ทีนี้ก็กลับไปคิดดีๆ ว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้

995 Words
“ยัยหมูนั่นฉันเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กคงจะคิดอะไรลงหรอก แต่เดี๋ยวนะ พูดแบบนี้ คงไม่ได้ตกหลุมยัยหมูนั่นหรอกนะ” บอยมองด้วยสายตาจับผิด เอซหลบตาอย่างรวดเร็ว บอยเป่าปากวี้ดวิ้ว “อะไรเล่า” หนุ่มนอร์เวย์เบนหน้าหนี “เอซเองก็หน้าตาดี น่าจะหาได้ดีกว่ายัยหมูซีดจางเยอะน่า อย่าไปชอบมันเลย” พี่ชายหัวเราะพูดด้วยเหมือนติดจะหวงน้องอยู่หน่อยๆ “ละอองน่ารักจะตาย ผมชอบเธอไม่ได้เหรอ แล้วทำไมเรียกว่าหมู หมูคือ pig? เธอออกจะหุ่นกำลังดี ไม่เห็นอ้วนเลย ทำไมบูลลี่น้องตัวเอง” เอซไม่เข้าใจ พงศ์นี่เฟดตัวเองออกไปหาป้าๆ เลย ปล่อยให้มันเคลียร์กับพี่ชายสาวเจ้าเอาเอง “ตอนเด็กๆ อ้วน แบบกอดนุ่มเลยไม่เชิงบูลลี่หรอก เรียกเพราะสนิทมากกว่า” หนุ่มไทยพยายามอธิบายฝรั่ง แต่ก็ไม่สามารถเบนความสนใจของเขาได้ “นายยังไม่บอกเลยว่าทำไมผมชอบละอองไม่ได้” “เอาน่า อย่าไปชอบเลย ใจแข็งยังกับอะไร ใช้ชีวิตมาจนถึงตอนนี้ยังไม่เคยคบใครเลยสักคน ใช้ชีวิตซีดจางสุดๆ เรียน กลับบ้าน ดูหนังฟังเพลงคนเดียว แล้วก็นอน ไม่เที่ยวไม่ดื่มไม่สูบไม่เสพไม่ปาร์ตี้ ชีวิตไร้สีสันสุดๆ” บอยถอดถุงมือหยิบขวดน้ำเปิดส่งให้พงศ์กับเอซ ก่อนจะเปิดดื่มเองอีกขวด งานเสร็จสามหนุ่มเลยพากันมานั่งที่ม้านั่งใกล้ๆ บ้านใหญ่ของเจ้าของรีสอร์ทตัวจริง คือพ่อแม่ของละอองนั่นเอง “ทั้งที่นายบอกว่าเธอซีดจางแต่เธอดูไม่ไร้เดียงสาเลยนะ” เอซถามต่อ “ก็คงงั้น อองชอบอ่านหนังสือ ในบ้านพักยังมีห้องสมุดเลย คงจะเรียนรู้จากตรงนั้นละมั้ง” คนเป็นพี่ชายนั่งไขว่ห้างพูดไปชิลๆ “ฉันสูบบุหรี่ได้ไหม” สองหนุ่มพยักหน้า บอยพยักหน้าขอบใจ มือก็เคาะบุหรี่ออกจากซองจุดไฟสูดนิโคตินเข้าปอด พงศ์มองไปข้างหน้าแล้วเห็นเหมือนเป็นขั้นบันไดจากด้านข้านของบ้านลางๆ จากควันบุหรี่ เลยถาม “คุณ บันไดนั่นพาไปไหนเหรอ” “บ้านออง แต่อย่าคิดจะขึ้นไปเชียวนะ” คนที่พูดสบายๆ มาตลอด ตอนนี้พูดเสียงเฉียบขาด สายตาดุๆ ที่ได้เห็นเป็นครั้งแรกจากคนคนนี้ ทำให้สองหนุ่มพยักหน้ารับแทบไม่ทัน บอยพยักหน้าพอใจ เงียบสูบบุหรี่ไปครู่หนึ่ง แต่จู่ๆ เขาก็ถามขึ้น “เอซชอบละอองเหรอ ชอบตรงไหนล่ะ” เอซเรียบเรียงคำพูด แล้วพูดไปชัดเจนไม่ปิดบังว่ายังไม่แน่ใจ “ไม่รู้ว่าชอบมากแค่ไหน แต่รู้ว่าหัวใจกระตุกแรงๆ ทุกครั้งที่เจอเลย สวย น่ารัก แต่ใจแข็งมาก” “หึ ถ้าจีบจริงจะเจอยิ่งกว่านี้ เห็นว่าถูกชะตานะ จะบอกอะไรให้ อองเกลียดชาวต่างชาติแบบสุดๆ ประมาณมามีเรื่องมาก่อน บอกได้เท่านี้ล่ะ ทีนี้ก็กลับไปคิดดีๆ ว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้” บอยทิ้งท้ายไว้ให้ก่อนจะเดินกลับบ้าน พงศ์มองหน้าเพื่อนที่นั่งเก้าอี้ในบ้านพัก ไม่ต้องเข้าไปในสมองมันก็รู้ว่าตอนนี้กำลังนึกถึงคำพูดของบอยอยู่ “ทำไมต้องเกลียดชาวต่างชาติ? เคยโดยหักอกเหรอ? แต่บอยบอกว่าไม่เคยมีแฟนนี่ ไม่เข้าใจเลย” เอซยีหัวตัวเองทีนึง “เอาน่า ตอนนี้สิ่งที่แกต้องทำไม่ใช่การตั้งคำถามว่าทำไมเขาเกลียดใครหรือเคยคบใคร แต่ต้องถามตัวเองว่าชอบเขาจริงไหม จะไปต่อหรือพอแค่นี้ พี่ชายเขาแนะนำมาแล้วก็ทำตามซะ” พงศ์พูดกับเพื่อน ตบบ่าเบาๆ “อืม ขอบใจ” ตอนนั้นมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างสุภาพ เอซรีบลุกจากเก้าอี้ไปเปิดประตู ทันทีที่เห็นสาวเจ้ายืนหน้าประตูริมฝีปากก็โค้งเป็นรอยยิ้มละมุนปนดีใจ ตรงข้ามกับสาวเหนือที่ยกมือไหว้สวยงามด้วยใบหน้าเรียบเฉย เห็นเพื่อนหน้าเจื่อนพงศ์เลยเดินเข้ามาหาแทน “ฉันจะมาแจ้งน่ะค่ะ วันมะรืนวัดที่หมู่บ้านใกล้ๆ จะจัดปอยหลวง ถ้าอยากเที่ยวก็สามารถไปได้นะคะ” ละอองขบริมฝีปากก่อนจะพูดประโยคต่อไปแบบขัดใจตัวเอง “ป้าเฮือนให้มาบอกว่า บ้านเราจะทำโรงทานด้วย ถ้าอยากช่วยแบบวันนี้ก็มาช่วยได้ค่ะ” พงศ์ยิ้ม แปลให้เอซเร็วๆ “แล้วคุณไปช่วยไหมครับ” เอซโพล่งออกไป ทำให้ละอองลืมตัวว่าต้องแกล้งฟังไม่ออก หันไปมองทันที แต่ก็รีบหันกลับมาไม่ให้เขารู้ว่าฟังออก เห็นสาวเจ้าเงียบพงศ์เลยต้องแปลให้อีกครั้ง “ฉันไปช่วยค่ะ ถ้าพวกคุณลำบากก็แค่ไปเดินเที่ยวก็พอนะคะ ในงานมีการซอ เป็นการขับร้องด้วยภาษาเมือง มีการขายอาหารขนมต่างๆ ด้วย ถ้ามาช่วยอาจจะไม่ได้เที่ยวนะ” แน่นอนว่าเอซไม่รู้เรื่อง เขาพูดขึ้นมาอีกครั้งว่า “ผมไปครับ” ละอองเม้มปากแล้วขอตัวกลับ กลัวจะแสดงอะไรไม่มีมารยาทออกไป “ยังไงถ้าอยากไปช่วยก็ไปหาป้าเฮือนได้ค่ะ ฉันขอตัวนะคะ” เธอยกมือไหว้อีกครั้งแล้วเดินจากไป พงศ์มองเพื่อนที่มองตามหลังไปจนเธอลับสายตา ตบบ่าเพื่อน “บอยบอกแล้วใช่ไหมว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ เธอใจแข็งมาก” “ขอลองไปช่วยงานครั้งนี้อีกครั้งก็แล้วกัน” “เอาสิ แต่ครั้งนี้ต้องได้คำตอบแล้วนะ” เอซถอนหายใจ “อืม”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD