“ว้าว!”
ฉันสวยขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!?
ขวัญยิหวาอุทานออกมาอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เมื่อมองเห็นภาพของตน สะท้อนอยู่บนกระจกเงาบานใหญ่
ภาพสะท้อนของผู้หญิงในนั้นดูมีเสน่ห์เย้ายวนใจ จากฝีมือของคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนายหน้า หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าแม่เล้า...ซึ่งมีหน้าที่คอยเสาะหาหญิงสาว เพื่อเอาไปบำเรอความใคร่ ให้กับบรรดาพวกผู้ชายทั้งหลายเหล่านั้น
และแน่นอนว่าขวัญยิหวา ก็กำลังจะกลายเป็นเด็กไซด์ไลน์ในชั่วโมงถัดไป ด้วยความเต็มใจและยินดีโดยที่ไม่มีใครบังคับ
ขวัญยิหวาถูกจับแต่งหน้าให้ดูโฉบเฉี่ยว และใส่เสื้อสายเดี่ยวที่ผูกเกี่ยวกันไว้ที่หลังคอ พอๆ กับกระโปรงสั้นที่ใส่แนบไปกับเรือนร่าง ซึ่งรับกับส่วนเว้าส่วนโค้งของเธอได้อย่างลงตัว
ขวัญยิหวาเป็นนักศึกษาเรียนดี ของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ซึ่งเธอไม่เคยทำให้คนเป็นอาจารย์ หรือเหล่าบรรดาเพื่อนพ้องของเธอต้องผิดหวัง เพราะด้วยมันสมองและความตั้งใจบวกกับความขยัน มันจึงทำให้หญิงสาวกลายเป็นนักศึกษาเกียรตินิยมที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของสถาบัน
แต่มันก็แค่นั้นเอง...
เรียนดีเรียนเก่งแล้วเป็นยังไง...เพราะเมื่อสุดท้ายหากเธอมีเงินไม่มากพอ มันก็ทำให้ไปต่อไม่ได้อยู่ดี ใกล้ถึงวันที่ต้องจ่ายค่าเทอมแล้วด้วยสิ
ก๊อก!ก๊อก!ก๊อก!
เสียงเคาะประตูห้อง ทำให้ขวัญยิหวารีบดึงสติของตัวเองให้กลับมาอยู่กับปัจจุบัน ในขณะเดียวกันมันก็ถูกเปิดออก โดยนายหน้าของเธอที่มีชื่อว่ากุลธิดา
“ได้เวลาแล้วนะยิหวา เธอจะยืนทำใจอยู่อย่างนั้นอีกนานไหม อย่าทำให้ลูกค้าต้องรอนาน เพราะมันอาจมีผลกับเธอในครั้งต่อไป”
แน่นอนสิ...เมื่อมีครั้งแรกก็ย่อมต้องมีครั้งต่อๆ ไป...โดยที่ไม่รู้ว่ามันจะไปสิ้นสุดอยู่ตรงจุดไหน...
กุลธิดาเป็นเพียงเพื่อนที่อยู่ต่างคณะกับขวัญยิหวา และเป็นที่รู้กันภายในมหาลัยว่าคือเธอนายหน้าคนหนึ่ง ซึ่งคอยหางานให้กับพวกนักศึกษาหลายคน จนทุกคนในสถาบันต่างก็รู้ดี ว่าเจ้าตัวหากินทางด้านนี้มานาน ถึงแม้เธอจะถูกวิพากษ์วิจารณ์จากคนที่ต่อต้าน และกล่าวหาว่าเธอทำนาบนหลังคนแต่เธอก็ไม่สน แถมยังภูมิอกภูมิใจในอาชีพนี้ของตนนักหนา
ขวัญยิหวาไม่เคยคิดเลยว่าตนเอง จะต้องมาอาศัยเส้นทางนี้เพื่อต่อลมหายใจ กระทั่งคนเป็นพี่ชายได้หายตัวไปเมื่อหลายเดือนก่อน จนถึงตอนนี้เงินที่พี่ชายให้ไว้ก็เริ่มร่อยหลอลงไปเรื่อยๆ
ขวัญยิหวาจึงหาทางช่วยเหลือตัวเองด้วยการทำงานพาร์ทไทม์ แต่มันก็ยังไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย หนทางเดียวที่สามารถทำใด้ และง่ายที่สุดในเวลานี้ ก็คือการขายศักดิ์ศรีของตัวเอง
“หูตึงหรือยังไง! ไม่มีใครเขาเสียเวลามานั่งรอเด็กใหม่อย่างเธอนานนักหรอกนะ คนมีเงินเขาสามารถจะเรียกหาผู้หญิงที่ไหนก็ได้ เธออย่าทำให้คนอื่นต้องมาเสียเวลากับเธอนักเลย”
“เธอจะรีบเร่งอะไรกันนักหนา หรือกลัวว่าจะไม่ได้ค่านายหน้าอย่างงั้นใช่ไหม?”
ขวัญยิหวาถามอีกฝ่ายอย่างตรงไปตรงมา ถึงแม้จะต้องอาศัยความช่วยเหลือจากกุลธิดาก็ตาม แต่เธอก็ไม่จำเป็นต้องยอมให้ใครมาข่มเหงรังแกเอาง่ายๆ ถึงแม้ชีวิตคนเราจะตกต่ำมากแค่ไหน ก็ไม่ควรปล่อยให้ใครมาเหยียบย่ำศักดิ์ศรี เรื่องนี้พี่ชายเคยสอนเธอเอาไว้ และเธอก็จำมันจนขึ้นใจ
“ไม่ใช่อย่างที่เธอเข้าใจ ฉันก็แค่ไม่อยากให้เสียชื่อตัวเองเท่านั้นแหละ ฉันไม่เคยปล่อยให้ลูกค้าของฉันต้องรอนาน แล้วลูกค้ารายนี้เพิ่งเคยมาใช้บริการของฉันเป็นครั้งแรก ฉันแค่ต้องการให้เขาประทับใจ เผื่อเขาจะได้มาเป็นลูกค้าขาประจำของฉัน เธออย่ามามัวแต่ทำตัวอ้อยอิ่งให้ฉันต้องเสียงานใหญ่ เพราะลูกค้ารายนี้เขาไม่ใช่คนธรรมดา ”
ขวัญยิหวาแอบกัดกรามด้วยความโมโห ดวงตากลมโตสีหวานมองไปยังกุลธิดาอย่างไม่หวาดเกรง เพราะเธอเองก็ไม่ใช่ผู้หญิงข้างถนน ที่จะเอาเรื่องที่อีกคนหนึ่งว่าออกมาพูด หรือคิดเป็นการค้าได้อย่างที่ไม่รู้สึกสะทกสะท้าน แต่เมื่อมันจำเป็นก็ต้องทำ
ขวัญยิหวาเดินตามกุลธิดาเข้าไปในห้องสูทขนาดใหญ่ ซึ่งภายในนั้นมันไม่เหมือนกับห้องรับรองของห้องอื่นๆ ที่เธอเห็นตอนเดินผ่าน เพราะด้านในของห้องนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศที่เรียบหรูและดูมีระดับมากกว่าทุกห้อง ยิ่งไปกว่านั้นขวัญยิหวายังได้กลิ่นของอะไรบางอย่าง ที่สูดดมเข้าไปแล้วทำให้รู้สึกว่าผ่อนคลาย ไม่เหมือนกับห้องพวกนั้นที่มีแต่กลิ่นอับ ผสมกับกลิ่นของควันบุหรี่ที่กระจายคละคลุ้งอยู่จนเต็มพื้นที่ไปหมด
“สวัสดีค่ะคุณชารัณ รอนานหรือเปล่าคะ ธิดาพาเด็กมาส่งให้แล้วค่ะ”
น้ำเสียงของกุลธิดา เต็มไปด้วยความตื่นเต้น แต่คนที่เดินตามหลังนั่นต่างหากที่ทั้งรู้สึกตื่นเต้นและหวาดกลัวจนทำตัวไม่ถูก
แต่ถึงอย่างนั้นขวัญยิหวา ก็ยังมองข้ามไหล่ของกุลธิดาไปมองดูลูกค้าของตัวเอง