เพราะไม่มีทางเลือกจึงต้องอดทน!!

1898 Words
"ทำไมคิดแบบนั้นล่ะจ๊ะน้องวา พี่ได้ยินข่าวก็เลยเป็นห่วงน้องวาจริงๆ นะ ใช่ไหมคะน่าน เอมเป็นห่วงน้องวาจริงๆ ใช่ไหมคะ" นางเอกสาวเข้าไปกอดแขนชายหนุ่มแสดงความเป็นเจ้าของชัดเจน..ถ้าน่านไม่อยู่ตรงนี้เธอคงเข้าไปกระชากหัวตบปากมันไปแล้ว.. "ใช่ครับ แต่เอมไม่ต้องไปสนใจหรอกนะ วาเขาก็เป็นคนไม่มีมารยาทแบบนี้แหละ ผมว่าเราไปนั่งคุยกันที่โซฟาดีกว่านะ" เขาไม่อยากยืนมองคนป่วยให้เมื่อยสายตา.. "ค่ะ เอมจะไม่สนใจเพราะน้องวาเขาเป็นคนอาภัพน่าสงสาร พ่อแม่ก็ไม่มีตั้งแต่เด็ก เธอก็เลยไม่มีใครอบรมสั่ง..." "หมอว่าควรให้คนไข้ได้พักผ่อนนะครับ ไม่ควรมาพูดอะไรแบบนี้" หมอวินเป็นฝ่ายทนไม่ไหวรีบพูดตัดบทสนทนาทั้งที่นางเอกสาวยังพูดไม่จบ เขาสงสารคนไข้ที่ต้องมาเจอกับคนแบบนี้ "อุ้ยย!! คุณหมอดูแลคนไข้เคสนี้อยู่เหรอคะ ดีจังเลยมีหมอมาคอยดูแลถึงข้างเตียง.. ยังไงเอมก็ฝากดูแลน้องวาด้วยนะคะ เอมสงสารน้องเขาน่ะค่ะ" อภิรดีเหยียดยิ้มเดินไปนั่งที่โซฟาแต่คำพูดของเธอทำให้ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ ขมวดคิ้วมองคุณหมอหนุ่มด้วยความสงสัยว่าทำไมต้องเข้ามาดูแลถึงข้างเตียง.. "ไปกันค่ะน่าน เอมอยากนั่งแล้วค่ะ" เธอดึงแขนให้ชายหนุ่มเดินตามมา.. เมื่อทั้งคู่เดินไปนั่งคุยกันที่โซฟาคุณหมอหนุ่มก็หันกลับมาพูดให้กำลังใจคนไข้... "มีหมออยู่ตรงนี้ คนไข้ไม่ต้องห่วงนะครับ หมอสัญญาว่าจะไม่ทิ้งคนไข้ไปไหน" หมอวินก้มลงพูดกระซิบ.. มาริสายิ้มขอบคุณที่หมอวินช่วยอยู่ด้วยถ้าหากเป็นหมอคนอื่นคงไปนานแล้ว "วาขอบคุณหมอวินมากเลยนะคะ ที่อยู่ช่วยวา ถ้าวาหายดีวาจะซื้อขนมอร่อยๆ มาตอบแทนนะคะ เอาเป็นขนมร้านเดิมที่หมอวินชอบไหมคะ" ครั้งก่อนเธอเคยซื้อมาฝากแพทย์พยาบาลที่ดูแลคุณท่านหมอวินเคยบอกว่าอร่อยมาก "ได้เลยครับ คนไข้ซื้ออะไรมาฝากหมอก็อร่อยทุกอย่าง" หมอวินยิ้มหัวเราะท่าทางสนิทสนม "หมอวินเป็นคนง่ายๆ ดีนะคะ" ทั้งคู่พูดยิ้มหัวเราะให้กันจนทำให้คนที่นั่งอยู่ห่างๆ ต้องเอียงหูฟังว่าทั้งคู่คุยอะไรกัน... โซฟาข้างเตียง "น่านคะ เอมว่าเอมจะกลับแล้วค่ะ เอมรู้สึกเบื่ออยากจะไปเดินห้างมากกว่า" นางเอกสาวชวนชายหนุ่มคุยแต่เขากลับเงียบไม่ตอบ "น่านคะ..คุณน่าน!!" เมื่อเห็นว่าเขามองไปที่วาริสากับหมอเจ้าของไข้ เธอก็รู้สึกโกรธที่อีกฝ่ายไม่สนใจที่เธอพูดแต่ไปสนใจนั่งวาริสากับหมอหนุ่มคนนั้นแทน "ถ้าคุณไม่คุย เอมจะกลับแล้วนะคะ" คนสวยโกรธแล้วนะ "ครับ..เอมพูดว่าอะไรนะ" เขาหันกลับมาให้ความสนใจคนที่อยู่ข้างๆแต่ก็สงสัยว่าทำไมทั้งคู่ถึงดูสนิทกัน..ก็เป็นแค่หมอดูแลคนไข้หรือเปล่าวะ "เอมบอกว่าเอมเบื่อ เอมอยากไปเดินห้างค่ะ เราออกไปกินข้าวที่ห้างกันนะคะน่าน" เธอไม่อยากอยู่ในห้องนี้เพราะอึดอัดเหม็นหน้านังวาริสา ตั้งใจมาสมน้ำหน้าแต่โดนมันแขวะกลับจนหน้าเสียคิดแล้วก็แค้น "แต่เรื่องที่เราไปกินข้าวกันที่ห้างเมื่อวันก่อนยังเป็นข่าวอยู่เลยนะ ผมว่าเราไปกินข้าวที่ร้านประจำดีกว่าไหม" ที่ร้านประจำจะไม่มีใครมาถ่ายรูปเราสองคนไปลงข่าว หากเป็นที่ห้างนั้นต่างกันมาก เขาเองก็ไม่ได้อยากเป็นข่าวบ่อยๆ ขี้เกียจพูดสร้างภาพว่ายังรักกันดีกับภรรยา "แต่เอมเบื่อร้านเดิมนี่คะ ถ้าน่านไม่ว่างก็ไม่เป็นไร เอมไปคนเดียวก็ได้ค่ะ" เธอทำหน้างอนเตรียมลุกออกไป ใช้มุกนี้ทีไรเขาก็ใจอ่อนยอมเธอทุกครั้ง เธอชอบเป็นข่าว ยิ่งเป็นข่าวกับเขา เธอชอบมาก.. "เดี๋ยวก่อนสิครับเอม เดี๋ยวผมไปด้วย" ร่างสูงรีบลุกขึ้นเดินตามไป.. ก่อนจะไปนางเอกสาวก็ไม่ลืมหันไปพูดบอกลาคนป่วย.. "พี่ไปก่อนนะจ๊ะน้องวา พักผ่อนเยอะๆ นะ อ้อ.อย่าเพิ่งรีบเป็นอะไรไปล่ะ อยู่ดูละครเรื่องใหม่ของพี่ที่กำลังจะลงจออาทิตย์หน้าก่อนนะ มีชื่อเรื่องว่าภรรยาที่ถูกเกลียดชัง เรื่องนี้นางเอกมีชีวิตคล้ายกับน้องวาเลยนะแบบว่าได้พระเอกไปเป็นสามีแต่ก็ถูกพระเอกเกลียดชังน้ำหน้าเป็นผู้หญิงไร้ค่าที่สามีไม่รัก น่าสงสารเนอะฮ่าๆ พี่ฝากละครเรื่องใหม่ด้วยนะจ๊ะ ไปล่ะ" เธอโบกมือเดินฉีกยิ้มควงแขนชายหนุ่มออกไปจากห้อง ละครเรื่องนี้ไม่มีอยู่จริงเพราะเธอแต่งขึ้นเองสดๆ ร้อนๆ เป็นความสามารถพิเศษน่ะ ปึ้ง... เมื่อประตูปิดลง คนในห้องก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกันทั้งคุณหมอทั้งคนไข้... "หมอไม่คิดว่าจะมีคนแบบนี้อยู่บนโลก คุณเอมเธอแสดงละครเก่งดีนะครับ ในเรื่องเธอแสดงเป็นนางเอกแต่ในชีวิตจริงนั้น หมอไม่อยากจะพูดเลยครับ"หมอวินพูดไปส่ายหน้าไปแต่กลับทำให้วาริสาหัวเราะเอ็นดูที่หมอต้องมาเจออะไรแบบนี้ ในชีวิตหมอคงไม่เคยเจอคนแบบนี้สินะ โลกของหมอต่างกับโลกของเธอลิบลับ..เธอเจอแบบนี้จนชินชา "วาขอโทษนะคะที่ทำให้หมอวินต้องมาเจอกับเรื่องอะไรแบบนี้ เมื่อกี้ทำให้หมอวินหงุดหงิดเลยใช่ไหมคะ" ตอนนี้เธอยิ้มให้กำลังใจหมอวินแทน เธอไม่เคยเห็นหมอหงุดหงิดเลยสักครั้ง เมื่อกี้เพิ่งได้เห็น "หงุดหงิดนิดหน่อยครับ ปกติหมอเป็นคนใจเย็นมีความอดทนมากนะครับแต่เคสนี้หมอทนไม่ไหวจริงๆ หมอยอมรับว่าคุณวาเก่งมากจริงๆ ที่อดทนมาได้ขนาดนี้" ทั้งนางเอกสาวทั้งผู้ชายคนนั้นที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเธอ ทำไมพวกเขาถึงได้ใจร้ายกับคนไข้ของหมอได้ขนาดนี้.. หมอวินก้มลงมองมาริสาด้วยสายตาอ่อนโยน... "ไม่ใช่เพราะวาอดทนเก่งหรอกนะคะแต่เป็นเพราะวาไม่มีทางเลือกวาถึงต้องอยู่อย่างคนอดทนแต่วาชินแล้วค่ะ เรื่องนี้ถือว่าเล็กน้อยมากค่ะ" แล้วเธอก็กลับมาเข้มแข็งได้อีกครั้ง "นี่เล็กน้อยแล้วเหรอครับ หมอไม่อยากให้คนไข้ต้องมาเครียดกับเรื่องอะไรแบบนี้เลยครับ ถ้าอยู่ห่างคนแบบนี้ได้หมอก็อยากให้ห่างเพื่อสุขภาพจิตที่ดี หมอเป็นห่วงนะครับ" หน้าหมอวินดูสิ้นหวังมาก.. "ขอบคุณหมอวินที่เป็นห่วงนะคะ วาก็พยายามอยู่ห่างตลอดค่ะแต่บางทีก็หลีกเลี่ยงไม่ได้" "ครับหมอเข้าใจ แต่อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยนะครับ" "ค่ะ หมอวินคะคือวาอยากออกจากโรงพยาบาลในคืนนี้ คุณหมอช่วยเซ็นให้วาหน่อยนะคะ คือวามีธุระสำคัญที่ต้องกลับไปทำจริงๆ ค่ะ" หมอวินยืนคิดอยู่สักพัก.. "ก็ได้ครับแต่คนไข้ต้องรายงานอาการป่วยกับหมอเป็นระยะ ทำได้ไหมครับ" "ได้เลยค่ะ แล้วจะให้วารายงานยังไงเหรอคะ" มีระบบรายงานของโรงพยาบาลงั้นเหรอ "รายงานผ่านไลน์ของหมอได้เลยครับ" หมอวินล้วงโทรศัพท์ออกมากดให้เธอสแกนไลน์ "แบบนี้ก็มีด้วยเหรอคะ" มาริสาส่ายหน้ายิ้มขำ "สำหรับคนไข้ที่ดื้อเป็นพิเศษครับ" หมอวินเป็นคนขี้อายจึงมีแอบเขินๆ บ้าง ในเวลาพูด "ค่ะ วายอมรับว่าดื้อเป็นพิเศษ" เธอหันไปหยิบโทรศัพท์มากดสแกนไลน์หมอวิน "เรียบร้อยแล้วค่ะ" "ครับงั้นหมอไม่กวนละ นอนพักผ่อนให้เยอะๆ นะครับคนไข้ของหมอ" หมอวินยิ้มละมุนก่อนจะโบกมือบ๊ายบายเดินออกไป ช่วงเย็นของวัน.. หลังจากที่อาการดีขึ้นเธอก็ได้โทรให้คนขับรถที่บ้านมารับ หมอวินมาส่งคนไข้ขึ้นรถที่ใต้ตึก ทั้งคู่พูดคุยกันไม่นานก็แยกย้าย.. คฤหาสน์บ้านอภิวัฒน์ เมื่อรถตู้มาจอดหน้าบ้านคนงานที่เป็นห่วงเจ้านายสาวก็ออกมายืนต้อนรับถามไถ่ด้วยความห่วงใย "วายังแข็งแรงสบายดีค่ะ ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ" มะยมสาวใช้เข้ามาช่วยพยุงเจ้านายสาวเข้าไปในบ้าน... "คุณวาค่อยๆ เดินนะคะ" เดินขึ้นบันไดเธอจึงต้องระวังให้มาก ภายในห้องนอนใหญ่ชั้นสอง เป็นห้องนอนของสามีภรรยาที่ไม่ถูกคอกันแต่ยังคงนอนอยู่ในห้องเดียวกันเพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะต่างคนต่างไม่ไว้ใจกัน หากแยกกันอยู่ก็จะไม่รู้ความเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย... "คุณวาจะดื่มน้ำอุ่นก่อนนอนไหมคะ มะยมจะลงไปเอาให้ค่ะ" "ไม่เป็นไรจ้ะ มะยมไปพักผ่อนเถอะ" เธอหันไปยิ้มให้มะยมก่อนที่สาวใช้จะเดินออกจากห้องไป วาริสาหันมองรอบห้องที่ถูกแบ่งเขตไว้อย่างชัดเจน ฝั่งขวาเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเธอส่วนฝั่งซ้ายเป็นพื้นที่ของเขา รวมถึงเตียงนอนที่ถูกแบ่งเขต.. ทุกอย่างเป็นเรื่องของการไม่ไว้ใจ เขาไม่ไว้ใจเธอส่วนเธอก็ไม่ไว้ใจเขาต่างคนต่างไม่ไว้ใจกัน..หลักๆ ก็เป็นเรื่องงานที่เธอไม่ไว้ใจ กลัวว่าเขาจะถูกคนใกล้ชิดกล่อมให้เซ็นยกอำนาจให้ เมื่อเธอรู้ความเคลื่อนไหวของเขาเธอก็จะได้นำเรื่องเข้าในที่ประชุมผู้บริหาร ทำให้เขาไม่สามารถแต่งตั้งมอบอำนาจให้ใครบริหารงานตามใจได้และนั่นทำให้เขาเกลียดเธอมากขึ้น แต่ทุกอย่างที่เธอทำก็เพื่อบริษัท ส่วนเขาที่ทนอยู่ร่วมห้องกับเธอคงเพราะกลัวว่าเธอจะวางแผนฮุบบริษัท ข้อนี้เธอรู้ดี.. ตอนนี้เวลาสองทุ่มครึ่งได้เวลาอาบน้ำนอน พรุ่งนี้มีงานต้องทำอีกมากเธอต้องนอนพักผ่อนให้เพียงพอ ร่างบอบบางเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ.. ที่เธอไม่ได้สนใจว่าคนอยู่ร่วมห้องจะกลับบ้านเมื่อไหร่เพราะเธอชินกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเขาไปแล้ว เวลานี้เขาคงอยู่กับผู้หญิงของเขาไม่ก็อยู่ร้านเหล้าของเพื่อนสนิทมีอยู่แค่นั้น ซึ่งเธอไม่คิดจะไปสนใจ...เราสองคนต่างเป็นแค่สามีภรรยาในหน้าที่ก็เพียงเท่านั้น หลังจากอาบน้ำเสร็จเธอก็ออกมาเป่าผมเตรียมนอน.. "อืม..ปวดหัวจัง" เป่าผมเสร็จเธอก็ล้มตัวลงนอนในเขตฝั่งตัวเองที่มีหมอนข้างกั้นอยู่กลางเตียง... ช่วงเวลากลางดึกเวลาเดิม..คือเที่ยงคืน แกร็ก!! เจ้าของห้องเดินเข้ามาด้วยอาการมึนเมาเล็กน้อย ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำจากฤทธิ์แอลกอฮอล์แต่เขายังคงมีสติครบถ้วน..
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD