ตึกกระจกสูงเทียบท้องฟ้า ตั้งตระหง่านเหนือเส้นขอบทะเลฝั่งตะวันตกของภูเก็ต
ตัวอาคารทรงสี่เหลี่ยมเรียบเฉียบแบบ Brutalist Modern ทอดแนวยาวราวกับกำแพงเหล็กที่เงียบขรึมและทรงอำนาจ
ชื่อป้ายทองคำด้านหน้าเขียนไว้ว่า
“The Leviathan Group — Global Security Intelligence Partner”
อลิสแตร์ก้าวลงจากรถลิมูซีนคันดำ ลลิลก้าวตามลงมาในชุดกางเกงขายาวสีดำเรียบขับกับเสื้อเชิ้ตขาว และแจ็คเก็ตบางแนบลำตัวที่ช่วยพรางความโค้งเว้าของเธออย่างพอเหมาะ
คิมหันต์สวมสูทสีเทาเข้ม เดินนำหน้าเล็กน้อยพร้อมแท็บเล็ตในมือ เลขาหนุ่มหน้าหวาน กวาดตามองรอบข้างอย่างระวังภัย ก่อนเดินตรงเข้าไปในตึก
พนักงานในชุดสูทสีเข้มยืนเรียงรับ บ่งบอกถึงความเข้มงวดในระดับสูง ทันทีที่อลิสแตร์เดินผ่าน พวกเขาทั้งหมด...โค้งศีรษะให้เล็กน้อยโดยไม่พูดอะไรเลย
ลลิลที่เดินเคียงข้าง เห็นภาพนั้นก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เธอรู้ดีว่า อลิสเป็นคนที่ค่อนข้างสำคัญ แต่ไม่คิดว่าบริษัทอย่างเลเวียอาธานจะให้ความเคารพขนาดนี้
“ดูเหมือนพวกเขารู้จักคุณดีจังนะคะ...”
เธอเอ่ยเบา ๆ ระหว่างเดินตามอลิสผ่านโถงลอบบี้
“คุณคิดว่าไงล่ะ?” อลิสเลิกคิ้วมองเธออย่างมีเลศนัย
ลลิลเงียบไม่ตอบ คิมหันต์พาเดินตรงไปยังหน้าลิฟต์ ที่ไม่มีแผงควบคุม
เสียงติ๊งของลิฟต์ภายในดังขึ้น ก่อนที่ประตูอัตโนมัติจะเลื่อนเปิดออกโดยไม่ต้องสัมผัส
แสงไฟนีออนสีขาวสว่างวาบตอนที่อลิสก้าวเข้าไป ระบบ AI ตรวจสอบตัวตนอัตโนมัติพร้อมเสียงที่เปล่งออกมาแค่ประโยคเดียว
“Welcome, Alistair the Roman.”
ลลิลชะงักนิดหนึ่ง เธอเหลือบตามองอลิสที่ยังคงมีท่าทางเรียบนิ่ง ส่วนคิมหันต์แค่กระแอมเบา ๆ เหมือนรู้อยู่แล้ว
ลิฟต์พาพวกเขาไต่ขึ้นไปยัง ‘ชั้น 66’
ซึ่งไม่มีปุ่มกดสำหรับชั้นนี้ในลิฟต์ทั่วไป
เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก...
กลิ่นอายของโลหะเย็นและหนังแท้ก็อบอวลอยู่ในโถงเงียบ พื้นหินอ่อนสีเทาแผ่ยาวไปสู่ห้องรับรองสุดหรูซึ่งตกแต่งด้วยงานศิลป์แนว Cyber-Oriental
ที่ปลายโต๊ะหนังสีดำ…
มีชายคนหนึ่งนั่งไขว่ห้าง จิบเอสเปรสโซ่อยู่เงียบ ๆ กิริยาสุภาพแต่นัยน์ตาคมกริบราวกับใบมีด
ราเฟียล ออง (Raphael Ong)
สูทสีดำเข้ารูปกับเสื้อเชิ้ตเปิดคอเล็กน้อย
เรือนผมดำขลับตัดสั้นเรียบ แววตาคมสิงห์เอเชียผสานความนิ่งเยือกเย็นแบบสวิส
เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นอลิส
“...นานแค่ไหนแล้วนะ ที่ฉันไม่ได้เจอ ‘Alistair the Roman’ ด้วยตัวเอง”
ลลิลขมวดคิ้วเล็กน้อยกับโค้ดเนมประหลาดนั้น แต่ไม่พูดอะไร
อลิสก้าวเข้าไปใกล้ สายตานิ่งสนิทตอบกลับโดยไม่มีรอยยิ้ม
“วันนี้ผมมาในนามราเมียสกรุ๊ป เพื่อทดสอบระบบ...ดังนั้นวันนี้มีแค่ธุรกิจเท่านั้น”
ราเฟียลหัวเราะเบา ๆ ก่อนวางแก้วกาแฟเอสเปรสโซ่บนโต๊ะ
“ไม่มีอะไรที่นี่...เป็นแค่ธุรกิจหรอก อลิส”
เขาพูดเสียงเรียบแล้วหันไปมองลลิลเต็มตา
“คนที่คุณพามาด้วย...เธอไม่ธรรมดาเลยนี่”
ลลิลยิ้มเล็กน้อยอย่างสุภาพ สายตายังอ่านไม่ออกว่าคำชมนั้นคือคำชมจริงหรือคำเตือนในคราบน้ำเสียงนุ่ม
อลิสปรายตามองราเฟียลเหมือนเตือนเขาในที
“เธอคือ ‘ผู้ทดสอบ’ วันนี้ — อย่าให้เธอเป็นอะไรมากกว่านั้น”
ราเฟียลขยับนิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ พร้อมส่งสัญญาณให้ประตูห้องประชุมเปิดออก เบื้องหน้าคือ ‘แผนที่เมืองจำลอง’ ขนาดย่อส่วน พร้อมจอควบคุม AI
ภาพจากกล้องหลายร้อยตัวเชื่อมต่อแบบเรียลไทม์แสดงผลอยู่บนผนังห้อง
เขาหันกลับมาหาอลิส
“ลองดูสิว่า...AI รุ่นใหม่ของเราจะ ‘ติดตามเป้าหมายจริง’ ได้ไหม ถ้าเกิดการลักพาตัวกลางเมืองขึ้น”
อลิสสบตาเขานิ่ง…ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ
“เริ่มได้เลย”
...
บานประตูโลหะเปิดออกอย่างช้า ๆ
เบื้องหน้าคือลานกว้างล้อมด้วย ‘เมืองจำลอง’ ขนาดย่อส่วน ที่มีทุกอย่างตั้งแต่ตึกสูงกลางเมือง ร้านสะดวกซื้อ สะพานลอย ไปจนถึงรถยนต์ที่วิ่งวนราวกับถนนจริง
ลลิลยืนอยู่ริมฟุตบาทในย่านจำลองที่เหมือนถอดแบบจากย่านอโศกของกรุงเทพฯ — มีตึกสูง ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายผลไม้ และเสียงพื้นหลังจาง ๆ ของเมือง
เธอเปลี่ยนใส่ชุดสำหรับปฏิบัติการ เป็นเสื้อครอปแขนยาวแนบลำตัวกับกางเกงรัดรูปสีเข้มที่ขับผิวขาวเนียนของเธอเด่นชัด
ต่างหูเล็กทรงหยดน้ำและรองเท้าผ้าใบเฉียบเรียบ — คือจุดฝัง ‘ชิประบุตำแหน่ง’ ที่ทีมเทคนิคของ Leviathan มอบให้เธอ
เสียงจากห้องควบคุมดังผ่านอินเตอร์คอมเบา ๆ
“ผู้เข้าร่วมทดสอบพร้อม”
ในห้องกระจกชั้นบน — ราเฟียล ออง ยืนกอดอกพิงกรอบหน้าต่าง
อลิสยืนพิงกรอบกระจกหนา
สายตาคมจ้องไปยังร่างของลลิลที่กำลังเริ่มเดินตามจังหวะ ‘เหตุการณ์’ ในแผนที่เสมือน
คิมหันต์เปิดจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่แสดงตำแหน่ง GPS แบบเรียลไทม์
“เริ่มล่ะนะ” ราเฟียลยิ้มบาง ๆ
“AI ของเราเริ่มตรวจจับความผิดปกติแล้ว…กล้องทั้งหมดเชื่อมต่อพร้อมรายงานแบบเรียลไทม์”
เสียงคลิ๊กเบา ๆ ดังขึ้นข้างหู
ต่างหูทรงหยดน้ำของลลิลเริ่มทำงานเชื่อมต่อกับแผนที่ทั้งเมืองจำลอง บนข้อเท้าของเธอ มีเซนเซอร์อีกจุดฝังแนบเนียนในรองเท้าผ้าใบสีดำเงา
ภารกิจของเธอ:
หลบหนีจากสถานการณ์จำลอง ‘ลักพาตัว’ ให้ได้ภายใน 30 นาที ห้ามถูกควบคุม ห้ามถูกพาเข้าสู่ ‘จุดจับกุมจำลอง’ ไม่เช่นนั้น...ถือว่า ‘ล้มเหลว’
เสียงยางรถเบรกช้า ๆ ดังขึ้น
รถตู้สีดำที่ดูธรรมดา...แต่ภายในบรรจุ ‘ทีมจำลองเหตุการณ์’ ที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง
ชายสองคนก้าวลงมาจากรถ พร้อมแสร้งเป็น ‘คนถามทาง’ ก่อนจะเลื่อนตัวเร็วมากเข้าใกล้ลลิล
มือข้างหนึ่งยื่นมาจับแขน
ลลิลผงะถอยหลบแทบไม่ทัน
“ขอโทษค่ะ ฉันรีบ” เธอพูดเสียงแข็ง แล้วหมุนตัววิ่งทันที
เสียงสัญญาณในห้องควบคุมดังขึ้น
“เป้าหมายเริ่มหลบหนี”
กล้องรอบเมืองจำลองหันตามตัวเธอโดยอัตโนมัติ ภาพจากมุมสูงฉายให้เห็นว่า ลลิลกำลังวิ่งเลี้ยวเข้าซอยเล็ก ๆ ข้างร้านกาแฟ
เธอหอบหายใจ กวาดตามองรอบตัวเร็ว ๆ แล้วหยิบฝาขวดจากกระเป๋าเสื้อ ปาใส่ถังขยะดัง “โครม!”
เสียงดังนั้นหลอกให้คนร้ายในฉากจำลองเบี่ยงทิศ
เธอฉวยโอกาสวิ่งข้ามสะพานลอยเล็กไปอีกฟาก — รองเท้าเธอเบาแต่มั่นคง สะโพกแน่นในกางเกงรัดรูปเคลื่อนไหวตามจังหวะ
ในห้องควบคุม คิมหันต์หรี่ตาลงเล็กน้อย
“เธอใช้เสียงรบกวนเบี่ยงทิศทาง...”
“เธอฉลาด”
ราเฟียลพึมพำ เหลือบมองอลิสที่ยืนนิ่ง แต่บรรยากาศรอบตัวเขาเริ่มเปลี่ยน — เขาเงียบเกินไป
“บอสของเธอไม่พูดอะไรเลยเหรอ?” ราเฟียลยิ้มมุมปากถาม
“พูดทำไม เมื่อเธอกำลังทำได้ดี”
อลิสตอบโดยไม่ละสายตาจากจอ ดวงตาเป็นประกายวาววับ...โดยเฉพาะตอนที่ลลิลเลี้ยวเข้าไปในซอยแคบ กล้องจับภาพเธอจากมุมสูง — เส้นผมพลิ้วไหว เสื้อติดลำตัวตามแรงวิ่ง หอบหายใจแรง
อลิสยืนนิ่ง ริมฝีปากขบแน่น นัยน์ตาคมจับจ้องภาพหญิงสาวที่วิ่งผ่านกล้องดวงที่ห้าไปแล้ว เหลือเพียงกล้องตัวสุดท้ายตรงมุมตึกข้างโกดัง
“ถ้าเธอถึงจุดนั้นก็จบการทดสอบ” คิมหันต์เอ่ยเสียงเรียบ พร้อมยิ้มมุมปากอย่างผ่อนคลาย
— แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คิด
ลลิลหอบหายใจแรงใต้โครงเหล็กร้านค้าเล็ก ๆ เธอเพิ่งหนีรอดจากชายในบทคนร้ายจำลองได้หวุดหวิด...หรือเธอคิดแบบนั้น
เสียงฝีเท้าหายไป เธอกำลังจะดันแผ่นเหล็กขึ้น
แต่ทันใดนั้น—
“จับได้แล้ว”
เสียงกระซิบเย็นเฉียบดังขึ้น พร้อมวงแขนแข็งแรงที่โอบรัดจากด้านหลัง
“อ๊ะ—!”
ยังไม่ทันร้องเสียงหลุดออกมา ปากก็ถูกปิดด้วยผ้าดำ กลิ่นบางอย่างแตะจมูกในเสี้ยววินาที
ทุกอย่างในโลก...เริ่มเบลอ
ในห้องควบคุม Leviathan
“ระบบแจ้งเตือน: เป้าหมายถูกลักพาตัว”
เสียง AI ดังขึ้นอย่างเป็นกลาง ขณะกล้องวงจรปิดแสดงภาพลลิลถูกลากขึ้นรถตู้สีดำ
แต่สิ่งที่ผิดปกติคือ—
รถคันนั้น ‘ไม่ได้ตรงไปยังจุดจับกุมจำลอง’ แต่เลี้ยวออกนอกเส้นทางทันที
อลิสขมวดคิ้ว ริมฝีปากเม้มแน่นเป็นเส้นตรง เสี้ยววินาทีที่เขาเบิกตาขึ้นชัดเจน
คิมหันต์กดเปลี่ยนภาพทันที ภาพตัดไปยังมุมมองจากกล้องจับความร้อนด้านบน
“นั่นไม่ใช่ทีมเรา!”
ทีมงานของราเฟียลร้องลั่น พร้อมกับเสียงสั่งงานวุ่นวาย
กล้องแสดงภาพชายสองคนในชุดดำ—คนละชุดกับทีมทดสอบ ลากลลิลขึ้นรถตู้ที่เพิ่งเข้ามาจากด้านหลัง
อลิสขบกรามแน่น
ราเฟียลหันขวับ สั่งการทันที
“หยุดการทดสอบทั้งหมด! ส่งทีมสนามเข้าไปเดี๋ยวนี้!”
อลิสชักปืนพก Glock จากซองเอวในจังหวะเดียวกับที่มืออีกข้างกำเครื่องติดตามแบบพกพาไว้แน่น
ใบหน้าเขาเย็นชา แต่แววตา...วาบด้วยเพลิงที่แทบทะลักออกมา
“คิม—ตัดภาพระบบกลาง เชื่อมเข้ากล้องรอบขอบเขตเมืองจำลอง”
คิมหันต์ไม่รีรอ กดปุ่มลากเส้นเข้าระบบเครือข่าย AI ภาพบนจอแสดงให้เห็นว่า รถตู้คันใหม่ที่อุ้มลลิลออกไปนั้น...
ทะเบียนถูกเบลอด้วยคลื่นดิจิทัล
“ทะเบียนโดนบังไว้—ระดับเทคนิคที่เหนือมาตรฐานเรา”
อลิสสบถต่ำในลำคอ
“พวกมันรู้...ว่าพวกเรากำลังทดสอบวันนี้”
คิมหันต์รีบเปิดแผนที่ ลากเส้นเส้นทาง GPS ที่รถมุ่งไป
“รถตู้คันนั้นกำลังมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้—ออกถนนรองไปทางป่าชายเลน”
อลิสคว้าชุด Tactical Jacket สีดำเข้มจากล็อกเกอร์พนักงานที่ผนังห้องอย่างไม่ลังเล
ตึก...ตึก... เสียงรองเท้ากระทบพื้นดัง
เขากดหูฟังซ่อนคลื่นต่ำ น้ำเสียงทรงอำนาจดังผ่านสัญญาณเข้าหน่วยข่าว Blackfin
“ทีมสนาม Blackfin ฐานภูเก็ต ตอบรับ—ติดตามรถตู้สีดำ ทะเบียน ขค 2971 ภูเก็ต ออกจากเขตเมืองจำลอง มุ่งหน้าใต้สะพานอ่าวลึก จุดตัด A15 ทันที”