Prologue 1.2

927 Words
“ชินจังลูกพ่อ” กรรม... ลูกพ่อ! สายตาของหญิงสาวจับจ้องและมองตามคนร่างโปร่งที่หันซ้ายทีขวาทีก่อนที่จะพาร่างเข้าไปในเลนถนนแล้วใช้อุ้งมือประคองสิ่งมีชีวิตสิ่งหนึ่งที่ดิ้นดุกดิกขึ้นมาอย่างทะนุถนอมแล้วเดินไปที่ส่วนท้ายของรถกระบะแสนเก่า ชายหนุ่มค่อยๆ วางปลาที่มันกระเด็นพุ่งตัวไปอยู่เกือบกลางท้องถนนจากอุบัติเหตุเมื่อกี้ได้อย่างไร ตัวมันสีขาวสดใสราวหิมะต้องแสงแดดยามเช้า สะท้อนแสงแล้วเหลือบเหลี่ยมมุกสุกสกาว ยิ่งทำให้มันเป็นปลาสีขาวที่สวยที่สุดในโลกตัวหนึ่งที่เธอเคยเห็นมาและบนหัวของมันมีจุดสีแดงสดแต้มอยู่หนึ่งจุดใหญ่ราวเทพธิดาขี้เล่นแกล้งแต้มสีให้มันมาตั้งแต่กำเนิด มองไกลๆ ตัวมันทั้งตัวราวกับธงญี่ปุ่นดินแดนอาทิตย์อุทัย ประเทศแห่งความล้ำสมัยและงดงามปริ่มเปี่ยมเสน่ห์ ‘นั่น... ชินจังเหรอ?’ “นี่คุณ!” หญิงสาวได้แต่ยืนเหวออยู่ครู่ใหญ่ระหว่างที่คู่กรณีเดินเข้าไปบนถนนที่มีรถวิ่งสวนไปมาไม่ขาดสายและกอบเอาชีวิตมันขึ้นมาในอุ้มมือขาวของเขา และเขาก็ไม่สนใจเธอคู่กรณีเลยแม้แต่น้อย “คุณ! ฉันบอกว่าให้เคลียร์กับฉันยังไงล่ะ พูดไม่รู้เรื่องหรือไง? หรือว่าฉันต้องพูดจาภาษาปลาหา??? นี่เห็นมั๊ยรถของคุณชนรถฉันเนี่ย! คุณจะบ้ารึไงขับรถแบบนี้ ใบขับขี่น่ะมีมั๊ย ใครสอนคุณขับรถกันไม่มีตาหรือยังไง?” หญิงสาวสวดยับ! เขานิ่งเมื่อปล่อยปลาลงถังออกซิเจนบรรจุน้ำขนาดใหญ่และมองเห็นว่ามันแหวกว่ายอย่างเชื่องช้าราวกับกลัวว่าน้ำจะเจ็บปวดจากการเคลื่อนไหวของมัน สีหน้าชายหนุ่มยังอยู่ในอารมณ์กังวล ทว่าก็จำต้องเบือนความสนใจมาที่หญิงสาวที่แทบจะกรี๊ดๆอยู่ตรงหน้าด้วยความโมโห “ใครอนุญาตให้คุณขับเร็วเกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเขตชุมชนแบบนี้ละครับ?” ชายหนุ่มเอ่ยถามสีหน้านิ่งเฉยน้ำเสียงเรียบนิ่งนุ่มเย็น สายตาของเขาไม่มีรังสีของความโกรธหรือความไม่พอใจในนั้นเลยยังคงอุณหภูมิของอารมณ์ที่คงที่มีสติและดุใจเย็นอย่างน่าเกรงใจ นี่... เขาไม่โกรธอะไรเลยหรือยังไง? “นี่คุณ” หญิงสาวแว๊ดใส่ ความอดทนถึงขีดสุด มือสวยเลื่อนแว่นกันแดดขึ้นคาดบนศีรษะจะได้เห็นหน้าคู่กรณีอย่างไม่ต้องมีอะไรกรอง “ที่นี่เมืองไทยนะครับคุณ แล้วเนี่ยคนอื่นเขาก็ใช้ถนนนี้ร่วมกันกับคุณ ถ้าคุณจะขับรถเร็วแบบไม่กลัวตายท้าทายนรกแล้วละก็ แนะนำให้ไปสร้างถนนไว้ขับเองที่บ้าน ไม่ใช่ออกมาซิ่งแบบนี้ คุณไม่ตายก็แล้วไป แต่มันไม่ปลอดภัยกับคนอื่นรู้มั๊ย” เขาขอมีปากมีเสียงบ้าง ทว่าน้ำเสียงนั้นอบอุ่นนุ่มลึกและไม่มีร่องรอยของความโมโหโกรธาเลยแม้สักเล็กน้อย ซึ่งต่างกันนักกับท่าทีของหญิงสาวคู่กรณีที่นอกจากน้ำเสียงเกรี้ยวกราดก้าวร้าวเจ้าอารมณ์แล้วท่าทีอาการก็แทบจะเต้นเร่าๆลงมือลงไม้ทุบตีเขาด้วยซ้ำ “แล้วที่คุณขับรถพรวดออกมาแบบนี้ทำไมไม่ดู?” หญิงสาวน้ำเสียงแข็งก้าวราวแล้วไม่มีความรู้สึกสำนึกผิดระคนอยู่ในน้ำเสียงนั้นของเธอเลยแม้แต่น้อย “ผมดู แต่แดดมันแยงตากะความเร็วรถคุณไม่ได้นี่ ใครจะรู้ว่ารถคุณมาพร้อมพระอาทิตย์ ไวซะยิ่งกว่าแสง” เขาเถียง สีหน้าและแววตายังเรียบนิ่งราวหุ่นยนตร์เหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน “นะ...นี่คุณเถียงฉันเหรอ ข้างๆคูๆ ผิดแล้วไม่ยอมรับผิด ฉันทางตรง ยังไงก็ไม่ผิด” น้ำเสียงเอาเรื่องและออกอาการกร่างอย่างยิ่งใหญ่ “ผมก็ไม่ผิดเพราะขับไม่ถึง 60 คุณต่างหากละครับที่ผิดแถมไม่มีทีที่ว่าจะสำนึกผิดเสียด้วย” “นี่!” หญิงสาวอย่างจะกรี๊ดให้สุดเสียงเพื่อปลดปล่อยความโกรธออกมาให้รู้รอด ผิดแล้วมันยังเถียงๆๆๆ ไม่ดูสารรูปตัวเองเลย ไอ้กรรมกรสกปรก “คุณนี่มันแย่กว่ากรรมกรอีกนะ ผู้ชายอะไรสกปรกทั้งตัว สกปรกทั้งวาจากิริยา” หญิงสาวแหวใส่พูดจาดุถูกหยามชั้นวรรณะจนอีกฝ่ายต้องหยุดหันมาจ้องหน้านาทีหนึ่งก่อนที่จะประคารมด้วย “อะไรกันคุณ? แล้วนี่คุณจะเคลียร์ประกันก็รีบๆเลย รถมีประกันหรือเปล่า? เร็วสิผมต้องพาลูกไปหาหมอ” เขาพูดน้ำเสียงเรียบนิ่งเพราะกังวลกับสิ่งมีชีวิตที่รอการช่วยเหลือจากเขาอยู่มากกว่า “หมอ?” หญิงสาวทวนเสียงสูง “ก็ใช๊... นั่นน่ะชินจังลูกชายของผม มันเป็นปลาคาร์ฟสายพันธุ์ตันโจ ตอนนี้ชินจังของผมมันไม่สบายผมเลยพามาหาหมอปลานี่ไง” ชายหนุ่มเริ่มใส่อารมณ์บ้างแต่ความจริงในใจยังไม่รู้สึกโกรธอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย วันนี้เขาตั้งใจพาชินจังมาให้ปารมีดูอาการ “อ่อ... ที่แท้ก็คนงานเลี้ยงปลา” น้ำเสียงของหญิงสาวแสดงออกถึงอาการเหยียดหยันอีกฝ่ายอย่างเห็นได้ชัดแต่หารู้เธอมีตาหามีแววไม่ ดูถูกคนจน... มันหน้าที่ของคนรวยอยู่แล้ว !
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD