บทนำ

932 Words
มหาลัยประจำนานาชาติ QW อาคารกิจกรรม การดนตรี…. พรึบ “ไอ้ไดร์ฟ!”เสียงเข้มตึงของผู้ชายวัยรุ่นที่อยู่ในชุดกีฬาพร้อมทำกิจกรรมเอ่ยเรียกผู้ชายวัยรุ่นอีกคนที่เขาตั้งหน้าตั้งตาจดโน้ตเพลงและเเต่งเนื้อเพลงรวมไปถึงทำนองด้วยสีหน้ามุ่งมั่นและตั้งใจ “ว่า?”ไดร์ฟเด็กหนุ่มวัยยี่สิบปีเศษเรือนผมสีน้ำตาลเข้มใบหน้าเรียวไข่ได้รูปผิวขาวใสริมฝีปากสีชมพูสดดวงตาชั้นเดียวเงยหน้าขึ้นไปมองเพื่อนสนิทที่เป็นรูมเมทของเขาอย่างสงสัยที่เห็นเพื่อนวิ่งหน้าตาตื่นตะหนกมาแบบนั้น “มีโทรศัพท์เข้ามาหามึง”ชาญเอ่ยบอกไดร์ฟเพื่อนสนิทของเขาไป ไดร์ฟก็ขมวดคิ้วหนาเข้าหากันอย่างงุนงงว่าใครกันที่โทรมาหาเขา “ใครวะ?” “ไม่รู้….รู้แต่ว่าเรื่องสำคัญ…”ชาญทำสีหน้าจริงจังพร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ตัวยาวตัวเดียวกันกับไดร์ฟเพื่อนของเขาด้วยท่าทางเหนื่อยหอบจากการวิ่งมาด้วยระยะทางที่ไกลพอสมควร “อ่า…เคๆชอบใจมาก…”ไดร์ฟยื่นมือไปตบไหล่ชาญพร้อมกับเอ่ยขอบคุณและเริ่มเก็บของของเขาลงในกระเป๋าเป้เพื่อจะไปยังห้องพักของอาจารย์ที่นั่นเป็นที่ให้นักศึกษาได้ใช้โทรศัพท์สนทนากับทางบ้านได้ ไดร์ฟก็แอบแปลกใจว่าทำไมคนนั้นไม่โทรเข้าเบอร์มือถือของเขาล่ะ “ดรัณภพครับ….”ไดร์ฟเอ่ยขึ้นในขณะที่เขาเดินมาถึงห้องพักของอาจารย์แล้ว “อ่ะ…สายของเธอจ้ะ…” “ขอบคุณครับ…อาจารย์^_^”ไดร์ฟเอ่ยพร้อมคลี่ยิ้มอย่างสดใสขอบคุณอาจารย์ที่ทำหน้าที่เฝ้าห้องนี้ไปพร้อมกับเดินไปนั่งที่โต๊ะและหยิบโทรศัพท์ของมหาลัยขึ้นมาพูดใส่ปลายสายไป “ฮัลโหล…สวัสดีครับ..ผมไดร์ฟพูดสายอยู่ครับ”ไดร์ฟเอาโทรศัพท์แนบหูและเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงสุภาพ ปลายสายที่เงียบเพื่อรอการตอบรับก็เอ่ยตอบกลับมาทันทีที่ได้ยินเสียงของไดร์ฟ (ไดร์ฟ!…นี่ป้าพร…ป้าข้างบ้านของไดร์ฟนะ)ปลายสายร้อนรนเอ่ยพูดออกมาจนรัวเร็ว ทำให้ไดร์ฟรู้สึกงุนงงและสงสัยว่าป้าพรป้าข้างบ้านที่อาศัยอยู่ติดกับบ้านของเขาโทรมามีธุระด่วนอะไร “ครับ…ป้าพรสวัสดีครับ…” (ไดร์ฟ…ทำใจดีๆไว้นะลูก…) (แม่ของไดร์ฟ…ผูกคอตายแล้ว….) ตุ๊บ ไดร์ฟตกตะลึงเผลอปล่อยโทรศัพท์ของทางมหาลัยหลุดมือ เขากำลังอยู่ในอาการช็อคสุดขีด ทันทีที่เขาได้ยินว่าแม่ของเขาผูกคอตายเหมือนโลกทั้งใบในตอนนี้หยุดหมุนและพังทลายลงเพราะเขารู้ดีว่าแม่ของเขา ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรงแล้ว แต่ในการเสียใจในครั้งนี้ทำให้ไดร์ฟกำหมัดแน่นแววตาดุดันอย่างโกรธจัดน้ำตาสีใสเอ่อคลอรอบดวงตาคู่สวย เขาขบกรามแน่นนึกโกรธคนเป็นพ่อที่รู้ว่าแม่ของเขาป่วย แต่กลับไม่พาไปรักษาแถมยังให้เขากลับมาอยู่ที่มหาลัยประจำอีก เขาจะกลับบ้านไปหาแม่ของเขาได้ก็ต่อเมื่อมหลาลัยปิดเทอมหรือมีวันหยุดเยอะๆ งานศพของแม่ไดร์ฟ…… “แม่…แม่ครับ…หลับให้สบายนะครับ…”ไดร์ฟพยายามกลั้นน้ำตาที่มันไหลอยู่เต็มด้านในอกของตัวเองไว้ในวันสุดท้ายที่เขาจะส่งแม่ของเขาไปสวรรค์โดยที่ไร้เงาของผู้ชายที่แม่ของเขารักนักรักหนา “วันสุดท้ายของแม่แล้วแท้ๆ…แต่เขาก็ยังไม่มา….”ไดร์ฟเอ่ยขึ้นพร้อมกับความคับแค้นที่อยู่ในใจ เมื่อนึกถึงหน้าของผู้ชายคนนั้นที่ยังคงออกโทรทัศน์ด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มไม่สะทกสะท้านกับการจากไปของแม่เขาเลยสักนิด “เราจะกลับมาอยู่ที่นี้เลยหรือเปล่าล่ะไดร์ฟ…?”เสียงอบอุ่นจากป้าพรเพื่อนข้างบ้านเอ่ยถามไดร์ฟที่เขายืนเกาะอยู่ข้างโลงศพของเขาแม่เขาอยู่จึงต้องค่อยๆละใบหน้าหล่อไปมองหน้าของป้าพร คนเดียวที่มางานศพของแม่เขา “ครับ….ผมคงไม่กลับไปเรียนแล้ว….” “ทำไมล่ะไดร์ฟ…” “ป้าว่าแม่ของไดร์ฟไม่อยากให้ไดร์ฟหยุดเรียนนะ…” “ครับ….ถ้าผมไม่หยุดเรียนก็คงกลับมาอยู่บ้านนะครับ…และหางามเสริมทำเอา…” “อืม…ป้าก็เห็นด้วยนะ….” “อยู่ให้ได้นะ….” “ขอบคุณครับ…ป้าพร…”ไดร์ฟยกมือไหว้ป้าพรไปอย่างเคารพ เพราะเขาอยู่กับแม่เขามาแค่สองคนตลอดเวลา โดยแม่ของเขาทำงานอย่างหนักเพื่อส่งเสียเขาเรียนจนพักหลังๆมา แม่ของเขามีอาการโรคซึมเศร้าทำให้แม่ของเขาต้องหยุดทำงานและรักษาตัวอยู่ที่บ้าน โดยตลอดเวลาคนที่ขึ้นชื่อว่าพ่อของเขากลับไม่เคยมาเยี่ยม เพียงแค่ส่งเงินมาให้เขากับแม่แค่นั้นเอง โดยที่เขาก็แทบจะจำหน้าพ่อตัวเองไม่ได้แล้ว….ถ้าไม่เห็นทางโทรทัศน์นั้น เคยไหมครับ…? อยู่ดีๆก็นึกเบื่อ…? เบื่อโลก…. เบื่อคนรอบตัว…. เบื่อตัวเอง…. เหนื่อย…และล้ากับการ…ที่จะหายใจ เบื่อแม้กระทั่งที่จะมีชีวิตอยู่บนโลกที่เงียบเหงาเช่นนี้…. เหมือนตัวคนเดียวทั้งๆที่มีผู้คนมากมายรายล้อมรอบๆตัว…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD