ตอนที่ 13 เลเวียอาธาน...ที่ซ่อนเงา

1727 Words
ตึกกระจกสูงเทียบท้องฟ้า ตั้งตระหง่านเหนือเส้นขอบทะเลฝั่งตะวันตกของภูเก็ต ตัวอาคารทรงสี่เหลี่ยมเรียบเฉียบแบบ Brutalist Modern ทอดแนวยาวราวกับกำแพงเหล็กที่เงียบขรึมและทรงอำนาจ ชื่อป้ายทองคำด้านหน้าเขียนไว้ว่า “The Leviathan Group — Global Security Intelligence Partner” อลิสแตร์ก้าวลงจากรถลิมูซีนคันดำ ลลิลก้าวตามลงมาในชุดกางเกงขายาวสีดำเรียบขับกับเสื้อเชิ้ตขาว และแจ็คเก็ตบางแนบลำตัวที่ช่วยพรางความโค้งเว้าของเธออย่างพอเหมาะ คิมหันต์สวมสูทสีเทาเข้ม เดินนำหน้าเล็กน้อยพร้อมแท็บเล็ตในมือ เลขาหนุ่มหน้าหวาน กวาดตามองรอบข้างอย่างระวังภัย ก่อนเดินตรงเข้าไปในตึก พนักงานในชุดสูทสีเข้มยืนเรียงรับ บ่งบอกถึงความเข้มงวดในระดับสูง ทันทีที่อลิสแตร์เดินผ่าน พวกเขาทั้งหมด...โค้งศีรษะให้เล็กน้อยโดยไม่พูดอะไรเลย ลลิลที่เดินเคียงข้าง เห็นภาพนั้นก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เธอรู้ดีว่า อลิสเป็นคนที่ค่อนข้างสำคัญ แต่ไม่คิดว่าบริษัทอย่างเลเวียอาธานจะให้ความเคารพขนาดนี้ “ดูเหมือนพวกเขารู้จักคุณดีจังนะคะ...” เธอเอ่ยเบา ๆ ระหว่างเดินตามอลิสผ่านโถงลอบบี้ “คุณคิดว่าไงล่ะ?” อลิสเลิกคิ้วมองเธออย่างมีเลศนัย ลลิลเงียบไม่ตอบ คิมหันต์พาเดินตรงไปยังหน้าลิฟต์ ที่ไม่มีแผงควบคุม เสียงติ๊งของลิฟต์ภายในดังขึ้น ก่อนที่ประตูอัตโนมัติจะเลื่อนเปิดออกโดยไม่ต้องสัมผัส แสงไฟนีออนสีขาวสว่างวาบตอนที่อลิสก้าวเข้าไป ระบบ AI ตรวจสอบตัวตนอัตโนมัติพร้อมเสียงที่เปล่งออกมาแค่ประโยคเดียว “Welcome, Alistair the Roman.” ลลิลชะงักนิดหนึ่ง เธอเหลือบตามองอลิสที่ยังคงมีท่าทางเรียบนิ่ง ส่วนคิมหันต์แค่กระแอมเบา ๆ เหมือนรู้อยู่แล้ว ลิฟต์พาพวกเขาไต่ขึ้นไปยัง ‘ชั้น 66’ ซึ่งไม่มีปุ่มกดสำหรับชั้นนี้ในลิฟต์ทั่วไป เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก... กลิ่นอายของโลหะเย็นและหนังแท้ก็อบอวลอยู่ในโถงเงียบ พื้นหินอ่อนสีเทาแผ่ยาวไปสู่ห้องรับรองสุดหรูซึ่งตกแต่งด้วยงานศิลป์แนว Cyber-Oriental ที่ปลายโต๊ะหนังสีดำ… มีชายคนหนึ่งนั่งไขว่ห้าง จิบเอสเปรสโซ่อยู่เงียบ ๆ กิริยาสุภาพแต่นัยน์ตาคมกริบราวกับใบมีด ราเฟียล ออง (Raphael Ong) สูทสีดำเข้ารูปกับเสื้อเชิ้ตเปิดคอเล็กน้อย เรือนผมดำขลับตัดสั้นเรียบ แววตาคมสิงห์เอเชียผสานความนิ่งเยือกเย็นแบบสวิส เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นอลิส “...นานแค่ไหนแล้วนะ ที่ฉันไม่ได้เจอ ‘Alistair the Roman’ ด้วยตัวเอง” ลลิลขมวดคิ้วเล็กน้อยกับโค้ดเนมประหลาดนั้น แต่ไม่พูดอะไร อลิสก้าวเข้าไปใกล้ สายตานิ่งสนิทตอบกลับโดยไม่มีรอยยิ้ม “วันนี้ผมมาในนามราเมียสกรุ๊ป เพื่อทดสอบระบบ...ดังนั้นวันนี้มีแค่ธุรกิจเท่านั้น” ราเฟียลหัวเราะเบา ๆ ก่อนวางแก้วกาแฟเอสเปรสโซ่บนโต๊ะ “ไม่มีอะไรที่นี่...เป็นแค่ธุรกิจหรอก อลิส” เขาพูดเสียงเรียบแล้วหันไปมองลลิลเต็มตา “คนที่คุณพามาด้วย...เธอไม่ธรรมดาเลยนี่” ลลิลยิ้มเล็กน้อยอย่างสุภาพ สายตายังอ่านไม่ออกว่าคำชมนั้นคือคำชมจริงหรือคำเตือนในคราบน้ำเสียงนุ่ม อลิสปรายตามองราเฟียลเหมือนเตือนเขาในที “เธอคือ ‘ผู้ทดสอบ’ วันนี้ — อย่าให้เธอเป็นอะไรมากกว่านั้น” ราเฟียลขยับนิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ พร้อมส่งสัญญาณให้ประตูห้องประชุมเปิดออก เบื้องหน้าคือ ‘แผนที่เมืองจำลอง’ ขนาดย่อส่วน พร้อมจอควบคุม AI ภาพจากกล้องหลายร้อยตัวเชื่อมต่อแบบเรียลไทม์แสดงผลอยู่บนผนังห้อง เขาหันกลับมาหาอลิส “ลองดูสิว่า...AI รุ่นใหม่ของเราจะ ‘ติดตามเป้าหมายจริง’ ได้ไหม ถ้าเกิดการลักพาตัวกลางเมืองขึ้น” อลิสสบตาเขานิ่ง…ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ “เริ่มได้เลย” ... บานประตูโลหะเปิดออกอย่างช้า ๆ เบื้องหน้าคือลานกว้างล้อมด้วย ‘เมืองจำลอง’ ขนาดย่อส่วน ที่มีทุกอย่างตั้งแต่ตึกสูงกลางเมือง ร้านสะดวกซื้อ สะพานลอย ไปจนถึงรถยนต์ที่วิ่งวนราวกับถนนจริง ลลิลยืนอยู่ริมฟุตบาทในย่านจำลองที่เหมือนถอดแบบจากย่านอโศกของกรุงเทพฯ — มีตึกสูง ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายผลไม้ และเสียงพื้นหลังจาง ๆ ของเมือง เธอเปลี่ยนใส่ชุดสำหรับปฏิบัติการ เป็นเสื้อครอปแขนยาวแนบลำตัวกับกางเกงรัดรูปสีเข้มที่ขับผิวขาวเนียนของเธอเด่นชัด ต่างหูเล็กทรงหยดน้ำและรองเท้าผ้าใบเฉียบเรียบ — คือจุดฝัง ‘ชิประบุตำแหน่ง’ ที่ทีมเทคนิคของ Leviathan มอบให้เธอ เสียงจากห้องควบคุมดังผ่านอินเตอร์คอมเบา ๆ “ผู้เข้าร่วมทดสอบพร้อม” ในห้องกระจกชั้นบน — ราเฟียล ออง ยืนกอดอกพิงกรอบหน้าต่าง อลิสยืนพิงกรอบกระจกหนา สายตาคมจ้องไปยังร่างของลลิลที่กำลังเริ่มเดินตามจังหวะ ‘เหตุการณ์’ ในแผนที่เสมือน คิมหันต์เปิดจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่แสดงตำแหน่ง GPS แบบเรียลไทม์ “เริ่มล่ะนะ” ราเฟียลยิ้มบาง ๆ “AI ของเราเริ่มตรวจจับความผิดปกติแล้ว…กล้องทั้งหมดเชื่อมต่อพร้อมรายงานแบบเรียลไทม์” เสียงคลิ๊กเบา ๆ ดังขึ้นข้างหู ต่างหูทรงหยดน้ำของลลิลเริ่มทำงานเชื่อมต่อกับแผนที่ทั้งเมืองจำลอง บนข้อเท้าของเธอ มีเซนเซอร์อีกจุดฝังแนบเนียนในรองเท้าผ้าใบสีดำเงา ภารกิจของเธอ: หลบหนีจากสถานการณ์จำลอง ‘ลักพาตัว’ ให้ได้ภายใน 30 นาที ห้ามถูกควบคุม ห้ามถูกพาเข้าสู่ ‘จุดจับกุมจำลอง’ ไม่เช่นนั้น...ถือว่า ‘ล้มเหลว’ เสียงยางรถเบรกช้า ๆ ดังขึ้น รถตู้สีดำที่ดูธรรมดา...แต่ภายในบรรจุ ‘ทีมจำลองเหตุการณ์’ ที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง ชายสองคนก้าวลงมาจากรถ พร้อมแสร้งเป็น ‘คนถามทาง’ ก่อนจะเลื่อนตัวเร็วมากเข้าใกล้ลลิล มือข้างหนึ่งยื่นมาจับแขน ลลิลผงะถอยหลบแทบไม่ทัน “ขอโทษค่ะ ฉันรีบ” เธอพูดเสียงแข็ง แล้วหมุนตัววิ่งทันที เสียงสัญญาณในห้องควบคุมดังขึ้น “เป้าหมายเริ่มหลบหนี” กล้องรอบเมืองจำลองหันตามตัวเธอโดยอัตโนมัติ ภาพจากมุมสูงฉายให้เห็นว่า ลลิลกำลังวิ่งเลี้ยวเข้าซอยเล็ก ๆ ข้างร้านกาแฟ เธอหอบหายใจ กวาดตามองรอบตัวเร็ว ๆ แล้วหยิบฝาขวดจากกระเป๋าเสื้อ ปาใส่ถังขยะดัง “โครม!” เสียงดังนั้นหลอกให้คนร้ายในฉากจำลองเบี่ยงทิศ เธอฉวยโอกาสวิ่งข้ามสะพานลอยเล็กไปอีกฟาก — รองเท้าเธอเบาแต่มั่นคง สะโพกแน่นในกางเกงรัดรูปเคลื่อนไหวตามจังหวะ ในห้องควบคุม คิมหันต์หรี่ตาลงเล็กน้อย “เธอใช้เสียงรบกวนเบี่ยงทิศทาง...” “เธอฉลาด” ราเฟียลพึมพำ เหลือบมองอลิสที่ยืนนิ่ง แต่บรรยากาศรอบตัวเขาเริ่มเปลี่ยน — เขาเงียบเกินไป “บอสของเธอไม่พูดอะไรเลยเหรอ?” ราเฟียลยิ้มมุมปากถาม “พูดทำไม เมื่อเธอกำลังทำได้ดี” อลิสตอบโดยไม่ละสายตาจากจอ ดวงตาเป็นประกายวาววับ...โดยเฉพาะตอนที่ลลิลเลี้ยวเข้าไปในซอยแคบ กล้องจับภาพเธอจากมุมสูง — เส้นผมพลิ้วไหว เสื้อติดลำตัวตามแรงวิ่ง หอบหายใจแรง อลิสยืนนิ่ง ริมฝีปากขบแน่น นัยน์ตาคมจับจ้องภาพหญิงสาวที่วิ่งผ่านกล้องดวงที่ห้าไปแล้ว เหลือเพียงกล้องตัวสุดท้ายตรงมุมตึกข้างโกดัง “ถ้าเธอถึงจุดนั้นก็จบการทดสอบ” คิมหันต์เอ่ยเสียงเรียบ พร้อมยิ้มมุมปากอย่างผ่อนคลาย — แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คิด ลลิลหอบหายใจแรงใต้โครงเหล็กร้านค้าเล็ก ๆ เธอเพิ่งหนีรอดจากชายในบทคนร้ายจำลองได้หวุดหวิด...หรือเธอคิดแบบนั้น เสียงฝีเท้าหายไป เธอกำลังจะดันแผ่นเหล็กขึ้น แต่ทันใดนั้น— “จับได้แล้ว” เสียงกระซิบเย็นเฉียบดังขึ้น พร้อมวงแขนแข็งแรงที่โอบรัดจากด้านหลัง “อ๊ะ—!” ยังไม่ทันร้องเสียงหลุดออกมา ปากก็ถูกปิดด้วยผ้าดำ กลิ่นบางอย่างแตะจมูกในเสี้ยววินาที ทุกอย่างในโลก...เริ่มเบลอ ในห้องควบคุม Leviathan “ระบบแจ้งเตือน: เป้าหมายถูกลักพาตัว” เสียง AI ดังขึ้นอย่างเป็นกลาง ขณะกล้องวงจรปิดแสดงภาพลลิลถูกลากขึ้นรถตู้สีดำ แต่สิ่งที่ผิดปกติคือ— รถคันนั้น ‘ไม่ได้ตรงไปยังจุดจับกุมจำลอง’ แต่เลี้ยวออกนอกเส้นทางทันที อลิสขมวดคิ้ว ริมฝีปากเม้มแน่นเป็นเส้นตรง เสี้ยววินาทีที่เขาเบิกตาขึ้นชัดเจน คิมหันต์กดเปลี่ยนภาพทันที ภาพตัดไปยังมุมมองจากกล้องจับความร้อนด้านบน “นั่นไม่ใช่ทีมเรา!” ทีมงานของราเฟียลร้องลั่น พร้อมกับเสียงสั่งงานวุ่นวาย กล้องแสดงภาพชายสองคนในชุดดำ—คนละชุดกับทีมทดสอบ ลากลลิลขึ้นรถตู้ที่เพิ่งเข้ามาจากด้านหลัง อลิสขบกรามแน่น ราเฟียลหันขวับ สั่งการทันที “หยุดการทดสอบทั้งหมด! ส่งทีมสนามเข้าไปเดี๋ยวนี้!” อลิสชักปืนพก Glock จากซองเอวในจังหวะเดียวกับที่มืออีกข้างกำเครื่องติดตามแบบพกพาไว้แน่น ใบหน้าเขาเย็นชา แต่แววตา...วาบด้วยเพลิงที่แทบทะลักออกมา “คิม—ตัดภาพระบบกลาง เชื่อมเข้ากล้องรอบขอบเขตเมืองจำลอง” คิมหันต์ไม่รีรอ กดปุ่มลากเส้นเข้าระบบเครือข่าย AI ภาพบนจอแสดงให้เห็นว่า รถตู้คันใหม่ที่อุ้มลลิลออกไปนั้น... ทะเบียนถูกเบลอด้วยคลื่นดิจิทัล “ทะเบียนโดนบังไว้—ระดับเทคนิคที่เหนือมาตรฐานเรา” อลิสสบถต่ำในลำคอ “พวกมันรู้...ว่าพวกเรากำลังทดสอบวันนี้” คิมหันต์รีบเปิดแผนที่ ลากเส้นเส้นทาง GPS ที่รถมุ่งไป “รถตู้คันนั้นกำลังมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้—ออกถนนรองไปทางป่าชายเลน” อลิสคว้าชุด Tactical Jacket สีดำเข้มจากล็อกเกอร์พนักงานที่ผนังห้องอย่างไม่ลังเล ตึก...ตึก... เสียงรองเท้ากระทบพื้นดัง เขากดหูฟังซ่อนคลื่นต่ำ น้ำเสียงทรงอำนาจดังผ่านสัญญาณเข้าหน่วยข่าว Blackfin “ทีมสนาม Blackfin ฐานภูเก็ต ตอบรับ—ติดตามรถตู้สีดำ ทะเบียน ขค 2971 ภูเก็ต ออกจากเขตเมืองจำลอง มุ่งหน้าใต้สะพานอ่าวลึก จุดตัด A15 ทันที”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD