ตอนที่1(ขวัญเอย กลมวรรณ)

1755 Words
คฤหาสน์ ลิ้มเกียรติ ขวัญเอย กมลวรรณ…. 09:00น. พรึบ “น้ำส้มคั้นสดๆค่ะ…คุณหนูเอย^_^”เสียงนุ่มละมุนอย่างใจดีพร้อมกับแก้วน้ำส้มคั้นสีส้มสดเข้มสวยถูกวางลงบนที่รองแก้วตรงหน้าฉัน ทำให้ฉันละสายตาหน้าจอไอแพดสิบนิ้วขึ้นไปมองหน้าป้าแพรป้าแม่บ้านประจำบ้านฉันด้วยแววตาสดใส “ขอบคุณนะคะป้าแพร^_^”ฉันเอ่ยขอบคุณป้าแพรไปและยื่นมือไปหยิบแก้วน้ำส้มขึ้นมาดื่ม “อร่อยไหมคะ? ”ป้าแพรเอ่ยถามฉันในขณะที่ฉันดื่มน้ำส้มไปอึกใหญ่แล้ว สีหน้าของท่านมองมาที่ฉันด้วยสีหน้าลุ้นๆกับคำตอบของฉันที่กำลังจะตอบท่าน “อร่อยมากค่ะ^_^”ฉันตอบท่านไปพร้อมกับวางแก้วน้ำส้มกลับไปที่เดิมและหันมาให้ความสนใจหน้าจอไอแพดของฉันต่อ เพื่อจะทำงานในไอแพดของฉันเพื่อรอพี่คีรีแฟนของฉันมารับฉันไปมหาลัยน่ะ^_^ “คุณหนูต้องการอะไรเพิ่มอีกไหมคะ? ” “อ้อ…ไม่แล้วค่ะหนูอิ่มมากเลย^_^” “ขอบคุณป้าแพรนะคะ^_^” “ค่ะ…งั้นป้าขอตัวไปดูในครัวก่อนนะคะ^_^” “ค่ะ..ตามสบายค่ะ^_^”ฉันยิ้มหวานเป็นเชิงอนุญาตให้ป้าแพร “เอ่อ…ป้าแพรคะ? ”ฉันรีบท้วงป้าแพรไว้ก่อนอย่างคนที่เพิ่งนึกขึ้นได้ ป้าแพรที่กำลังจะออกเดินไปจากตรงนี้ต้องหยุดชะงักฝีเท้าลงและหันกลับมามองหน้าฉัน “คะ? คุณหนูจะรับอะไรเพิ่มเหรอคะ? ”ป้าแพรเอ่ยถามฉันด้วยสายตาอ่อนโยนอย่างใจดี ฉันก็ยิ้มบางๆให้ท่าน “คุณแม่…ตื่นรึยังคะ? ”ฉันเอ่ยถามป้าแพรไปอย่างสงสัยเพราะสองสามวันมานี้ฉันไม่เจอหน้าคุณแม่ของฉันเลย “เอ่อ..คือ…”ป้าแพรทำหน้าอ้ำๆอึ้งๆด้วยสีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด “คุณแม่ยังไม่ตื่นเหรอคะ? ” “เปล่าหรอกค่ะ…แต่คุณผู้หญิงยังไม่ได้กลับบ้านเลยตั้งแต่เมื่อวานค่ะ…”ป้าแพรก้มหน้าต่ำลงไม่มองสบตาฉันพร้อมกับเอ่ยตอบคำถามที่ฉันถามเธอไปด้วยน้ำเสียงสั่นๆ “ยังไม่กลับเหรอคะ? ” “คุณแม่ไปไหน? ”ฉันเอ่ยออกมาอย่างสงสัยใบหน้าของฉันร้อนผ่าวขึ้นมาหางคิ้วข้างขวากระตุกบ่งบอกถึงสิ่งที่ฉันกลัว ตึกๆๆๆตึกๆๆ “คุณผู้หญิงกลับมาแล้วจ๊ะป้าแพร!”เสียงฝีเท้าที่วิ่งมาจากทางหน้าบ้านและเสียงตื่นเต้นและร้อนรนใจของผินเด็กรับใช้หลานสาวของป้าแพรเอ่ยตะโกนลั่นมาแต่ไกลทำให้ป้าแพรหันไปจ้องมองหน้าผินด้วยแววตาดุๆ พรึบ “ขอโทษค่ะ..คุณหนู”ผินที่โดนป้าแพรดุทางสายตาก็หันมามองหน้าฉันที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทานอาหารถึงกับหน้าเสียเอามือกุมกันไว้ด้านหน้าหน้าตาซีดเชียวอย่างเห็นได้ชัด “ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ…คุณแม่กลับมาแล้วเหรอ? ”ฉันเอ่ยบอกผินไปและเอ่ยถามถึงคุณแม่ “ค่ะ…คุณผู้หญิงกลับมาแล้วค่ะ…” “ป้าแพร!…นังผิน!”เสียงที่คุ้นหูของฉันเอ่ยดังมาจากหน้าประตูทางเข้าห้องอาหารพร้อมกับร่างสูงสวยสง่าของคุณผู้หญิงของบ้านนี้กำลังเดินตรงดิ่งเข้ามาในห้องอาหารแห่งนี้ “ขาาาคุณผู้หญิง”ผินเด็กสาวสิบเจ็ดเอ่ยขานรับคุณแม่ของฉัน เธอยังคงอยู่ในชุดนักเรียนของมหาวิทยาลัยเทคนิคสายอาชีพที่อยู่ติดกับมหาลัยของฉัน “ยัยเอย? ” “คุณแม่^_^”ฉันเอ่ยเรียกคุณแม่ไปด้วยสีหน้าและนำ้เสียงดีใจที่สายตาของเราทั้งคู่สบกัน คุณแม่ของฉันยิ้มให้ฉันก่อนจะเดินตรงดิ่งมาหาฉันที่โต๊ะอาหารใหญ่ ท่านนั่งลงตรงหัวโต๊ะด้านข้างของฉัน ฉันก็มองหน้าท่านและยิ้มให้ท่าน “เอากาแฟให้ฉันแก้วหนึ่ง”คุณแม่ละสายตาจากฉันและหันไปสั่งผิน “ค่ะ…คุณผู้หญิง^_^”ผินก้มศีรษะลงเล็กน้อยพร้อมตอบรับคำสั่งของคุณแม่ฉันและเดินออกไปจากห้องอาหารแห่งนี้ และคุณแม่ก็หันกลับมามองหน้าฉันเหมือนเดิม “ลูกยังไม่ไปเรียนอีกเหรอจ๊ะ? ” “รอพี่คีรีมารับนะคะ^_^”ฉันตอบคุณแม่ไปและยื่นมือไปหยิบแก้วน้ำส้มคั้นของฉันมาดื่ม “แม่มีเรื่องอยากจะคุยกับหนูนะจ๊ะ” “เรื่องอะไรเหรอคะ? ”ฉันวางแก้วน้ำส้มลงและหยิบกระดาษทิชชูขึ้นมาซับไปที่ริมฝีปากของฉันแทน คุณแม่มีสีหน้าที่ดูเป็นกังวลอยู่นิดหน่อย ทำให้ฉันอยากจะรู้เรื่องที่คุณแม่จะบอกฉันซะเหลือเกิน พรึบ คุณแม่หันไปเปิดกระเป๋าแบรนด์เนมรุ่นดังและหยิบซองสีชมพูออกมาจากกระเป๋าและยื่นมันมาให้ฉัน ฉันก็ยิ้มบางๆให้คุณแม่ของฉันสลับกับมองซองจดหมายสีชมพูนี้ด้วยแววตาสงสัย “อะไรคะ? ” “เดี๋ยวนี้จะให้เงินเดือนหนูเป็นซองสีชมพูแบบนี้เลยเหรอคะ? ”ฉันพูดเชิงเล่นเชิงจริงใส่คุณแม่ไป แต่สีหน้าของท่านก็ไม่ได้เล่นขำไปกับคำพูดของฉันเลยสักนิด พรึบ ฉันที่เห็นคุณแม่ทำสีหน้าเคร่งเครียดจึงยื่นมือไปรับซองจดหมายสีชมพูมาจากมือของท่านแทน ฉันมองหน้าคุณแม่ของฉันอีกครั้งก่อนจะเปิดซองจดหมายดูเนื้อหาข้างใน พรึบ ทันทีที่ฉันเปิดซองจดหมายออกก็พบกับกระดาษสีชมพูที่ถูกตกแต่งให้เป็นรูปหัวใจเต็มดวง เนื้อหาในจดหมายเชื้อเชิญให้ไปร่วมงานมงคลสมรสของ “งานมงคลสมรสระหว่างนางขณิฐา ลิ้มเกียรติและนายมงคล ณรงค์เดช”ฉันอ่านออกเสียงดังน้ำเสียงสั่นเครือแววตาสั่นไหวริมฝีปากสั่นระริก หัวใจเจ็บจี๊ดใบหน้าชาไปทั้งหน้า ฉันค่อยๆละสายตาจากกระดาษรูปหัวใจในมือขึ้นไปมองหน้าผู้เป็นแม่ของฉัน “นี่มันอะไรกันคะ? ”ฉันพยายามทำน้ำเสียงให้แผ่วเบาที่สุดอย่างคนที่กำลังพยายามระงับอารมณ์กรุ่นโกรธของตัวเองไม่ให้มันระเบิดออกมา “หนูถามว่ามันอะไรกันคะ!!!”ฉันตะโกนเสียงดังลั่นบ้านพร้อมกับลุกขึ้นยืนด้วยความไม่พอใจที่คนที่ฉันถามเขา แต่เขากลับไม่ยอมตอบคำถามของฉัน “แม่กำลังจะแต่งงาน…แม่อยากให้ลูกไปงานแต่งของแม่…กับติณห์เขาน่ะ” “หึ…ให้หนูไปเหรอ…” “ได้…หนูจะไป…” “แต่ไม่ได้ไปแสดงความยินดีหรอกนะ…” “แต่หนูจะไปพังงาน!!” “ยัยเอย!!”แม่ของฉันตวาดเสียงดังกลับใส่หน้าของฉันแววตาของท่านสั่นไหว “แม่คิดได้ยังไง…พ่อเพิ่งจะเสียได้ยังไม่ถึงปี…” “แม่ก็จะแต่งงานใหม่…” “แถมสามี…ไม่สิ…” “ผัวของแม่ยังเป็นรุ่นราวคราวลูกอีกตั้งหาก!!” “หยุดนะยัยเอย!!”แม่ของฉันตะโกนเสียงดังให้ฉันหยุดพูดจาน่าเกลียด “หนูไม่หยุด…” “ถ้าแม่ยังยืนยันที่จะแต่งงานกับผู้ชายรุ่นลูกคนนั้น…” “หนูก็จะไม่อยู่ที่นี้…” “มีมันต้องไม่มีหนู…และถ้ามีหนู…ต้องไม่มีมัน!!”ฉันประกาศก้าวเสียงดังฟังชัดแววตาของฉันสั่นไหวเนื้อตัวสั่นเทาไปด้วยความโกรธ พรึบ “คุณหนูคะ…ใจเย็นๆนะคะ..”ป้าแพรเดินมาเกาะไหล่ฉันพร้อมกับเอามือลูบมาที่แขนของฉันเพื่อให้ฉันใจเย็นลง “หนูใจเย็นไม่ได้แล้วค่ะ…หนูจะไม่อยู่ที่นี้!!” “คุณแม่อย่าคิดว่าหนูไม่รู้นะคะ…ว่าคุณแม่แอบมีชู้ทำให้คุณพ่อหัวใจวายตาย” เพลี๊ย "คุณหนู!!” ใบหน้าของฉันหันไปตามแรงตบของฝาคุณแม่ฉันที่ฉันยังพูดไม่ทันจบก็โดนคุณแม่ตบหน้าของฉันซะก่อน พรึบ ฉันเอามือไปกุมแก้มตัวเองข้างที่โดนคุณแม่ของฉันตบและค่อยๆหันหน้ากลับมาเผชิญหน้ากับท่านต่อน้ำตาของฉันไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง ตั้งแต่เกิดมาคุณแม่ไม่เคยตบฉันเลยสักครั้งเดียว “แกอย่าพูดจาพล่อยๆอีก”แม่ของฉันกดเสียงต่ำแววตาดุดันอย่างไม่พอใจที่ฉันรู้เรื่องของท่านกับชายชู้ของท่าน “หึ…หนูแค่พูดความจริง” “ยัยเอย!!” “หยุดเถอนะคะ..คุณผู้หญิงแค่นี้แก้มของคุณหนูก็บวมช้ำมาพออยู่แล้ว..”ป้าแพรไปยืนตรงกลางระหว่างฉันกับแม่ของฉันพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้แม่ของฉันน้ำเสียงของท่านสั่นเครือ “ป้าแพรคะ”ฉันร้องเสียงหลงที่ป้าแพรร้องไห้เพราะสงสารฉัน แต่กลับกันคุณแม่ของฉันท่านกลับไม่สะทกสะท้านอะไรเลยสักนิดเดียว “แค่นี้มันยังน้อยไป…” “หนูจะไม่อยู่ที่บ้านหลังนี้อีกแล้ว!” “ถ้าแกอยากไปแกก็ไปเลย…ไปแล้วไม่ต้องกลับมา!” “เหอะ…หนูไปแน่…และหนูก็เป็นเด็กใจแตก…มีผัวหลายคนเล่นชู้กับผู้ชายมากหน้าหลายตาแบบที่แม่ทำ…” “ยัยเอย!!”แม่ของฉันตวาดแผดเสียงดังสนั่นบ่งบอกได้ว่าท่านกำลังไม่พอใจฉันเป็นอย่างมาก “ถ้าแกจะไปแกก็ไปแต่ตัว” “ห้ามเอาของที่นี้ออกไปแม้แต่ชิ้นเดียว…” “เพราะแกมา…แกก็มาแต่ตัว…” “นังลูกเนรคุณ!!”ฉันมองหน้าคุณแม่ผู้มีพระคุณของฉันทั้งน้ำตา มันปวดจี๊ดและปวดร้าวไปทั้งหัวใจที่แม่เห็นคนอื่นดีกว่าฉันที่เป็นลูกแท้ๆของท่าน ฉันจะไม่กลับมาเหยียบบ้านหลังนี้อีก! สวัสดีฉันชื่อ ขวัญเอย อายุปีนี้ก็22ปีเต็มแล้ว เมื่อก่อนชีวิตของฉันเป็นที่น่าอิจฉาสุดๆคุณหนูผู้สวยเริ่ดเชิดที่เพียบพร้อมไปทั้งฐานะและหน้าตา แต่แล้วทุกอย่างสำหรับฉันก็แปรเปลี่ยนไปเมื่อคุณพ่อของฉันล้มป่วยด้วยโรคหัวใจท่านนอนรักษาตัวอยู่นานและก็จากโลกนี้ไปเมื่อปีที่แล้ว โดยสาเหตุก็เพราะคุณแม่ของฉันแอบมีชู้ทำให้คุณพ่อเสียใจและหัวใจล้มเหลวเสียชีวิตกระทันหัน ตอนแรกฉันนึกว่าคุณแม่จะเลิกกับชายชู้แต่แล้วท่านก็ไม่เลิกกลับจะแต่งงานกับมันและเอามันมาผลาญเงินคุณพ่อฉัน ฉันรับไม่ได้ฉันเกลียดผู้ชายคนนั้น!!!!ที่มาพรากคุณพ่อไปจากฉันและยังจะมาแย่งคุณแม่ไปจากฉันอีก!!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD