กลิ่นลาเวนเดอร์เจือจางผสานกลิ่นไวน์แดงลอยคลุ้งในห้องนอนหรูที่ประดับด้วยโทนสีดำทอง แสงไฟอุ่นละมุนจากโคมตั้งโต๊ะหัวเตียงทอดเงาอ่อนบนพื้นไม้ โซฟาหนังแท้ริมหน้าต่างมีผ้าคลุมกำมะหยี่พาดไว้เรียบหรู ทุกอย่างดูดี...ดีเกินไปสำหรับเลขาชั่วคราวที่เพิ่งย้ายเข้ามาเมื่อไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง
ร่างบางของลลิลยืนอยู่กลางห้อง ในชุดคลุมอาบน้ำสีครีมนวล ผมยาวเปียกหมาดแนบลู่กับผิวไหล่ข้างหนึ่ง ลมหายใจอุ่นยังคงผสานกับไอจากร่างที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำ
เธอเดินไปหยิบผ้าขนหนูเล็กซับปลายผมอย่างช้า ๆ ก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นกล่องไม้เล็ก ๆ บนโต๊ะเตี้ยข้างเตียง
“Welcome to your new job, Ms. Lalin.”
ลายมืออังกฤษหวัดสวย ถูกเขียนด้วยปากกาหมึกดำลงบนการ์ดเล็ก ๆ ข้าง ๆ กันคือขวดไวน์แดงที่ถูกเปิดฝาไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมแก้วใสที่มีหยดน้ำเกาะข้างแก้ว ราวกับมีคนเพิ่งรินให้หมาด ๆ
“จงใจชัด ๆ ...”
ลลิลพึมพำ พลางยิ้มเอียงคอเบา ๆ อย่างคนรู้ทันเกม เธอหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาหมุนเล็กน้อยก่อนยกขึ้นจิบ กลิ่นไวน์เข้มผสานกลิ่นลาเวนเดอร์บาง ๆ ชวนให้หัวใจเธอผ่อนคลายในทันที
รสชาติฝาดนุ่มละมุนลิ้น...แต่กลับมีบางอย่างซ่อนอยู่ในกลิ่น—บางสิ่งที่ทำให้หัวใจเธอเต้นเชื่องช้า ดวงตาเริ่มพร่ามัว และหนังตาหนักขึ้นโดยไม่รู้ตัว
เธอย่อตัวลงนั่งบนเตียง ก่อนจะเอนกายอย่างผ่อนคลาย
ผ่านไปไม่ถึงสิบนาที...
ร่างบางเปลี่ยนชุดนอนเป็นเดรสสายเดี่ยวผ้าซาตินบางเบาสีขาวไข่มุก ชายเดรสสั้นเหนือเข่า สายเดี่ยวหลวมคล้องไหล่ ลู่แนบไปตามส่วนโค้งเว้าอย่างไร้สิ่งกั้น
ใต้ผ้าซาตินไม่มีชั้นในใด ๆ อยู่ใต้ผิวเนียนขาวนั้นอีกแล้ว—เพราะเธอไม่ได้คิดว่าจะมีใครมาเห็น
…เธอคิดแค่ว่า จะดื่มไวน์ แล้วก็นอน
…ไม่รู้เลยว่า ‘คนที่รินไวน์’ ยังคงยืนอยู่ในเงามืดของประตูเชื่อม
เสียงประตูเปิดอย่างไร้เสียง
กลิ่นน้ำหอมของเขา—กลิ่นเฉพาะตัวที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหนังสัตว์ วู๊ดดี้ และความร้อนแรงที่ทำให้กลิ่นลาเวนเดอร์ถูกแทนที่ในทันที
อลิสแตร์ยืนพิงกรอบประตู สวมแค่เสื้อเชิ้ตดำปลดกระดุมสองเม็ด กับกางเกงแสล็กผ้าบางเรียบ
สายตาคมกริบจ้องมองร่างบางบนเตียงนิ่งงันราวกับเงามืดที่ซ่อนอยู่ในใจ
“ฝันดีรึยัง...คุณเลขา”
เสียงกระซิบแผ่วเบาดังขึ้นตรงข้างใบหู ริมฝีปากอุ่นแตะแก้มของเธอช้า ๆ ลมหายใจรินรดซอกคอจนผิวเนื้อลลิลสะท้านในความฝัน
“อืมม…” เสียงครางเบา ๆ หลุดจากริมฝีปากเธอราวกับละเมอ
เขายิ้มมุมปากเล็กน้อย ก้มลงจูบที่ไหล่เปลือยของเธอ ก่อนจะไล้ลิ้นอุ่นแตะตรงไหปลาร้า
มือหนึ่งค่อย ๆ ลูบผิวเนียนจากแขนขึ้นไปถึงต้นคอ ปลายนิ้วลากผ่านช้า ๆ คล้ายกำลังสะกดความรู้สึก
“คุณคิดว่าฝันอยู่ใช่ไหม?”
เขากระซิบ พร้อมใช้ริมฝีปากขบเบา ๆ ตรงเนินอกด้านข้างที่โผล่พ้นผ้าซาตินบาง เธอบิดตัวเล็กน้อยบนเตียง เสียงครางแผ่วดังขึ้นอีกครั้ง
“อ๊ะ…อือ...”
เขาใช้นิ้วเกี่ยวสายเดรสบางให้ไหลจากไหล่ ร่างบางเผยให้เห็นทรวงอกเนียนละเอียดที่กระเพื่อมตามลมหายใจ ปลายลิ้นของเขาแตะยอดอกสีชมพูเรื่อ—และดูดกลืนมันเข้าไปในปากอย่างแผ่วเบา เสียงดูดสลับกับเสียงลมหายใจของเธอที่ขาดเป็นช่วง ๆ
“อะ…ฝันเหรอ…แบบนี้…”
เสียงครางแหบพร่าที่หลุดจากริมฝีปากนุ่มนั้น ทำให้ดวงตาคมกริบมืดมนมากกว่าเดิม
เขาดูดสลับเลีย ปลายลิ้นวนที่ยอดอกทั้งซ้ายและขวาอย่างมีจังหวะ ทุกครั้งที่เขาครางเสียงต่ำขณะดูด—ร่างเธอก็สะดุ้งตาม
กลีบปากสีแดงระเรื่อของลลิลเผยอขึ้นเล็กน้อยในความฝัน เธอรู้สึกเหมือนถูกโอบกอดด้วยหมอกอุ่น ร่างกายเบาโหวงเหมือนไร้น้ำหนัก แต่ทุกจุดสัมผัสกลับ...ร้อนวาบอย่างน่าแปลก
ปลายนิ้วของใครบางคนยังไล้ต่ำจากหน้าท้องแบนราบ ผ่านช่วงเอว ลงไปยังสะโพก แล้วสอดเข้าไปในชายเดรสบางเบาอย่างระมัดระวัง นิ้วกลางแตะกลีบนุ่มเบา ๆ ก่อนจะกดผ่านเข้าไประหว่างร่อง
เธอสะดุ้งเล็กน้อย ร่างกายตอบสนองอย่างไร้การควบคุม
“อือ...อย่าทำแบบนี้ในฝันสิ...”
เธอพึมพำเสียงออดอ้อน ลมหายใจสะท้านเป็นระลอก ราวกับเธอกำลังคิดว่าเขาไม่ใช่คนจริง
กล้ามเนื้อตรงนั้นหดเกร็งโดยอัตโนมัติ แต่กลับไม่มีแรงแม้แต่จะลืมตาขึ้น
“อือ…”
เสียงครางหลุดออกมาจากลำคอเต็มไปด้วยความเสียวซ่าน
อลิสแตร์มองเธอจากปลายเตียง ดวงตาคมกริบวาววับในเงามืด ริมฝีปากหยักได้รูปยกยิ้มเพียงนิด...แต่กลับแฝงแรงดึงดูดร้ายกาจเกินกว่าจะละสายตาได้
เขาคุกเข่าลงระหว่างขาเรียวของเธอ...
มือใหญ่จับข้อเท้าเธอแผ่วเบา แล้วค่อย ๆ ดันต้นขาทั้งสองแยกออกช้า ๆ ปลายลิ้นของเขาแตะลงที่ต้นขาด้านใน ไล้ขึ้นเป็นทางอย่างเชื่องช้า ก่อนจะซุกหน้าแนบกับกลีบนุ่มและจูบลงไปเต็ม ๆ
ลลิลบิดเอวเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว ปลายนิ้วกำผ้าปูเตียงแน่น ทุกอย่างเบาหวิวเหมือนกำลังล่องลอยอยู่ในความฝัน
“ม-มะ...ไม่จริง...ฝันอีกแล้วเหรอ...”
เธอพึมพำเสียงแผ่ว ลมหายใจสั่นเมื่อความชื้นจากปลายลิ้นแตะตรงกลางร่องอ่อนไหว
เขาไม่ได้ตอบ แต่ใช้ปลายลิ้นแหวกกลีบกลางแล้วลากขึ้นยาวจากด้านล่างถึงติ่งเสียวด้านบน เขาหายใจผ่านจมูกหนักขึ้นในขณะที่ดูดกลืนกลีบอ่อน ปลายลิ้นหมุนวนจงใจที่ปุ่มกระสันในจังหวะช้า…แนบแน่น
เธอกระตุกเล็กน้อย เสียงหลุดจากปากอย่างห้ามไม่ได้
“อ๊ะ…อ๊า…อย่า…แบบนั้น”
เสียงครางแหบต่ำของลลิลเริ่มสั่นพร่า ปะปนกับลมหายใจที่สะท้อนกลับจากผิวกลีบเนื้อเปียกชื้น อลิสแตร์ตวัดปลายลิ้นเร็วขึ้น จงใจรัวเบา ๆ ตรงจุดอ่อนไหวที่กำลังสั่นระริกเพราะแรงปรารถนา ปลายนิ้วเรียวยาวของเขากางกลีบเนื้อนุ่มออกช้า ๆ
แล้วในจังหวะถัดมา—เขาซุกใบหน้ากลับเข้าไปแนบแน่นอีกครั้ง จูบลงไปอย่างหนักแน่น ดุดัน จนเสียงเฉอะแฉะจากสัมผัสเปียกชื้นดังก้องชัดในห้องที่เงียบ
เสียงดูดดัง ‘จ๊วบ...’ ทำให้ร่างบางของลลิลสะดุ้งกระตุกเบา ๆ ...แรงสั่นสะท้านแล่นจากจุดที่เขาสัมผัส ไล่ไปทั่วร่าง
เขาใช้ลิ้นแทรกเข้าไประหว่างกลีบกลาง เลียช้า ๆ ด้านในอย่างตั้งใจ พอแตะจุดลึกก็วนลิ้นแล้วดันกดอยู่ตรงนั้น สร้างแรงสะท้อนคล้ายแรงสั่นสะเทือน
ลลิลครางกระเส่า ร่างกายไต่ระดับความเสียวจนควบคุมไม่ได้ ทุกครั้งที่เขาดูดแรงขึ้น เสียงครางของเธอก็ขาดห้วง
“อะ…อ๊า…อืมมม…”
เธอครางอย่างคนติดอยู่ในความฝัน ใบหน้าสะบัดไปมาตามแรงกระตุกของร่างกาย มือเรียวขย้ำผ้าปูเตียงแน่น
เสียงจิบไวน์ในความฝันกลายเป็นเสียงดูดกลืนจริง ๆ ที่ทำให้ลลิลตัวเกร็ง จิกผ้าปูเตียงแน่น
“บอส…อ๊า...อย่า…แบบนั้น...อืมม...มัน…”
เสียงเธอเริ่มสั่นไหว ริมฝีปากแห้งสะท้าน
อลิสแตร์ดูดแรงขึ้น จังหวะเร็วขึ้น แต่ยังคงนิ่งเฉพาะปลายลิ้น
ทุกครั้งที่ปลายลิ้นแตะปุ่มเสียว ร่างเธอก็กระตุก
ทุกครั้งที่เขาคำรามต่ำในลำคอ ขณะใช้ปากกับเธอ...มันยิ่งทำให้ร่างกายตอบสนองรุนแรงขึ้น
“อะ...อะ...ไม่ไหวแล้ว...”
เสียงครางเธอขาดเป็นช่วง ๆ พร้อมกับร่างกายที่สั่นสะท้าน ปลายนิ้วเท้าจิกพื้นเตียง
เขากระซิบตรงกลีบเปียก
“ฝันหรือไม่ฝัน เธอก็ต้องเป็นของฉัน…”
แล้วลิ้นเขาก็รัวใส่ปุ่มไวต่อสัมผัสทันที
ลลิลกรีดร้องเสียงสั่น ตัวกระตุกแรงจนสะโพกยกลอยจากที่นอน ร่างกายของเธอเกร็งสุดตัวก่อนจะหลั่งออกมาอย่างไร้การควบคุม
“อ๊าาาา...!”
น้ำหวานไหลทะลักผ่านร่องรักจนเปียกเต็มริมฝีปากของเขา
อลิสแตร์ค้างลิ้นไว้ที่ปลายกลีบ กดแรงนิ่งในขณะที่ดูดกลืนรสหวานจนหยดสุดท้าย แล้วเลียลิ้นวนช้า ๆ เหมือนยังไม่พอใจ
“...หวานยิ่งกว่าไวน์ขวดไหน ๆ เสียอีก...”
เสียงกระซิบแหบพร่าของเขาชิดเนินเนื้อ ก่อนจะผละตัวช้า ๆ ใช้นิ้วเกลี่ยกลีบนุ่มที่ยังสั่นอยู่เบา ๆ อย่างอ้อยอิ่ง
เขาก้มลงแนบจูบที่หน้าผากเธอแผ่วเบา
“ฝันดีนะ...คุณเลขา”
ลลิลนอนหอบถี่ หัวใจเต้นแรงเหมือนยังไม่ยอมสงบ เปลือกตาหนักค่อย ๆ ลืมขึ้นเพียงเล็กน้อย เธอมองเห็นเพียงเงาร่างสูงที่กำลังผละไป ทุกอย่างพร่ามัว ราวกับมีหมอกสีเทาจาง ๆ คลุมอยู่ในดวงตา
‘...บอสเหรอ…? หรือว่า…ฝันไป...’
เธอปรือตามองแผ่นหลังกว้างที่เดินหายไปกับประตูไม้โอ๊ค จิตใจเธอยังสับสน สติพร่าเลือน หัวใจยังสั่นไม่หาย
อลิสแตร์ไม่ได้หันกลับมา ไม่พูดอะไร เหลือไว้เพียงเสียงลมหายใจของเธอ...และกลิ่นกายของเขาที่ยังคงติดอยู่บนต้นขา...ชัดเจนเกินกว่าจะเป็นแค่ฝัน