“แม่มึงน่ะ ปอกลอกกูจนเกือบหมดตัวไม่พอ ยังกล้าทิ้งมึงไว้เป็นภาระของกูอีก” เสียงทุ้มของพ่อเลี้ยงบวกกับหน้าหล่อที่ดูเหี้ยมโหด จ้องเกี๊ยวด้วยความเกลียดชัง และไหนจะเป็นอัลฟ่าอีก
นั่นทำให้เกี๊ยว เพศรองเบต้า กลัวจนตัวสั่น ฝ่ามือบอบบางยื่นไปรับแบงก์สีแดงสี่ใบจากเขาผู้นั้น อาชาแม้เกลียดเกี๊ยวเข้ากระดูกดำ
เพราะแม่สาวคนงามแม่แท้ๆ ของเกี๊ยวหลอกเขาจนเกือบหมดตัวแล้วยังทิ้งลูกไว้ให้ดูต่างหน้า
ซึ่งสำหรับอาชาแล้วนี่มันตัวภาระ แต่อาชาก็ไม่รู้จะเอาเจ้าตัวน่ารำคาญอ้อนแอ้นนี่ไปทิ้งไหน
จึงจำใจเลี้ยงดูตั้งแต่ตอนที่เกี๊ยวอายุสิบสามปี จนปัจจุบันนี้เกี๊ยวอายุยี่สิบปี วัยกำลังกลัดมัน
เกี๊ยวกำเงินไว้ในมือแน่น ขยับปากกระจับสีแดงระเรื่อพูดกับอัลฟ่าเชื่องช้าอย่างกล้าๆ กลัวๆ
“แด๊ดดี้ไม่ต้องให้เงินผมแล้วก็ได้ เพราะตอนนี้ผมหาเงินใช้เองได้แล้ว” เกี๊ยวเงยหน้ามองอาชา สบตากันไม่ถึงสองวินาที เกี๊ยวก็รีบเบือนหน้าหนี
“อย่าโอหังกับฉัน!”
“มะ ไม่ได้โอหังนะ แด๊ดดี้ คือผมได้ที่ทำงานแล้ว และก็ได้ที่อยู่ ละ แล้วด้วย”
“ฮึ เธอนี่ไม่ต่างจากแม่ของเธอเลยจริงๆ ใช้ให้ฉันหาเงินให้ พอหมดประโยชน์ก็หนี” อาชาสั่นหน้า ก่อนจะหยิบนาฬิกาเรือนหรูบนโต๊ะข้างเตียงมาสวม แล้วหันมองเกี๊ยวอย่างไม่แยแสอีกครั้ง
“...” เกี๊ยวหมดคำจะพูด เขาไม่ใช่แม่ ถึงจะเป็นแม่ลูกกัน แต่เกี๊ยวไม่ลืมบุญคุณที่อาชาเลี้ยงเขามาจนเติบใหญ่หรอก ที่อยากไปอยู่ข้างนอก
ก็เพราะหนึ่งใกล้ที่ทำงาน ใกล้ที่เรียน ทุกวันนี้เกี๊ยวรู้สึกว่าตัวเองพักผ่อนไม่เพียงพอ
เพราะหลังเลิกเรียน เพื่อความรวดเร็ว เกี๊ยวตรงไปที่ทำงานทันที เพื่อประหยัดเวลากับค่ารถ
เกี๊ยวทำงานที่สถานบันเทิงใกล้มหา'ลัยที่นั่นมีที่พักฟรี เสียแค่ค่าน้ำไฟ ให้พนักงานที่บ้านไกล
สอง! ถ้าเกี๊ยวอยู่ที่นั่น พ่อเลี้ยงก็จะไม่ต้องจ่ายเงินรายวันให้เขา และข้าวสารอาหารที่บ้านไม่มีเขาช่วยกิน พ่อเลี้ยงก็จะได้ไม่ต้องซื้อบ่อย
เห็นเกี๊ยวตัวเล็กๆ แบบนี้ เกี๊ยวกินเก่งมากเลยนะ แต่มันไม่ลงพุง มันไปลงที่ก้นกับเอวแทน
เกี๊ยวตวัดผ้าห่มออกจากร่าง วันนี้แม้เป็นวันหยุด แต่งานยังต้องไปทำ เพราะงั้นเขาจะทำงานบ้านก่อน ทว่าเกี๊ยวไม่ทันไปไหน อาชาก็กดเกี๊ยวหงายหลัง เกี๊ยวชะงักไปแป๊บ ก่อนยกขาตั้งฉาก
มองพ่อเลี้ยงที่คุกเข่า มือก็ขยับผูกเนกไท ส่วนใบหน้าหล่อคลอเคลียอยู่ตรงของสงวนแสนงดงามและบริสุทธิ์ของเกี๊ยว เกี๊ยวตัวกระตุก
ตามจังหวะของลิ้นสากที่ตวัดผ่านจีบยับย่น ตรงนั้นก็กระตุกไม่ต่างกัน เกี๊ยวทนแรงกระตุ้นไม่ไหว ขยุ้มหัวพ่อเลี้ยง แต่แล้วก็ร้องออกมาดังลั่น
“โอ๊ยย อูย!” เพราะถูกพ่อเลี้ยงบิดข้อมือ
“อย่ามาเล่นหัวฉัน ฉันไม่ชอบ”
“...” เกี๊ยวประกบปากเข้าหากัน สะโพกขยับสู้ลิ้นยาวๆ ที่กระดกขึ้นลงรัวเร็ว อย่างห้ามไม่อยู่
“อึก อื้ออ ดะ แด๊ดดี้ ฮ้าา ซี้ดด อืออ!”
ร่างกะทัดรัดบิดเร่าด้วยความเสียวซ่าน และพลางคิดว่าแค่ลิ้นมันไม่พอ อยากโดนมากกว่านี้!
เมื่อพ่อเลี้ยงไปทำงานร่างเล็กก็ลงจากเตียง สาวเท้าคู่เรียวไปที่ห้องน้ำ เขาล้างลูกๆ ฝ่ายนั้นที่เกาะอยู่บนหน้าท้อง แล้วลูบรูที่บวมตุ่ย
เพราะถูกลิ้นกับฟันดุนดันขบเม้ม แต่อาชาก็ทำเขาแค่นั้น ไม่ได้ล่วงเกินเข้ามาด้านใน...
“เกี๊ยวสรุปว่าไง พ่อเลี้ยงมึงอนุญาตให้ย้ายออกมาไหม” เพื่อนตัวสูงของเกี๊ยวถาม อีกฝ่ายก็เรียนและทำงานที่เดียวกัน เกี๊ยวส่ายหน้าน้อยๆ
“โห่ อุตส่าห์วางแผน ว่าจะเล่นเกมกับมึงทั้งวันทั้งคืน” เพื่อนจากที่ยิ้มแฉ่ง หน้าบึ้งเป็นตูด เขาโยกหัวเกี๊ยวแล้วกระซิบเบาๆ “ให้กูพาหนีไหม?”
เกี๊ยวมองเพื่อนอัลฟ่าดุๆ ในโลกที่แบ่งแยกเพศรองชัดเจนแบบนี้ เพื่อนคนนี้กลับมองข้ามมันไป และบ้านอีกฝ่ายก็ไม่ได้ยากจน
แต่กลับเลือกมาทำงานเป็นเพื่อนเขาแถมยังเลือกที่จะมาเป็นรูมเมตเขาด้วย ทว่าเกี๊ยวไม่กล้าคิดหรอก ว่าอีกฝ่ายชอบเบต้าธรรมดาๆ แบบตน
เกี๊ยวมั่นใจว่าตัวเองที่หน้าตา รูปร่างได้แม่เต็มๆ เป็นเบต้า เพราะใบรับรองจากโรงพยาบาลที่ได้มาตั้งแต่กำเนิด และเขาไม่เคยฮีท
และตัวไม่มีกลิ่นหวานๆ เหมือนโอเมก้าด้วย เกี๊ยวขยับตัวเชื่องช้า เนื่องจากรู้สึกเสียดบั้นท้าย
รสสัมผัสที่อาชาทำไว้ ตราตรึงอยู่ตรงนั้น
“มิก...”
“พูดจริงนะ ไกลแค่ไหนกูก็พามึงไปได้และกูจะทำให้พ่อตำรวจยศใหญ่ของมึง หามึงไม่เจอ”
“มิกกูต้องไปเสิร์ฟค็อกเทลโต๊ะไหนนะ?”
เกี๊ยวเล่าเรื่องความเป็นอยู่ของเขาให้เพื่อนฟังบ่อยๆ และรู้สึกขอบคุณที่เพื่อนเป็นห่วง หวังดีกับเขา ถึงขนาดจะพาหนี แต่เกี๊ยวไม่ใช่แม่
เขาไม่อยากทิ้งผู้ชายคนนั้นไปแบบแม่ที่ไม่เคยกลับมาดูดำดูดีเขาเลย ตอนอยู่ด้วยกันใช่ว่าจะรักเขา ถามอะไรก็ไม่ตอบ เลี้ยงแบบขอไปที
อาชาเดิมทีเป็นสารวัตรปราบปรามยาเสพติด ส่วนตอนนี้เลื่อนขั้นเป็นผู้กำกับแล้ว แต่เขาผู้นั้น มันมาเฟียในคราบตำรวจ
พ่อเลี้ยงเคยพูดว่า จะปราบคนเลวก็ต้องเลวกว่า ซึ่งนั่นมันอัลฟ่าจอมเผด็จการชัดๆ
มิกไม่เคยเห็นพ่อเลี้ยงในมุมดุร้ายราวเจ้าป่าก็นะ จะไปเห็นได้ไง พ่อสั่งห้ามพาเพื่อนมาบ้าน
มิกทำหน้าซังกะตาย “ห้องVIP7” พูดจบมิกขยับหน้ากากกระต่ายของเกี๊ยวให้พอดีกับสันดั้ง
“ขอบคุณนะ” เกี๊ยวถือถาดกลมด้วยมือข้างเดียว เดินดุ่มไปยังห้อง VIP ชั้นใต้ดิน
ที่เปิดให้เฉพาะลูกค้า VIP เท่านั้น
โถงทางเดินโอ่อ่า ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์ยุโรป ต่างจากด้านบนของผับที่ดูธรรมดา
ตอนแรกเกี๊ยวไม่คิดว่าจะมีสถานที่แบบนี้อยู่ในผับนี้ แต่พอเข้ามาที่นี่สองสามครั้งก็เริ่มชิน รีบสืบเท้าไปยังห้องที่มีเลขเจ็ดติดอยู่บนบานประตู
เกี๊ยวเคาะประตูสองครั้ง พอเห็นว่าไม่มีเสียงตอบรับ ก็เปิดเข้าไปด้านในแล้วพลันชะงักงัน
ทรุดลงกับพื้นเพราะกลิ่นของอัลฟ่าตอนรัทลอยคละคลุ้งเข้มข้นอยู่ในอากาศ ถาดหลุดออกจากมือ เกี๊ยวรีบยื่นมือไปคว้าแก้วที่ใส่ค็อกเทลสีฟ้าคราม มันระยิบระยับราวกับมีดาวลอยละล่อง
ทว่าทั้งที่อยู่ใกล้ กลับจับไม่โดน สายตาของเกี๊ยวพร่าเลือน และวงเวียนหัวอย่างไร้เหตุผล
เกี๊ยวลนลานพลิกตัวคลานไปเก็บแก้วที่แตกร้าวตรงหน้า ทว่าครู่เดียว ภาพก็ตัดมาที่เตียง
เสื้อผ้าถูกถอดออกไปตอนไหนไม่รู้ ไม่นานตัวเขาก็สั่นโยกตามจังหวะดิบของอัลฟ่าที่อยู่บนร่าง อีกฝ่ายถึงไม่สวมหน้ากากหมาป่าสีดำ เกี๊ยวก็มองไม่ชัดอยู่แล้ว แล้วพอสวมหน้ากากเช่นนี้
เกี๊ยวเดาไม่ออกเลยว่าเสียตัวให้ใคร รับรู้แค่อัลฟ่าคนนี้ดุดัน บดเบียดเสียจนช่องทางของเขาร้อนผ่าว เสียงเปียกแฉะ และเสียงหอบกระชั้นดังกึกก้องเข้าไปในโซนประสาทหู ทำให้เคลิบเคลิ้ม
ไม่อาจต่อต้านได้เลย ร่างเล็กจึงปล่อยเลยตามเลย ให้อัลฟ่าร่างกำยำ บดขยี้รูครั้งแล้วครั้งเล่า มันทั้งจุกเสียดและเสียววาบในเวลาเดียวกัน
ตั่บ แจ๊ะ ตั่บ แจ๊ะ แจ๊ะ~
“อืมม...”
“อึก อ๊าส์!”
เมื่ออัลฟ่าที่มีกลิ่นอายของความน่าเกรงขามและอาวุธร้ายร้อนระอุใหญ่โต ตำรูกระทั่งหนำใจ
ฝ่ายนั้นก็จากไปโดยไม่บอกกล่าว
ซึ่งเกี๊ยวก็ไม่อยากรู้จักคนคนนั้นหรอก ทว่าพอผ่านมาสามเดือน ร่างกายเขามันแปลกๆ เป็นลมบ่อย กินข้าวไม่ลง อยากแต่ของเปรี้ยวๆ
เขาจึงไปหาหมอและเล่าตามนี้ แต่หมอกลับถามว่าหมดประจำเดือนครั้งสุดท้ายเมื่อไร
เกี๊ยวจึงชี้หน้าด่ากราดหมอ ใช่แล้วช่วงนี้เขาอารมณ์แปรปรวน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เขาจึงกล้าด่าหมอว่า “ประสาทหรือเปล่า เขาเป็นเบต้านะ!”
“ครับ แต่คุณตั้งครรภ์ได้ 13 สัปดาห์แล้ว”
“...” เกี๊ยวอึ้ง กลับถึงบ้านเขาก็นั่งหน้าเครียด ช่วงนี้พ่อเลี้ยงไม่ค่อยกลับบ้านเพราะกำลังทำคดีใหญ่ เกี๊ยวคิดอย่างหนัก ว่าตามหาพ่อเด็กดีไหม
หรือทำแท้งดี?
แต่ก็สงสารเด็กที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่
เกี๊ยวนึกย้อนไปบ่ายวันหนึ่ง แม่บอกว่าเดี๋ยวไปตลาดนัดแป๊บหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่กลับมา!
เขาได้แต่นั่งด่าตัวเอง กระทั่งสี่ทุ่มครึ่งอาชากลับมาบ้าน เกี๊ยวที่นั่งนิ่งอยู่ตรงปลายเตียง
ไม่ขยับเขยื้อนไปไหนเลย มองอาชาในชุดตำรวจนอกเครื่องแบบสาวเท้าเข้ามาในห้องนอนของเขา เกี๊ยวรู้ดีว่าอาชามาห้องนี้เพราะอะไร
เกี๊ยวลุกถอดกางเกงตัวนอกและในต่อด้วยเสื้อเชิ้ต หน้าอกของเขาตอนนี้อวบอิ่มขึ้น ท้องก็ป่องนิดหน่อย ทั้งหมดนี้เขาไม่ทันได้สังเกตเลย
“ทำไมวันนี้รีบร้อนจังล่ะ” อาชาอัลฟ่าที่อายุเลขสี่นำหน้าแล้ว ทว่ามองมุมไหนก็หล่อเหลา
และดูเข้มงวดมาก เสียจนโอเมก้าน้อยใหญ่ยอมเป็นทาสรักทาสเซ็กซ์ แต่เพราะถูกหักหลัง
อาชาจึงไม่คิดมีใครอีก เขาเห็นว่าเนินอกอีกคนดูอวบขึ้น จึงตรงเข้าไปขย้ำด้วยมือ ด้วยปาก
จุ๊บ จ๊วบ จ๊วบ...
“อึก อื้อ!” เกี๊ยวร้องลั่นพร้อมกะพริบตาปริบๆ เนื่องจากเจ็บจี๊ดและเสียววูบวาบบริเวณเต้านม
“อูย แด๊ดดี้อย่าคลึงสิ”
“ของฉัน ฉันจะทำอะไรกับมันก็ได้”
“...” เกี๊ยวกลืนน้ำลาย เขานั่งคุกเข่าอยู่กลางเตียง ส่วนอาชาค้อมตัวลงมาขบปลายยอดถัก
ลิ้นขยี้หัวนม สลับกับดูดดึงอย่างเอาแต่ใจ แต่ที่แตกต่างไปจากเดิมคือวันนี้จมูกของเกี๊ยวได้กลิ่นของพ่อเลี้ยง นอกจากรุนแรงแล้ว
มันยังโรมรันอยู่รอบตัวเขา
“เอาหมอนมารองก้น แล้วก็ถ่างขาให้ฉันเลียมันเดี๋ยวนี้” อาชาเอ่ยเสียงดุ ลูกกระเดือกขยับขึ้นลงกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก “จะเลียไม่เลี้ยง”
.
.
“ห้ะ...งั้นก็แสดงว่าตรงนี้ถูกใช้งานแล้วเหรอ ฮึ! อีตัวดี มาให้กูทำโทษตรงนี้ของมึงเดี๋ยวนี้!”
พ่อเลี้ยง = เย็บไม่เลี้ยง 🥵🥵🥵