ดวงตาเรียวยาวดูอันตรายเหมือนพวกไม่ยอมคน ตอนวัยรุ่นคงจะไม่เบาเลยทีเดียว รามิลคิดอยู่ในใจพลางสำรวจชายวัยกลางคนที่จ้องมองเขาเขม็ง เหมือนแค้นกันมาเป็นสิบ ๆ ปี แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าเคยเห็นตาแก่คนนี้ที่ไหน หรือไปทำอะไรให้รามิลจ้องอย่างไม่หลบสายตา ยิ่งชายวัยกลางคนเดินตรงปรี่เข้ามาใกล้มากเท่าไหร่ รามิลก็ยิ่งขมวดคิ้วมากขึ้นเพราะริมฝีปากแบบนี้ ท่าทางดึงดันมันช่างเหมือนกับใครบางคนเหลือเกิน
“ไอ้แก่!”
ยังไม่ทันที่รามิลจะได้เอ่ยอะไร ลูแปงที่กำลังห้าวก็ลุกพรวดและเดินขึ้นมาขวางหน้ารามิล ก่อนจะง้างหมัดขึ้นมาจะต่อยชายวัยกลางคนท่าทางไม่ธรรมดา นัยน์ตาสีเหล็กกล้าของรามิลเบิกกว้างอย่างตกตะลึง เมื่อแสงไฟส่องกระทบลงมาบนใบหน้าของชายวัยกลางคน ทำให้รามิลสังเกตเห็นอะไรได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งขรึมและไวเท่าความคิดมือหนาก็ยื่นออกมาจะคว้าต้นแขนของลูแปงไว้ แต่เหมือนจะไม่ทันเสียแล้วเมื่อเจ้าตัวพุ่งเข้าหาชายวัยกลางคน
ตุบ!
“โอ๊ย”
“ไอ้แปง!”
ร่างของชายหนุ่มสุดเสเพลลอยละลิ่วออกไปไกล ใบหน้าหล่อเหลาบิดเบี้ยวเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ทำให้เพื่อนอย่างอาไกและแบร์ตื่นตะลึง ก่อนจะหันไปมองเจ้าของฝีเท้าอย่างพร้อมเพรียง ไม่คิดว่าชายวัยกลางคนจะพละกำลังเยอะ ขนาดเตะลูแปงจนหมอบแบบนี้
ท่าทางจะตีนหนักไม่เบา
นั่นคือสิ่งที่ทุกคนคิด ส่วนรามิลนั้นเมื่อเริ่มเข้าใจอะไรหลายอย่างแล้วเขาจึงยกมุมปากขึ้น ใบหน้ที่แต่เดิมติดเย็นชาก็ดูราบเรียบจนแทบไร้อารมณ์ ก่อนจะมองตรงมายังชายวัยกลางคนอย่างล้ำลึก ใบหน้าแบบนี้รามิลพอจะรู้แล้วว่าใคร
“มึงกล้าดีนักนะ”
เมื่อจัดการตัวน่ารำคาญอย่างลูแปงแล้ว วาโย อดีตผู้ทรงอิทธิพลของคิงเวลล์ก็ตวัดสายตามาหยุดที่รามิลทันที ใบหน้าที่เคยหล่อเหลาร้ายกาจมีริ้วรอยเพิ่มขึ้นตามอายุ แต่ไม่อาจลดทอนความดุดันลงไปได้ กำลังจ้องหน้าคนรุ่นลูกอย่างเจ็บแค้น ดวงตาเต็มไปด้วยแรงอารมณ์ทำเอาบรรยากาศพลอยตึงเครียดไปด้วยล
“สวัสดีครับพ่อตา”
“ใครพ่อตามึงไอ้เด็กเวร!”
วาโยตวาดเสียงดังลั่นอย่างไม่พอใจ ยิ่งเห็นรอยยิ้มตรงมุมปากของรามิลยิ่งทวีความโกรธเกรี้ยว ลูกสาวที่ประคบประหงมมาอย่างดีนอนร้องไห้อย่างน่าสงสาร วาโยยิ่งเจ็บปวดราวกับมีคนเอามีดมากรีดแทงที่หัวใจ จึงยิ่งมองรามิลอย่างเข่นเขี้ยว
“ถ้าเป็นพ่อเมียก็เท่ากับพ่อตา”
ใบหน้าหล่อเหลายังคงเรียบเฉยแต่คำพูดกลับยียวนกวนประสาท ทำให้บรรดาเพื่อนของวาโยหรือลูกสมุนที่ติดตามกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหา’ลัยรู้สึกว่า เด็กหนุ่มคนนี้ชะตาใกล้ขาด
“หุบปากเน่า ๆ ของมึงไอ้เด็กหน้าน้ำแข็ง”
“หา!”
แบร์กับอาไกแทบจะสำลักน้ำลาย เมื่อได้ยินชายวัยกลางคนด่ารามิล แต่พอหันไปมองใบหน้าเรียบเฉยแต่แววตาวาวโรจน์นั่นแล้ว พวกเขาก็อยากจะหัวเราะจริง ๆ ได้ยินว่าเพื่อนเรียกอีกฝ่ายว่าพ่อตา ทั้งแบร์และอาไกก็ลอบส่งสายตาให้แก่กัน ทั้งสองช่างเหมือนพ่อลูกกันเสียจริง
“ถึงคุณจะพูดยังไง ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าลูกสาวคุณชอบผม”
วาโยได้ยินอย่างนั้นถึงกับเลือดขึ้นหน้า นัยน์ตาเรียวยาวที่แสนอันตรายจ้องมองชายหนุ่มที่ทำลูกสาวร้องแล้วอย่างกรุ่นโกรธ ไม่รู้เดวาไร้สติแล้วหรือยังไงถึงมารักมาชอบคนแบบนี้
“ชอบอย่างนั้นเหรอไอ้หน้าหมา” วาโยคำรามอย่างเกรี้ยวกราด ปกติก็ไม่ชอบผู้ชายทุกคนที่เข้าหาลูกสาวอยู่แล้ว เจอคนตรงหน้ายิ่งรู้สึกเกลียดชังจึงโมโหจนแทบอยากกระทืบให้ตาย
“ตาแก่!” รามิลเอ่ยลอดไรฟัน แม้ใบหน้าจะยังคงราบเรียบ แต่แววตากลับคุกรุ่นเพราะไม่ชอบให้คนมายืนชี้หน้าด่าปาว ๆ
“ทำไมไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม คิดว่าตัวเองเป็นใครมาทำลูกสาวคนอื่นร้องไห้แล้วจะรอดตัว” วาโยเอ่ยเสียงแข็งและจ้องหน้ารามิลเขม็ง
“ทำเลวมามากสิท่า หน้ามึงมันบ่งบอกอย่าคิดมาเถียงกู” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาแสนโดดเด่นของคิงเวลล์ ตั้งท่าอยากจะเถียงกลับ แต่เมื่อได้ยินวาโยเอ่ยถึงเดวา ภาพใบหน้าเปื้อนน้ำตาและสายตาแสนร้าวรานของเธอกลับทำให้เขาชะงัก ไม่กล้าที่จะโต้เถียงอะไรกับวาโยต่อ แม้แต่เพื่อนยังรับรู้ได้ถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนไปมีเพียงแต่
“ไอ้ราม ไอ้แก่นี่อัดกู”
ลูแปงที่พยุงตัวเองลุกขึ้นยืนตะโกนอย่างเดือดดาล และตั้งท่าฟ้องเพื่อนทันที เรื่องอะไรที่ทั้งสองคุยกันลูแปงไม่อยากรับรู้ทั้งนั้น ตอนนี้สภาพที่โดนเตะอนาถ ทำให้เจ้าตัวโมโหอย่างถึงที่สุด
“ไอ้รามจัดการมันเลย”
“หุบปาก!”
รามิลเอ่ยเสียงแข็ง ไม่หันไปมองลูแปงเลยแม้แต่น้อย นัยน์ตาคมกริบสีเหล็กกล้าประสานสายตากับวาโยนิ่ง เพื่อหยั่งเชิงและกำลังคิดคำนวณในสิ่งที่ได้ยินในใจ เขาไม่เคยยอมลงให้ใครกับเดวาก็ถือว่าลงมากดังนั้นกับพ่อของเธอ เขาจึง…
“ไอ้สัดเอ้ย! งั้นกูจัดการไอ้แก่นี่เอง”
ไวเท่าความคิดลูแปงก็พรวดพราดพุ่งเข้ามาอย่างโกรธเกรี้ยว และง้างหมัดใส่วาโยท่ามกลางสายตาตกใจของแบร์กับอาไก ทั้งคู่รู้สึกว่าเรื่องนี้กำลังจะยุ่งเหยิง แต่ก็สะกัดลูแปงไม่ทัน
“มึงตายแน่!”
ลูแปงแสยะยิ้มจ้องวาโยเขม็ง แต่เมื่อหมัดหนัก ๆ พุ่งเข้ามาใกล้ใบหน้า ก่อนตัวคนจะมาถึงรามิลก็หันหลังกลับไปและยกเท้าถีบลูแปงจนกระเด็นออกไปไกล
ตุบ!
“ไอ้…สัด” เจ้าตัวทำหน้าเหยเกราวกับจะร้องไห้ ก่อนจะสบถด่าเพื่อนอยู่ในใจ ไม่ช่วยไม่ว่าแต่จะขวางทำเพื่อ!
“หุบปากนี่พ่อตากู” รามิลเอ่ยลอดไรฟันอย่างไม่พอใจ เมื่อกี้ถ้าไม่ขวางละก็นะ คนที่จะซวยคือเขาแน่นอน นี่พ่อของเดวาเลยนะถึงจะเหมือนนักเลงมาก แม้ไม่พอใจก็จะให้เธอรู้ไม่ได้ว่าเพื่อนของเขาคิดอัดพ่อเธอ วาโยเห็นอย่างนั้นยิ่งเขม็นรามิลมากยิ่งขึ้น ก่อนจะแสยะยิ้มเมื่อรามิลกำลังหันมา
“ไม่ต้องมาเสแสร้งหรอกนะ เพราะมึงก็ต้องโดนด้วย”
รามิลที่กำลังหันมาเลิกคิ้วอย่างแปลกใจกับคำพูดของวาโย ใบหน้าหล่อเหลาเรียบเฉยจนกระทั่งเสียงเพล้งดังขึ้น พร้อมกับความรู้สึกชาหนึบไปทั้งใบหน้า ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นเจ็บปวด ในหูข้างขวาอื้ออึงและของเหลวสีเหนียวหนืดกำลังไหลผ่านม่านตาของเขา เมื่อนั้นนัยน์ตาเรียวยาวของวาโยก็ฉายแววอันตราย
“หัวมึงแตกน่ะ เผื่อจะได้ใช้สมองบ้าง ทำตัวเหี้ยกับลูกกูโดนแค่นี้ยังน้อยไป” ภาพวาโยแสยะยิ้มร้ายส่งมาทำให้รามิลเบิกตากว้าง ก่อนจะถูกของเหลวสีเข้มบดบัง
“ไอ้รามเป็นไงวะ”
“เชี้ยเอ้ย! พ่อตาโหดสัด”
ทั้งอาไกและแบร์ต่างพุ่งเข้ามาหาเพื่อนทันที ตอนนี้ใบหน้าหล่อเหลาของรามิลอาบไปด้วยเลือด ทำเอาพวกเขาตกอกตกใจไม่น้อย แต่จะจัดการกับชายวัยกลางคนก็ไม่ได้ ขนาดรามมิลยังต้องไว้หน้าพวกเขาจึงพุ่งเข้ามาดูเพื่อนทันที
รามิลยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ทั้งที่มือยกขึ้นมาปาดของเหลวออกไม่พัก ความเจ็บบริเวณศีรษะยังไม่เท่าคำพูดที่กำลังเสียแทงจิตใจ เพราะเขามันเลวจริง เขาทำเดวาเสียใจ ร้องไห้และเจ็บปวดมามาก แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำกับความเลวระยำที่ผ่านมา
ก้อนเนื้อในอกของเขาชาหนึบและวูบโหวงราวกับคนกำลังจะขาดใจตาย ขณะที่สายตามองแผ่นหลังของวาโยค่อย ๆ เดินออกจากร้านไปพร้อมพรรคพวก เขาจึงตัดสินใจเอ่ยเสียงแข็งแต่เพื่อให้อีกฝ่ายรับรู้ แต่ยังคงจริงจังและแน่วแน่
“ผมรักเดวา ผมจะไม่ทำให้เธอเสียใจอีก เรื่องในวันนี้ขอบคุณที่ทำให้ผมรู้สึกผิดน้อยลง”
เขาไม่ยอมเลิกรากับเดวา แต่เขาเอ่ยคำสัตย์เพื่อปิดหนทางที่วาโยจะไล่เขาออกจากชีวิตเธอ ราวกับมัดมือชกว่าเรื่องวันนี้ได้ทดแทนความผิดพลาดที่ผ่านมา นั่นแหละรามิล เขามีความคิดอ่านล้ำลึก และไม่ยอมเสียอะไรไปแน่นอน เมื่อวาโยได้ยินก็หยุดชะงักฝีเท้าพลางหันกลับมาตวัดสายตาใส่รามิล
“ไปตายซะ”
รามิลได้ยินอย่างนั้นก็แค่นเสียงในลำคออย่างสาสมใจ พลางสบตากับวาโย และตะโกนตอบกลับไปว่า ‘ขอบคุณ’ จนชายวัยกลางคนแค่นเสียง ‘เฮอะ’ ในลำคอก่อนจะหันหลังจากไป นั่นทำให้รามิลรู้สึกว่าความเจ็บครั้งนี้เหมือนจะคุ้มค่าแล้ว
ทางฟากวาโยเองสืบทราบเรื่องราวทุกอย่างมาบ้างแล้ว แม้จะหวงลูกสาวมากแค่ไหน สุดท้ายเป็นเดวาเลือกเองเขาแค่อยากระบายแค้นเล็ก ๆ น้อย ๆ จึงมาจัดการคนก็เท่านั้น และหวังว่าต่อไปจะไม่ต้องตามมากระทืบมันอีก