Liar?

866 Words
ฉันไม่รอดูว่าเขาจะมีท่าทีอะไรกลับมา เดินออกมาจากตรงนั้นทันที ทิ้งชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งยืนสติหลุดกับแค่คำขอบคุณของสาวที่ชอบ อีกคนยืนมองสภาพเพื่อนที่ดูกระจอกขึ้นเยอะเมื่อตกหลุมรัก ตอนที่เดินมาแล้วความคิดในหัวกำลังสบสนนั้นฉันชนเข้ากับคนคนหนึ่ง ตุ้บ! “น้องออง เป๋นอะหยังก่อครับ” “อ้ายปิง” ฉันดันตัวอองจากอ้อมแขนของคนตรงหน้าช้าๆ แต่คงช้ากว่าคนบางคน “คุณทำอะไรเธอน่ะ” ลูกทัวร์ตัวโตรั้งฉันออกมาพร้อมพูดเสียงดังเล็กน้อยใส่ฝ่ายตรงข้าม “ผมแค่ประคอง” อ้ายปิงตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษระดับสื่อสารได้ดี เขาเองก็ได้ร่ำเรียนมาในสถานศึกษาที่ดี มีโอกาสมากกว่าคนบ้านเราอีกหลายคน แต่สิ่งที่ฉันต้องถอนหายใจก็คือสายตาทั้งคู่ที่ดูไม่ยอมกันเลยแม้จะไม่พูดกันสักคำ “เอาเถอะ อ้ายปิง ขอบคุณเน้อเจ้าที่จ้วย อ้ายปอจะหันป้าเฮือนกอว่าลุงรัลก่อเจ้า น้องจะปิ้กบ้าน” (พอจะเห็นลุงกับป้าไหม จะกลับบ้าน) “หันลุงรัลอยู่บ้านลุงนวล น้องจะปิ้กกา อ้ายไปส่งบ๋อ” ฉันยิ้มบาง “บ่อเป็นหยังเจ้า น้องปาแขกปิ้กโตย น้องไปเน้อเจ้า” พุดจบฉันก็ยกมือไหว้ แล้วเดินพาแขกที่ว่าไปที่บ้านที่ให้พวกเขานั่งกินข้าวเมื่อเย็น “ลุงเจ้า ป้อกับแม่ลอ” “แม่มีข้างโบสถ์ อยู่กับป้าเขา ป้อเข้าห้องน้ำ มีโตยลุงเนี่ย” (พ่ออยู่กับลุงนี่แหละ) ฉันพยักหน้ารับ “ลุงส่งน้องปาแขกปิ้กกำได้ก่อเจ้า” “ได้กะ เอ้ย นวล ไปส่งอีน้อยกำเน่อเดวมาแหมใหม่” (ไปส่งหลานน้อยแป๊บเดี๋ยวมา) เราสามคนมาขึ้นรถกระบะของลุง เป็นกระบะสี่ประตูทำให้ไม่ต้องมีใครไปโดนลมหนาวข้างนอก จนมาถึงรีสอร์ท ลุงกลับไปแล้ว ฉันบอกไปว่าพอมาถึงก็แยกกลับบ้านลุงถึงยอมไป ลุงส่งที่หน้าเรือนใหญ่ ฉันถอดเสื้อคลุมคืนเจ้าของ “ขอบคุณนะคะ คุณคงหนาว กลับถึงห้องก็อาบน้ำอุ่นนะ” พงศ์รีบแปลสารให้เพื่อน พอเข้าใจแล้วดวงตาคู่สวยก็กระจ่างขึ้น รอยยิ้มบนใบหน้าดูดีบ่งบอกว่าเขากำลังดีใจ ฉันเม้มปากแล้วรีบตัดบท “มีอะไรก็โทรเบอร์ในใบเช็คของได้นะคะ ฉันขอตัว” La-Ong-Prai’ s Part End หลังสาวเจ้าเดินกลับบ้านไป พงศ์ก็เห็นสายตาเพื่อนเขาที่ละห้อยลงอย่างกับหมาถูกทิ้ง หมาตัวโตเลยหละ ได้แต่ตบบ่าเพื่อน “ไปอาบน้ำแล้วนอนกอดเสื้อคลุมไปเอซ” เหมือนเห็นหูมันกระดิกได้ มันยกเสื้อคลุมขึ้นกอดจริงๆ เขาจะรอแอบดูว่ามันจะแอบดมตอนไหน หึๆ “ขอบใจว่ะ” สองหนุ่มผลัดกันอาบน้ำ พงศ์สวมแว่นตาทำงานที่โต๊ะทำงาน เอซที่พึ่งอาบน้ำเสร็จขยี้ผมกับผ้าขนหนู เดินไปเปิดตู้เย็นจะกินน้ำ “พงศ์ น้ำในตู้หมดแล้วเหรอ” “เออ ใช่ ลืมไปเอา ตอนนี้ที่เรือนใหญ่ปิดไปแล้ว แกโทรไปตามใบนี้สิ” พงศ์วางใบที่ว่าไว้ข้างโต๊ะ เอซกดเบอร์โทรออกไปสามสี่ครั้งก็ยังไม่มีคนรับ ลองเดินออกไปข้างนอกก็ไม่มีใครเลย แล้วตอนนี้เขาก็หิวน้ำมากด้วย “ฉันเดินไปหาละอองข้างบนดีไหมวะ” พงศ์หันมามองแหยงๆ “ก็เอาสิถ้าแกไม่กลัวลูกปืนพี่ชายเขา” เอซกลืนน้ำลายเอื้อก ยังจำได้ติดตาตอนที่พี่ชายคนที่ว่าสอยนกที่บินบนฟ้าตกตุ้บลงมาต่อหน้าต่อตาพวกเขา สีหน้านั้นลืมไม่ลงจริงๆ ยิ่งเมื่อกำลังจะทำเรื่องไม่ถูกต้อง แต่ด้วยความที่หัวใจมันเรียกร้อง เอ๊ย หิวน้ำมาก “ไปขอน้ำสองขวดเองไม่ได้จะไปทำอะไรสักหน่อย” “ตามใจ แต่ไปคนเดียวนะ แล้วจำไว้อย่าง ฉันเตือนแล้ว” เอซกลืนน้ำลายอีกอึก พาดผ้าขนหนูกับบ่าแล้วรวบรวมความกล้าเดินพ้นประตูออกห้องไป เขาเดินตามทางหลังบ้านใหญ่ขึ้นไปถึงบ้านหลังขนาดน่ารัก หน้าบ้านมีสวนเล็กๆ ดอกไม้สีสันสวยงาม ไฟเสาสีนวลๆ หลายเสา เขาเห็นประตูบ้านเป็นไม้สลักลายดอกไม้ไว้อย่างปราณีต แต่ก่อนที่เขาจะทันได้เคาะประตูก็เผลอได้ยินเสียงเพลงดังออกมาจากช่องระบายอากาศที่คาดว่าจะมาจากห้องน้ำด้านข้างตัวบ้าน ถึงแม้จะใส่มุ้งลวดกันยุงแต่ประตูระบายอากาศที่เปิดมาก็ทำให้ได้ยินเสียงที่ลอดออกมาชัดเจน เป็นเสียงเพลงสากลแล้วมีการร้องคลอชัดเจนในห้องน้ำ... เท่าที่เขาจำได้ บอยบอกว่าบ้านหลังนี้ละอองอยู่คนเดียว ไม่ใช่เหรอ? เขาเคาะประตูด้วยความคิดที่ตีกันในหัว เธอโกหกเขา? !
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD