ตอนที่ 4 เลขาส่วนตัว หรือของเล่นประธาน?

1357 Words
เสียงของลลิลยังคงดังในห้องเงียบ… เซ็นเรียบร้อยแล้ว—แม้ใจจะยังไม่แน่ใจว่าเพิ่งจรดปากกาบนเอกสารฝึกงาน หรือเอกสารสัญญาวิญญาณชั้นดีให้ซาตานที่สวมสูทเซอร์เมดอินอิตาลี อลิสแตร์จ้องลายเซ็นเธอครู่หนึ่งก่อนจะเก็บเอกสารเข้าซองอย่างเรียบร้อย ราวกับไม่ใช่แค่เอกสารธรรมดา...แต่คือ “ของสำคัญ” ที่เขารอจะได้ครอบครอง เขาเงยหน้าขึ้น สบตาเธอตรง ๆ “มีคำถามเพิ่มเติมไหม มิสคหบดีวัฒน์?” ลลิลส่ายหน้าเบา ๆ อย่างเกร็ง แต่สายตาเธอยังมีแววแข็งกล้าอยู่บ้าง เขาเห็นมัน—และมันทำให้รอยยิ้มบางที่มุมปากเขาขยับขึ้นนิดหน่อย “งั้นผมขอถามอะไรสักอย่าง...” เขาเอนตัวพิงโต๊ะเล็กน้อย มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกง ขณะที่อีกข้างควงปากกาทองบนปลายนิ้วอย่างช้า ๆ “ปกติคุณเรียกตัวเองว่าอะไร เวลาคุยกับเพื่อน?” ลลิลกะพริบตาปริบ ๆ “หืม...หมายถึงแทนตัวเองน่ะเหรอคะ?” “ใช่” เขาพยักหน้าเบา ๆ “เช่น...ฉัน ลลิล เค้า หรือ...อะไรแบบนั้น” เธอเม้มปากนิดหน่อย ก่อนตอบออกไปแบบงง ๆ “ก็...ลินค่ะ” “ลิน?” เขาทวนคำช้า ๆ คล้ายจงใจกลืนคำลงลำคอ พร้อมกับสายตาที่ไม่ละไปไหน “ค่ะ...” เธอตอบเบา ๆ เขาพยักหน้าเบา ๆ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่เต็มไปด้วยอำนาจแปลกประหลาดที่ทำให้หัวใจเธอสั่นแปลบ “ต่อไปนี้ เวลาคุยกับผม...คุณต้องแทนตัวเองว่า 'ลิน' เสมอ” “ขะ...ขอโทษนะคะ?” ลลิลหน้าเหวอ “คุณเซ็นสัญญาเป็นเลขาส่วนตัวของผมแล้ว...ใช่ไหม?” เขาก้าวเข้ามาใกล้อีกนิด ใกล้พอให้ได้กลิ่นครีมโกนหนวดแบบเย็นซ่อนกลิ่นมัสค์ที่สะกดจิตผู้หญิงได้ทั้งเมือง มือข้างหนึ่งยกขึ้นแตะแฟ้มบนโต๊ะ ริมฝีปากเอ่ยช้า ๆ “ผมต้องรู้จักคุณในแบบส่วนตัวเช่นกัน...ลิน” และนั่นแหละที่ทำให้ลมหายใจเธอสั่นแปลบ “…เข้าใจแล้วค่ะ” ลลิลตอบกลับเสียงเบา ตัวเองยังไม่แน่ใจว่าทำไมใจถึงเต้นแรงขนาดนี้กับแค่ชื่อเล่นที่เขาเรียก ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบา ๆ ไทเลอร์ ฮวัง ก้าวเข้ามาในห้องพร้อมรอยยิ้มกวนประสาทประจำตัว “บอส ตามที่สั่งครับ รถพร้อมแล้ว” อลิสหันไปพยักหน้าให้ไทเลอร์ ก่อนจะหันกลับมาหาเธออีกครั้ง “งานแรกของคุณ ลิน…” “ให้ไทเลอร์พาคุณกลับไปเก็บของที่คอนโดเก่า แล้วไปอยู่คอนโดที่ผมเตรียมไว้ให้” “ห๊ะ...เอ่อ คอนโดใหม่?” “ใช่” เขาพยักหน้าเรียบ ๆ “คุณต้องอยู่ใกล้ผม 24 ชั่วโมง คอนโดเดิมของคุณ...ไม่สะดวกในการจัดการ” “จัดการ…อะไรเหรอคะ?” ลลิลกลืนน้ำลายเฮือก กลัวคำตอบขึ้นมาทันที แต่เขาไม่ตอบ เขาแค่ยกมือขึ้นกดรีโมตบนโต๊ะ แล้วจอ LED ด้านหลังก็เลื่อนเปิดออกเผยภาพคอนโดเพนต์เฮาส์สุดหรูวิวแม่น้ำกลางกรุง ตกแต่งด้วยโทนสีครีมทอง โซฟาหนังแท้ และห้องนอนที่แค่เห็นก็รู้ว่า…จะมีอะไรเกิดขึ้นได้หลายอย่างโดยไม่ผิดกฎหมาย “และอีกอย่าง…” เสียงของเขายังเรียบแต่หยอดได้แม่นยิ่งกว่ายิงหัว “คืนนี้มีงานเลี้ยง คุณจะต้องไปร่วมกับผม” “เตรียมชุดให้พร้อม ผมจะไปรับตอน 6 โมงเย็น” ลลิลยืนนิ่ง สมองเริ่มโหลดไม่ทัน จากเด็กฝึกงาน...กลายเป็นเลขาส่วนตัว จากเซ็นสัญญา...กลายเป็นต้องย้ายบ้าน จากคิดว่าแค่ขอโทษ...กลายเป็นต้องไปร่วมงานเลี้ยงกับผู้ชายที่อันตรายเกินไปสำหรับหัวใจเธอ ไทเลอร์ยิ้มให้เธอพลางส่งเสียงขำในลำคอเบา ๆ “ยินดีต้อนรับสู่ชีวิตของบอสล่ะนะ เลขาคนใหม่” “ยินดีต้อนรับบ้าอะไรล่ะ...” เธอพึมพำ ก่อนจะเดินตามไทเลอร์ออกไป โดยไม่กล้าหันกลับไปมองอลิสที่ยังคงยืนอยู่ตรงโต๊ะมองเธอจากด้านหลัง...เหมือนเธอคือของเล่นใหม่ที่เพิ่งได้เปิดกล่อง และพร้อมทดลองฟังก์ชันใหม่ ๆ ทุกคืน ภายในรถลีมูซีนสีดำมันวาวที่แล่นฉิวไปบนทางด่วนกลางกรุง บรรยากาศเงียบกว่าที่ควรจะเป็น ลลิลนั่งกอดกระเป๋าไว้แน่น ข้างกายคือชายหนุ่มหน้าหวานตาดุ ที่นั่งไขว่ห้างอย่างสบายใจเหมือนกำลังดูละคร “คุณไทเลอร์...” ลลิลเอ่ยขึ้นเบา ๆ ทำลายความเงียบ “เรียกไทเลอร์เฉย ๆ ก็ได้ครับ หรือจะเรียก ‘คนพามาอยู่ในกรง’ ก็ได้นะฮะ” เขาหันมายิ้มตาหยี เหมือนรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ ลลิลถอนหายใจแรงแบบไม่ปิดบัง “นี่ฉันต้องย้ายไปอยู่ที่นั่นจริง ๆ เหรอคะ?” “จริงสิครับ” เขาตอบพลางเปิดแท็บเล็ตขึ้นโชว์แผนผังคอนโด “เพนส์เฮ้าส์ชั้นบนสุดเป็นของบอส — ชั้นรองลงมา คุณอยู่ตรงนั้น ห้องหันหน้าชนกันเป๊ะ” “ใกล้เกินไปมั้ยคะ...” “อยากอยู่ไกลกว่านี้เหรอครับ?” “ก็...ไม่ใช่แบบนั้น...” เธอเริ่มอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ แพ้สายตากึ่งหยอกกึ่งหื่นของไทเลอร์ “บอกไว้ก่อนนะครับ บอสเรา...หวงของมาก” “ของ?” เธอหันควับ “หมายถึง...สิ่งที่เขาคิดว่าเป็นของเขา” ไทเลอร์ยักไหล่พร้อมหัวเราะเบา ๆ แล้วกระซิบ “รวมถึง ‘เลขาส่วนตัว’ ด้วยล่ะครับ” ลลิลหน้าแดงก่ำ สมองเริ่มประมวลผลภาพจำที่อลิสเข้ามาใกล้ หายใจรินข้างหู แล้วบอกให้เรียกตัวเองว่า ‘ลิน’ อีกครั้งอย่างหวิว ๆ ตึกสูงระฟ้ากลางย่าน Prime Area ปรากฏตรงหน้า รถหยุดจอดสนิทต่อหน้า “Obsidian Residences” — คอนโดมิเนียมหรูระดับ 7 ดาวที่คนธรรมดาจะได้เห็นก็แค่ในนิตยสารอสังหาฯ พนักงานเปิดประตูอย่างนอบน้อม เธอก้าวออกจากรถ ลมเย็นที่ตีกับแก้มยังไม่เท่าลมในใจที่พัดวูบ ไทเลอร์พาเธอเดินเข้าสู่ล็อบบี้ที่ตกแต่งด้วยหินอ่อนทองคำแท้และโคมไฟคริสตัลอลังการกว่าโบสถ์ยุโรป “เชิญครับ...แขกคนพิเศษของชั้น 55” เจ้าหน้าที่กดลิฟต์พิเศษ พร้อมใช้การสแกนม่านตา ระหว่างขึ้นลิฟต์ เธอไม่พูดอะไรนอกจากกลืนน้ำลายรัว ๆ ‘นี่ฉันอยู่ตึกเดียวกับมาเฟียที่ฆ่าคนได้โดยไม่ต้องจับปืนใช่ไหมเนี่ย…’ ติ๊ง! ลิฟต์เปิดออก ชั้น 55 — เปิดมาพบกับโถงไม้โอ๊คหรู พรมสีไวน์เข้มทอดยาว ประตูสีดำขลับมีแผ่นทองสลักว่า ‘Unit 5501 – Ms. L. Kahabdeewat’ “นี่คือยูนิตของคุณครับ มีทุกอย่างพร้อมอยู่ — ชุด ตู้เย็น เตียงนอน รวมถึงระบบล็อคที่...บอสควบคุมจากมือถือได้ทุกอย่าง” “...ขอโทษนะคะ อะไรนะ?” “ล็อคประตู กล้องในห้อง ไฟ สัญญาณเตือนภัย — ทุกอย่างบอสเปิดปิดได้จากแอป” ไทเลอร์ตอบพลางยื่นแท็บเล็ตให้เธอลองกดเปิดม่านห้องดู ผ้าม่านเปิดอัตโนมัติ วิวแม่น้ำเจ้าพระยาเบื้องล่างกับแสงพระอาทิตย์ยามเย็นไล้แนวตึกเป็นประกายทองระยิบ “วันนี้หกโมงเย็น บอสจะมารับไปงานเลี้ยง คุณมีชุดให้อยู่ในตู้ — หรือจะไปซื้อใหม่ก็ได้ บอสให้วงเงินไว้แล้ว” เขายื่นบัตรสีดำเงาวาวให้ “ไม่จำกัดวงเงินนะครับ” ลลิลยื่นมือรับอย่างช็อก ๆ “เอาจริงเหรอเนี่ย...ชีวิตมันเปลี่ยนขนาดนี้ได้ไงใน 24 ชั่วโมง...เมื่อวานยังกินข้าวไข่เจียวอยู่เลย” “วันนี้จะได้กินมากกว่านั้นครับ...ถ้าบอสอนุญาต” ไทเลอร์ยิ้มขำ ทิ้งประโยคไว้ให้เธอคิดเล่น ก่อนจะเดินออกจากห้องไปพร้อมคำพูดทิ้งท้าย “เจอกันตอนเย็นนะครับ คุณเลขาคนใหม่...แต่งตัวให้ดี อย่าให้บอสต้อง ‘จับแต่งเอง’ ล่ะ” ประตูปิดลง ลลิลยืนอยู่กลางห้อง พร้อมกับรู้สึกว่า...เธอเพิ่งถูกดูดเข้าวังวนอะไรบางอย่าง ที่หรูหรา อันตราย และอาจจะทำให้หัวใจของเธอ... ไม่เหลือสภาพเดิมอีกต่อไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD