ทุ่งดอกไม้และการนอน 'ห้าง'

846 Words
เช้าวันถัดมา สองหนุ่มเตรียมตัวไปดูทุ่งดอกไม้ช่วงสายๆ พอแต่งตัวสบายๆ เสร็จแล้วก็เดินมาที่หน้าเรือนใหญ่ก็มีรถของคุณลุงคนเดิมที่ไปรับที่ตีนดอยวันแรกที่พวกเขามาพักที่นี่ ข้างๆ รถมีสาวน้อยแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดด้วยเสื้อครอปเอวลอยกับกางเกงขาสั้นสีสันสดใสคนหนึ่งยืนยิ้มหวานมาทางพวกเขา “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อน้ำหวาน จะมารับเป็นไกด์นำเที่ยววันนี้ค่ะ ลุงที่ขับรถชื่อเรือง” เสียงแหลมติดหวานจากสาวน้อยดัดฟันยางสีแดงสด เป็นภาษาอังกฤษที่ฟังดูดีทีเดียว เธอเป็นคนน่ารักสดใสดียิ้มหวานเชียว “พี่ชื่อพงส์ เพื่อนพี่ชื่อเอซ ฝากตัวด้วยล่ะ” สองหนุ่มยิ้มเป็นมิตร ทำความรู้จักกันเสร็จก็เริ่มเดินทาง ระหว่างทางสองหนุ่มนั่งกระบะหลังที่ครั้งนี้ไม่มีไม้จุอยู่เต็มเหมือนครั้งก่อนแล้ว สาวน้อยน้ำหวานถูกลุงเรืองลากมานั่งข้างคนขับหลังจากที่เธอรบเร้าจะนั่งกระบะกับหนุ่มๆ เอซค่อนข้างโล่งอก ไม่รู้ทำไมเขาสัมผัสได้ว่าน้ำหวานมองเขาแปลกๆ ไม่ใช่แบบไม่ชอบ แต่ถึงเป็นแบบนั้นน่าจะยังดีซะกว่า ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนกำลังโดน ‘เล็ง’ พอมองเข้าไปที่ห้องคนขับก็สบเข้ากับสายตาหวานหยาดเยิ้มของคนที่นึกกลัวจนหันหน้ากลับแทบไม่ทัน แล้วการเที่ยวทุ่งดอกไม้ก็เป็นไปในแบบที่เขาไม่มีวันลืม.. “คุณเอซคะ นั่นดอกไฮเดรนเยียค่ะ สวยใช่ไหมคะ มาน้ำหวานถ่ายรูปให้” “คุณเอซคะ ดอกทานตะวันค่ะ สดใสพอๆ กับน้ำหวานเลยเนอะ ฮ่าๆ” “คุณพงศ์คะ น้ำหวานรบกวนถ่ายรูปคู่ให้น้ำหวานได้ไหมคะ น้าๆ” “คุณเอซค่ะ ดอกคัตเตอร์ขาวค่ะ จับจะบาดมือไหมคะ ฮ่ะๆๆ” “คุณเอซเหนื่อยไหมคะ น้ำหวานไปซื้อน้ำให้ คุณเอซชอบดื่มอะไรคะ” “คุณเอซมาจากประเทศอะไรเหรอคะ ชอบผู้หญิงไทยรึเปล่า” “คุณพงศ์เป็นเพื่อนกับคุณเอซมานานแล้วเหรอคะ ดูสนิทกันจัง” “คุณเอซอยากถ่ายรูปตรงโน้นไหมคะ น้ำหวานถ่ายให้” “คุณเอซๆๆๆๆๆๆ ....” ตอนนี้พงศ์รู้สึกใกล้จะไร้ตัวตนแบบสุดๆ แต่ที่หนักกว่าคือเอซ เขาอยากกลับรีสอร์ทสุดๆ เลยส่งสัญญาณให้พงศ์ไปเตรียมรถกับลุงเรืองจะได้รีบกลับสักที กลับมาถึงรีสอร์ทได้สักที สองหนุ่มแอบถอนหายใจโล่งอก น้ำหวานทำท่าทีเหมือนเสียดายแต่พอได้ทิปพร้อมยิ้มหล่อๆ ก็ยอมกลับบ้านพร้อมลุงเรืองแต่โดยดี ถึงเธอจะพูดมากไปหน่อย แต่การนำเที่ยวโดยน้ำหวานก็ทำให้เขาพอเข้าใจอะไรๆ มากขึ้นโดยที่ไม่ต้องลำบากพงศ์ทั้งหมด สองหนุ่มกลับมาถึงแล้วก็เข้าบ้านพักมาพักผ่อนเอาแรง นัดกับหนุ่มเหนือเจ้าถิ่นไว้ว่าจะไปเดินป่าค้างกันสักคืน คืนนั้นเวลาสี่ทุ่มเป็นเวลานัดของพวกเขา บอยลงดอยมารับสองหนุ่มที่อยู่ในชุดพร้อมเดินป่า “ฉันกับลุงรัลทำ ‘ห้าง’ คือการเอาไม้ไปขัดบนกิ่งไม้ใหญ่แล้วขึ้นไปส่องสัตว์จากบนนั้น ตอนนี้ห้างพร้อมแล้วเลยลงมารับไป” “เราทำได้ในทุกต้นเลยเหรอ” เอซถาม “เราจะทำบนต้นไม้ที่แข็งแรงแล้วก็ต้องเป็นต้นที่มีผล เพราะสัตว์ต่างๆ จะมากินผลไม้ที่ตกลงไปจากต้น อย่างต้นมะกอก มะม่วงป่า หรืออยู่ใกล้ๆ กอไผ่ สัตว์อย่างฟาน หมูป่า เก้ง จะกินพวกหน่อด้วย บางทีก็ทำบนต้นที่มีดินโป่งหรือผลไม้เปลือกแข็ง” บอยบรรยายแต่ก็ต้องใช้ภาษามือชี้ต้นไม้ประกอบแล้วก็ได้ความช่วยเหลือจากพงศ์ในบางคำศัพท์ด้วย แต่ทั้งหมดนั้นก็ไม่เป็นปัญหากับสามหนุ่ม “แล้วพวกนกล่ะ ได้ยินว่ามีคนยิงนกด้วยนี่” เอซถามต่อ “ออ นกเหรอ ส่วนใหญ่นกจะยิงกลางวันนะ นกก็จะอยู่แถวต้นไทร ภาษาเหนือเรียก ‘ไม้ไห่’ แล้วก็ต้นมะเดื่อเป็นส่วนใหญ่” แล้วหนุ่มเหนือก็ถามต่อคนถาม “นายเคยเห็นชะนีในป่าไหม” “ไม่ เคยเห็นแค่ในสวนสัตว์” สองหนุ่มส่ายหน้า บอยยิ้ม “ถ้าโชคดีเราอาจจะเห็นสักวัน ชะนีจะมากินผลไม้ ใบไม้ แมลงบนเปลือกไม้” สองหนุ่มตาเป็นประกาย ตอนมาครั้งแรกพวกเขาก็ไม่ได้หวังอะไรมากมาย แต่พอได้สัมผัสกับป่าอันอุดมสมบูรณ์ของภาคเหนือประเทศไทย ประกอบกับคนนำเดินเที่ยวพูดคุยสนุกเป็นกันเองให้ความรู้มากมายแบบที่ในตำราไหนๆ ก็ไม่มีบอก ทำเอาพวกเขาหลงเสน่ห์ที่นี่เข้าเต็มๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD