นักดาบทมิฬ (3)

1561 Words
หน้าเมืองชั้นกลางทางตะวันออก "เอาล่ะ เริ่มตั้งกำลังรบได้!!" ผู้เล่นนับร้อยคนเริ่มเดินออกไปนอกกำแพงเมือง เพื่อเตรียมรับมือกับภัยที่กำลังเข้ามา "ไม่คิดเลยว่าพวกมันจะมากันไวแบบนี้ ฉันยังไม่ได้ทำใจเลยแฮะ.." "ฉันอยากไปใช้เงินให้หมดก่อนจะสู่กับพวกมันจัง" "งั้นก็รีบไปทำซะ เพราะยังไงพวกเราก็สู้ไม่ได้หรอก" "ใช่ ขนาดผู้เล่นในเมืองชั้นนอกยังถูกพวกมันทำลายอย่างรวดเร็วแบบนั้น" "เฮ้อ..ฉันอยากทิ้งดาบแล้วสิ" เสียงพูดคุยของผู้เล่นนับร้อยดังขึ้นมาท่ามกลางขบวนรบ ทั้งผู้คนที่หวาดกลัวต่อศัตรูที่กำลังใกล้เข้ามา หรือผู้คนที่พร้อมละทิ้งทุกอย่างแล้ว แต่ไม่นานทุกอย่างก็เงียบดับลง เพราะชายคนหนึ่งได้ก้าวเข้ามาสู่สนามรบ "นั่นมัน..." "ใช่...นั่นแหละเขา" "ว้าว.." "ท่านซาจิส" ชายหนุ่มร่างบางนามซาจิส ผู้ปกครองเมืองได้เข้ามาพร้อมกับธนูคู่ใจของเขา แผ่นหลังของเขาดูยิ่งใหญ่และทรงพลัง นั่นเลยทำให้ซาจิสถูกเคารพ "เอาล่ะ.." เมื่อซาจิสเริ่มเอ่ย ทุกอย่างก็เงียบดับลง และเมื่อเสียงของเขาเริ่มเอ่ยอีกครั้ง "...พวกเราจะจัดการเหล่าสัตว์ทมิฬเอง!!" เมื่อเสียงนั่นเอ่ยขึ้น เสียงเฮก็ดังลั่นตามมาอย่างเร็ว อีกด้าน ณ เมืองชั้นกลางทางตะวันตก ภายในปราสาทหลักของเมือง นารัคกำลังเดินวนไปมารอบห้องเพื่อครุ่นคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น "ถ้าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง นั่นต้องแย่แน่.." นั่นคือสิ่งที่นารัคเอ่ยขึ้นก่อนจะหยิบค้นหาปากกาเพื่อใช้จดข้อความที่จะส่งต่อไปถึงกลุ่มของเขา แคร็ง..แกร็ง... เสียงค้นของดังไปทั่วห้องอย่างวุ่นวาย ไม่นานนักนารัคก็พบกับสิ่งที่เขาต้องการ แต่ก่อนที่เขาจะได้ใช้มันจดไปยังกระดาษข้อความ ตอนนั้นเองที่เสียงประตูได้เปิดขึ้น ปัง!! มันแรงจนทำให้นารัคตกใจจนทำปากกาตก ร่างของทหารนายหนึ่งเข้ามาภายในห้องด้วยท่าทางร้อนรน และนารัคก็แปลกใจที่เห็นภาพนั้น "เกิดอะไรขึ้น.." นารัคเอ่ยถามทหารนายนั้นด้วยความกังวล เขาภาวนาให้สิ่งที่ทหารนายนั้นกำลังจะเอ่ยไม่เป็นอย่างที่เขาคิด "คือ...พวกเรายืนยันการบุกรุกของเหล่าสัตว์ทมิฬได้แล้วครับ" แต่สุดท้ายสิ่งที่เขาภาวนาก็ไม่เป็นจริง เพราะทหารนายนั้นกลับยืนยันเกี่ยวกับสัตว์ทมิฬได้แล้ว นั่นแสดงว่าเขาเหลือไม่เวลาไม่มากที่จะส่งข้อความออกไปหากลุ่มหลัก "เข้าใจแล้ว บอกตำแหน่งของพวกมันมา แล้วฉันจะตามไปเสริมทัพทีหลัง" นารัคเอ่ยบอกทหารก่อนจะก้มตัวลงไปหยิบปากกาที่ตกอยู่บนพื้น แต่ก่อนที่มือของเขาจะเอื้อมไปถึง.. "คือ...ตอนนี้.." ท่าทีอ้ำอึ้งของทหารนายนั้นทำให้นารัคสงสัย เพราะอะไรเขาถึงได้สั่นกลัวขนาดนั้น หรือเป็นเพราะพลังของเหล่าสัตว์ทมิฬ? "พวกมันอยู่ไหนล่ะตอนนี้?" ทหารคนนั้นนิ่งไป ก่อนจะตอบกลับด้วยเสียงสั่นกลัว "..พวกมัน" เมื่อเห็นอาการแบบนั้นนารัคก็เริ่มอารมณ์เสีย นี่เขาฝึกซ้อมทหารขี้กลัวคนนี้มาได้ยังไง นารัครีบเดินไปจับไหล่ของทหารคนนั้น ก่อนจะเริ่มเขย่าตัวเพื่อเรียกสติ "รีบบอกม---" แก็ง!! แต่ตอนนั้นเอง ที่หมวกของทหารนายนั้นหลุดออกมา... "...!!" และนั่นเป็นตอนที่นารัคได้เห็นใบหน้าของเขา ทหารนายนั้นมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา ดวงตาของเขาสิ้นหวัง ปากแห้งและซีดราวกับคนที่เพิ่งจะเจอสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตไป "นี่นาย..." ในตอนนั้นเองที่เขารับรู้ถึงสิ่งผิดปกติ ก่อนจะปล่อยทหารหนุ่มคนนั้นไปพร้อมกับวิ่งตรงไปยังบานหน้าต่างห้อง และภาพที่เขาเห็นผ่านกระจกบานนั้น "ไม่จริงน่า..." ...คือภาพของกำแพงหน้าเมืองที่กำลังมอดไหม้ และถูกปกคลุมด้วยควันสีดำทมิฬ และในขณะเดียวกันนั้นที่จุดสูงสุดของปราสาท ชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำและหน้ากากแจ็คข้าวหลามตัด เขากำลังจ้องมองกำแพงหน้าเมืองที่กำลังถูกทำลายอย่างช้าๆ ด้วยตัวตนที่ปกคลุมไปด้วยควันสีดำดูน่ากลัวและอันตราย "แบบนี้พวกเราก็ไม่เห็นจำเป็นต้องแทรกแซงเลยสิเนี่ย" เวสจ้องมองภาพนั้นพร้อมกับครุ่นคิด พลังทำลายของกองทัพสัตว์ทมิฬนั้นรุนแรงกว่าที่พวกเขาคาดการเอาไว้ซะอีก หรือไม่..ระหว่างที่พวกมันเดินทางมาก็คงจะเกิดอะไรขึ้น แต่ระหว่างที่เขากำลังคิดอยู่นั้น บานหน้าของปราสาทก็เปิดออก "หืม..." และที่บานหน้าต่างนั้น ปรากฏร่างของชายหนุ่มในชุดเกราะเต็มตัว ถือคทาเหล็กพร้อมกับร่ายสกิลบางอย่าง "ปีกปักษา" หลังจากที่ร่ายสกิล คลื่นลมก็ไหลรวมไปยังตัวของเขา ก่อนที่พวกมันจะค่อยๆ รวมตัวกลายเป็นคลื่นคล้ายปีกสองข้างที่ด้านหลัง ไม่นานชายหนุ่มก็พุ่งตัวออกไป และเป้าหมายคือศัตรูที่อยู่ด้านหน้าของกำแพงเมือง "โอ้...นี่สินะพลังของหนึ่งในผู้นำของกลุ่มรุ่งโรจน์ สมแล้วละนะ" เวสที่มองภาพนั้นอย่างสนใจก็ร้องออกมา ก่อนจะลุกขึ้นแล้วหยิบหนังสือปกสีดำออกมา วงเวทย์ปรากฏที่เท้าของเขา ก่อนที่มันจะพาร่างของเวสให้หายไปจากยอดของปราสาท "ขอดูใกล้ๆ หน่อยก็แล้วกันนะ..." ณ กำแพงเมืองชั้นกลางทางตะวันตก ตู้ม!! กำแพงเมืองถูกระเบิดออกจากเปลวเพลิงอันแสนรุนแรง และภาพนั้นตัดกับเหล่าทหารที่กำลังวิ่งหนีจากเศษหินของกำแพงที่ร่วงลงมา "อ้าก!!!" "ช่วยด้วยย!!!" "พวกมันเข้ามาแล้ว!!" เสียงกรีดร้องของเหล่าทหารดังขึ้นทั่วสนามรบ ที่ตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยเพลิงอันแสนรุนแรง แต่ระหว่างที่เหล่าทหารกำลังกรีดร้องและวิ่งหนีเพื่อเอาตัวรอด พวกเขาก็ได้เห็นบางอย่างปรากฏตัวขึ้นมา ตู้ม! ร่างของใครบางคนพุ่งเข้ามายังสนามรบ สร้างแรงกระแทกและกระแสลมรุนแรงแก่สนามรบเบื้องล่าง และเมื่อกลุ่มควันจางหาย ร่างของชายหนุ่มในชุดเกราะสีฟ้าอ่อนก็ปรากฎด้วย "นั่นมัน...!" "พวกเรารอดแล้ว!!" เสียงกู่ร้องของเหล่าทหารดังขึ้นหลังจากที่ได้เห็นร่างของเขา พร้อมกับชายหนุ่มในชุดเกราะที่ชูคทาเหล็กของเขาขึ้นมา "สายลมชำระล้าง!!" สิ้นเสียงสกิล ทหารทุกคนก็รับรู้ว่าร่างกายของตัวเองไร้บาดแผลและไม่หลงเหลือความเหน็ดเหนื่อยอยู่ "จงลุกขึ้นต่อสู้เพื่อปกป้องเมืองของพวกเรา ทหารทุกนาย เราจะไม่ยอมสูญเสียสิ่งไหนไปอีกแล้ว" ชายคนนั้นเอ่ยขึ้น ก่อนจะชี้คทาเหล็กไปยังกองทัพสัตว์ทมิฬเบื้องหน้า "มุ่งหน้าไปและจัดการศัตรูของพวกเราให้สิ้นเสีย!!" "โอ้ว!!!" เหล่าทหารที่กำลังวิ่งหนีก็เปลี่ยนทิศ ก่อนจะหยิบอาวุธของตัวเองพุ่งเข้าไปโจมตีเหล่าสัตว์ทมิฬ "นี่มัน...รับรู้ได้เลยว่าพลังกำลังเอ่อล้น!!" "เพราะพลังของเขายังไงล่ะ!!" "ท่านนารัค!!!" เสียงเอ่ยชื่อของชายหนุ่มดังขึ้นทั่วสนามรบ พร้อมกับเหล่าสัตว์ทมิฬที่ค่อยๆ ถูกจัดการมากขึ้นเรื่อยๆ นารัคมองภาพนั้นด้วยความดีใจ แต่เขาก็ไม่สามารถวางใจกับสถานการณ์นี้ได้ในตอนนี้ เพราะที่สุดมุมมองของเขา ได้มีร่างของมอนสเตอร์ตัวหนึ่งปรากฏอยู่ ร่างของมันใหญ่กว่ามนุษย์สัก 3 เท่าได้ ผิวหนังปกคลุมไปด้วยเปลวไฟสีแดงฉานและตัดกับควันสีดำ มันนั่งนิ่งมองสนามรบเหมือนกับตัวของเขาเช่นกัน "แกสินะ ผู้นำกลุ่มสัตว์ทมิฬ.." "สายลมอวยพร" ร่างของนารัคถูกปกคลุมด้วยสายลมสีเขียวอีกครั้งหลังจากร่ายสกิล ก่อนที่เขาจะมองตรงไปยังร่างของยักษ์เพลิงที่นั่งอยู่ "เอาไปกินซะ..." คทาเหล็กเปล่งแสงเป็นสีเขียว ก่อนที่มันจะถูกเล็งไปยังร่างของเจ้ายักษ์นั่น สายตาของนารัคแน่วแน่ ก่อนจะร่ายสกิลอันแสนรุนแรงออกมา "พายุดับชีพ!!" สิ้นเสียง สายลมสีเขียวก็ขนาดใหญ่ก็พุ่งผ่านสนามรบและตรงไปยังร่างของเจ้ายักษ์เพลิง มันพัดพาทุกสิ่งให้ลอยออกไปตามเส้นทาง จัดการเหล่าสัตว์ทมิฬได้นับร้อย และเป้าหมายสุดท้ายคือเจ้ายักษ์เพลิงนั่น ตู้ม!! พายุกระแทกร่างของยักษ์เพลิงนั่นเต็มๆ เพียงแต่ว่า... "ไม่เดี้ยงง่ายๆ งั้นสินะ ก็สมกับเป็นผู้นำของเหล่าสัตว์ทมิฬอยู่หรอก" ร่างของยักษ์เพลิงปรากฏหลังควันรอบสนามรบจางหาย ก่อนจะเห็นว่ามันกำลังยืนอยู่ และเป้าหมายของมันนั้นเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน คือนารัคที่เป็นคนเล็งสกิลใส่เขาในตอนนี้ "ก็เข้ามาสิวะ" นารัคเอ่ยตอบการกระทำของเจ้ายักษ์นั่นด้วยคำพูด ก่อนจะเล็งคทาเหล็กไปยังร่างของมันอีกครั้ง.. "พายุดับชีพ!!"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD