La-Ong-Prai’ s Part
สวัสดีค่ะ ฉันชื่อละอองไพร
รับหน้าที่เป็นคนรับคนมาเข้าพักที่รีสอร์ท แน่นอนว่าย่อมมีคุณสมบัติที่จะสื่อสารกับลูกค้า ต้องใช้ภาษาสากลได้
ใช่ ฉันฟังภาษาอังกฤษออก
แต่ในเมื่อมีคนพูดไทยได้แล้วฉันก็ไม่อยากคุยกับฝรั่ง นี่ก็สิทธิของฉัน
หลังจากเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น ฉันเลยไม่ค่อยรับชาวต่างชาติเอง ครั้งนี้เป็นชื่อคนไทยจองเลยไม่คิดว่าจะมีชาวต่างชาติมาด้วย
มีบ้างถ้ามีชาวต่างชาติมา ก็จะให้พี่ชายฉัน (บอยบูด) เป็นคนดูแลแทน ผู้ชายคุยกันน่าจะเข้าใจมากกว่าด้วย แบบ ‘แมนๆ คุยกัน’ ไง
หลังจากเดินผละจากสองคนนั้นฉันก็เดินกลับบ้าน
บ้านเดี่ยวของฉันมีทางเดินขั้นบันไดไปจากหลังร้านอาหาร
อยู่ทางเหนือขึ้นไปจากตัวกลุ่มบ้านพักของรีสอร์ท มองมาจากระเบียงบ้านฉันจะเห็นบ้านพักทุกหลัง รวมไปถึงร้านอาหารและเรือนใหญ่ด้วย
ส่วนพ่อแม่กับป้าๆ (แม่ใหญ่ ป้าเฮือน) ลุงๆ (พ่อใหญ่ ลุงรัล) อยู่อีกหลัง เลยร้านอาหารไป เป็นสวรรค์ของแม่ ปลูกต้นไม้สารพัดชนิดเต็มไปหมด
ฉันเดินมาถึงหน้าบ้านก็ปลดสลักประตูเข้าบ้าน กดสลักกลับ
นี่เป็นสลักไม้แบบที่ลุงฉัน (พ่อใหญ่) เป็นคนสร้างขึ้น เหมือนทุกอย่างในรีสอร์ทนี้
ต้องดันประตูเข้าให้ลงล็อคแล้วลงโลหะเข้าร่อง จบด้วยเลื่อนสลักไม้สองข้างล็อคเข้าที่แท่งโลหะอีกรอบ ทำให้ไม่สามารถเปิดจากข้างนอกได้
ถอดรองเท้าใส่ในชั้นที่เจาะเข้าผนังให้เรียบร้อย
ฉันไม่ชอบบ้านพื้นไม้ พื้นบ้านเลยเป็นกระเบื้องพื้นสีคาสเทลโล เกรย์ ทั้งหมด ยกเว้นพื้นห้องน้ำเป็นหินอ่อน
การตกแต่งที่เหลือเป็นการผสานการใช้ไม้กับการตกแต่งแบบ Build – in
บ้านฉันมีห้องสามห้อง ห้องหนึ่งเล็ก อีกห้องใหญ่มาก แล้วก็ห้องน้ำ
ห้องเล็กคือห้องนอนฉัน ห้องใหญ่คือห้องหนังสือ
ฉันอาบน้ำสระผมแล้วมานั่งเป่าพัดลมที่โต๊ะทำงานในห้องนอน
เปิดซีรีย์สัญชาติอังกฤษจากคอมดูไปด้วย
แต่แล้วก็ต้องนั่งเหม่อเมื่อเห็นตัวละครหนึ่งทำผมคล้ายๆ กับฝรั่งที่พึ่งเจอ
จะผิดกันก็แต่ดวงตาสีฟ้าเข้มของคนที่เพิ่งเจอมันดูซื่อตรงกว่า ก็เท่านั้น..
ไม่ว่าจะกับสิ่งไหนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แล้วทำให้ฉันรู้สึกกลัว
เพียงแค่เรียนรู้ที่จะรับมือแล้วรู้ว่าตัวเองควบคุมมันได้ก็จะหายกลัวเอง
แต่กับคนด้วยกัน คนที่ไม่อยากพบเจอกลับต้องเจอ น่ากลัวจะยาก
...ผมแห้งแล้วล่ะ
วันนี้เหนื่อยแล้ว พักผ่อนเอาแรง พรุ่งนี้ค่อยเริ่มใหม่
ฝันดีค่ะ
เช้าของวันต่อมา ฉันตื่นแต่เช้ามืด สวมเสื้อผ้าแบบที่มียี่สิบชุดในตู้เสื้อผ้า คือชุดม่อฮ้อมแบบกางเกงยางยืดกับเสื้อแบบมีกระดุมเลยเข้ามาคล้ายแบบของจีน เวลาก้มจะได้ไม่โป๊
แต่งตัว รวบผมด้วยปิ่นไม้ที่ลุงทำให้เสร็จก็ออกจากบ้านเดินไปที่ร้านอาหาร หลังร้านอาหารจะเป็นครัวอาหารเมือง ไปช่วยป้าๆ ทำอาหารของแต่ละวัน
ป้าเฮือนกำลังสอดไม้ก่อไฟนึ่งข้าวเหนียวที่แช่ไว้เมื่อคืน
“วันนี้ป้าแป๋งหยังกิ๋นเจ้า”
/วันนี้ป้าทำอะไรกินจ๊ะ/
“อ้อ อองกะลูก วันนี้แป๋งปู๋อ่อง แก๋งบะหนุน ต๋ำบะหนุน ตะวาได้บะหนุนมาหลายแก่น”
/วันนี้ทำปูอ่อง แกงขนุน ตำขนุน เมื่อวานได้ขนุนมาหลายลูกเลย/
ฉันหัวเราะเบาๆ
“ดีละเจ้า น้องไค่อยากอยู่ น้องเด็ดไปใบมะขูดหื้อเน้อ”
/ดีแล้วค่ะ น้องกำลังอยากกินเลย เดี๋ยวไปเด็ดใบมะกรูดให้นะคะ/
ป้ายิ้มให้ พยักหน้า
“เอากะ ผ่อหนามดีๆ”
/เอาสิ ระวังหนามด้วยนะลูก/
“เจ้า” ฉันขานรับเสียงใส
ฉันเดินไปหลังร้านปลูกต้นไม้ไว้เยอะแยะมีต้นมะกรูดอยู่ด้วย หยิบหูฟังไร้สายเสียบหูข้างหนึ่ง กดเปิดเพลงแล้วค่อยๆ เด็ดใบมะกรูดใส่ตะกร้า
ฮัมเพลงเบาๆ อย่างเคย
พอเด็ดจากต้นเสร็จก็มานั่งที่พื้นกระเบื้องหลังครัว ฉีกใบมะกรูดให้หอม
แล้ววางตะกร้าไว้บนเคาท์เตอร์ อันที่จริงป้าเรียกโต๊ะเฉยๆ เป็นโต๊ะไม้
ป้ายกซึ้งมากลับด้านข้าวแบบพลิกกลับกลางอากาศลงมาในซึ้ง เป็นการนึ่งข้าวแบบดั้งเดิมตั้งแต่ยายเป็นสาว
ป้าเฮือนไม่ใช่ป้าแท้ๆ ของฉันหรอก เป็นป้าสะใภ้น่ะ แต่ป้าก็เลี้ยงฉันมาตอนเป็นเด็ก ฉันรักแกมากเลยล่ะ
หลังฉันจัดการใบมะกรูดเสร็จ ป้าๆ คนอื่นๆ ก็มาช่วยกันโขลกพริกแกงใหม่ๆ เตรียมวัตถุดิบทำอาหารวันนี้ทั้งเมนูพิเศษแล้วก็อาหารตามสั่งทั่วไป
ให้ฉันแนะนำนะ
หัวหน้าแม่ครัวมีสองคน ป้าเฮือน กับแม่ใหญ่ (พี่สาวแท้ๆ ของแม่ฉัน เป็นแม่คนที่สองของฉัน) ป้าน้อย (น้องสาวของป้าเฮือน) ป้าเพ็ญกับป้าลอย เพื่อนๆ กันกับป้าๆ อาศัยอยู่ละแวกเดียวกันมารับช่วยงาน
อาหารเมนูต่างๆ ของเราได้วัตถุดิบมาจากลุงๆ ป้าๆ ในแถบนี้เอามาขายบ้างเอามาให้บ้าง
ฉันสร้างรีสอร์ทนี้มาก็เพื่อการนี้ อยากให้ลุงๆ ป้าๆ มีรายได้โดยไม่ต้องไปลำบากหาเงินในเมือง อยากให้ดูแลสวนของตัวเองให้ดี ไม่อยากให้ขายมัน
อืม อ่านถูกแล้ว ฉันเป็นคนสนับสนุนการสร้างรีสอร์ทนี้เอง
แผนการสร้างรีสอร์ทบนพื้นที่ของเราคิดไว้ตั้งแต่ฉันเรียนมอปลาย โดยพ่อแม่แล้วก็ลุง (พ่อใหญ่ สามีของแม่ใหญ่) ของฉัน พ่อใหญ่เป็นสล่า หรือช่างฝีมือล้านนา รับทำเฟอร์นิเจอร์ เครื่องประดับหรือแม้แต่อุปกรณ์เล็กๆ น้อยๆ อย่าง แก้วน้ำไม้ไผ่ ตะเกียบ หรือช้อน ให้โรงแรมใหญ่ๆ มามากมาย ตอนนี้อยากหาหลักในชีวิตให้ฉัน เพราะแม่ให้ชื่อเจ้าของที่ดินนี้เป็นชื่อฉัน แล้วฉันเองก็เห็นด้วย
ทีมของพ่อใหญ่มีลุงแท้ๆ ของฉันอีกคน (สามีป้าเฮือน) ชื่อ ลุงรัล/จรัล เริ่มต้นทำรีสอร์ทตอนฉันเรียนมหา’ ลัย พอฉันจบมหา’ ลัยมาก็มาช่วยดูแลการสร้างทันที
เราเพิ่งจะเปิดรับลูกค้ามาได้หนึ่งปีเท่านั้น
แต่ก่อนหน้านี้ก็ผ่านอะไรมาเยอะ เห็นอะไรมามาก แล้วก็ได้ฟังอะไรมาหลายๆ อย่างเลย จากพวกลุงๆ ป้าๆ ในชุมชนของเรา
ตอนนี้พระอาทิตย์เริ่มขึ้นแล้ว แสงแดดอุ่นๆ ก็ทำให้ใบไม้ที่มีน้ำค้างแห้งลง
เหล่าป้าๆ มือก็ทำงานของตัวเอง เสียงพูดคุยเฮฮากอสซิปคนนู้นคนนี้ตามประสาชีวิตชนบทที่รู้จักกันไปหมดก็พูดถึงกันได้ทั้งวัน
ฉันมานั่งอ่านหนังสือที่ห้องหลังส่วนที่เป็นเคาท์เตอร์ นี่คือเวลาสงบสุข
La-Ong-Prai’ s Part End