วางหมิ่นๆ อยู่บนเคาน์เตอร์ ร่วงหล่นลงสู่พื้นเสียงดังลั่น เสียงนั้นเหมือนเสียงนาฬิกาปลุกที่กระชากเราออกจากภวังค์ เราผละออกจากกันทันที หอบหายใจแรง "มีนา... ผม..." เบสพยายามจะพูด แต่เสียงของเขาสั่น "ฉัน... ฉันต้องกลับบ้าน" ฉันพูดตะกุกตะกัก รีบก้มลงเก็บกระเป๋าถือทันที "งาน... งานเอาไว้พรุ่งนี้" ฉันไม่รอฟังคำตอบของเขา ฉันวิ่ง... วิ่งหนีออกจากห้องแพนทรี วิ่งหนีออกจากออฟฟิศ วิ่งหนีจากความจริงที่ว่า... ฉันเพิ่งจูบกับผู้ชายอีกคน... และฉันก็ชอบมันมากเหลือเกิน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD