บทที่ 3 ลูกพีช l ความลับ

1527 Words
"คุณแม่ครับ คิดถึง" พอฉันมารับเพลาตามเวลาที่เลิกเรียน ลูกชายคนเก่งก็วิ่งเข้ามากระโดดกอดฉันทันทีที่พบหน้าแถมคีบเอวฉันไม่ยอมปล่อย ลูกน่าจะคิดถึงฉันจริงๆแหละ..ฉันก็ไม่ต่างกัน "พรุ่งนี้มาอีกไหมครับ" เด็กชายกาลเวฬายิ้มกว้างส่งมา แววตามีความสุขอย่างชัดเจน..ดูท่าจะชอบที่นี่จริงๆ "ครับ..สนุกดีแต่คิดถึงคุณแม่มากกก" "แม่ก็คิดถึงเพลาครับ..อยากไปไหนต่อไหมเอ่ย" ลูกชายฉันทำหน้าครุ่นคิด กอดอกเหมือนผู้ใหญ่ ภาพตรงหน้าที่เห็นเหมือนภาพซ้อนทับคนที่เพิ่งเจอเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาเอามาก 'เหมือนเขามาก' "แม่ครับ แม่ แม่พีชชชช" "คะ..ครับ ขอโทษครับ แม่เหม่อลอยไปไกลเลย" "ลุงพลับเรียกแล้วครับ" เพลาชี้นิ้วไปทางลานจอดรถที่พี่ชายของฉันกำลังยืนโบกมือหย็องแหย็งอยู่ที่รั้ว "คุณแม่ยังไม่ตอบเพลาเลย ว่าตกลงจะพาเพลาไปทานไอติมหรือเปล่าครับ" ฉันยังสงสัยว่าลูกบอกตอนไหนว่าจะไปทานไอติมต่อ คงเป็นเพราะตอนที่กำลังใช้ความคิดแน่ๆ จึงพยักหน้าและยิ้มตอบเป็นคำตอบให้ลูกชายก่อนที่จะถามพี่ชายที่ทำหน้าที่ขับรถให้ "พี่พลับจะว่าอะไรไหม" "ไม่..ไปก็ไป...ไปห้างไทม์" เอาอีกแล้ว เรื่องค่าเช้าที่เมื่อตอนบ่ายที่ให้ฉันไปเองยังไม่ได้เคลียร์นะ "ไม่เอา!" ฉันขึ้นเสียงปฏิเสธทันที พูดถึงห้างไทม์ก็ทำให้คิดถึงคนที่พึ่งเจอ พอใบหน้านั้นลอยมา ก็ทำให้ฉันรู้สึกหงุดหงิด "ทำไมละครับแม่พีช" ดวงตากลมสีน้ำตาลเข้มที่ได้จากอดีตสามีของฉันจ้องมาด้วยความสงสัย "ไอติมร้านนี้อร่อย มีแบบโฮเมด รสชาติหลากหลายเลยนะ" ก่อนที่ฉันจะตอบลูกชายเสียงพี่พลับก็พูดขัดขึ้นมาอีกครั้ง เหมือนจะพูดลอยๆออกมา แต่ฉันรู้ว่าพี่ชายฉันกำลังพยายามคิดจะทำอะไรบางอย่างที่ฉันไม่ชอบอยู่ "พี่พลับ..พีชไม่รู้ว่าพี่ต้องการอะไรนะ แต่พีชขอร้อง พีชยังไม่พร้อม" ฉันอ้อนวอนพี่ชายที่หูทวนลมทำเป็นไม่ได้ยิน แต่ก็ยอมเปลี่ยนเส้นทางไปยังไอติมร้านใหม่ "เอาไว้เราแอบแม่ไปกันสองคนนะเจ้าหลานรัก" พี่พลับกระซิบคุยกับเพลาที่ทำหน้าดีอกดีใจ กระซิบยังไงให้ได้ยินกันทั้งรถ! "อื้มมม อร่อยครับ!" "เต็มที่เลยครับ...เอ่กี่ถ้วยก็ได้ ลุงเลี้ยงไหว" ฉันหยิบทิชชูเช็ดปากลูกที่กำลังจัดการกับถ้วยไอติมที่อยู่ตรงหน้าจนเกือบหมด “ทานแต่พอดีค่ะ...ทานเยอะจะไม่สบายเอานะครับลูก” ฉันเงยหน้าไปบอกพี่ชายและหันไปบอกลูกชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ในมือถือเมนูเพื่อเลือกไอติมถ้วยใหม่ “อีกถ้วยเดี๋ยวนะครับแม่พีช” “จ๊ะ” "ไม่คิดจะนัดเจอเพื่อนบ้างเหรอ" ระหว่างที่รอไอติมถ้วยใหม่ของหลาน พี่พลับก็เริ่มชวนฉันคุยเล่น "ก็คิด..แต่กลัวความลับจะแตก" เพื่อนฉันกับเพื่อนเขาก็คนกันเองทั้งนั้น เม็ดฝนก็พี่ต้นกล้า ยิ่งใบป่านกับพี่กระทิงสองคนนี้ถ้ารู้อะไร คนทั้งกลุ่มก็รู้ "รู้ตัวไหมว่าตัวเองดื้อขนาดไหนลูกพีช น่าจับตีให้ก้นลาย" "คุณลุงอย่าทำอะไรแม่เพลานะครับ แม่เพลาเป็นเด็กดีจะตาย" "ฮ่าๆ ลุงแค่ขู่เล่นๆครับ" "อะไรคือขู่เล่นๆครับ" ความน่าเอ็นดูของเจ้าลูกชายทำให้บทสนทนาของพี่พลับถูกพับเก็บ พวกเราหันไปสนใจเพลาแทนที่จะคุยกันต่อ ไม่ใช่ฉันหนีปัญหาหรอกนะ แต่ฉันยังไม่พร้อมที่จะบอกใคร..ฉันยังไม่กล้าเผชิญหน้ากับมันเพราะฉันรู้ดีว่าตอนนี้ตัวเองยังไม่เข้มแข็งพอที่จะเผชิญ "ว้าว! มนุษย์ผมสีพิงค์ อเมซิ่งมากครับแม่พีช ลุงพลับดูซิครับ" อยู่ๆ ลูกชายฉันชี้ไปนอกร้านทำลุกวาวและชวนฉันกับพี่ชายหันไปมองด้วย เคร้ง~ ภาพตรงหน้าทำให้ช้อนในมือร่วงทันที ทำไมประเทศไทยวันนี้มันแคบจังนะ เขาและเด็กของเขา.. "หึ! ชักสนุก" พี่ชายฉันนั่งตักไอติมในถ้วยของหลานเข้าปากแบบสุนทรีมาก หัวเราะออกมาเหมือนกับเจอละครหลังข่าวเรื่องที่ถูกใจ "อะไรสนุกเหรอครับลุงพลับ" ลูกชายฉันละสายตาจากผู้หญิงผมสีชมพูข้างนอกร้านและกลับมาสนใจไอติมที่กำลังจะหมดของตัวเอง "อิ่มหรือยังลูก กลับบ้านกันครับ" ฉันเลือกที่จะพูดขัดคำตอบพี่ชาย เบนความสนใจจากลูกชายที่เพิ่งจะตักไอติมคำสุดท้ายเข้าปากไป "ครับ" ฉันนั่งตัวลีบให้พวกเขาสองคนเดินผ่านไป รีบลุกจากที่นั่งไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ อุ้มลูกชายตัวน้อยออกจากร้านทันที แต่พี่ชายตัวดีของฉันกลับโอ้เอ้ ทำตัวชักช้า กว่าจะเดินตามมาได้ แทนที่จะได้กลับเร็วๆฉันกับลูกต้องมานั่งรอพี่พลับในรถ "อ้าวพลับ..ไม่ได้เจอกันนานเลย" "อ้าวไทเกอร์..มาเดทเหรอ" "อืม..มากับใครสาวใหม่?" "ไม่ใช่..มากับลูกพีชกับหลานน่ะ" ก๊อก ก๊อก ก๊อก ฉันรีบเคาะกระจกเร่งพี่พลับทันทีก่อนที่พี่ชายฉันจะโป๊ะไปมากกว่านี้ "หลาน?" "ฉันต้องไปแล้ว..ยัยพีชคงโมโห แล้วเจอกันนะ" พี่พลับยกมือลาเปิดประตูและขึ้นมา ฉันรีบเอาตัวบังเพลาไว้ไม่ให้เขาเห็น ซึ่งเขาก็มองมาเช่นกัน "พี่ไท..เร็วซิคะ..ชักช้าคืนนี้อดนะ" เสียงแหลมเล็กนั้นพูดอย่างกระเง้ากระงอดมันดังมากซะจนฉันได้ยิน เฮ้อ! หน้าไม่อายจริง พูดมาได้กลางลานจอดรถ! "ใครเหรอครับคุณลุง" "พะ..เพื่อนลุงน่ะ" ฉันจ้องเขม็งไปที่พี่ชายตัวเอง นั่งกอดอกข่มอารมณ์โกรธเอาไว้ "เราต้องคุยกัน" ฉันเคลียร์กับพี่พลับทั้งคืนเรื่องของเพลา ฉันขอร้องไม่ให้พี่ชายฉันเข้ามาเอี่ยว ฉันรู้ว่าทุกคนเป็นห่วงและอยากให้ฉันได้เดินหน้าต่อ แต่จะให้เดินไปในขณะที่ยังไม่พร้อมฉันทำไม่ได้ ฉันจึงรับปากพี่ชายฉันว่าจะจัดการเรื่องราวให้จบในเร็วๆนี้ และฝากให้พี่ชายบอกพ่อกับแม่ด้วยว่าอย่าห่วงฉันเลย เรื่องนี้ฉันไหว ฉันจัดการเองได้ ขอแค่ลูกชายฉันเข้าใจ.. เพราะที่บอกว่ายังไม่พร้อม..เหตุผลเพราะฉันไม่รู้จะคุยกับเพลายังไงดี เรื่องราวมันซับซ้อนเกินกว่าเด็ก 3 ขวบกว่าจะเข้าใจ และฉันก็ไม่อยากให้เพลารับรู้เรื่องราวแย่ๆระหว่างพ่อกับแม่และนิสัยแย่ๆของพ่อตัวเอง "วันนี้แม่สัญญาว่าจะไม่สายสักวินาทีเดียว" "เพลาปรับตัวได้" "จริงนะ" "จริงครับ" "หอมแก้มแม่หน่อย" ฟอด!!! "ชื่นใจจัง" ลูกชายฉันยิ้มตาหยีและหันหลังเดินเข้าห้องเองโดยที่ไม่ต้องให้ฉันไปส่งเมื่อเคย เพียงไม่กี่วันลูกชายคนเก่งก็ปรับตัวได้แล้ว..หมดห่วงไปเรื่องหนึ่งเลย ฉันเดินกลับมาที่รถตัวเอง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและต่อสายหาเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันเกือบปี (ลูกพีช หายไปนานนะยะ) "แกว่างหรือเปล่าป่าน เจอกันหน่อยไหม" (กรี๊ด แกอยู่ไทยเหรอ) "อืม" (เจอกันๆ ร้านชาบูห้างไทม์ที่เดิม แกโอเคปะ) "โอเคซิ ทำไมจะไม่โอเคล่ะ..แกแค่นี้ก่อนนะแล้วเจอกัน" ฉันโกหกเพื่อนออกไปเพื่อความสบายใจ ไม่อยากขัดใจเพื่อนเพราะเรื่องส่วนตัวของฉันเอง พอนัดกันเสร็จสรรพ รถสปอร์ตคันหรูแถมเปิดประทุนแล่นเข้ามา ฉันจำคนขับได้ดี ข้างๆ มีเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักนั่งอยู่ คุณไทเกอร์ เขามีลูกอีกคนแล้วเหรอ.. พอฉันนึกขึ้นได้ว่าลูกชายฉันก็เรียนอยู่ที่นี่ ความเครียดก็ถาโถมเขามาทันที ฉันจับพวงมาลัยไว้แน่นและก้มลงต่ำ เพื่อให้เขาอุ้มลูกสาวของเขาเข้าโรงเรียนไป เขามีลูกของเขาแล้ว..อะไรๆ มันอาจจะง่ายขึ้นก็ได้ แต่ทำไมน้ำตาฉันถึงได้ไหลออกมาล่ะ ไม่ใช่หรอกพีช! แกไม่ได้เสียใจ แกแค่เสียความรู้สึกที่แก มูฟออนจากเขาไม่ได้เพียงเพราะเขาเป็นพ่อของลูก ดูเขาเป็นตัวอย่างซิพีช เขาเลิกกับแกไปแค่สี่ปีกว่า เขาก็มีลูกตั้งสองคนแล้ว ดูจากลูกสาวเขาแล้ว คงหัวปีท้ายปีซินะ.. หึ! ผู้ชายเฮงซวย! คนใจง่าย! คนเจ้าชู้! ปากสัญญาจะเปลี่ยนตัวเองยังไง ถ้าหากสันดานมันฝั่งลึกก็คงเปลี่ยนกันอยาก แล้วทำไมอะไรๆมันต้องบังเอิญขนาดนี้นะ..ให้ตายเถอะ! ••••••
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD