🔥เรื่องที่3 #1 ไอ้เนิร์ดตัวร้ายโดนจับทำเมีย 3P

1597 Words
“พี่กายจะกลับแล้วเหรอครับ” หนุ่มหน้าตาดี อายุน้อยกว่ากายหนึ่งปี เตี้ยกว่า ถามกายที่กำลังแต่งตัวอยู่ปลายเตียง ภายในโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ธาดา นิกูลธนวรเมธหรือกายเด็กเนิร์ดปีสอง หน้าตาเฉิ่มเชยในสายตาของคนที่พบเห็น ทว่าเขานั้นจริงๆ แล้วร้ายกาจ เห็นเงียบๆ ฟาดเรียบ หลังถอดแว่นสายตากรอบดำ ใบหน้าที่จะเรียกว่าหล่อก็หล่อเหลือล้น จะบอกว่าหวานก็หวาน เพราะนอกจากจะมีรักยิ้มข้างหนึ่ง ยังมีแก้ม จมูกเล็ก ปากบางทำหัวใจของใครหลายคนพังทลาย ทว่าน่าเสียดาย ที่เขาเป็นดั่งสัตว์ร้ายในยามค่ำคืนอันหนาวเหน็บ และเป็นไบ ที่ได้หมดทั้งชายและหญิง แต่ที่ชอบสุดคือผู้ชายแมนๆ อย่างเช่นคนบนเตียง เขาสนุกกับการเปลี่ยนชายแท้ให้กลายเป็นเกย์รับ กายเดินยิ้มหวานไปยืนข้างเตียงใกล้คีย์ จูบแก้มขาวเนียนของอีกฝ่ายหนึ่งที “พี่มีเรียนเช้าน่ะคนดี ไม่งอแงนะ เดี๋ยวเย็นนี้หลังเลิกเรียนพี่พาไปดูหนังกินข้าวดีไหมครับ” กายตอแหลล้วนๆ เขาไม่ชอบทำซ้ำสองกับใคร และไม่ได้ตั้งใจเรียนอย่างที่ใครหลายคนคิด ที่เห็นใส่แว่นแบบนี้ เป็นเพราะชอบอ่านหนังสือ แต่ไม่ใช่หนังสือเรียน เป็นนิยาย กายชอบนิยายแนวแฟนตาซีกับแนวสยองขวัญ วันไหนไม่ออกไปเที่ยวผับ เพื่อหาเหยื่อรายต่อไป กายก็จะสิงอยู่ในห้องทั้งวัน เพื่ออ่านหนังสือ ทั้งแบบรูปเล่มและในโทรศัพท์ สายตาจึงสั้น อีกอย่างเขาจะรีบไปบอกเพื่อนว่าตนได้กับชายแท้ ที่จีบโคตรยาก น้องปีหนึ่งคนนี้ ให้เพื่อนๆ ฟังใจจะขาดแล้ว กายหมุนตัวไปหอมคีย์อีกที รู้สึกสนุกมากที่ได้เล่นกับความรู้สึกของคนอื่นแบบนี้ กายพอใจกับร่องรอยที่ตนทิ้งไว้บนตัวอีกฝ่ายด้วย ก้มลงเก็บเสื้อผ้าข้างเตียงให้คีย์ “คีย์ครับ ให้พี่ไปส่งที่บ้านดีไหม...หรือจะไปที่มหา'ลัยพร้อมกับพี่” เขาพูดกระเซ้าเย้าแหย่ “ผมเป็นผู้ชายแท้ๆ ไม่กล้าให้พี่ไปส่งให้คนอื่นมองแปลกๆ หรอกครับ...เอาไว้เจอกันหลังเลิกเรียนที่เดิมนะครับ” คีย์พูดอย่างเสียดาย เพราะอยากอยู่กับคนที่ตนเปิดใจให้ต่อ “โอเคครับ งั้นพี่ไปก่อนนะ” กายหอมแก้มขาวอีกครั้ง สนุกกับเกมในครั้งนี้มาก เปลี่ยนชายแท้ให้มาสนใจและนอนกับตนได้สำเร็จแล้ว /จากกันด้วยดีนะน้องคีย์/ กายคิดในใจ เดินผิวปากไปที่รถสปอร์ตหรู พ่อแม่เขาเป็นเจ้าของเหมืองเพชร เลี้ยงเขาตามใจมาตั้งแต่เด็ก อยากได้อะไรก็ได้ ร้านอาหารข้างทาน กายไม่เคยไปนั่งทาน เข้าร้านหรูๆ เท่านั้น และกาแฟหนึ่งแก้วของเขา อาจเป็นเงินที่กินได้ทั้งวันของใครหลายคน ก่อนไปมหา'ลัย กายแวะร้านกาแฟ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมที่ตนพาเด็กไปกกนัก ขณะหมุนตัวออกจากร้านใครคนหนึ่งเดินสวนมา ชนไหล่กันพอดี กายคิดว่าไม่จำเป็นต้องขอโทษ ส่วนอีกคนกลับเอ่ยอย่างมีมารยาท “ขอโทษครับ” “...” กายเหลือบมอง แล้วเดินผ่านไป แต่คนที่มากับฝ่ายนั้นดันมายืนขวางตรงหน้า แถมยังตัวสูงชะลูดจนน่าหมั่นไส้ กายเชิดหน้าน้อยๆ “?” เลิกคิ้วแทนคำถาม “เดินชนก็ขอโทษกันหน่อยสิครับ...ไม่ใช่ทำตัวไร้มารยาทอย่างนี้ อีกอย่างน้องผมเดินมาดีๆ คุณหมุนตัวมาไม่ดูตาม้าตาเรือ ชนน้องผม” “อ๋อ เป็นพี่น้องกันเหรอครับ ถึงว่าหน้าตาเหมือนกันอย่างกับ...คนหนึ่งเป็นลูกแท้ๆ อีกคนเป็นลูกของคนข้างบ้าน” กายไม่รู้จักสองคนนี้ แต่ปากมันพาไปเองและยกยิ้มอย่างไม่สะทกสะท้าน “งั้น...ขอโทษนะครับ” กายเอ่ยอีก “...นี่มึงว่าแม่กูคบชู้ หรือว่ากูเป็นลูกคนข้างบ้านวะ” น้ำเสียงของชายที่อายุมากกว่ากายดุดัน คิ้วเข้มขมวดแทบผูกกันเป็นปม เด็กตรงหน้าที่สวมแว่นใส่ชุดนักศึกษาดูเรียบร้อย ท่าทางก็สุขุม แต่แม่งปีนเกลียวจนอยากตบให้คว่ำ “ผมบอกตอนไหนครับว่าแม่คุณเป็นชู้กับคนข้างบ้าน?” กายเอียงคอทำหน้าตาสงสัย “รึว่าผมพูดแทงใจดำคุณ” กายยิ้มแล้วเอ่ยอีก “ถ้าสิ่งที่ผมพูดดันบังเอิญเป็นเรื่องจริง งั้นขอโทษด้วยนะครับ คุณช่วยหลบผมหน่อยได้ไหม ผมต้องไปเรียนแล้ว” “...” อีกฝ่ายยืนนิ่ง ก่อนยกยิ้มร้าย “เดินดีๆ นะครับน้อง ระวังจะสะดุดปากตัวเองตายห่าก่อนที่จะเรียนจบ พี่สงสารพ่อแม่ที่ส่งน้องเรียนมหา'ลัย ค่าเทอมแพงๆ แทนที่จะเอาเงินไปซื้อควายมาเลี้ยง เพราะมันยังไถนาได้” “แต่น้องดูท่าแล้วคงจะทำไรไม่เป็นเลย” . . กายขับรถไปเรียนด้วยความคับแค้นใจ ทั้งที่เขาเป็นฝ่ายได้เปรียบแท้ๆ...ไอ้ผู้ชายที่หน้าตาหล่อเหลา แต่งตัวดูดีราวกับหลุดออกมาจากนิตยสารแม็กกาซีน ว่าเขาจนพูดไม่ออก “ไง ไอ้ธาดาได้แดกเด็กปีหนึ่งคนนั้นยัง” กายหงุดหงิดมาก แล้วพอมาโดนเรียกว่าธาดา ชื่อที่คล้ายผู้หญิงแบบนี้ ยิ่งทำให้อารมณ์เสียเข้าไปใหญ่ หันมองเพื่อนรักตาค้อน “ไอ้สัตว์ ขนมปัง กูบอกกี่ครั้งแล้ว ให้เรียกกูว่ากาย ไม่ใช่ธาดา ชื่อนั้นไว้ให้พ่อแม่กูเรียกพอ” “กูก็ชื่อปังไม่ใช่ขนมปัง ไอ้เวร!” ปังด่ากลับอย่างไม่เกรงกลัว พวกเขาเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก ด่าแรงกว่านี้ก็เคยมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน กายกับปังจึงไม่ถือสาเอาความกัน “กายมันอารมณ์ไม่ดี” หนึ่งที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หินอ่อนด้านหลังกายเอ่ย เขานั่งอยู่ตรงนั้นมาสักพักแล้ว กายก็มานั่งโต๊ะนี้เพราะเห็นหนึ่งอยู่ที่นี่ หนึ่งเพื่อนในกลุ่มเป็นคนเงียบๆ เวลาเจอกันจึงไม่จำเป็นต้องถามอะไรมากมาย มองตาดูใจ ส่วนกายมักจะมีเรื่องมาเล่าตลอด ทว่าวันนี้กายหน้าบอกบุญไม่รับกระทั่งเลิกเรียน . . “ผมรบกวนพี่แล้ว ขอบคุณนะครับ” “ไม่เป็นไร...คีย์เรามีเรื่องอะไรไม่สบายใจรึเปล่า ระบายกับพี่ได้นะ พี่ไม่บอกใครหรอก” พลถามเด็กข้างบ้าน ที่เป็นเพื่อนของน้องชาย ซึ่งเห็นมาตั้งแต่ตัวเล็กๆ จึงเอ็นดูราวกับคีย์เป็นน้องแท้ๆ อีกคน ช่วงหลังๆ มานี้คีย์ที่อาศัยรถน้องเขากลับ หายหน้าหายตา กลับดึกผิดปกติ วันนี้ตอนเย็นเขาไปหาทำเทเปิดร้านเหล้าแถวมหา'ลัยที่คีย์ และไอ้เนิร์ดปากดี ชนไหล่น้องเขาแล้วไม่ยอมขอโทษเรียนอยู่ เขาบังเอิญเห็นคีย์นั่งอยู่ข้างทาง เลยแวะรับพากลับบ้านด้วย ระหว่างทางกลับ คีย์ดูเศร้าๆ ไม่พูดเก่งเหมือนเมื่อก่อน เลยอดเป็นห่วงไม่ได้ “เอาไว้พร้อมปรึกษาพี่เมื่อไร ค่อยโทรหาพี่ก็ได้ พี่ยินดีเป็นที่ปรึกษาเสมอ และได้ทุกเรื่อง” “พี่พาผมไปดื่มเหล้าหน่อยได้ไหมครับ” คีย์ถามเสียงสั่น ตอนนี้เขาเครียดมาก เพราะติดต่อคนที่นอนกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันเมื่อคืนไม่ได้เลย 22.30 น. พลขับรถพาคีย์มาที่ร้านเหล้าของตน เขาทำธุรกิจเกี่ยวกับร้านอาหารมีทั้งผับบาร์ร้านเหล้าแบบนั่งชิล และมีหลายสาขาทั่วประเทศไทย “บอกพี่ได้ยังว่ามีเรื่องไรที่ทำให้ไม่สบายใจ” พลปล่อยให้น้องนั่งดื่มเงียบๆ มาสักพักแล้ว และดูท่าน้องจะเมามากแล้ว ดวงตาหน้าแดงก่ำ “...ผมเป็นเกย์” คีย์พูดอย่างไม่กระดากปาก อาจเพราะดื่มของมึนเมาไปเยอะ พลไม่คิดว่าเรื่องนี้แปลกอะไร เพื่อนเขาส่วนใหญ่ตอนนี้ก็หันไปมีเมียเป็นผู้ชายกันทั้งนั้น บัดนี้ยังแอบสงสัยเลยว่าคบกับผู้ชายด้วยกันดียังไง บางครั้งก็เกิดอาการอยากลองเหมือนกัน แต่ยังไม่เจอใครที่น่าสนใจ หรือบางทีอาจไม่มีใครที่เขาสนใจอยู่บนโลกนี้เลยก็เป็นได้ เพราะเขาไม่ได้ชอบผู้ชายมาแต่กำเนิด เขาชอบผู้หญิงร้อยเปอร์เซ็นต์ “พี่ เขามาหลอกให้ผมเป็นแบบนี้แล้วก็ทิ้งผมไป ฮึก” คีย์ปาดน้ำตา “ผมไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว” “...” “ผมอยากตาย” “...” “พี่ผมอยากตาย ฮึก ฮื่ออ” “...มึงไม่ต้องอยากตายหรอก คนที่สมควรตายน่ะไม่ใช่มึง...คีย์เดี๋ยวกูเอาคืนไอ้เหี้ยนั่นที่มันบังอาจมาหลอกมึงให้เอง” พลกำหมัดแน่น “ทีนี้ก็บอกกูมาว่ามันคือใคร” “พะ พี่ ขอบคุณพี่ ตะแต่อย่าทำอะไรพี่ธาดา นิกูลธนวรเมธ พี่กาย ทันตแพทย์ปีสองเลย อา...” พูดจบคีย์อ้าปากพะงาบๆ เนื่องจากที่พูดไปทั้งหมดนี้ คีย์ไม่ได้ตั้งใจ เขาห่วงกายยิ่งกว่าชีวิตของตัวเอง “เอ่อ...ผมว่า ผมอาจคิดมากไปเอง” “พี่พลอย่าไปทำอะไรพี่ธาดาเลยนะไม่สิ พี่เขาไม่ชอบให้ใครเรียกว่าธาดา เพราะมันคล้ายชื่อของผู้หญิง เขาชอบให้เรียกสั้นๆ ว่ากาย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD