บทที่1.แรกพบ

1545 Words
บทที่1.แรกพบ คาร์โลว สัตญาณุเศรษ คัสล์ซัน หนุ่มลูกครึ่งไทยสวีเดนบุตรชายเพียงคนเดียวของคุณพิไลพรรณ สัตญาณุเศรษ คัลส์ซันไฮโซคนดังของประเทศไทยที่แต่งงานไปกับมหาเศรษฐีหนุ่มชาวต่างชาติ เกเกอร์ลี่ คัสล์ซัน เจ้าของธุรกิจสายการบินข้ามชาติขนาดใหญ่ของประเทศสวีเดนที่ร่ำรวยติดอันดับโลก หลบมาพักรักษาตัวอยู่เมืองไทยเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์เนื่องจากความคึกคะนองในวัยหนุ่ม อายุยังน้อยแต่เป็นหนุ่มหน้าตาดีมีเสน่ห์ดึงดูด มันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของตัว คาร์โลว คัสล์ซัน ทำให้มีสาวน้อยสาวใหญ่ทุกวัย เข้ามารุมล้อมตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มไม่เต็มตัว จนคุณพิไลพรรณเอื้อมระอาเพราะความเจ้าเสน่ห์ของลูกชายเพียงคนเดียว ใบหน้าคร้านคมมีส่วนผสมลงตัวพอดีระหว่างสายเลือดตะวันตกกับฝั่งเอเซียจนทำให้รูปโฉมของคาร์โลวเข้าขั้นหนุ่มรูปงาม รอยยิ้มทรงเสน่ห์โปรยยิ้มหวานออกมาแต่ละทีทำให้สาวน้อยอ่อนระทวยลงได้อย่างง่ายดาย ญาติผู้ใหญ่ทางฝั่งคุณพิไลพรรณมารดามีพื้นเพอยู่ทางแถบภาคใต้ของประเทศไทย จังหวัดกะบี่ติดชายทะเลงดงาม อ่าวนางที่เต็มไปด้วยทิวทัศน์ของทะเลสวย คาร์โลว คัสล์ซัน จึงมาพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านญาติโดยมีบอดี้การ์ดคอยตามดูแลอีกที เบทเทอร์ ลีมานบอดี้การ์ดหน้าเข้มคอยดูแลอย่างใกล้ชิดจนชายหนุ่มเริ่มเบื่อหน่ายที่มองเห็นแต่หน้าขรึมเข้มของบรรดาบอดี้การ์ดของตัวเอง แทนที่วงหน้าหวานๆของสาวน้อยวัยละอ่อนเหมือนเช่นเคย ในวันหนึ่งคาร์โลวแอบหลบหนี เบทเทอร์ ลีมานบอดี้การ์ดตัวเองออกมาเดินเล่น ชายหนุ่มเดินโขยกเขยกออกมาจากบังกะโลหลังน้อยที่พักอาศัยอยู่ ซึ่งคุณพิไลพรรณมารดามีส่วนรวมเป็นเจ้าของกึ่งหนึ่ง เขาจึงพักผ่อนโดยมีคนคอยสอดส่องดูแลอย่างไม่ให้คาดสายตาตามคำบัญชาของคุณพิไลพรรณ ร่างสูงเก้งกางของหนุ่มน้อยวัย20ปี เดินกระปรกกระเปลี้ยด้วยความอ่อนแรง เมื่อรู้สึกเจ็บจี้ดๆ ตามบาดแผลที่บริเวณขาของตัวเองที่ฝืนทนเดินหนีมาเป็นเวลานาน เขาเบื่อหน่ายรำคาญทุกๆ สิ่งรอบตัว สายตาคมมองตรงไปข้างหน้า เขาเห็นเด็กสาววัยรุ่นหน้าตาน่ารักวัยของหล่อนไม่น่าเต็ม15ปี นั่งซบใบหน้าร้องไห้เสียใจอยู่ริมทะเล จึงรู้สึกสงสารเห็นใจ เมื่อมองเห็นไหล่กลมมนสั่นไหวเพราะแรงสะอึกสะอื้น “เป็นอะไรนะ...ทำไมมานั่งเศร้าแถวนี้? มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า” ชายหนุ่มทรุดตัวนั่งใกล้ๆ เด็กสาวแปลกหน้า พร้อมกับเอ่ยถามอย่างห่วงใย มันเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเมื่อเห็นไหล่กลมมนไหวสั่นน้อยๆ มนต์มีนา แก้วฟ้าเด็กสาวผู้สูญเสียบิดาไปหมาดๆ หล่อนเขม่นมองใบหน้าคมเข้มของชายแปลกหน้าผ่านม่านน้ำตาที่ยังคงไหลริน ร่างเล็กๆ ขยับตัวหนีอย่างหวั่นกลัว เธอยกฝ่ามือเรียวเช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้าลวกๆ ลอบมองสำรวจชายแปลกหน้าที่มีร่างกายไม่สู้ดีอย่างระแวงสงสัย วงหน้าของเขาซีดเซียว บ่งบอกถึงความเจ็บปวดที่กำลังผจญ ทำให้ มนต์มีนาคลายความเกรงกลัวไปได้ระดับหนึ่ง “เป็นใบ้หรือไง...ถามอะไรก็ไม่ยอมตอบ...” เขาบ่นเบาๆ ก่อนจะเอนกายลงนอนบนพื้นทรายเนื้อละเอียดริมทะเล พรางพริ้มเปลือกตาหลุบลงอย่างเหนื่อยอ่อน “มีนา...ไม่รู้นี่ว่าคุณต้องการอะไร? เราไม่ได้รู้จักกันเสียหน่อย”มนต์มีนาก้มใบหน้าลง หล่อนบ่นออกมาอุ๊บอิ๊บอยู่ในลำคอ เสียงเล็กๆหวานใสกระทบใจของคาร์โลว จนเขาต้องลืมตาขึ้นมอง ดวงตาสีคราลาเมลเข้มหวานฉ่ำ เมื่อเผลออมยิ้มตามเสียงหวานใสที่ได้ยิน “ถึงไม่รู้จักกันตอนนี้ แต่ต่อไปต้องรู้จักกันอยู่แล้วน่า เพราะตอนนี้เราสองคนก็กำลังคุยกันอยู่นี่ พี่ชาร์ล อยู่ที่กรีนแบร์รีสอร์ทน้องล่ะชื่ออะไร”คาร์โลว เอ่ยบอกชื่อไทยของตัวเองให้เด็กสาวน่ารักอย่างมนต์มีนาได้รู้จักอย่างที่ไม่เคยแนะนำตัวเองแบบนี้กับใครมาก่อน น้อยคนที่จะรู้ว่าคาร์โลวมีชื่อไทยที่คุณพิไลพรรณตั้งให้ มันเป็นชื่อแสนหวงสำหรับคนพิเศษเท่านั้นที่ชายหนุ่มจะอนุญาตให้เรียกได้ แต่กับเด็กสาวน่ารักน่าเอ็นดูอย่างมนต์มีนา คาร์โลวหลุดปากเอ่ยบอกชื่อของตัวเองอย่างหลงลืม “บอกไม่ได้...คุณพ่อบอกว่าไม่ให้มีนาคุยกับคนแปลกหน้า” มนต์มีนากล่าวเสียงสั่นๆ ส่ายใบหน้าเดี๊ยะ!! เมื่อนึกถึงคำสั่งสอนของบิดา “มีนาเหรอ...น่ารักดี เรียกพี่ว่านพก็ได้ เพราะพี่น่าจะแก่กว่ามีนาหลายปีอยู่ เห็นไหมแค่นี้เราก็รู้จักกันแล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างอารมณ์ดีแย้มยิ้มติดเรียวปากอย่างน่ามอง “อื่อ...” มนต์มีนาพยักใบหน้ารับรู้ แต่ไม่ยอมเอ่ยปากพูดตอบออกไป “มีนาอยู่แถวนี้ไหม ทำไมพี่ไม่เคยเห็นมีนาเลยล่ะ” เขาผินใบหน้ามามองดวงหน้าใสอย่างพินิจ กรอบหน้าหวานหยดแม้จะยังไม่ได้เป็นสาวเต็มตัว คาดว่าเมื่อเติบโตเต็มที่สาวน้อยตรงหน้าคงงามพิลาศพิไลน่าดู ใบหน้าใสมีดวงตากลมโตประดับ แม้จะหมองเศร้า แต่ก็ยังเปล่งประกายความงดงาม จมูกเล็กๆ โด่งนิดๆ ปลายจมูกเชิดขึ้นหน่อยๆ อย่างเจ้าแง่แสนงอน เรียวปากอิ่มย้อยสีแดงสดน่ามอง แม้ไม่ได้แต่งแต้มสีสันอื่นใด “อื่อ...” มนต์มีนาพยักใบหน้าอีกครั้งเมื่อไม่ต้องการตอบคำถาม “ฮ่าๆ...” เสียงหัวเราะดังกังวานของพี่ชายคนใหม่ ทำให้มนต์มีนาเหลือบมองอย่างไม่เข้าใจ? “พี่ชาร์ลหัวเราะอะไรคะ? มีนามีอะไรตลกหรือไง” เสียงหวานใสติดแง่งอนนิดๆ เอ่ยถาม ดวงตากลมโตเหือดแห้งคราบน้ำตา หลงลืมความเสียใจไปชั่วครู่ “เปล่า...ไม่มีอะไร!! แค่ขำมีนาน่ะ เสียงออกจะไพเราะแต่ทำไมถึงไม่อยากพูด” “...” มนต์มีนาอ้าปากเหวออย่างลืมตัว เมื่อพี่ชายคนใหม่เอ่ยชมเสียงหวานๆ ของตัวเอง พวงแก้มใสซับสีเลือด รู้สึกเอียงอายตามประสาสาวน้อยแรกแย้มที่ไม่เคยรู้สึกใจเต้นวิบวับ แบบนี้กับผู้ใดมาก่อน “อ้าว...ดูซิอายพี่เสียแล้วพี่ไม่ได้แกล้งชมมีนานะ เสียงมีนาฟังแล้วเพลินดี เหมือนเสียงแมวที่ร้องแง้วๆ ครางออดอ้อนเวลาหิวนม...ฟังแล้วเราเพลิดเพลินดีจัง” “มีนาไม่ได้อายพี่ชาร์ลนะคะ แค่ไม่เคยมีใครชมว่ามีนาเสียงเพราะแค่นั้น ส่วนมากจะบอกว่ามีนาดัดเสียงทำเสียงเล็กเสียงน้อยน่ารำคาญต่างหาก” เด็กสาวเอ่ยแก้ตัวเสียงอุ๊บอิ๊บ ก้มใบหน้าหลบสายตาหวานฉ่ำของพี่ชายคนใหม่ที่ทำให้หัวใจเต้นโครมคราม จนหวั่นกลัวว่าพี่ชายจะได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองที่กำลังเต้นระรัว เสียงพูดคุยกันอย่างถูกคอของเด็กหนุ่มและเด็กสาวที่คุยกันได้ทุกเรื่อง...ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร!! มนต์มีนาเอียงคอฟังเรื่องวีรกรรมโลดโผนของคาร์โลว พร้อมกับห่อปากทำตาโต รู้สึกทึ่งที่พี่ชายคนใหม่มีโอกาสได้พบเจอเหตุการณ์ตื่นเต้นได้บ่อยๆ ส่วนคาร์โลวก็รู้สึกภูมิใจที่มีคนชื่นชมวีรกรรมของตัวเอง ทั้งที่คนรอบข้างส่ายหน้าเอือมระอา จึงเล่าเรื่องต่างๆ ถ่ายถอดให้เด็กสาวฟังอยากนึกสนุก เวลาผ่านไปไวเหมือนติดปีก เมื่อความมืดมิดเข้ามาเยือน ยามสิ้นแสงอาทิตย์ที่ลาลับขอบฟ้าไป “มีนากลับก่อนนะคะ เดี๋ยวแม่เป็นห่วง มีนาแอบหลบออกมาจากบ้านเพราะไม่อยากร้องไห้ให้แม่เห็น พี่ชาร์ลจะกลับยังไง? ให้มีนาไปส่งหรือเปล่า พี่ยังไม่ค่อยแข็งแรงดีเลยนี่นา” มนต์มีนาหยัดกายขึ้นยืนเธอปัดฝุ่นทรายที่เกาะกระโปรง พรางเอียงคอมองวงหน้าคมของพี่ชายที่คุยกันถูกคอจนมืดค่ำ “มีนากลับไปเถอะจ้ะ...ไม่ต้องเป็นห่วง พี่ซิต้องเป็นห่วงมีนาที่ไม่สามารถไปส่งมีนาด้วยตัวเอง มืดค่ำแบบนี้มันอันตราย พี่จะมองอยู่ตรงนี้จนกว่าจะเห็นว่ามีนาปลอดภัยพี่ถึงจะกลับไปยังที่พักตัวเอง” “ค่ะ...” มนต์มีนาพยักใบหน้ารับคำ ซ่อนใบหน้าซับสีเลือดของตัวเองกับความมืดสลัวยามค่ำ รู้สึกอบอุ่นกับความห่วงใยของพี่ชายคนใหม่ น้ำเสียงจริงจังกับแววตามั่นคง ทำให้สาวน้อยแรกแย้มแบบมนต์มีนาหัวใจแกว่งไกว เด็กสาวหมุนกายกลับ รีบเดินเร็วๆ ตรงกลับบ้านพักของตัวเองพร้อมกับความอบอุ่นจากสายตาของพี่ชายคนใหม่ที่โอบล้อมอยู่รอบๆ ตัว ยามที่พี่ชายมองตามจนตัวเองหายลับไปจากสายตา มนต์มีนาหมุนกายกลับมาโบกไม้โบกมือให้คาร์โลวอย่างร่าเริง เมื่อเดินห่างไป และใกล้จะถึงที่บ้านพัก รอยยิ้มสวยแต้มอยู่บนเรียวปากอิ่ม เมื่อลืมความหม่นหมองลงไปได้บางส่วน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD