“ฉันว่าหล่อนควรถอดแว่นตาออกด้วย” ทอยเดินเข้ามาถอดแว่นตาฉันออก ฉันสายตาสั้น 500 ถ้าถอดแว่นละก็ สิ่งที่เคยเห็นชัดเจน ฉันจะมองเป็นภาพเบลอทันที และนั้นคือสิ่งที่กำลังเกิด
“เอามาเดี๋ยวนี้นะทอย! ฉันมองไม่เห็น” ฉันขึ้นเสียงใส่เพื่อนตัวเอง ก็มองไม่เห็นจริงๆ นี่น้า...ขนาดเพื่อนตัวเองยังมองไม่ออก พวกแกไม่ควรมาแกล้งฉันแบบนี้!!
“ถ้าถอดแว่นออก ปล่อยผมหน่อย” ทอยเดินมาดึงยางรัดผมฉันออก
“สวยกว่าแพรดาวของโรงเรียนเราอีก” ทอยยังคงยืนพิจารณาเพื่อนตัวเอง ก็เกรซนะ ผิวพรรณดี ตัวเล็ก ตากลมโตน่ารัก ถ้าเธอรู้จักแต่งตัวหน่อย เธอก็น่ารักไม่แพ้แพรแฟนของชีต้าห์เหมือนกัน
“ภารกิจของเราวันนี้ยังไม่เสร็จ” น้ำหวานพูดเมื่อมองไปที่เกรซ เธอยิ้มมุมปากขึ้นทันที ว่าหลังจากนี้ เธอจะต้องสร้างปรากฏการณ์ให้ชีต้าห์ มาคว้ายัยเกรซไปเป็นแฟน ในเมื่อชีต้าห์คบกับแพร มีคบมันก็ต้องมีเลิกได้ คนที่จะได้ยินข้างชีต้าห์จะต้องเป็นเพื่อนเธอเท่านั้น ไม่ใช่คนอื่น
....
...
“จะไปไหนไอ้เสือ!” ต้นที่นั่งอยู่ตรงโซฟาห้องรับแขกของบ้าน เขาทักลูกชายเขาทันที เมื่อเห็นว่าลูกตัวเองแต่งตัวเหมือนกำลังจะออกไปข้างนอก เขาเดินเข้ามาหาพ่อของเขา
“นัดกับเพื่อนไว้นะครับ” ความจริงแล้วผมนัดกับแพรไว้ตั้งหาก จะบอกไปตามตรง พ่อตรงปรี๊ดลั่นบ้านแน่
“เพื่อนที่ไหน ผู้หญิงหรือว่าผู้ชาย”พ่อยังคงเค้นคำตอบจากปากผม ใบหน้าที่มองเพ่งเล็งผมแบบนั้น ดูก็รู้ว่ากำลังจับผิดผมเต็มๆ
“ผู้ชายครับ”ผมตอบพ่อตัวเอง และหันใบหน้าไปทางแม่ เพื่อให้แม่ช่วย ผมขยิบตาตัวเองกับแม่ แม่ยิ้มขึ้นมาทันที ที่เห็นผมทำแบบนั้น
“ปล่อยลูกไปเถอะต้น ปล่อยเขาไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนบ้าง อยู่บ้านเห็นแต่หน้าคุณ ลูกเบื่อพอดี” พลังแห่งความอ้อนของแม่มักจะได้ผล จุดอ่อนของพ่อผมก็คือแม่นี้แหละ ต่อให้พ่อจะมองผมด้วยความไม่เห็นด้วย แต่ก็ต้องย้อมลูกอ้อนของแม่อยู่ดี โชคดีนะที่มีแม่เป็นเกาะป้องกัน
“จะกลับตอนไหน”
“นี่ต้น! ลูกไม่ใช่นักโทษนะ เสือตัวนี้ก็ลูกมิ้นเหมือนกัน ต่อให้คุณไม่อนุญาต แต่มิ้นอนุญาต” พ่อแม่พูดแบบนั้นผมรีบปลีกตัวเองออกมาทันที ถ้ายืนต่อพ่อต้องงัดคำถามมาถามจนผมจุนมุมนั้นแหละ นี่คงจะเป็นอิสระครั้งแรก ที่เสืออย่างผมออกมาผจญภัย