เริ่มงานจริงจัง
หลังจากที่มู่เฉินได้เดินแนะนำให้นฤมลได้รู้จักพนักงานคนสำคัญในแต่ละแผนก เขาก็จัดการสอนงานให้หญิงสาวอย่างรวดเร็ว เพราะเขาเองก็มีงานที่ต้องทำเช่นกัน แต่โชคดีของเขาที่หญิงสาวคนนี้มีความสามารถ เธอสามารถทำงานได้ดี เรื่องภาษาอาจจะมีปัญหาบ้างเล็กน้อย แต่เขาก็ยินดีช่วยเพราะเขาเป็นถึงเจ้าของภาษา ดังนั้นเมื่อเธอใช้คำผิด เขาก็จะคอยช่วยแก้ให้เอง...
ป๊อกแป๊กเริ่มนั่งทำงานในส่วนของตัวเอง เธอมีโต๊ะที่อยู่ตรงข้ามกับของคุณเลขาไป๋ คุณเลขาไป๋บอกให้เธอเรียกแบบนั้นเพราะมันง่ายกว่า และมันก็จริงอย่างที่เขาบอก งานของเธอก็ได้รับช่วงมาช่วงมาจากคุณไป๋ เพียงเธอเห็นโต๊ะทำงานของเขาแล้ว เธอก็ถึงกลับอยากจะลาออกซะเดี๋ยวนั้นเลย คือแบบ มันเยอะมาก เยอะมากแม่ คือเธอไม่เข้าใจเลยว่าคุณไป๋จะทำงานยังไงไหว....
พักเที่ยงเธอเลือกลงไปหาอาหารด้านล่างทานเพราะวันนี้เธอยังไม่โดนท่านประธานเรียกตัวให้ไปช่วยงานอะไรมาก ส่วนใหญ่จะเป็นคุณไป๋เสียมากกว่า ก็อย่างว่าคุณไป๋เป็นพนักงานเก่าแก่ แต่ดูหล่อน่าดู ถึงแม้ว่าจะหล่อน้อยกว่าท่านประธาน แต่ก็ยังหล่ออยู่ดี...
เพียงแค่เธอเดินลงมายังห้องอาหารสำหรับพนักงาน สายตาหลายคู่ต่างก็จับจ้องมาทางเธอกันอย่างพร้อมใจ... ตายห่าสิ แบบนี้เธอจะทำอะไรถูกเนี่ย.....
" ป้าคะ ขอคะน้าหมูกรอบ ไม่เผ็ดมาก ไข่ดาว 1 ค่ะ..."
'พนักงานใหม่เหรอแม่หนู... ชื่ออะไรล่ะเราน่ะ.... ไปๆ ไปนั่งรอเดี๋ยวมีคนยกไปให้...'
ป๊อกแป๊กถึงกับงง คือถามเธอ เธอยังไม่ได้ตอบเลย ป้าแกก็ไล่ไปแล้ว อิหยังว่ะ งงเด้สู....
ป๊อกแป๊กกวาดสายตามองหาที่นั่งที่พอจะนั่งได้ ส่วนใหญ่เขาจะมานั่งกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน แต่เธอผู้เป็นพนักงานใหม่ ตำแหน่งเลขาส่วนตัวท่านประธาน เธอเลยไม่ค่อยมีใครคบสักเท่าไร....
เธอเลือกหาที่นั่งริมๆกระจกเพื่อสอดส่องมองออกไปยังนอกอาคารได้ สวัสดิการของที่นี่มันดีมาก ที่ทำงานเก่าของเธอมีสวัสดีการห้องอาหารเหมือนกัน แต่คือแบบ รสชาตินี่.... จ๊ะ แล้วทำสำคัญไม่ได้ติดแอร์เหมือนที่นี่ด้วย.... สวัสดีการที่นี่คือดีมาก พนักงานไม่ต้องจ่ายเงินค่าอาหาร ทุกคนสามารถทานได้ทุกอย่างที่อยากกิน แต่อาหารส่วนใหญ่จะเป็นอาหารไทยเสียมากกว่า น้ำก็สามารถเลือกดื่มได้แล้วแต่จะเลือกสามารถเติมได้ตลอด ที่สำคัญคือ มันฟรีแม่ มันฟรี ที่ทำงานเก่าคือต้องจ่ายเงิน เธอถือว่าโชคดีอยู่เหมือนกันที่ได้มาทำงานที่นี้....
' คะน้าหมูกรอบดาว1มาแล้วครับ... ยังไงพี่ช่วยระบุหน้าที่และตำแหน่งที่ทำงานด้วยนะครับ... แล้วที่สำคัญช่วยประเมิณร้านค้าด้วยนะครับ...'
ป๊อกแป๊กถึงกับงง คือเออดีวะ มีแบบนี้ด้วย เมื่อได้ยินอย่างนั้นเธอก็บอกไปว่าเธอเป็นพนักงานใหม่อยู่ตำแหน่งอะไร ส่วนเรื่องประเมิณร้านค้าคงจะต้องรอให้เธอได้กินข้าวก่อนถึงจะบอกได้.. เด็กผู้ชายคนนั้นก็พยักหน้าแล้วก็แนะนำเธอว่าถ้าจะติชม ทำเรื่องประเมิณร้านค้าให้ไปตรงมุมนู้นติดประตูแล้วก็ทำเรื่องติชมได้เลย ป๊อกแป๊กจึงพยักหน้ารับคำ....
'ขอโทษครับ.... ผมขอนั่งด้วยคนได้ไหมครับ โต๊ะมันเต็มแล้ว...'
ป๊อกแป๊กที่กำลังเคี้ยวอาหารอยู่ถึงกับชะงัก แต่เมื่อเธอลองมองรอบๆข้างก็เห็นว่าเป็นเช่นที่ชายคนนี้นบอก เธอจึงพยักหน้าเป็นการอนุญาต
ป๊อกแป๊กเลือกนั่งกินข้าวของเธอเงียบๆ เธอไม่รู้จักใครไม่สนิทกับใคร ดังนั้นเธอจึงขออยู่เงียบๆไปก่อนก็แล้วกัน.....
เมื่อเธอทานอาหารเสร็จแล้วเธอก็ลุกเอาจานไปเก็บดั่งที่เธอเห็นคนอื่นเขาทำจากนั้นก็ไปตรงตู้ติชมและประเมิณร้านค้า....
ตึกตึกตึก
' ขอโทษครับ...ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรครับ... เป็นพนักงานใหม่เหรอ... ผมไม่เคยเห็นคุณเลย'
พนักงานชายคนเดิมที่มานั่งโต๊ะเดียวกับเธอถึงกับวิ่งหน้าตั้งมายังเธอ..
" ค่ะ ชื่อป๊อกแป๊ก เป็นพนักงานใหม่ค่ะ เป็นเลขาส่วนตัวของท่านประทาน วันนี้มาทำงานวันแรก ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ"
^__^
0///0
อะไรอ่ะ แล้วเขาจะมาเขินหน้าดำ เอ้ยหน้าแดงใส่เธอทำไมเนี่ย...
'เอ่อ... คะ ครับๆ ผมชื่อก้องนะครับทำอยู่แผนก IT ถ้ามีปัญหาอะไรก็มาหาผมได้นะครับ...'
^__^
" ค่ะ ถ้าอย่างนั้นขอตัวก่อนนะคะ ต้องไปจัดการกับงานก่อน..." ป๊อกแป๊กก้มหัวเล็กน้อยให้ชายตรงหน้าแล้วเธอก็เดินไปยังลิฟ เพื่อที่จะกดไปยังชั้นที่เธอทำงานอยู่
ส่วนเจ้านายและลูกน้องต่างก็พากันนั่งสมาธิเข้าฌาณเพื่อสะสมพลังของตนเอง แต่เพราะทั้งคู่ที่มีประสาทสัมผัสอันเป็นเลิศ เพียงแค่ได้ยินลิฟมาหยุดที่ชั้นของตน ทั้งนายและบ่าวก็รีบพากันหายวับมายังจุดทำงานของตนทันที....
" คุณไป๋ทานข้าวเที่ยงรึยังคะ... อยากได้อะไรไหมคะ เดี๋ยวแป๊กไปหามาให้..." หญิงสาวเอ่ยถามออกไปด้วยความเป็นห่วง....
' ไม่เป็นไรครับ ผมเรียบร้อยแล้ว พอดีสั่งขึ้นมาทานกับท่านประธานตอนที่นั่งคุยงานกันน่ะครับ ขอบคุณนะครับที่เป็นห่วง' มู่เฉินเอ่ยขอบคุณด้วยใจจริง เพราะเขาไม่เคยถูกใครถามออกมาอย่างห่วงใยมานานนับหลายร้อยปีแล้ว
" งั้นแป๊กทำงานต่อนะคะ..."
หญิงสาวหันกลับไปทำงานในส่วนของตนเองอย่างขมักเขม่น เอกสารใบแล้วใบเล่าถูกพิมพ์และตรวจตาอย่างระเอียดพร้อมกับปริ้นออกมาเพื่อรอให้ท่านประธานได้อ่านและพิจารณาตามความเห็นชอบ.....
ก๊อกๆ
จู่ๆโต๊ะทำงานของนฤมลก็ถูกเคาะเบาๆ หญิงสาวเลยต้องจำใจเงยหน้าขึ้นไปมองยังต้นตอของเสียเคาะ....
"เอ่อ... ท่านประธานมีอะไรรึเปล่าคะ? "
" ออกไปข้างนอกกับผม " อี้ซานตอบเพียงสั้นๆและไม่ได้ขยายอะไรมากนัก
" แล้วคุณไป๋ล่ะค่ะ ไม่ไปกับท่านประธานเหรอคะ?"
" คุณทำหน้าที่อะไร? "
"เลขาส่วนตัวค่ะ" ถามทำไมวะ?
" ก็ใช่ไง เพราะฉะนั้นลุกขึ้นเก็บของแล้วตามผมมา ส่วนมู่เฉิน มันมีงานของมันที่จะต้องไปทำ ดังนั้นเธอสมัครมาเป็นเลขาส่วนตัวของฉันแล้วก็ต้องออกไปทำงานข้างนอกกับฉัน เก็บของ แล้วตามลงมาที่ลานจอดรถอ๋อ.... จะไม่เข้ามาอีกแล้ว ดังนั้นจัดการงานที่ยังทำไม่เสร็จเซฟเอาไว้ดีๆ แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาทำต่อ"
ป๊อกแป๊กถึงกับงง นี้ท่านประธานจะแสนรู้เกินไปแล้วนะ.... แต่ก็เอาเถอะ เก็บก็เก็บ
ป๊อกแป๊กใช้เวลาไม่นานเธอก็รีบตามลงมายังลานจอดรถด้านล่าง ส่วนคุณไป๋เธอก็เห็นเขาลงมาด้านล่างเหมือนกัน แต่คุณไป๋ขับรถออกไปก่อนแล้ว ดังนั้นเธอจึงต้องออกไปข้างนอนกกับเจ้านายคนใหม่อย่างห้ามไม่ได้....
" ขึ้นรถ ฉันมีนัด"
ป๊อกแป๊กถึงกับลอบเบ้ปากใส่ คนอะไรเย็นชาชะมัด หล่อซะเปล่า เฮ้อ....
อี้ซานถึงกับอมยิ้มเพียงแค่เขาได้ยินสิ่งที่หญิงสาวคิด
อี้ซานบอกให้คนขับรถแวะที่ร้านเสื้อผ้าเพื่อที่จะพาหญิงสาวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อออกงานกับเขา เขามีนัดแบบที่ไม่ได้ตั้งตัว ดังนั้นเขาจึงให้มู่เฉินไปคุยงานอีกที่ ส่วนนัดนี้เขาจะให้เลขาคนใหม่มาช่วยแทน
ป๊อกแป๊กถึงกับงง เมื่ออยู่ๆเธอก็ถูกพามายังร้านเสื้อดังแบรนด์หรู ในขณะที่เธอกำลังจะอ้าปากถามเจ้านายก็ได้ไขความสงสัยของเธอทันที
" เธอต้องไปร่วมงานครั้งนี้กับฉัน มันฉุกละหุก คนที่ฉันจะต้องนัดคุยงานเขาขอให้ฉันมาคุยกับเขาในงานของคือนี้ ดังนั้นเธอจึงต้องมาทำหน้าที่เลขาส่วนตัวของฉัน..."
"อ๋อ... ค่ะ " ป๊อกแป๊กพยักหน้ารับคำเพื่อแสดงให้เจ้านายเห็นว่าเธอเข้าใจในสิ่งที่เจ้านายพูด....