ทำไมคิดว่าตัวเองต้องได้งานนี้
เฮ้อ.... เบื่อมากชีวิตฉันเนี่ยเรียนจบมาแต่ดันไม่ได้ทำงานในแผนกที่เรียนมาเนี่ย... ยุ่งยากชิบเป๋ง... ในที่สุดวันนั้นก็มาถึง วันที่ฉันได้ง่านใหม่ ที่ทำงานใหม่แล้วก็คนใหม่ๆ เพื่อนร่วมงานใหม่ๆ เรียนบริหารมาก็จริง แต่ฉันไม่ถนัดด้านการตลาดไง การจัดการ เลขานุการน่ะได้อยู่ แต่การตลาดนี่ไม่ได้เลย....
เชิญคุณนฤมลที่ห้องท่านประธานค่ะ...
ฟู่ว์~~~~
" สู้เว้ยป๊อกแป๊ก... ไหนๆก็มีถึงที่นี่แล้ว...คงจะไม่มีอะไรน่ากลัวกว่าการไม่มีเงินแล้วมั้ง... เอาวะ วู้ว!! " นฤมลเรียกขวัญกำลังให้ตัวเองก่อนเข้าไป.....
คนด้านในได้ยินเสียงพูดของผู้หญิงด้านนอกเขาก็แทบจะหัวเราะออกมา ส่วนเลขาเขาก็ถึงกลั้นหัวเราะไม่ไหว.....
ก๊อกๆๆ แกร๊ก.....
" เอ่อ สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อนฤมล..."
"รู้ อ่านข้อมูลส่วนตัวแล้ว.... นึกยังไงถึงอยากมาเป็นเลขาส่วนตัว ฉันมีเลขาแล้ว ปกติฉันไม่รับเลขาเพิ่ม..."
แหม.... ยังไม่ทันได้พูดจบพ่อเจ้าประคุณรุนช่องก็สวนออกมาทันทีเลยวุ้ย... รอให้ไอ้ป๊อกแป๊กแนะนำตัวหน่อยก็ไม่ได้......
แต่มีรึคำนินทาในใจของหญิงสาวจะรอดพ้นผู้ชายสองคนในห้องนี้ได้......
" เออ นั่นคือเลขาธรรมดาค่ะ ที่ดิฉันมาสมัคร คือเลขาส่วนตัวค่ะ "
" แล้วมันต่างกันยังไงไม่ทราบ เลขาหน้าห้องกับเลขส่วนตัว..." ใช่เขาไม่เข้าใจว่ามันต่างกันยังไง ไอ้เลขาส่วนตัว กับเลขาหน้าห้อง....
"คือว่าเลขาส่วนตัวสามารถช่วยตัดสินใจแทนได้ในบางเรื่อง งานส่วนใหญ่คล้ายกับเลขาปกติ แต่เลขาส่วนตัวสามารถทำแทนประธานหรือเจ้านายได้ทุกอย่างค่ะ ดิฉันไปทำงานแทนคุณได้ก็เหมือนกับว่าคุณไปเอง คุณสามารถมอบหมายงานบางอย่างให้ฉันทำแทนได้โดยมีคุณเป็นผู้ออกคำสั่งหรือเรียกง่ายๆว่าเป็นผู้บงการดิฉันค่ะ ฉันจะทำงานตามคำสั่งของคุณทุกอย่าง..."
" แล้ว... มันก็ไม่ได้ต่างจากงานที่ไอ้มู่เฉินทำเลยสักนิ เพราะมันก็ทำงานให้ฉันได้เหมือนกับที่เธอบอกทุกอย่าง.... แล้วที่ว่าทำงานแทนฉันได้ทุกอย่าง ทำเหมือนกับว่าเป็นแฟน หรือเป็นเมียอย่างนั้นเหรอ..."
" โห้..... ไม่ใช่แฟนไม่ใช่เมียก็ทำแทนกันได้ค่า.... แหม... ฉันเห็นว่าบริษัทคุณออกจะใหญ่โต งานก็คงเยอะ พวกคุณทำกันแค่สองคนไม่ไหวหรอกค่ะ ดิฉันจึงเสนอตัวมาช่วยไงคะ.."
"หึ เจ้าแปลก "
" ห๊ะ.... คุณพูดกับดิฉันว่าเจ้า ดูลิเก๊ลิเกจัง.... " นฤมลถึงกับตลกในคำพูดที่ท่านประธานใช้ มาจงมาเจ้าอะไรก่อนพ่อ.....
" อะไรคือลิเกไม่รู้จัก... แล้วทำไมเธอถึงคิดว่าฉันจะรับคนอย่างเธอเข้ามาทำงาน ไหนบอกมาสิว่าตัวเองมีอะไรดี...." หลี่อี้ซวนหรี่ตามองแม่สาวไทยตากลมคนนี้... เขาอยากจะรู้นักว่าเจ้าหล่อนจะพูดยังไง
" อะแฮ่ม... อย่างแรก ดิฉันสวยค่ะ มีประสบการณ์การทำงานมาแล้วหลายปี... 2 ถึงแม้ว่ามันจะไม่ตรงกับสาขาที่ดิฉันจบมาก็ตาม แต่ดิฉันนับค่ะ อย่างที่สอง ดิฉันสามารถสื่อสารทั้งภาษาอังกฤษได้คล่อง และจีนก็ด้วย เพราะดิฉันดูซีรี่ย์จีนทุกวัน ดิฉันหัดเรียนรู้ภาษาจีนจากซีรี่ย์จนสามารถพูดและฟังรู้เรื่อง เขียนและอ่านดิฉันก็ทำได้ดีเช่นกัน ถึงแม้จะไม่เหมือนเจ้าของภาษาแต่ดิฉันอ่านออกเขียนได้และสื่อสารได้ดีมากเลยค่ะ" ป๊อกแป๊กสาธยายออกมาด้วยความรู้สึกที่สุดแสนจะภูมิใจในตัวเอง....
ชายหนุ่มสองคนที่กำลังปรึกษากันทางจิต ต่างพากันเพ่งเล็งไปยังปากของหญิงสาวที่กำลังขยับผงาบๆเหมือนปลาทองในบ่อที่มันกำลังกินอาหารเม็ดอยู่.....
" พอ... เชิญ แล้วจะติดต่อไปอีกที ถ้าเธอได้นะ ถ้าไม่ติดต่อกลับไปคือไม่ได้... ตามนั้น เชิญ ไม่ส่ง"
ป๊อกแป๊กถึงกับอ้าปากค้างทันที เธอยังพูดไม่จบเลยด้วยซ้ำ....
หน้าตาก็ดีแต่ไม่มีมารยาททั้งเจ้านายลูกน้องเลย เจ้าประคู๊ณณณณณ ขอให้ท้องเสีย ขอให้ปากเป็นแผล ขอให้นิ้วล็อค ขอให้ไม่มีคนรัก ขอให้ไม่มีเมีย....
เพียงแค่ก้าวออกมาจากห้อง ป๊อกแป๊กก็ถึงกับบ่นในใจทันที เธอไม่รู้หรอกว่าที่นี่มีกล้องวงจรปิดไหม แต่ที่ทำงานเก่าเธอน่ะมี! มันเลยทำให้พนักงานหลายคนถึงกับขยาดเลยทีเดียว.... ดังนั้นการนินทาในใจนี่แหละดีที่สุดไม่มีใครได้ยินฮ่าๆๆ
หญิงสาวที่นินทาชายสองคนในห้องเสร็จสรรพก็ถึงกับหัวเราะในใจอย่างสนุกสนาน.....
ส่วนคนที่อยู่ในห้องถึงกับหน้าเปลี่ยนสีเป็นสีดำราว8ส่วน....
" ยัยเด็กคนนี้.... คงจะอยากตายสินะถึงมากล้าแช่งฉัน... มู่เฉิน เจ้าว่าข้าต้องทำอย่างไรกับผู้หญิงคนนั้นดี..."
"นายท่าน ข้าน้อยว่าเรื่องที่นางพูดมาก็ถูกนะขอรับ งานที่นายท่านกับข้าน้อยทำมันเริ่มเยอะจนข้าน้อยแทบจะทำไม่ไหวแล้ว.... ข้าน้อยแยกร่างไม่ไหวแล้วขอรับนายท่าน แต่สิ่งหนึ่งที่ข้าน้อยเป็นห่วงคือ พวกเขาไม่ทราบว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใครมาจากไหน และไว้ใจได้หรือไม่ขอรับนายท่าน นั่นคือสิ่งที่ข้าน้อยค่อนข้างกังวลขอรับ" มู่เฉินรีบเอ่ยในสิ่งที่เขาคิดให้กับนายท่านฟัง เขาไม่รู้ว่าจะไว้ใจใครได้อีกหรือไม่ เพราะเรื่องบางเรื่อง ก็ไม่สามารถให้คนอื่นรับรู้ได้... อย่างเช่นเรื่องของเขาและนายท่าน.....
"เรื่องนั้นเจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะไปตรวจสอบเอง เอาเป็นว่าเจ้าทำงานในส่วนของเจ้าไป.... ออกไปได้แล้ว...."
มู่เฉินเดินออกไปจากห้องทำงานของนายเหนือหัวทันที เขาไม่สามารถรับรู้ความคิดของนายท่านได้ ถ้านายท่านไม่เปิดให้เขาได้อ่านใจหรือถ้าเขาไม่ได้รับอนุญาตให้สื่อสารทางจิตกับนายท่าน เขาก็จะไม่สามารถรับรู้อะไรหรือรับรู้ความคิดของนายท่านได้เลย....
อี้ซวน ราชามารที่มีอายุมานานกว่าพันปี เขาไม่เคยมีชื่อ เขาเกิดมาได้ยังไง อันนี้เขาก็ตอบไม่ได้ รู้เพียงว่าเขาคือราชามาร ชื่อของเขา เขาตั้งขึ้นมาเอง ตั้งมาเมื่อไม่กี่ร้อยปีให้หลังนี้เอง เพราะเมื่อก่อนใครๆก็เรียกเขาเพียง... ราชามาร
แต่เมื่อกาลเวลามันล่วงเลยมานานนับพันปี เขาเองต้องพยายามปรับเปลี่ยนชีวิตให้ไหลไปตามวัฏจักรของโลกใบนี้ เขาจึงตั้งชื่อขึ้นมาว่า หลี่ อี้ซาน ราชามารถผู้ยิ่งใหญ่ผู้ที่อยู่สูงสุดในจักรวาล
ส่วนไป๋มู่เฉิน เขาได้ไปเจอกับมันเข้าตอนที่มันมีสภาพเกือบตายเพราะกำลังโดนโจรป่าปล้น.... ทั้งที่ในตัวของเจ้านั้นไม่มีอะไรมีค่าเลยสักอย่าง แต่พวกโจรก็พยายามที่จะค้นหาสิ่งของมีค่าในตัวเจ้านั้น เขาเองก็ไม่ใช่คนดีอะไร แต่เห็นแล้วก็นึกสมเพชมัน เขาจึงช่วยเหลือมัน และมันก็เป็นคนแรกที่ไม่นึกรังเกลียดในตัวเขา และมันก็ขอติดตามเขาจนถึงวันที่มันต้องตายตก เขาเสียดายที่ต้องสูญเสียทาสรับใช้ข้างกาย เขาจึงชุบชีวิตเจ้า ไป๋ มู่เฉินขึ้นมาอีกครั้ง โดยการใช้เลือดแค่หนึ่งหยด... มันก็ฟื้นขึ้นมา และมีผละกำลังที่ไม่เหมือนมนุษย์ทั่วไป แต่ด้วยความจงรักภักดีของมัน เขาเลยได้ถ่ายทอดวิชาต่างๆให้มัน จนมาถึงทุกวันนี้ เจ้านั้นก็ยังคอยติดตามเขาดังเงา.... แม้ว่าการใช้ชีวิตในโลกปัจจุบันนี้จะค่อนข้างยากลำบาก แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรใหญ่มากนอกจากการเปลี่ยนชื่อให้มันเป็นไปตามอายุไขของพวกมนุษย์ทั่วไป....
อี้ซวนนั่งหลับตาพร้อมกับถอดจิตของตนเองบางส่วนให้ตามหญิงสาวคนเมื่อครู่ไป เขาต้องการไปดูว่าหญิงสาวคนนี้เป็นใครมาจากไหน แล้วก็นิสัยใจคอเป็นเช่นไร มู่เฉินที่รับรู้ได้ว่านายท่านได้ร่ายมนต์เอาไว้ เขาจึงร่ายมนต์ในส่วนของเขาออกมาอีกหนึ่งชั้นเพื่อป้องกันความปลอดภัยให้นายท่าน ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าไม่มีใครสามารถทำอะไรนายท่านได้ แต่เพื่อความปลอดภัย เขาจะต้องกันเอาไว้ก่อน....
ป๊อกแป๊กเดินออกมาจากตัวอาคารสูง เธอเดินไปยังร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อแซนวิชชิ้นเล็กๆกิน ตอนนี้เงินเดือนก็ใกล้จะหมดแล้ว ดังนั้นเธอจะต้องใช้เงินอย่างระมัดระวัง....
" เฮ้อ... ป๊อกแป๊กเอ้ย..... จะรอดถึงสิ้นเดือนไม่เนี่ย...เฮ้อ... " ในขณะที่มือกำลังเลือกหาแซนวิช รชชาติที่เธออยากกิน แม่ก็โทรเข้ามาพอดิบพอดี
"ค่ะคุณนาย อ๋อ... กำลังจะซื้อของค่ะ ซื้อแซนวิชค่า.... กำลังหาอยู่ค่ะ งานเดี๋ยวนี้หายากมากเลย หนูไม่อยากกลับไปเป็นภาระพ่อกับแม่.... รอให้หนูได้ลองอีกสักนิดนะคะ ถ้ามันไม่ได้จริงๆ หนูจะกลับไปแบมือขอเงินพ่อกับแม่ใช้... หิหิ ค่า... รักนะคะ ฝากบอกท่านชายใหญ่ด้วยนะคะ ว่าหญิงเล็กคิดถึง... ฮ่าๆๆ ค่า... "
เพียงแค่แม่ของเธอวางสายไป สีหน้าที่ยิ้มแย้มก็ต้องถูกทดแทนด้วยสีหน้าและแววตาที่แสนเศร้า....
อี้ซวนไม่รู้ว่าภายในใจของหญิงสาวนั้นคิดอะไรอยู่ เขาได้จะได้ยินแค่เสียงพูดในใจเท่านั้น การอ่านใจคน เขาไม่อยากทำ เพราะเมื่อเขาได้ลองทำแล้ว มันจะทำให้เขาหยุดเป็นพวกสอดรู้สอดเห็นไม่ได้เลย..
อี้ซวนตามหญิงสาวไปติดๆ แต่เธอคนนี้ไม่มีทางรับรู้ได้ สิ่งเดียวที่เขารับรู้ได้ตลอดระยะเวลาที่ตามเธอคนนี้คือมักจะมีพวกวิญญาณร้ายและวิญญาณเร่ร่อนพยายามที่จะตามติดและเกาะติดเธอคนนี้อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเขาจึงเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธอรอดพ้นจาพวกวิญญาณชั้นต่ำนี้ได้... ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาจะจับพวกมันกลืนกลิน แต่นับตั้งแต่ที่เขาเริ่มนั่งสมาธิเข้าญาณบำเพ็ญเพียร เขาก็เลิกที่จะกลืนกลินวิญญาณชั้นต่ำพวกนั้น.... เมื่อก่อนเขาได้มีโอกาสช่วยแดนนรกดูดกลืนวิญญาณที่มันชั่วช้าและจับตัวได้อยาก แต่หลังจากที่ท่านเง็กเซียนฮ่องเต้ได้อนุญาตให้เขามีชีวิตต่อ เขาจึงเลือกที่จะไม่เดินทางสายมารอีก แต่บางครั้งก็มีบ้างที่จำเป็นต้องแสดงตัวให้หมู่มารชั้นที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินได้รับรู้ถึงตัวตนของเขาว่าเขาเป็นใคร...
@ห้องเช่าเล็กๆของหญิงสาว....
เพียงแค่หญิงสาวเปิดประตูเข้ามา เขาก็รับรู้ถึงสิ่งที่ผิดปกติได้ทันที ภายในห้องมันดูอึมครึม ไม่สดใสเหมือนหญิงสาว เพียงแค่เขากวาดตามองไปเรื่อยๆก็เจอกับเหล่าวิญญาณสัมพเวสีที่เกาะตามเธอมาจากทั่วทิศหลบซ่อนอยู่ในห้อง เพียงแค่เขากรายร่างที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของเขาออกมา พวกวิญญาณเหล่านั้นก็รีบพากันหนีหายกระจายออกไปทั่วสาระทิศทันที....
" หืมมมม วันนี้รู้สึกแปลกๆแหะ.... ทำไมอากาศในห้องฉันมีดีแบบนี้เนี่ย.... อ๊าาาาา ชื่นใจจัง..."
ป๊อมแป๊มเปิดหน้าต่างห้องของตัวเองออกมาเพื่อรับลมบริสุทธิ์ วันนี้อากาศค่อนข้างดี มันเลยทำให้เธอมีความสุขไปด้วย.....
อี้ซานเห็นว่าหญิงสาวคงจะไม่โดนอะไรรบกวนอีก เขาจึงรีบกลับไปสู่กายหยาบของตนเอง แล้วก็ทำงานในโลกปัจจุบันอย่างเช่นเคย....