บทที่ 11 คนกันเอง

1568 Words
“นี่ แอนดรูว์กับคิม นี่” เมื่อพลิกตัวเห็นหน้าค่าตาชัดเจน แม่กุหลาบจึงเอ่ยออกมา “แม่กิม ลูกเสี่ยฮงที่ทำรับเหมาในอำเภอ ที่แต่งงานไปเมืองนอกใช่มั้ยแม่กุหลาบ” กำนันถาม “ใช่ค่ะ” “เช่นนั้นให้พักที่เรือนรับแขกนี่สัก 2-3 วันให้ดีขึ้นก่อนแล้วกันครับ ผมอยากจะรบกวนพ่อกำนัน...” ต้นไม้ตัดสินใจ “ยายเฟื่อง ถ้าตาเต่าเปลี่ยนผ้าเสร็จแล้วไปซื้อเสื้อผ้าให้แม่กิมกับพ่อฝรั่งนี่หน่อย แล้วก็ไปรับหมอที่อนามัยมาด้วย” กำนันสั่ง ป้าเฟื่องฟ้ารับคำก่อนเดินไปที่เรือนตัวเอง เพื่อเรียกสามี มะเฟืองเอาผ้าเช็ดตัวที่ยังไม่ได้ใช้จากในเรือนใหญ่มา ก่อนจะหยิบส่งให้ต้นไม้หนึ่งผืน แล้วช่วยกันเช็ดตัว ห่มผ้าให้ทั้งสองคน ส่วนเหล่าวีรบุรุษสุดยั้งคิดทั้งหลายก็พากันไปนุ่งผ้าขาวม้าคนละผืนที่เรือนของแช่มกับบุญ ยกเว้นแตงกับต้นน้ำ ที่ฝ่ายนึง เดินขึ้นไปบนบ้านและอีกคนเดินกลับไปที่บ้านพักตนเองในสวน ด้านป้าเฟื่องฟ้าที่ไปซื้อของที่ตลาด ก็บังเอิญเจอคนจากไซต์ก่อสร้างของเสี่ยฮงพอดี จึงฝากไปบอกเสี่ยฮง และไปรับหมออนามัยกับตาเต่า ทางเสี่ยฮงเมื่อได้ข่าวลูกสาวกับเขยฝรั่ง วันรุ่งขึ้นจึงรีบส่งคนมารับทันที พร้อมบอกว่า หลังจากที่ทั้งสองหายดี จะแวะมาหาที่บ้านเปรมปรีด์ด้วยตัวเอง หลายวันผ่านไป... ต้นน้ำใช้จักรยานในการตรวจตราสวน ตามแผนผังที่โสนช่วยออกแบบทางเดิน และ ทางน้ำในสวน และวันนี้ต้อยติ่งก็จะมาให้เขาติวหนังสือ วิชาคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ เช่นเดิม ต้นน้ำรู้สึกขอบคุณชีวิตใหม่พลางมองย้อนกับตัวเองว่า จากหนุ่มออฟฟิศธรรมดา หุ่นผอมบางคล้ายคนขาดสารอาหาร เริ่มมีน้ำมีนวล แม้จะไม่ได้หล่อล่ำกล้ามโตอะไร แต่ได้กินดีอยู่ดีขึ้น แม้จะไม่ทันสมัย แต่กลับสะดวกสบายกว่ายุคที่เขาจากมาเป็นอย่างมาก ใบหน้าของต้นน้ำอมยิ้ม สดชื่น ในช่วงบ่ายคล้อยแดดร่มลมตก “คุณต้นน้ำ คุณต้นน้ำ” เสียงคนงานวิ่งมาเรียกดังขึ้น “ครับ พี่แตง” ชายหนุ่มตัวโต หน้าคมเข้ม วิ่งกระหืดกระหอบมา “คุณหนูจากบ้านพ่อกำนันมาหาจ้ะ” “ต้อยติ่งหรอครับ เดี๋ยวผมไป พี่แตงไปด้วยกันมั้ยครับ” ต้นน้ำเอ่ยถามอย่างมีน้ำใจ “เอ่อ” แตงทำท่าจะปฏิเสธด้วยความเกรงใจ “ผมปวดขาพอดี พี่แตงมาปั่นให้ผมหน่อย” ต้นน้ำหาข้ออ้าง เพื่อจะได้ให้ลูกจ้างคนนี้ไม่ต้องเดินเหนื่อยกลับไป “อ่า ครับ ผมขออนุญาตครับ” แตงขึ้นมาปั่นแทน ต้นน้ำที่ลงจากรถเตรียมจะซ้อน แต่ทว่ายังไม่ทันได้นั่ง เพียงแค่คร่อมขา แตงก็ปั่นออกไปแล้ว ต้นน้ำหน้าเหวอ แล้วตะโกนเรียก “พี่แตงครับ พี่แตง พี่แตงลืมผม” แตงที่ขึ้นปั่นจักรยานได้ก็รีบปั่นออกมาด้วยความเร็ว กลัวเจ้านายจะไปพบแขกไม่ทัน จึงไม่ทันหันมามอง พอปั่นไปได้สักพัก พบว่าเจ้านายไม่ได้มาด้วย จึงรู้ตัว รีบปั่นกลับไปรับต้นน้ำอย่างว่องไว ทั้งสองจึงหัวเราะขำกันมาตลอดทาง เมื่อมาถึงออฟฟิศประจำสวน พบว่า คนที่มาไม่ใช่เพียงต้อยติ่ง แต่มีแม่กุหลาบ หรือ ครูโรสมาพร้อมกับกาหลงด้วย “พี่โรสสวัสดีครับ มีอะไรหรอครับ” “เทอมที่แล้วกาหลงสอบตกน่ะค่ะ น้าเองก็ห่างตำรับตำรามาหลายปี วิชาพวกนี้ก็ไม่ถนัด จึงไปรบกวนคุณหนูต้อยติ่งเลยพามาหาคุณต้นน้ำ” “อ๋อครับ เดี๋ยวผมช่วยดูให้” ต้นน้ำรับคำ “เช่นนั้น พวกเราเดินข้ามไปที่บ้านกันเถะครับ ใกล้จะมื้อเย็นแล้ว คุณแม่ก็อยู่ พี่โรสแวะไปหาคุณแม่ก็ได้ครับ” ทางบ้านกำนัน โสนกลับเข้าบ้านมาเจอเพียงน้องๆ สามคน คือ สตางค์ เสนาะ และ หนูแก้ว “ไงพวกตัวแสบ นี่แม่โรสไปไหน” “พี่กาหลงสอบตกครับ พี่โสน แม่กับพี่ต้อยติ่งเลยพาไปหาพี่ต้นน้ำ” เสนาะตอบ โสนพยักหน้ารับคำ คนงานในบ้านเอาน้ำมาให้ สตางค์ กับ เสนาะทำการบ้านต่อ ส่วนหนูแก้วก็วาดรูประบายสี ด้วยว่าวันนี้กลับเร็ว โสนจึงอยากผ่อนคลาย เลยลุกไปอาบน้ำ ก่อนจะลงมาเล่นไวโอลิน ที่ไม่ค่อยได้มีเวลาจับเท่าไรนัก ด้วยว่า ต้องจัดการงานต่างๆ แทนแม่ที่เสียไป และช่วยแบ่งเบางานของพ่อมา เสียงไวโอลินแว่วไปรอบบ้าน แม้จะร้างมือไปนาน แต่ก็หวานจับใจ ในเสียงไวโอลิน มีเสียงความเศร้าเหงา เจือปนอยู่ โสนสีไวโอลินไป มองรูปแม่ที่ใส่กรอบในห้องตัวเอง เล่นไป น้ำตาไหลไป ด้วยความคิดถึงแม่ ก่อนจะเป็นลมล้มลงไป ด้วยร่างกายอ่อนล้า จากการหักโหมงาน ไม่ให้ตัวเองเศร้ากับการจากไปของแม่และต้องเป็นเสาหลักให้กับน้องๆ แม้ว่า พ่อและแม่รองอย่างครูโรสยังอยู่ สตางค์ได้ยินเสียงล้มตึงดังมาจากบนบ้าน จึงรีบวิ่งขึ้นไปดู เห็นพี่สาวล้มอยู่กับพื้น ข้างกายมีไวโอลินร่วงอยู่ สตางค์ตกใจมาก จึงตะโกนเรียกคนมาช่วยดูพี่สาว แต่ทั้งบ้านเหลือเพียงพี่นก พี่เลี้ยงของหนูแก้วเหลืออยู่คนเดียว เพราะคนอื่นๆ ออกไปซื้อของในอำเภอยังไม่กลับ พี่นกกับสตางค์จึงช่วยกันยกโสนขึ้นไปนอนบนเตียง ก่อนจะให้เสนาะกับหนูแก้วมาอยู่รวมกันในห้องของโสน ให้ช่วยกันพัดวี พร้อมจ่อยาดมเท่าที่เด็กๆ จะทำได้ เสร็จแล้วพี่นกจึงรีบลงมาเพื่อจะไปตามหมอที่อนามัย พอดีกับที่กำนันสนั่นและท่านพันดวงกลับเข้ามา “พ่อกำนัน คุณหนู คุณหนู” “อะไร นังนก ค่อยๆ พูด” “คุณหนูโสนเป็นลมค่ะ” “เดี๋ยวข้าจะพาแม่โสนไปโรงพยาบาลเอง เอ็งไปปิดเรือนไป เฝ้าบ้านให้ดี” กำนันสั่งนก “คุณพี่ขอรับ กระผมรบกวน” พูดพลางยื่นกุญแจรถให้ท่านพันดวง “ได้ๆ พ่อสนั่นไปเอาลูกสาวลงมาเถิด” ท่านพันดวงรับกุญแจรถ แล้วเดินย้อนกลับไปทางโรงรถ ก่อนจะขับรถมาที่หน้าบ้าน กำนันสนั่นอุ้มบุตรสาวลงมา สตางค์อุ้มหนูแก้วพร้อมกับจูงมือเสนาะ หลังจากนำบุตรสาวขึ้นรถแล้ว กำนันจึงสลับมาขับรถ ให้ท่านพันดวงนั่งฝั่งคนนั่ง “คุณพี่ขอรับ กระผมฝากลูกๆ ไว้ที่บ้านคุณพี่ได้หรือไม่ขอรับ ผมจักเอาไปแต่เจ้าสตางค์” “ได้ซี เดี๋ยวพี่ดูพ่อเสนาะกับหนูแก้วให้” กำนันจึงขับรถออกมาโดยแวะบ้านเปรมปรีด์ก่อน เพื่อแวะส่งท่านพันดวง เสนาะ และ หนูแก้ว พอดีต้นน้ำเดินข้ามมาจากสวนพร้อมต้อยติ่งและกาหลง จึงให้กาหลงขึ้นรถ ไปโรงพยาบาลด้วยอีกคน กำนันรีบบึ่งรถมาจนถึงโรงพยาบาลในอำเภอ โสนเพ้อขึ้นมาเบาๆ แต่ยังคงไม่รู้สึกตัว กาหลงถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน กำนันให้สตางค์กับกาหลงไปดำเนินการเรื่องเอกสาร ส่วนตนนั่งรออยู่หน้าห้องตรวจ สักพัก พยาบาลจึงมาเรียก พ่อกำนันและเด็กๆ จึงเดินเข้าไป พบกับหมอหนุ่มที่อยู่เวรคนหนึ่ง “บุตรสาวผมเป็นกระไรขอรับหมอ” “มีไข้ อ่อนเพลีย ผมได้ฉีดยาและสั่งยาให้แล้วขอรับ อีกสักประเดี๋ยวก็กลับบ้านได้ กระผมขอแสดงความเสียใจเรื่องคุณอาหญิงด้วยนะขอรับคุณอากำนัน” หมอเอ่ย “หมอรู้จักฉันด้วยหรือ” “ผมเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยของโสนขอรับ ชื่อว่า จินดา เพิ่งย้ายมาบรรจุที่นี่” “ออ กระนั้นหรือ ขอบใจนะพ่อหนุ่ม” “หามิได้ขอรับ นี่เป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้ว นี่ขอรับ ใบสั่งยา” “สตางค์ กาหลง ไปรับยาให้พี่โสนที อันนี้กระเป๋าสตางค์” กำนันส่งต่อให้ลูกชาย “กระผมขอสอบถามคุณอาหน่อยนะขอรับว่า ช่วงนี้โสนหักโหมทำงานจนเกินไปหรือไม่” “ก็ตั้งแต่คุณนายเสีย เรื่องต้องจัดการมันมีเยอะน่ะ แม่โสนก็รับหน้าที่แทนไปเสียหมด แถมยังมาช่วยฉันกับญาติเขาที่มาจากบางกอกอีก” “แล้วได้ปรากฏความเศร้าบ้างไหมขอรับ” “ฉันก็ไม่ทันได้สังเกตสังกาอันใดเลย ฉันเองก็แยกไปทำงานอีกทางเช่นกัน ทำไมหรือ” “คนบางคนรับมือกับความเสียใจ โศกเศร้า ด้วยการทำงานหนักขอรับ ทั้งยังฝืนร่างกายจนเกินพอดี จนทำให้ล้มป่วย ต่อแต่นี้ คุณอาช่วยสังเกตหน่อยนะขอรับว่า การรับประทานอาหารของโสนนั้นปกติหรือไม่ ผมเกรงว่า โสนจะเครียดไป จนลงกระเพาะขอรับ” “ได้ๆ เดี๋ยวอาบอกทั้งบ้านให้” รับคำเสร็จ พยาบาลก็เข็นรถที่โสนนั่งออกมา “เป็นอย่างไรบ้างเรา สาวน้อยคนเก่ง” หมอจินดาจับที่ด้านหลังรถเข็น “ก็ยังเวียนหัวอยู่บ้างค่ะ พี่หมอจินดา” “พี่สั่งยา ให้แล้ว ทานข้าวทานยาให้ตรงเวลาเสียด้วยล่ะ” “ค่ะ พี่หมอจินดา หายแล้วจะมาพาไปเลี้ยงต้อนรับนะคะ” โสนกล่าว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD