บทที่7

2073 Words
มองอุปกรณ์ที่น้องสาวเก็บซ่อนไว้ตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบ เพราะเขาไม่ได้แยกจากน้องเลยสักครั้งนอกจากตอนหลับ จึงอดเกาหัวแกรก ๆ อย่างสงสัยไม่ได้ “เจ้า ไปเอาของพวกนี้มาจากที่ไหน” “ยืมมา” “ยืมใคร” “ป้าข้างบ้านเราไง” “หา! นี่เจ้าไปแอบขโมยมาตั้งแต่ตอนไหน” “ข้าเปล่าขโมย แค่ยืมมาใช้ชั่วคราวเท่านั้น ไว้เสร็จแล้วจะมุดช่องหมาลอดเอาไปวางที่เดิม” “น้องสาว ทำแบบนี้เราจะซวยกันหมดนะ! ป้าคนนี้เป็นแม่ค้าที่ดุยังกับอะไร ถ้าขืนรู้เข้า ข้าไม่อยากจะคิด” “พูดมาก ถ้าเจ้าไม่บอกใครแล้วป้าคนนั้นจะรู้ได้ยังไง มาเลยมาช่วยกันทำงาน ตอนนี้เราต้องช่วยท่านแม่หาเงิน ท่านพ่อไม่ให้เงินแล้ว” “เจ้ารู้ได้ยังไง” “ข้ารู้ก็แล้วกัน มาเอากลีบดอกที่แยกไว้ใส่หม้อ” พอถูกน้องสาวเท้าสะเอวทำหน้าขึงขังใส่ คนพี่จึงไม่กล้าชักช้าอีกรีบเอากลีบดอกไม้ที่เลือกทำความสะอาดไว้หนึ่งส่วน มาใส่หม้อขนาดกลางซึ่งมันค่อนข้างใหญ่สำหรับพวกตน เขาไม่รู้ว่าน้องจะทำยังไงต่อ ก่อนจะถูกสั่งให้เทน้ำต้มสุกที่ได้เตรียมไว้ตอนมารดาเผลอจนเต็ม “แค่นี้หรือ” “อือแค่นี้แหละ” “แล้วดอกไม้ที่เหลือล่ะ มีตั้งเยอะ” “ไว้ใส่ใหม่พรุ่งนี้” “มันจะไม่เสียหมดก่อนเหรอ” “ไม่หรอก เรายังไม่ได้เด็ดออกเป็นกลีบ ๆ เลย และในอ่างดินก็เย็นมากเหมือนแช่แข็งไว้ ปะไปนอนกัน พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่” “ต้องมาด้วยหรือ อ่า! พรุ่งนี้ค่อยมาก็ได้” แค่บ่นนิดหน่อยทำตาขวางใส่กันแล้ว ทำไมน้องสาวเขาไม่ว่าง่ายเหมือนแต่ก่อน การกระทำของทั้งสองอยู่ในสายตาของหลี่เหมิน เขารอจนสองพี่น้องเดินเข้าห้อง จึงมาเปิดหม้อดู ก่อนจะขมวดคิ้วในใจครุ่นคิดบางอย่าง “เหตุใดเด็ก ๆ จึงรู้วิธีทำน้ำหอมได้” เรื่องนี้แม้แต่เขายังไม่ทราบขั้นตอนทำที่แท้จริง รู้เพียงว่าต้องใช้กลีบดอกไม้กับน้ำ แต่หลานสองคนกลับลงมือทำ คงต้องจับตาดูต่อไป “ไม่มีข้าวสารเหลืออยู่เลย แบบนี้จะเอาอะไรให้ลูกกินดีล่ะ” อีเหนียงเศร้าใจอย่างยิ่งที่สามีทำเช่นนี้กับตนและลูก จะเกลียดนางอย่างไรก็ไม่ควรปฏิบัติกันแบบนี้ ไม่คิดว่าคนที่เป็นทั้งสามีเป็นพ่อจะโหดร้ายกับลูกของตัวเองได้ลงคอ “พี่สะใภ้ ดูสีหน้าท่านไม่ค่อยดี พี่ใหญ่เขาทำให้ท่านลำบากใจอีกแล้วหรือ” “ข้ารู้สึกสงสัยเหลือเกิน ว่าตัวเองทำผิดอันใดทำไมชีวิตถึงได้น่าสมเพชนัก แม้ข้าวสารจะกรอกหม้อให้ลูกยังไม่มี” “อย่าเพิ่งคิดตัดพ้อให้กับโชคชะตา ข้าว่าท่านควรจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก่อนจะดีกว่า” “แต่ข้าไม่รู้ต้องทำอย่างไร จะออกไปหางานทำก็ไม่ได้ แบบนั้นจะยิ่งเป็นช่องให้พวกเขาโจมตี และถึงไปก็ใช่ว่าจะหางานทำได้ ที่สำคัญข้าไม่อาจรบกวนเจ้า เพราะอาจเดือดร้อนไปอีกคน” “เรื่องนั้นข้าไม่กลัว จะห่วงเพียงหลานทั้งสองคน อย่างไรเสียท่านรับเงินจากข้าไปก่อน ไว้มีเมื่อไรค่อยนำมาใช้คืน วางใจเถอะ ข้าได้เขียนสัญญากู้ยืมมาให้ท่านลงลายนิ้วมือ หากผู้ใดจะคิดในทางชู้สาวแสดงว่าจิตใจดำมืดจนเกินเยียวยา” “ขอบคุณเจ้ามาก หากไม่มีเจ้าพวกเราสามคนแม่ลูกคงต้องทนหิว ไว้ข้าจะออกไปหารับจ้างนำเงินมาคืนให้ รับรองว่าข้าไม่เบี้ยว” ถึงรู้ว่าจะเกิดปัญหาตามมา แต่จะให้ทนอยู่ในสภาพนี้ต่อไปคงได้อดตาย ถ้านางไม่ทำจะเอาอะไรกินต่อให้ถูกหย่าก็ไม่สนแล้ว การสนทนาของแม่กับอา มีหัวผักเล็ก ๆ สองหัวที่แอบดูแอบฟังอยู่ใต้โต๊ะ เดิมสองพี่น้องกำลังเอากากดอกไม้ของเมื่อคืนเก็บออกจากหม้อไปทิ้ง และใส่กลีบดอกไม้ชุดใหม่ลงเพื่อแช่ และต้องทำเวียนแบบนี้ไปเรื่อยจนกว่าดอกไม้ที่เอามาจะหมด นี่คือวิธีทำน้ำหอมของหลี่หลิง หลังจากนั้นจะน้ำไปอบควันเทียน แต่ที่นี่ไม่มีจึงจะเปลี่ยนเป็นอบรมควันจากเศษกำยานหอมกลิ่นเดียวกันอีกครั้ง จะได้น้ำหอมสูตรประยุกต์ออกมา ทว่ากลัวมารดาเห็นจึงพากันยกหม้อมุดหลบซ่อนตัว รอจนผู้ใหญ่จากไปแล้วทั้งคู่จึงค่อย ๆ คลานออกมา “พี่ชาย อย่าร้องไห้นะ เป็นผู้ชายถ้าจะหลั่งน้ำตาต้องไม่ทำให้ใครเห็น อึบไว้แบบนี้” เด็กหญิงทำท่าอึบน้ำตาด้วยการเม้มปากสูดลมจนแก้มพอง ดูแล้วตลกมากกว่า แต่นั่นทำให้เด็กชายหยุดร้องไห้ ก่อนจะตบบ่าผู้เป็นน้องสาวอย่างชื่นชม “น้องสาว เจ้าพูดมาถูกทุกอย่างท่านพ่อคนนี้ไม่ดี และไม่ดีเอามาก ๆ พ่อไม่ให้เงินแม่ ทำพวกเราอดอยาก ข้าสัญญาว่าต่อไปข้าจะ.” “จะเลี้ยงดูข้ากับท่านแม่ ไม่ยอมให้ถูกใครรังแกใช่ปะ” “จะเชื่อฟังเจ้า ต่อไปข้าจะไม่สงสัยเก่งอีกแล้ว” “....” เราควรรู้สึกยังไงกับสถานการณ์นี้ดี เด็กสองคนไม่ได้สอดรู้เรื่องของมารดาอีก เพียงตั้งใจทำน้ำหอมออกมาให้ดีจะได้นำไปขายแลกเงิน “ดูนี่สิ หอมมากเลย” “อือ หอมจนทะลุหม้อออกมาเลย แบบนี้เราต้องกรอกใส่ขวดเล็กแล้วปิดให้แน่น กลิ่นจะได้ไม่หลุดออกมาจนถูกจับได้” ขวดก็ยืมมาจากบ้านข้าง ๆ “แล้วคิดไว้รึยังว่าจะเอาไปขายยังไง” “คิดแล้ว พี่ชายไม่ต้องห่วง” ถึงข้างนอกจะเป็นแค่เด็ก แต่ข้างในไม่เด็กอย่างที่เห็น จึงมีสารพัดวิธีจะหาเงินยิ่งเป็นเด็กยิ่งทำอะไรง่ายเพราะไม่เป็นที่สังเกตของคนที่บ้าน อันนี้นางคิดเองเออเอง ด้วยไม่รู้ว่าถูกหลี่เหมินจับตาดูทุกการกระทำ “ไปพี่ชาย เราเอาน้ำหอมไปขายกัน จะได้เอาเงินมาให้ท่านแม่” หลายวันมานี้มารดาต้องออกไปทำงานรับจ้างซักผ้า เพื่อหาเงินมาซื้ออาหารทำกินสามแม่ลูก แม้จะได้รับความช่วยเหลือจากท่านอา แต่เพราะอาจสร้างปัญหาแม่จึงไม่คิดใช้เงินก้อนนั้น แต่เก็บเอาไว้จนกว่าจะฉุกเฉินจริง ๆ ทว่าไม่รู้ว่าอนุไปรู้มาจากไหนถึงได้คาบข่าวไปบอกบิดา ตอนนี้สองหนูน้อยจึงได้แต่เอาขวดน้ำหอม ไปฝังซ่อนไว้ใต้ต้นไม้หลังบ้าน ก่อนจะวิ่งกลับมาแอบดูผู้ใหญ่สี่คนที่โต้เถียงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร “พี่ใหญ่ ท่านกล่าวแบบนี้จะไม่รุนแรงไปหรือ เป็นท่านเองที่ตัดหนทางรอดพี่สะใภ้กับลูก และการออกไปทำงานเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูบุตรหาใช่สิ่งที่ผิดไม่” “แล้วเจ้าจำเป็นต้องออกหน้าสอดมือแทนพี่สะใภ้เจ้าด้วยรึ” “ใช่แล้ว น้องรองช่างใส่ใจฮูหยินนัก เช้าถึงเย็นถาม หากไม่รู้มาก่อนว่าท่านพี่เป็นสามี คนคงนึกว่าเจ้าต่างหากที่เป็นสามีนาง” “ต่ำช้าหยาบคายนัก! ปากเจ้าไม่เคยสักครั้งที่จะเอ่ยถ้อยคำดี ๆ เที่ยวใส่ร้ายผู้อื่นป้ายสีให้ได้รับความอยุติธรรม ข้ากับพี่สะใภ้บริสุทธิ์ใจต่อกัน ไม่ทำอย่างที่เจ้าว่า” “ไม่เคย โถ ๆ เจ้าอายุตั้งเท่าไรแล้วกลับไม่ยอมแต่งงาน มิใช่ว่าเพราะมีใจผูกพันกับฮูหยินอยู่แล้วหรือ” ชิวอี๋พูดลอยหน้าลอยตายิ้มแย้ม พอถูกสายตาดุดันของหลี่เหมินจ้องมอง จึงแสร้งทำผวาซบเข้าอ้อมกอดของสามี เหมือนว่ากลัวเขาจะทำร้ายตน “หลี่เหมิน อย่าให้มันมากไปนัก ไม่ว่าเจ้าจะคิดอย่างไรกับอีเหนียงแต่ควรจะคิดถึงหน้าตาข้าบ้าง ผู้หญิงคนนี้ไม่มีค่าพอ” “และอย่าเข้าใจผิด ที่ข้าพูดไม่ใช่เพราะหึงหวง แต่ศักดิ์ศรีข้าจะให้สตรีในบ้านมาทำให้แปดเปื้อนไม่ได้ เจ้าจงเก็บขนเสื้อผ้าแล้วออกไปจากบ้านข้าเสีย ก่อนที่เรื่องเน่าเหม็นเหล่านี้จะแพร่ออกไปภายนอก” “ข้าไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น! ทำไมข้าจะต้องยอมรับสิ่งที่คนใส่ร้ายด้วย อีกอย่างคนที่ผิดไม่ใช่ข้า” “อย่ามามองชิวอี๋ของข้าแบบนี้ เจ้าเทียบนางไม่ได้แม้แต่ปลายก้อย ที่หาข้ออ้างไม่ยอมจากไปเพราะเจ้านั้นไร้ปัญญาไร้หนทาง เจ้าไม่มีประโยชน์เช่นนี้ ข้าไม่เก็บไว้ให้สิ้นเปลือง ไม่ว่าเจ้าจะทำจริงหรือไม่ ข้าไม่ได้สนใจ ที่ข้าต้องการคือไล่เจ้าออกไปจากบ้านเสีย” “หลี่หวง เจ้าจะทำเกินไปแล้ว ทั้งที่รู้ว่าพี่สะใภ้ไร้ที่ไปกลับบีบคั้นกันไม่เลิกรา” “ข้าพอใจ เจ้าจงอยู่เฉย ๆ อย่าได้มายุ่ง มิเช่นนั้นข้าจะไล่เจ้าออกไปอีกคน” “เจ้า!” “พอเถอะน้องรอง ขอบใจเจ้ามากที่คอยช่วยเหลือข้ามาตลอด แต่อย่าได้เดือดร้อนเพราะข้าอีกต่อไปเลย” อีเหนียงรู้สึกขอบคุณน้องสามี ที่เขาเป็นเดือนเป็นร้อนแทนตน “หลี่หวง หลายปีที่ข้าแต่งให้เจ้า ไม่มีวันไหนเลยที่ข้าไม่ซื่อสัตย์กับเจ้า ในฐานะภรรยาข้าพยายามอย่างยิ่งที่จะทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด แม้วันที่เจ้าพาคนรักมาเหยียบย่ำหัวใจข้า ยังไม่คิดตำหนิ ขนาดที่งูพิษตัวนี้ผลักหลิงเอ๋อร์ตกบ่อน้ำ เจ้าผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อกลับไม่แยแสลูกแม้แต่น้อย ทำให้ข้าหมดความอดทนแล้วจริง ๆ” ดวงตาเย็นชาสาดประกายแข็งกร้าวขึ้นมา นางอยากขอบคุณสามีอย่างเขาเช่นกันที่เลวเสมอต้นเสมอปลาย ทำให้ไม่มีความทรงจำดี ๆ ร่วมกัน เมื่อไม่รักย่อมไม่ทุกข์ ที่ทนอยู่เพราะลูกเท่านั้น “เจ้าพูดถูก ที่ข้าทนอยู่เหตุผลหนึ่งคือไม่มีที่ไป แต่ไม่ใช่กลัวลำบาก ข้าเป็นลูกสาวชาวนา งานหนักใดบ้างที่ไม่เคยทำ ที่ข้ายังอยู่เพราะข้ามีลูกชายลูกสาว ข้าไม่อยากให้ลูกลำบาก ถูกเมียรักของเจ้ารังแก ผลักคนตกน้ำก็ทำแล้ว มีหรือที่จะรักเอ็นดูพวกเขา เจ้าเองไม่ได้มีความเป็นพ่อคนสักนิด และข้าไม่อยากให้ลูกกำพร้าตกระกำลำบาก นึกว่าเจ้ายังพอมีสำนึก แต่หลายวันที่เจ้าไม่แม้จะสนใจว่าลูกจะอิ่มหรืออด” “พูดมาตั้งมาก ที่แท้ก็หาข้ออ้างไม่ยอมจากไป อีเหนียงไม่ว่าเจ้าจะชักแม่น้ำมากี่สาย ข้าได้ลั่นวาจาออกไปว่าไม่ให้เจ้าอยู่ที่นี่ ดังนั้นจงไปเก็บข้าวของแล้วออกไปจากสกุลหลี่เสีย เห็นแก่ที่เจ้าดูแลบิดามารดาข้าอย่างดี จะไม่โยนเจ้าออกไปตัวเปล่า” “น้องสาว ท่านพ่อเขาไล่ท่านแม่ของเราแล้ว” “ข้าได้ยิน ไม่ต้องย้ำ ไปเถอะกลับห้องกัน” “กลับห้อง ไปทำไม” “เก็บของสิ ข้าจะไม่อยู่กับพ่อใจร้ายแน่ ข้าจะไปกับท่านแม่ จะไปด้วยกันมั้ยหรือว่าจะอยู่ที่นี่” “ข้าต้องไปอยู่แล้ว แต่ท่านพ่อจะยอมให้ไปหรือ” “ยอมสิ ยอมแน่ เชื่อข้าไปเก็บของรอท่านแม่” ถึงไม่ยอมแต่นางจะไป “อืม” สองพี่น้องพากันย่องกลับเข้าห้อง ไม่ได้รู้สึกกลัวที่ต้องออกไปลำบากสักนิด พวกเขารู้เพียงว่าจะไม่ยอมอยู่โดยที่ไม่มีมารดาเด็ดขาด ขณะเดียวกันด้านผู้ใหญ่กำลังร้อนระอุ ยิ่งมีตัวเสี้ยมอย่างชิวอี๋คอยกระพือไฟ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD