‘ขอโทษอีกครั้งค่ะ ดารีขอโทษที่จับดอกกุหลาบของคุณแม่พี่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ’
ลูกชายของคุณลุงปวรุจที่บิดาเคยเอ่ยถึงว่าแก่กว่าเธอเกือบห้าปี คนสวยหวานผมเปียก้มโค้งขอโทษทั้งที่มือยังถูกเขาจับอยู่
‘เธอชื่อดารีเหรอ’
‘ค่ะ ดารีหรือดาริกา’
แค่เขาถามชื่อหัวใจก็พองโต ต่างจากเธอที่จดจำชื่อของเขาลงในสมองเป็นที่เรียบร้อย
‘แล้วอย่าไปบอกพ่อของเธอหรือพ่อของฉันล่ะว่าเราเจอกันที่นี่’
เขาไม่อยากให้ใครรู้ว่าได้เจอเด็กผู้หญิงคนนี้แล้วว่าที่แม่เลี้ยงวัยประถมปลาย สรัลปล่อยมือเรียวเล็กออกแล้วยื่นผ้าเช็ดหน้าที่ปักตรงมุมว่า ‘สรัล’ ให้ ส่งยิ้มหวานให้อีกหนึ่งทีก่อนจะเดินหนีไปอีกทาง ดาริกาได้แต่ยิ้มตามแผ่นหลังกว้างอย่างขอบคุณ หัวใจที่ไม่เคยพองโตมาก่อนได้รับความอิ่มเอมหัวใจ พร้อมกับเก็บผ้าเช็ดหน้าเปื้อนเลือดลงในกระเป๋าสะพายข้างใบเก่ง
‘พี่ลมใจดีจัง’
เด็กหญิงประทับใจในตัวของลูกชายเพื่อนพ่อตั้งแต่แรกเห็น ความใจดี รอยยิ้มที่อบอุ่น แม้จะไม่รู้ว่าแฝงไว้ด้วยยาพิษนับล้านก็ตาม
สรัลกลับมายืนตรงที่เดิมข้างห้องโถงใหญ่มองคนทั้งสามร่ำลากันเมื่อได้ข้อตกลงที่พอใจทั้งสองฝ่าย
‘คุณลมแอบมองอะไรอยู่คะ’
“พี่ลมแอบมองอะไรคะ”
ดาริกาที่ทำหน้าที่ปรุงอาหารเช้าหันมาส่งยิ้มให้ เมื่อหันกลับมาหยิบชามเตรียมตักข้าวต้มกุ้ง เห็นคนเป็นสามียืนหลบอยู่หลังกรอบประตูห้องครัวโผล่มาแค่ครึ่งตัว ให้พอประหลาดใจ
“ฉันก็มาดูคนตื่นสายที่ทำอาหารเช้าให้ฉันช้าไปสามนาที เวลาของฉันมีค่ามากนะ อย่าให้มาเสียเวลากับคนอย่างเธอ”
แค่สามนาทีต่างหาก เพราะใครกันที่ทำให้เธอต้องตื่นสายกว่าปกติ กว่าจะนอนหลับก็ต้องข่มตารอให้อาการปวดท้องน้อยบรรเทาอยู่นาน เมื่อเช้ามีเลือดออกจากช่องคลอดพอให้เปื้อนชุดชั้นในเล็กน้อย เลือดสีชมพูอ่อน
“ดารีขอโทษค่ะ อีกเดี๋ยวก็ทานได้แล้วพี่ลมกลับไปนั่งรอที่โต๊ะก่อนนะคะ”
คนข้าวต้มในหม้อรอบสุดท้ายก่อนปิดเตาแก๊ส ตักใส่ชาม โรยตั้งโอ๋ เหยาะพริกไทยป่นเตรียมพร้อมเสิร์ฟ
“ข้าวต้มกุ้งร้อนๆ มาแล้วค่ะ”
“ฉันเกลียดที่สุดก็คนผิดเวลา ขาดความรับผิดชอบในหน้าที่”
“ดารีขอโทษค่ะ”
เมื่อวางชามข้าวต้มกุ้งตรงหน้าคนอารมณ์ร้อนแล้วก็ถอยออกมารินกาแฟดำใส่แก้วไปวางไว้ข้างๆ กัน ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในครัวตักข้าวต้มกุ้งสำหรับตัวเอง ปกติดาริกาจะยกอาหารมาวางพร้อมกันทั้งของเขาและของเธอ แต่วันนี้ช้ากว่าทุกวันเลยต้องบริการเอาใจเขาก่อน ส่วนของตัวเองไว้ทีหลัง
“พี่ลมคะ วันนี้ดารีขอเข้าไปในตัวเมืองนะคะ”
เมื่อเห็นเขาทานใกล้อิ่มจึงตัดสินใจพูดเรื่องที่น่าจะโดนดุ สรัลไม่ชอบให้เธอออกไปไหน ไกลสุดก็แค่ปั่นจักรยานไปส่งอาหารกลางวันให้เขาที่ไร่
“ไปทำไม ฉันไม่อนุญาต”
“ดารีรู้สึกปวดท้องน้อยค่ะ ปวดตั้งแต่เมื่อคืน”
เธอไม่ได้บอกเรื่องที่มีเลือดออก
“สำออย โดนทำแรงนิดหน่อยทำเป็นต้องไปหาหมอ ฉันตรวจให้เอง”
สามีหนุ่มวางช้อนลงในชาม หยิบผ้าขึ้นมาเช็ดปาก ยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มก่อนจะเดินเข้ามาดึงมือร่างบางให้ลุกขึ้น ไม่สนว่าเธอจะเพิ่งทานข้าวต้มไปได้แค่ครึ่งชาม กุ้งยังเหลืออีกสามตัว
“ไปไหนคะ”
“ขึ้นไปบนห้องกับฉัน”
ดาริการู้ทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ เขาต้องการเธอในตอนเช้าอีกแล้วทั้งที่เธอเพิ่งรับอารมณ์ดิบเถื่อนของเขาไป ร่างก็แทบแหลกสลาย วันไหนที่ผู้เป็นสามีเหนื่อยกว่าปกติเขาจะต้องการเธอมากกว่าทุกวัน อาจจะต้องปรนนิบัติทั้งเช้าและก่อนนอน
“อื้อ”
ผ้ากันเปื้อนถูกดึงออก ตามด้วยเสื้อ กางเกงและชุดชั้นใน ดาริกาถูกดันหลังให้ก้มโค้งจับขอบเตียงไว้ ไร้การเล้าโลมเขากำลังจะสอดใส่เข้ามา
“กรี๊ด อย่าค่ะ”
เสียงหวานกรีดร้อง แค่ความเจ็บปวดร้าวที่ท้องน้อยก็แทบจะทนไม่ไหว ขาเรียวบีบเข้าหากันและทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น แต่เขาไม่ปรานีดึงเธอขึ้นมาแล้วกระแทกใส่เข้ามาซ้ำๆ ติดกัน จนเธอแทบร้องขอชีวิต น้ำตาไหลอาบหน้าแก้ม
“พะ พอแล้วค่ะ ดารีเจ็บ…อื้อ พี่ลม”
“เธอไม่เคยปฏิเสธฉัน ทำไม”
คนที่คร่อมอยู่ด้านหลังดึงแก่นกายออกพร้อมเลือดสีสดที่ติดออกมาด้วย ปล่อยให้ร่างบางได้นั่งลงไปกับพื้นอีกครั้ง
“ดารี…”
ร่างอรชรหมอบลงไปกับพื้น มือกุมหน้าท้องไว้ด้วยความปวดร้าวที่ทวีคูณเพิ่มขึ้น
“พี่ลม ดารีเจ็บ…มันปวดไปหมด ฮึกฮือ”
“เธอเป็นประจำเดือนงั้นเหรอ”
“ปะ เปล่าค่ะ”
ส่ายหน้าตอบ น้ำตาไหลลงมาเป็นสาย แค่เห็นสภาพของเธอเขาก็หมดอารมณ์หยิบเสื้อผ้าขึ้นมาใส่ แค่มีประจำเดือนบอกกันตรงๆ เขาก็ไม่ทำอะไรแล้ว ทำไมต้องให้มารู้ด้วยตัวเองก็สมควรแล้วที่จะต้องปวดท้อง นอนครวญครางอยู่แบบนั้น
“พี่ลมใจร้าย”
“เธอเป็นเมีย ฉันจะเอาตอนไหนก็ได้ถ้าเรื่องมากก็หย่ากันไป”
“พี่ลมพูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่า”
เขาท้าเธอหย่าแบบนี้เป็นประจำ แต่หัวใจดวงน้อยกลับไม่เคยชินสักที
“นายครับ นาย”
เสียงฝีเท้าวิ่งขึ้นมาบนบันไดพร้อมตะโกนเรียก
“อย่าขึ้นมาไอ้ผล เดี๋ยวกุลงไป…ใส่เสื้อผ้าซะ”
ประโยคหลังพูดกับคนคุดคู้ตัว โยนเสื้อผ้าใส่แล้วจับชายเสื้อของตัวเองให้เข้าที่ ก่อนจะเปิดประตูเดินออกมา
“เดี๋ยวให้ไอ้ผลพาไปโรงพยาบาล”
เขาพูดทิ้งท้ายก่อนจะปิดประตูใส่หน้าของเธอ อย่างน้อยก็ยังมีความเมตตาหลงเหลืออยู่บ้าง
“นายครับ อีเฉื่อยมันจะคลอดลูก”
อีเฉื่อยที่ว่าก็คือม้าตัวโปรดของ‘ปวรุจ’ ผู้เป็นพ่อ นอกจากเขากับบิดาแล้วอีเฉื่อยก็ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ ยิ่งท้องแก่ใกล้คลอดยิ่งหงุดหงิดงุนง่าน
“เออๆ เดี๋ยวกุไปดู ฝากพานายหญิงไปโรงพยาบาลด้วย”
“ครับนาย เป็นห่วงเมียก็น่าจะพาไปเองนะครับ”
“ไอ้นี่วอนซะแล้ว หรืออยากโดนอีเฉื่อยดีดเหมือนเมื่อวานก่อน”
“ครับๆ”
ผลรีบเปิดประตูรถกระบะคันประจำให้สรัลขึ้นไปนั่งเตรียมพร้อมขับ
“เดี๋ยวเองเอารถคันสีขาวไป กุญแจอยู่ที่เดิม”
“เป็นบุญไอ้ผลจริงๆ ได้ขับรถหรูอีกแล้ว”
มาเซราติ กรันทูริสโมถูกถอยออกมาจอดรออยู่หน้าบ้าน ดาริกาเดินลงมาจากบันไดด้วยสภาพอิดโรย ใบหน้าซีดเซียวกว่าช่วงเช้าที่ผ่านมา จากผิวที่ขาวอยู่แล้วซีดลงไปอีกยิ่งกว่าสีของไก่ต้ม
“ไหวไหมครับ ให้โทรบอกคุณสรัลดีไหมครับ”
เมื่อเห็นท่าทางไม่ดีเตรียมยกโทรศัพท์โทรหาผู้เป็นนาย ส่วนอีเฉื่อยป่านนี้คงคลอดลูกม้าตัวน้อยๆ เรียบร้อยแล้ว
“ไม่เป็นไร อย่าลำบากคุณสรัลเลย”
ดาริกาเปิดประตูเข้าไปนั่งด้านในรถแล้วพิงหลังกับเบาะ คาดเบลล์ หลับตาแน่น
“งั้นไปกันเลยนะครับ”
ดาริกาเข้าไปในห้องตรวจคนเดียว ผลไม่ได้ตามเข้าไปด้วย นั่งรอผลตรวจปัสสาวะ
“คุณตั้งครรภ์ได้สองสัปดาห์แล้วนะคะ หมอดีใจด้วย”
ในท้องของเธอมีลูกที่เกิดกับเธอและสรัล ดาริกาอยากยิ้มแต่ก็ยิ้มไม่ออกเพราะไม่เคยคุยกันถึงเรื่องนี้ เขาจะอยากมีเจ้าตัวน้อยที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขที่เกิดกับเธอไหมนะ เย็นนี้คงต้องลองถามดูเผื่อคนเป็นพ่อจะดีใจ
“เดี๋ยวหมอสั่งยาบำรุงให้นะคะ ส่วนอาการแพ้ท้องจะเริ่มประมาณสัปดาห์ที่สี่หรืออาจจะประมาณสัปดาห์ที่หกเป็นต้นไป หากมีอาการก่อนค่อยกลับมาหาหมออีกครั้งนะคะ นัดตรวจอีกทีเป็นสัปดาห์หน้าค่ะ”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ”
ดาริกาเดินออกมาด้วยอาการเหม่อลอยแต่ก็พยายามฝืนยิ้มเข้าไว้ ถ้าเขาไม่ยอมรับหรืออยากมีลูกกับเธอแล้วเด็กในท้องคนนี้จะเป็นอย่างไร เธอจะต้องกลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวอย่างนั้นหรือ ลูกของเธอจะต้องขาดความอบอุ่นจากพ่อ
“คุณหมอบอกว่านายหญิงเป็นอะไรครับ”
ผลถามตามที่คนเป็นนายสั่งเอาไว้
“เปล่าจ้ะ แค่ปวดท้องธรรมดา”
ลองเอ่ยกับผู้เป็นสามีก่อน ถ้าเป็นเรื่องดีสำหรับเขาค่อยบอกคนอื่นๆ ก็ยังไม่สาย
“กลับกันเลยนะครับ”
“จ้ะ กลับกันเลย”
แม้จะหลับตาแต่มือก็ลูบหน้าท้องไม่ห่าง
“นายหญิงเป็นยังไงบ้างวะ”
“แค่ปวดท้องธรรมดาครับ”
เมื่อส่งดาริกาเสร็จ ผลก็รีบมารายงานผู้เป็นนายถึงอาการของคนป่วยที่เพิ่งพาไปโรงพยาบาลมา
“แค่ปวดท้องธรรมดาแล้วทำไมไปนานกันจังวะ”
“นายหญิงก็ไม่เห็นว่าอะไรนะครับ ขึ้นรถมาก็หลับเลย”
ตอบไปตามตรงอย่างที่เห็นและได้ยิน
“เออๆ งั้นก็คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เดี๋ยวกุจะไปดูแปลงดอกกุหลาบท้ายไร่สักหน่อย เผื่อจะทันขายสิ้นเดือนนี้”
“เป็นห่วงก็กลับไปดูแลสิครับ เมียได้ผัวดูแลก็จะหายป่วยเร็วขึ้นนะครับ”
“อย่าพูดมากไอ้ผล ไปเตรียมม้า”
อยากจะเตะคนเป็นลูกน้องเสียจริงที่บังอาจมาอ่านความในใจของเขาออก แต่จะทำให้เธอเหลิงดีใจไม่ได้ ปล่อยให้นอนซมแบบนั้นอีกสักชั่วโมง สองชั่วโมงค่อยกลับไปดู
“ม้ามาแล้วครับนาย ให้ผมไปด้วยนะครับ”
“ไม่ต้อง เองไปดูคนงานแพ็คดอกกุหลาบไป วันนี้มีส่งล็อตใหญ่”
พื้นที่ท้ายไร่เป็นเขตอันตรายติดกับเส้นทางธรรมชาติที่ชอบมีผู้มีอิทธิพลลักลอบขนของป่าออกมาขาย ถ้าผ่านหรือย่างกรายมาในเขตพื้นที่ของเขาได้เห็นดีกันแน่ ท้ายไร่จึงเป็นพื้นที่หวงห้ามไม่ให้คนงานเข้าไป จะมีแต่ก็เจ้าของไร่ที่ต้องคอยหมั่นเข้าไปรดน้ำ ‘แปลงดอกกุหลาบสายพันธุ์มายโรส’ แปลงพิเศษ