ตอนที่ 14 เกมจำลอง...ที่เปื้อนเลือดจริง

1877 Words
ปัง! ปัง! เสียงปืนแหวกอากาศราวกับฟ้าผ่า ยางล้อหน้าของรถตู้ที่ลักพาตัวลลิลระเบิดกระจาย เสียงยางแตกดังลั่นก่อนที่ตัวรถจะเซถลาไปมาอย่างบ้าคลั่ง พุ่งเข้าข้างทางจนฝุ่นฟุ้ง ก่อนจะกระชากกลับเข้าสู่เลนหลักอย่างทุลักทุเล รถ SUV สีดำด้านของเลวีอาธานพุ่งทะยานมาด้วยความเร็ว อลิสแตร์จับพวงมาลัยด้วยมือข้างเดียว สายตาคมกริบสะท้อนแสงจากหน้าจอ HUD ที่เชื่อมกับระบบติดตามเป้าหมายแบบเรียลไทม์ ข้างเขา—คิมหันต์นั่งนิ่ง ใบหน้าเรียบหวานเหมือนเด็กหนุ่มญี่ปุ่น แต่ในมือนั้นกลับกำลังเช็คแม็กกระสุนของปืนกลสั้น SIG MPX อย่างชำนาญ “ระยะเหลือ 400 เมตร...ซอยหน้าเป็นทางตัน ถ้าไม่เลี้ยว—เราจะเข้าขวางพอดี” เสียงคิมหันต์รายงานเรียบ ๆ ขณะควักมีดพับขนาดเล็กสีดำขลับจากซองรองขา—เขาไม่ชอบเสียงปืนเท่าไหร่ อลิสแตร์ยกมุมปากนิดเดียว แววตาวาวด้วยไฟสังหาร “ต้อนมันเข้ามา” เมื่อรถตู้ศัตรูเลี้ยวพรวดเข้าซอยตันตามแผน —อลิสก็เหยียบเบรกสุดแรง รถทั้งคันหมุนเป็นครึ่งวงกลมแบบดริฟต์ในภาพยนตร์ ก่อนจอดขวางกลางทาง ชายชุดดำในรถตู้ขยับจะเปิดประตู แต่ยังไม่ทันได้ยกมือขึ้น— ปัง! ปัง! เสียงกระสุนดังขึ้นเจาะกระจกด้านหน้าจนแตกร้าวในทันที อลิสเหนี่ยวไกจากหลังประตูรถ ยิงกดหัวให้พวกมันติดอยู่ในรถอย่างหมาจนตรอก อีกฟาก—คิมหันต์เปิดประตูด้านซ้าย หยิบระเบิดแสงลูกจิ๋วออกมาจากเสื้อคลุมเทคโนโลยีขั้นสูงของเลวีอาธาน นิ้วเรียวยาวจับสลักอย่างแม่นยำ “Flashbang สองวิ...” ปั้งงงงง!!! แสงสีขาววาบจ้าระเบิดกลางรถตู้ พร้อมเสียงบึ้มแหลมแทงแก้วหู—ชายชุดดำสองคนกรีดร้องลั่นอย่างสับสน อลิสแตร์พุ่งเข้าไปทันที เขาเตะประตูรถกระแทกจนหลุดพัง ก่อนจะยิงกระแทกหัวไหล่คนแรกอย่างแม่นยำ เสียงกระแทกดัง ตุ้บ! ร่างของมันทรุดคาที่หมดสติแทบไม่ทันได้หายใจ อีกคนพยายามปีนหนีออกเบาะหลัง—แต่คิมหันต์ก็กระโจนเข้าหามัน เขาใช้มีดพับสีดำขลับจ่อคออีกฝ่าย บิดแขนมันอย่างแม่นยำจนข้อต่อหลุด เสียงร้องโหยหวนดังลั่น “อย่าร้อง” เสียงของคิมหันต์ยังคงเรียบ หวาน...แต่เยือกเย็นจนขนลุก หมัดถัดมาของเขาพุ่งเข้าหน้าศัตรูด้วยแรงที่แม่นและหนักพอที่จะทำให้สลบไปทันที ทุกอย่างจบอย่างรวดเร็วภายในสิบห้าวินาที อลิสไม่พูดแม้แต่คำเดียว เขารีบประคองร่างของลลิลที่หมดสติจากฤทธิ์ยาสลบออกมาจากเบาะหลัง สัมผัสของเธอยังอุ่น หายใจสม่ำเสมอ แต่ชีพจรเต้นแรงจนน่ากังวล ดวงตาหลับสนิท อลิสก้มลงจูบหน้าผากเธออย่างแผ่วเบา ลมหายใจรดผิวเนียนอย่างอ่อนโยนผิดกับความโกรธที่กำลังปะทุอยู่ในอกเขา เขาหันไปพูดเสียงเรียบเย็นจัดกับคิมหันต์ “เอาตัวพวกมันกลับไป...ที่ห้อง 7B” “ครับ บอส” เลขาหน้าหวานยิ้มเย็น ก่อนจะลากร่างคนร้ายกลับเข้า SUV เหมือนไม่ใช่มนุษย์ อลิสก้มลงกระชับลลิลแนบอก เธอขยับตัวเล็กน้อยในอ้อมแขน คล้ายละเมอ เขาโน้มหน้าลงข้างหูเธอ พึมพำต่ำ ๆ ราวกับสาบาน “ผมจะไม่ให้ใครแตะคุณได้อีก...แม้แต่ปลายเล็บ” คำสาบานนั้นแผ่วเบา...แต่หนักแน่น ตึ้ง!! เสียงโลหะแข็งบางอย่างกระทบพื้น ดัง “กริ๊ก...” ก่อนที่เขาจะอุ้มเธอก้าวพ้นจากรถตู้— บึ้ม!!! แรงระเบิดปะทุจนผนังด้านหลังสะเทือน เศษกระจก กระเบื้อง และกลิ่นดินปืนกระจายคลุ้งกลางอากาศ อลิสหันหลังบังร่างลลิลไว้ทั้งตัวโดยสัญชาตญาณ แขนของเขาถูกเศษกระจกบาดลึก เลือดไหลซึมเป็นทาง—แต่เขาไม่แม้แต่จะเหลือบตามองแผล “คิม!!” เสียงคำรามของเขาหนักแน่นจนสะท้อนทั้งซอย เสียงคิมหันต์ตอบกลับผ่านวิทยุทันควัน “มีพวกมันอีกชุด ซุ่มอยู่ชั้นสอง!” ยังไม่ทันขาดคำ—ชายชุดดำอีกสี่คนกระโดดลงจากหลังคาโกดังด้านหลัง ล้อมหน้าหลังไว้ทันที อลิสค่อย ๆ วางร่างลลิลลงแนบกำแพงข้างถังน้ำมัน พร้อมดึงเสื้อคลุมของตัวเองคลุมร่างเธอไว้แน่นหนา “เลอะเสื้อฉันน่ะ...ไม่เป็นไร” “แต่พวกแก...แตะเธอไม่ได้” ชายร่างยักษ์คนแรกพุ่งเข้ามาหาแบบไม่พูดพร่ำ อลิสหมุนตัวหลบหมัดขวา ใช้ข้อศอกเสยเข้าชายโครง—เสียงกระดูกหัก กร๊อบ! ดังลั่น “อั่กกก!!” ก่อนที่มันจะถอยหนี—อลิสคว้าข้อมืออีกข้างแล้ว หักข้อต่อทันทีโดยไม่ลังเล! เปรี๊ยะ!! เสียงเส้นเอ็นขาดดังชัด ร่างของชายร่างยักษ์ทรุดลงกองกับพื้น กรีดร้องอย่างไร้ศักดิ์ศรี “อ๊ากกกกกกกกกกก —!!” อีกคนโฉบเข้าด้านข้าง พร้อมมีดพับในมือ แช่บ! แต่คิมหันต์—กลับโผล่ออกมาแบบไร้เสียง ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง เขาเสียบมีดเข้าคออีกฝ่ายเต็มแรง ใบมีดพับสีดำกรีดผ่านหลอดลม—เสียงขาดวิ่นสะท้อนในลำคอ ศัตรูทรุดพับลงในในช็อตเดียว! เลือดพุ่งกระเซ็นจนเปื้อนปลายผมของเขา ศัตรูคนที่สาม พุ่งเข้าหาอลิสพร้อมท่อนเหล็ก อลิสยกแขนกันไว้แต่ไม่ถอย—เขาใช้การสะบัดข้อมือเดียว ปัดท่อนเหล็กเบี่ยง แล้วเสยฝ่ามือเข้าปลายคาง จนฟันหักทั้งแถบ ชายคนนั้นเซถลา อลิสหมุนตัวตามแล้ว ฟาดศีรษะมันเข้ากับผนังปูน เสียง ปึง! ดังตามมาด้วยเลือดที่สาดเป็นเส้นยาว ตอนนั้นเอง—อีกคนที่เหลือ กำลังจะพุ่งเข้าหาตัวลลิลโดยตรง อลิสเห็นพอดี—ขบกราม เส้นเลือดขึ้นขมับ ท่าทางนิ่งหายไปแล้ว เหลือเพียงปีศาจที่จู่โจมทันที “มึง...อย่ายุ่งกับเธอ!!” เขาพุ่งเข้ากระแทกเต็มแรง กระชากคอเสื้ออีกฝ่ายจนเท้าลอยจากพื้น ลากไปฟาดอัดกับกำแพง ปึงงง!!! เลือดเปื้อนผนังเป็นลายมือ เขาปล่อยร่างที่หมดสติร่วงลงราวถุงผ้าไม่ต่างจากขยะ อลิสยืนนิ่ง หอบหายใจ ร่างเต็มไปด้วยคราบฝุ่น กลิ่นดินปืน เศษเลือด และรอยไหม้จากแรงระเบิด เขากวาดตามองไปรอบซอย... —เงียบ —ไม่มีใครรอด ศพทั้งสี่กระจายคนละทิศ พวกเขาสังหารพวกมันอย่างเลือดเย็น “คิม นายเป็นไง?” เสียงอลิสเอ่ยต่ำ ๆ โดยไม่หันกลับไปมอง คิมหันต์เช็ดเลือดมุมปากยิ้มเย็น “สบายครับบอส แค่ขำ ๆ ... เหมือนคืนฝนตกที่เกียวโตนั่นแหละ” อลิสทรุดตัวลงข้างลลิล เอื้อมมือแตะหน้าผากเธอเบา ๆ เธอยังอุ่น...ยังหายใจอยู่ “เธอไม่เป็นไรก็ดีแล้ว” น้ำเสียงเขาอ่อนลงเพียงวูบเดียว ก่อนกลับมาเยือกเย็นเหมือนเดิม เขาช้อนร่างเธอขึ้นแนบอก เดินผ่านร่างไร้ชีวิตในซอยเงียบ ๆ ราวกับทุกชีวิตที่ดับไป ไม่มีค่าแก่การจดจำ “คิม คนที่เหลืออยู่...” “รับทราบครับ ผมจะจัดการต่อเอง” อลิสพยักหน้า ขณะอุ้มเธอเดินตรงไปยังรถตู้ สายลมอ่อนพัดผ่านเส้นผมเธอ...ใบหน้าเธอยังสงบนิ่งในวงแขนของชายที่ในคืนนี้ พร้อมจะเผาโลกทั้งใบ...หากเธอบาดเจ็บแม้แต่รอยเดียว “ไปหามาให้ได้ ว่าใครอยู่เบื้องหลัง—” “ฉันจะทำให้มันไม่มีที่ยืนบนโลกนี้อีก” ... ณ ห้องเพนต์เฮาส์— โรงแรมเดอะเวลล่า ไฟในห้องถูกหรี่ลงจนเหลือเพียงแสงวอร์มโกลว์อ่อน ๆ ที่ตกกระทบบนผ้าปูเตียงสีขาวสะอาด อลิสแตร์ก้าวเข้ามาเงียบ ๆ ในอ้อมแขนยังคงอุ้มร่างของลลิลไว้แนบแน่น ร่างของเธอยังคงหลับสนิทในสภาพอ่อนแรง เสื้อผ้าบางส่วนเปื้อนเขม่าดินปืนและกลิ่นเลือดอ่อน ๆ เขาไม่พูดอะไร ขณะวางร่างเธอลงบนเตียงอย่างระมัดระวัง อลิสนั่งข้างเตียง มือแข็งแรงค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อของเธอทีละเม็ด ปลายนิ้วมั่นคง แต่แววตากลับซ่อนแรงสั่นไหวไว้ลึกเกินใครมองเห็น เขาใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดคราบฝุ่นเขม่าที่เกาะตามลำคอ และแนวไหล่ของเธออย่างเบามือ อลิสคว้าเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่งของตัวเองจากปลายเตียง กลิ่นสะอาดของน้ำยาซักผ้าผสมกลิ่นกายอ่อน ๆ ของเขา เขาสวมใส่ให้เธออย่างแผ่วเบา ...มือข้างหนึ่งกำลังติดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งที่เขาสวมให้กับร่างหลับสนิทของลลิล เขานั่งนิ่ง — แต่ดวงตาไม่เคยนิ่งเลยสักวินาทีเดียว เนื้อผ้าแนบกับผิวของเธอจนเห็นเนินอกนุ่มเบียดใต้รอยกระดุม เสียงหายใจของเธออ่อนเบา แต่เป็นจังหวะสม่ำเสมอ เส้นผมเปียกหมาดเรี่ยบนแก้มที่ขึ้นสีระเรื่อราวกับฝันหวาน อลิสแตร์ยกมือขึ้นแตะริมฝีปากเธอแผ่วเบา —ก่อนจะโน้มใบหน้าลง...จูบริมฝีปากสีชมพูอวบอิ่ม ไม่ใช่จูบเบาแบบที่เขาเคยทำ แต่เป็นจูบจริงจัง...ช้า ลึก และดูดกลืนทุกเสียงของโลกใบนี้ลงไปในลมหายใจของเธอ ลลิลครางเครือในลำคออย่างไม่รู้ตัว “อืมม…บอส…” เสียงนั้นเป็นดั่งเชื้อเพลิงเติมไฟ ดวงตาของเขาเป็นประกายดำมืด ลุ่มลึกไปด้วยเพลิงปรารถนา เขาผละออกเพียงนิด...ก่อนจะกดจูบลงกลางอกเหนือรอยกระดุม จูบอีก และอีก... มือของเขาลูบขาเธอผ่านรอยแยกของเสื้อเชิ้ตขนาดใหญ่ นิ้วเรียวยาวสอดเข้าใต้ชายผ้า ลูบวนที่ต้นขาเนียน แล้วไล้ขึ้น... ริมฝีปากเขาเลื่อนลงต่ำ...จนแตะเนินอกอุ่นแน่นใต้ผิวผ้า เขาปลดกระดุมบนออกอีกหนึ่งเม็ด — เผยเนินเนื้อที่ยังมีรอยลมหายใจร้อนผ่าว อลิสจูบมันแรงขึ้น...ทั้งดูดดุนและขบเบาอย่างคนที่อยากครอบครอง “เธอรู้ไหม...เวลาที่เธอไร้สติแบบนี้” เสียงเขาแผ่วอยู่ข้างหูเธอ “มันทำให้ฉันมีข้ออ้าง...ที่จะทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ” นิ้วเขาลูบผ่านกลางเนินอก ลงมาช้า ๆ จนเธอบิดตัวเล็กน้อย เสียงครางของลลิลดังขึ้นโดยไม่รู้ตัว “อ๊ะ…บอส…บอสคะ…” เขาคำรามในลำคอ ลมหายใจสะท้อนหน้าอกกว้าง ริมฝีปากของเขากำลังจะเลื่อนต่ำลง... กริ๊ง—! เสียงเรียกเข้าจากเครื่องสื่อสารภายในดังแทรกขึ้นพอดี อลิสชะงัก หยุดนิ่ง สายตาเหลือบไปมอง ราเฟียล ออง ชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอข้างเตียง — พร้อมไฟกะพริบสีแดงแสดงว่า “ต้องรับสาย” อลิสขบกรามแน่น เขาหลับตา สูดลมหายใจอย่างแรง ก่อนจะฝังจูบสุดท้ายลงกลางอกเธออย่างหนักแน่น “พักผ่อนเถอะ เด็กดื้อของฉัน—” เขาลุกขึ้น ดึงผ้าห่มคลุมให้เธอ ก่อนหันไปคว้าเครื่องสื่อสารขึ้นมา —ดวงตาที่เคยเต็มไปด้วยไฟแห่งความปรารถนา...กลับแปรเปลี่ยนเป็นเยือกเย็นดั่งน้ำแข็งในเสี้ยววินาที “พูดมา...ราเฟียล” เสียงของอลิสแตร์กลับไปอยู่ในโหมดบอสผู้ไร้หัวใจอีกครั้ง ...แม้ในอกจะยังเต็มไปด้วยรสหวานของเธออยู่ก็ตาม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD