มีแขกมาเยี่ยม(ดอกไม้สีทอง)

1601 Words
เตียงผู้ป่วย.. คนที่นอนหันหลังฟังอยู่เงียบๆ ขยับพลิกตัวนอนหงาย มือเล็กยกขึ้นปาดเช็ดน้ำตาที่กำลังรินไหลออกมา เธอไม่ได้ร้องไห้เสียใจที่ได้ยินในสิ่งที่เขาพูดแต่เธอร้องไห้เพราะสมเพชตัวเองที่ต้องมาอยู่แบบนี้.. "ฮึก.." วาริสาร้องไห้ออกมาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่.. "วาไม่อยากทนแล้วค่ะท่านลุง วาไม่อยากอยู่แบบนี้แล้วค่ะ ฮือๆ" ทุกครั้งเธอคิดจะถอยก็มักจะมีเสียงของท่านเจ้าสัวแทรกเข้ามาว่าให้เธออดทนเพราะตอนนี้ท่านก็มีแค่เธอ หากเธอไปสิ่งที่ท่านก็ไม่เหลือใคร.. พักหลังที่เธอร้องไห้ง่ายๆ มันเป็นเพราะความกดดันกับสิ่งต่างๆ ที่กำลังเผชิญ มันหนักเกินกว่าที่เธอจะรับไหวจริงๆ ทั้งภาพที่ชาวบ้านร้องไห้อ้อนวอนขอร้องไห้เธอช่วย ทั้งเรื่องของเขาที่ทำให้เธอไม่เหลือเรี่ยวแรงที่จะเดินต่อ... คนจนๆ ต่างดิ้นรนเพื่อจะเอาชีวิตรอดขอแค่ให้มีที่อยู่อาศัยแต่คนที่มีอำนาจกับเสวยสุขอยู่บนกองเงินกองทองสนใจแต่ความสุขของตัวเอง ถ้าท่านลุงเป็นผู้บริหารเรื่องแบบนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอนเพราะท่านรักสิ่งที่ท่านสร้างขึ้นมามาก ถึงแม้ว่าท่านเจ้าสัวจะมอบอำนาจให้เธอมีอำนาจในการบริหารร่วมแต่ความจริงแล้วเธอไม่ได้มีอำนาจเท่ากับเขาที่เป็นผู้บริหารสูงสุดและมียังบุคคลอื่นๆ ในบริษัทที่พยายามขวางเธอทุกทาง...เธอคนเดียวไม่สามารถต่อสู้กับอำนาจของทุกคนได้ ก่อนนั้นเธอถูกข่มขู่จากบุคคลในบริษัทแต่เธอก็สู้มาเพียงลำพัง... แกร็ก!!! พยาบาลเปิดประตูเข้ามาดูแลคนป่วย เธอจึงบอกว่าหิวน้ำ..พอได้กินถึงได้มีแรงพูดคุย "วาเป็นอะไรเหรอคะ คุณพยาบาล" เมื่อรู้สึกดีขึ้นเธอก็พูดถาม..เธอไม่อยากนอนโรงพยาบาล "คุณวาเป็นลมวูบหมดสติเพราะเครียดและพักผ่อนน้อยค่ะ นอนพักผ่อนให้เยอะๆ นะคะ" พยาบาลสาวยิ้มให้กำลังใจ "ขอบคุณค่ะ ไม่ทราบว่าจะออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไหร่คะ" เธอมีนัดคุยกับชาวบ้านเรื่องที่อยู่ใหม่ ตอนนี้ทุกคนเริ่มไว้ใจเธอมากขึ้น..เธอจะเสียโอกาสนี้ไปไม่ได้ "ได้ยินคุณหมอบอกว่าประมาณสองวันก็ออกได้แล้วค่ะ" "ฮะ สะสองวัน!! ออกเร็วกว่านั้นได้ไหมคะ คือวาขอคุยกับคุณหมอเจ้าของไข้ที่ดูแลวาหน่อยได้ไหมคะ" เธอจะขอคุณหมอออกเย็นนี้ พรุ่งนี้เธอมีงานด่วนจริงๆ "ได้ค่ะ เดี๋ยวพยาบาลตามคุณหมอมาให้นะคะ" พยาบาลสาวยิ้มเดินออกไป ผ่านประมาณสิบห้านาทีคุณหมอก็เข้ามา... แกร็ก!! ร่างสูงหล่อสวมเสื้อกาวน์สีขาวเดินเข้ามาในห้องผู้ป่วย เธอคือคนที่เขารู้จักดี "มะหมอวิน" มาริสายิ้มตกใจเมื่อหมอเจ้าของไข้เธอคืหมอวินที่ดูแลคุณท่าน เธอจึงรู้จักกับหมอวินไปโดยปริยาย "ครับ วันนี้มาเป็นคนไข้ของหมอแล้วนะ" คุณหมอหนุ่มหล่อยิ้มกริ่ม ก่อนนั้นเจอกันบ่อยแต่เธอไม่ได้เป็นคนไข้ "วาก็ไม่เคยคิดเลยค่ะว่าวาจะมาเป็นคนไข้ของหมอวินได้ แต่โชคดีที่วาได้หมอวินเป็นเจ้าของไข้เพราะฉะนั้นวาขอออกจากโรงพยาบาลคืนนี้นะคะ คือพรุ่งนี้วามีธุระสำคัญจริงๆ ค่ะ" คนไข้อ้อนตาปริบๆ ขอนะคะ.. "อืม..ขอหมอแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะครับ คนไข้จะดื้อกับหมอเหรอครับ" เขาส่ายหน้าไม่ยอมให้เธอออก... "แต่วามีธุระสำคัญจริงๆ นะคะ เป็นธุระคอขาดบาดตายเลยค่ะ" ทำหน้าเศร้า "มีเรื่องอะไรที่สำคัญกว่าสุขภาพของตัวเองเหรอครับ ตั้งแต่ที่ผม..เอ่อที่หมอรู้จักคนไข้มา หมอไม่เคยเห็นคนไข้พักจากงานเลยนะครับ" ขนาดมาเยี่ยมคนป่วย (เจ้าสัว) เธอยังเอางานมาทำด้วยตลอด เธอคงไม่รู้ว่ามีหมอคอยแอบมองอยู่ห่างๆ .. "วาพักไม่ได้หรอกค่ะจะพักได้ก็ต่อเมื่อเจ้าสัวท่านฟื้นขึ้นมานั่นแหละค่ะ คุณหมอช่วยทำให้เจ้าสัวฟื้นขึ้นเร็วๆ ได้ไหมล่ะคะ วาจะได้พักบ้าง" แม้เธอจะพูดไปยิ้มไปแต่แววตานั้นเศร้าโศกอย่างเห็นได้ชัด หมอไม่รู้ว่าเธอต้องเจอกับอะไรมาบ้างแต่คิดว่าคงหนักมากอยู่เหมือนกัน หมอเองก็ทำงานหนักจึงอยากให้กำลังใจ "หมอสัญญาว่าจะทำให้เต็มที่นะครับ หมอเองก็อยากให้เจ้าสัวฟื้นขึ้นไวๆ ไม่ว่าคนไข้ของหมอจะเจอกับเรื่องอะไรมา หมอขอเป็นกำลังใจให้นะครับ สู้ๆ นะ นอนพักผ่อนให้เยอะๆ ถ้าร่างกายแข็งแรงดีขึ้นเร็วหมอจะให้ออกจากโรงพยาบาลได้ครับ" หมอวินยิ้มให้กำลังใจ "ขอบคุณมากนะคะหมอวิน วารู้สึกมีกำลังใจขึ้นเยอะเลยค่ะ หมอเป็นคนแรกเลยนะคะที่พูดให้กำลังใจวา" เธอยิ้มทั้งน้ำตา..เธอไม่ได้ร้องไห้เพราะเสียใจแต่น้ำตารื้นเพราะรู้สึกตื้นตันใจที่คุณหมอเป็นคนอื่นแต่ยังให้กำลังใจเธอ ต่างกับคนที่อยู่ด้วยกันทุกวัน.. "ถ้าอยากจะร้องไห้ก็ร้องออกมาเลยครับ ระบายกับหมอได้เลยนะ หมอไม่รู้หรอกว่าคนไข้ต้องเจอเรื่องอะไรมาบ้าง หมอแค่อยากให้รู้ว่ายังมีหมออยู่ข้างๆ เห็นไหมครับ หมอยืนอยู่ข้างเตียงเลย" หมอวินพูดยิ้มติดตลกเพื่อให้เธอหัวเราะ "ฮ่าๆ ใช่ค่ะ หมอวินอยู่ข้างๆ วาจริงๆ ด้วย" วาริสายิ้มหัวเราะ ยืนอยู่ข้างเตียงขนาดนี้ไม่อยู่ข้างๆได้ไง.. ก็อกๆ แกร็ก!! ในจังหวะนั้นประตูห้องก็เปิดออก บุคคลที่เข้ามาไม่ใช่ใครที่ไหนคือน่านฟ้ากับนางเอกสาวดาวรุ่งที่กำลังเป็นข่าวอยู่ตอนนี้... ใบหน้าสวยฉีกยิ้มธุรกิจเดินเข้ามาสวัสดีทักทายคนป่วยด้วยท่าทางสนิทสนมมเหมือนเคย... "อุ้ยย..สวัสดีจ่ะน้องวา เป็นยังไงบ้างจ๊ะอาการดีขึ้นหรือยัง" ร่างเพรียวระหงเดินตรงเข้ามาหาคนป่วยในมือของเธอถือช่อดอกไม้สีทองเข้ามาเยี่ยมคนป่วย ดอกไม้ช่อนี้เหมาะกับคนป่วยอย่างหล่อนที่สุด เพราะเป็นดอกทอง!!เหมาะกับคนร่านๆ เมื่อมีญาติเดินเข้ามาคุณหมอหนุ่มก็ขยับถอยแต่ไม่ได้เดินออกไปจากห้องทั้งที่ถูกสายตาของใครบางคนไล่ให้ออกไป..แต่คุณหมอหนุ่มไม่ได้สนใจเพราะอ่านภาษามือที่คนไข้ร้องขอความช่วยเหลือออก.. วาริสาใช้ภาษามือขอให้คุณหมออยู่ด้วย...เธอไม่อยากอยู่เพียงคนเดียวเพราะตอนนี้เธออ่อนแอเกินกว่าจะรับมือกับทั้งคู่ได้หากหมอวินอยู่ด้วยสองคนนี้คงเกรงใจหมอบ้าง... "สวัสดีค่ะ คุณเอม" คนป่วยยิ้มธุรกิจกลับคืน คนเยี่ยมยิ้มมาแบบไหนเธอก็ยิ้มกลับไปแบบนั้น ยิ้มเหยียดมาก็ยิ้มเหยียดกลับ ความเป็นคนของเราทุกคนมีเท่ากัน "นี่จ๊ะ พี่ซื้อดอกไม้มาเยี่ยม พี่เลือกแบบพิเศษเลยนะ มันคือดอกทอง อุ๊ย!!ไม่ใช่สิ..ดอกไม้สีทองช่อนี้เหมาะกับน้องวาที่สุดแล้วจ๊ะ หายไวๆ นะจ๊ะ" อภิรดีเหยียดยิ้มแสร้งทำเป็นห่วงใยคนป่วย... "แต่วาคิดว่า..ดอกทอง!!นี้..ดูเหมาะกับคุณเอมมากกว่านะคะ อุ้ย..ดูดอกนี้สิคะเหมือนเลยค่ะ คนเรามักจะเลือกอะไรที่เหมือนกับตัวเอง คุณเอมว่าไหมคะ" วาริสายิ้มเยาะ แขวะมาเธอแขวะกลับ แม้ตอนนี้เธอจะเป็นผู้ป่วยนอนอยู่บนเตียงก็ตาม.. "อีวะ..เอ่อ น้องวาพูดแบบนี้พี่ก็เสียใจนะ พี่อุตส่าห์ตั้งใจซื้อดอกไม้มาเยี่ยม อ้อ..ยังมีของฝากอีกหนึ่งอย่าง นี่จ่ะ..น้ำใบบัวบกแก้ช้ำใน ดื่มทุกวันจะได้หายชอกช้ำตรอมใจ อย่างหล่อนก็เป็นได้แค่คนที่น่านเขาเกลียดเท่านั้นแหละ.." คำหลังเธอขยับเข้าไปพูดกระซิบให้ได้ยินกันแค่สองคน "ค่ะ ขอบคุณนะคะสำหรับน้ำใบบัวบกแต่เชิญคุณเอมเอากลับไปกินเองเถอะค่ะ เพราะวาคิดว่าเป็นคุณมากกว่าที่ต้องดื่มมัน ตอนนี้วาได้เป็นที่หนึ่งไม่ใช่ที่สอง!! จึงไม่ต้องชอกช้ำตรอมใจเหมือนคุณเอมหรอกค่ะ จริงไหมคะ" วาริสาเงยหน้าขึ้นยิ้มอย่างผู้ชนะ ถ้าเธอไม่ป่วยคงสนุกกว่านี้มาก.. อีวาริสา!! อภิรดีแทบอยากจะกรี๊ดให้ลั่นห้องแต่ก็ทำไม่ได้ สายตาของเธอเต็มไปด้วยความโกรธแค้นแต่เพราะเป็นนักแสดงเธอจึงเก็บอาการได้เก่ง ในละครเธอเป็นนางเอกไม่เคยเป็นตัวร้าย ชีวิตจริงก็เลยถูกนังตัวร้ายแย่งแฟนไปแต่งงานหน้าด้านๆ "นี่วาริสา!! จะพูดอะไรก็ให้เกียรติคุณเอมเขาบ้าง อย่าปากดีให้มันมาก" ร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆ นางเอกสาวพูดปรามภรรยา "แล้ววาไม่มีเกียรติเหรอคะ ที่คุณพาผู้หญิงคนนี้เข้ามาเยี่ยมวาถึงที่นี่เพราะอะไรเหรอคะ?? ไม่ใช่เพราะอยากมาซ้ำเติมวาหรอกเหรอ" เธอพูดไปเพราะความน้อยใจแต่ก็ไม่ได้หวังให้เขามาเห็นใจ.. น่านฟ้าสะอึกกับคำพูดของภรรยาแต่เขาก็ไม่ได้สนใจ เขารู้ว่าวาริสาเป็นคนยังไงเธอเป็นคนปากร้ายช่างประชดประชัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD