พอกลับมาตอนเช้ามืดสภาพสองหนุ่มเละเทะเหนื่อยอ่อน อาบน้ำเสร็จก็แทบจะสลบคาเตียง
เมื่อคืนพวกเขาเห็นหมูป่าตัวเบ่อเร่อเดินผ่านตอนที่พงศ์เกือบจะสัปหงก เอซสะกิดเพื่อนดู ตื่นตาตื่นใจกันสุดๆ แถมเช้ามืดที่เดินกลับยังเห็นไก่ป่าขันต่อหน้าต่อตาเลย เป็นการเดินป่าที่สนุกมาก แต่ก็เหนื่อยมากเหมือนกัน เพราะต้องเข้าป่าลึก
พอตื่นมาตะวันก็อยู่กลางศีรษะแล้ว
เอซเขย่าตัวเพื่อน
“พงศ์ๆ ต้องไปช่วยงานป้าเฮือน”
“เออๆ จะหาข้ออ้างไปเจอสาวก็ต้องลากเพื่อนไปด้วย”
“ก็เธอไม่ยอมพูดด้วยเลยนี่ น่า ช่วยกันหน่อย”
พงศ์จำต้องยอมลุกมาแต่งตัว สละเตียงนุ่มๆ ออกมาเป็นเพื่อนหนุ่มนอร์เวย์ค้นหัวใจตัวเอง
เดินออกมาจากบ้านพักก็เจอลุงรัล พงศ์จึงถามว่าถ้าจะไปช่วยป้าเฮือนทำโรงทานต้องไปที่ไหน ลุงรัลเลยพาไปลานใกล้วัดที่จัดปอยหลวงด้วยรถกระบะของรีสอร์ท
สถานที่จัดงานอยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ทนัก แต่ด้วยความที่เป็นพื้นที่ในภูเขาจึงมีโค้งและเนินมากไปสักหน่อย
พอพวกเขาเดินเข้ามาที่ลานจัดโรงทานก็เห็นซุ้มที่รีสอร์ทจัดโรงทาน
ซุ้มของทางรีสอร์ทจัดแจกทั้งอาหารคาวหวานและเครื่องดื่ม
เป็นเฟรนช์ฟรายส์ราดซอสชีส ไก่ทอด ผัดไทย ไอศกรีมหลากรส กับน้ำสมุนไพรหลายชนิดแบบเย็นๆ ชื่นใจ
ละอองช่วยจัดของเตรียมช่วงคนใกล้จะมาเยอะแล้วมาช่วยคนตักของทอดใส่ถ้วยแจกชาวบ้านด้วยรอยยิ้มหวาน
ป้าเฮือนเห็นสองหนุ่มเลยเรียกไปช่วย
“อ้ายหนุ่มมาแต๊ตวย มาๆ ตักไก่ทอดขึ้นหื้อน้องอองจัดแจกบ๋อ”
(สองหนุ่มมาจริงด้วย มาๆ ตักไก่ทอดให้ละอองแจกดีกว่า)
สองหนุ่มพยักหน้ายินดี เดินเข้ามาช่วยด้วยความเต็มใจ
ในขณะที่ละอองพยายามออกห่างหนุ่มฝรั่ง ด้วยความเป็นเพื่อนที่ดี
พงศ์เลยช่วยเพื่อนโดยหนีไปตักไอศกรีมแจกแทนทำให้เอซต้องตักอาหารแจกกับละออง
เอซเป็นคนตักของทอดให้สาวเหนือส่งต่ออาหารกับผู้คน ชาวบ้านแถวนั้น เอซนึกดีใจที่เป็นคนโดนน้ำมันร้อนๆ แทน แค่คิดว่าผิวขาวนวลเนียนนั้นจะโดนน้ำมันร้อนกระเด็นใส่ก็ทนไม่ได้แล้ว
“โฮ่ น้องออง ป้ากำลังอยากกิ๋นเลย ขอบคุณขนาดเน้อน้อง”
ละอองยิ้มหวาน
“บ่อเป๋นหยังเจ้า ไค่อยากหยังบอกน้องได้หนา ถ้าน้องลงไปในเวียงแล้วจะซื้อมาปั๋น”
(ไม่เป็นไรค่ะ อยากกินอะไรบอกหนูได้นะ ถ้าเข้าไปในเมืองแล้วจะซื้อมาฝาก)
เธอพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน รอยยิ้มหวานคำพูดคำจาน่ารักของเธอทำเอาเอซมองตาค้าง
จากนั้นก็มีบทสนทนาประมาณนี้เกินขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน
ทำให้เอซที่แม้จะฟังไม่ออกทั้งหมด แต่ก็รู้ว่าสาวเหนือคนนี้เป็นที่รักที่เอ็นดูของชาวบ้านละแวกนี้เป็นอย่างมาก และรอยยิ้มกับเสียงหวานๆ ช่างแตกต่างกับตอนที่พูดกับเขาราวฟ้ากับเหว
คิดแล้วหนุ่มนอร์เวย์ก็ถอนหายใจอีกครั้ง
ละอองเห็นแบบนั้นก็เข้าใจผิดคิดว่าเขาเบื่องาน จึงชี้ไปที่ศาลาให้เขาไปนั่งพัก ในแววตาของเธอไม่มีร่องรอยของความไม่พอใจ แต่ดูเหมือนเธอจะเป็นห่วงเขาอยู่หน่อยๆ ด้วยซ้ำ
เอซส่ายหน้าส่งยิ้มให้เธอ ประจวบกับเวลานั้นมีชายคนหนึ่งแต่งตัวดูดีกว่าชาวบ้านทั่วไปเดินเข้ามาหาที่ซุ้ม
“น้องออง อ้ายจ่วยบ๋อ” (พี่ช่วยไหม)
ชายหนุ่มเป็นคนร่างสูง ผิวขาวเหลืองแต่งกายดูดี หน้าตาหล่อแบบตี๋ๆ
เขาเดินเข้ามาสวัสดีผู้ใหญ่พร้อมกับคุยกับสาวเหนือที่เขาต้องใจด้วยสายตาละมุน
ให้พนันด้วยไอศกรีมทั้งตู้นั้น ผู้ชายคนนี้ต้องคิดอะไรกับเธอมากกว่าพี่น้องแน่
“อ้ายปิง สวัสดีเจ้า” เธอยกมือไหว้ด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร
หัวใจเอซกระตุก หรือเธอจะชอบผู้ชายคนนี้?
แต่เห็นเธอส่ายหน้าไม่ให้เขามาช่วย แบบนี้หมายความว่าเธอไม่ได้คิดอะไรด้วยรึเปล่านะ
เอซรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอกทันทีที่เธอรับถ้วยไก่ทอดจากมือเขาไปส่งให้เด็กน้อยคนหนึ่ง อย่างยิ้มแย้ม
“กิ๋นแล้วแปรงฟันตวยเน้อ”
เอซเข้าใจได้จากท่ากำมือข้างๆ ปากแล้วยกขึ้นลง
เด็กน้อยขานรับเสียงใสวิ่งเอาถ้วยไก่ทอดไปรวมกินกับเด็กคนอื่น
รอยยิ้มที่เขารู้สึกว่ากว้างขนาดนี้ได้ยังไงก็ไม่รู้ แล้วเกิดขึ้นตอนที่เขาไม่รู้ตัว สายตาเขาจับจ้องที่ร่างบางเจ้าของใบหน้าสวยหวานและกลิ่นหอมละมุนยามอยู่ใกล้ด้วยความอบอุ่น