“พูดอะไรน่ะ” ธาราที่รับรู้ได้ถึงความไม่ปลอดภัย ก้าวถอยหลังช้าๆ หวังจะหนีไป
แต่ไม่ทันที่ร่างบางจะได้เดินออกไป มือหนาคู่ใหญ่ก็คว้าแขนทั้งสองข้างของเธอดึงเอาร่างบางมาแนบชิดกับอกกว้างที่ไม่มีอะไรปกปิด จนหน้าของหญิงสาวปะทะกับอกแกร่งเข้าอย่างจัง
“ว๊าย!!”
“นี่... นาย นายจะทำอะไร ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้” ธาราดิ้นอย่างแรงเพื่อที่จะหนีห่างจากคนตัวใหญ่ แต่ก็ไม่เป็นผลเลยสักนิด
มือหนาโอบกอดร่างน้อยไว้แน่นเพื่อไม่ให้เธอดิ้นหลุดไปได้
“ฉันบอกเธอแล้วไง ว่าฉันจะเอาคืนให้สาสม ครอบครัวของเธอก็ต้องอับอายไม่ต่างจากฉัน และถ้าคืนนี้เธอคิดหนีออกจากห้องนี้ฉันจะส่งคนตามล่าพี่สาวเธอ”
เมื่อเสียงเข้มพูดจบจึงลากตัวหญิงสาวในอ้อมกอดไปยังที่ที่เขาจะจัดการกับเธอ เห็นทีคำขู่นี้จะได้ผล ธาราหยุดดิ้นไปทันทีที่ได้ยิน ทำให้ภูผาลากเธอไปถึงเตียงได้ไม่ลำบาก
“นายจะทำอะไรของนาย นายจะแก้แค้นผู้หญิงด้วยวิธีต่ำๆ แบบนี้น่ะเหรอ” เสียงเล็กที่เอ่ยถามนั้นดูสั่นเทา หลังจากที่เธอถูกเขาลากมาจนถึงเตียงนอนใหญ่
เขากดตัวเธอลงให้นอนราบไปกับฟูกนิ่ม อีกทั้งยังทิ้งน้ำหนักตัวที่แสนหนักทับร่างบางของธาราอย่างไม่ไยดี
ดวงตากลมโตที่มองเขาประหนึ่งอ้อนวอนให้เขาปล่อยเธอจากการคุกคามในครั้งนี้ แต่ยิ่งสายตาธาราเว้าวอนเขามากเท่าไหร่กลับยิ่งดูเย้ายวนใจภูผามากเท่านั้น
ยิ่งเห็นร่างบางบิดร่างหนีไปมา ภูผายิ่งปรารถนาเธอมากกว่าที่จะปล่อยไป
อกอวบที่รัดรึงอยู่ภายใต้ชุดเกาะอกสีขาวที่เกือบจะหลุดแล้วตอนนี้ เนื่องจากการขัดขืนนั้น มันอวบอิ่มเต่งตึงจนทำให้เขายิ่งอยากได้ตัวเธอมากขึ้น
“ฉันก็จะทำในสิ่งที่เจ้าบ่าวเขาทำกับเจ้าสาวในคืนแต่งงานไง ทำเป็นไร้เดียงสาไปได้”
ถึงจะไม่ได้เป็นคนแรก แต่ได้ครอบครองเธอสักครั้งเผื่อว่าเขาอาจจะหายเสียดายเธอขึ้นมาก็ได้
ริมฝีปากหนาโฉบลงที่เรียวปากบางอย่างเร็วประหนึ่งงูฉก บดขยี้อย่างแรง หมายจะเปิดปากหญิงสาวออก
ธาราตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่น้อยเลย นี่มันจูบแรกของเธอ มันควรเป็นของคนที่เธอรักและรักเธอเช่นกันสิ
เธอพยายามดิ้นรนและขัดขืน ธาราเผยอปากออกเล็กน้อยตั้งใจที่จะกัดปากหนานั้น ไม่ใช่เพราะยอมจำนนเขาแต่อย่างใด
“โอ๊ย!” ชายร่างใหญ่ถึงกับร้องเสียงดังออกมาพร้อมกับปล่อยมือออกจากร่างบางอย่างเสียอารมณ์เพื่อจับดูปากที่มีเลือดซึมเล็กน้อยของตน
ทว่าสองขาแข็งแกร่งยังคร่อมทับกดร่างบางเอาไว้
“นี่เธอจูบประสาอะไรของเธอเนี่ย ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครสอนให้จูบหรือไง แบบนี้ไงผู้ชายถึงได้เมิน ลองครั้งเดียวแล้วก็คงทิ้ง”
“ลองเข้ามาอีกสิ จะกัดให้ลิ้นขาดเลย” ฟันบนซี่น้อยๆ ของธารากัดริมฝีปากล่างอวบอิ่มเอาไว้แน่น กลัวว่าจะถูกล่วงล้ำอีก ทั้งหอบหายใจถี่จนอกอวบอูมขยับขึ้นลงตามจังหวะลมหายใจ
ท่าทีแบบนั้นของธาราทำให้ภูผาคิดว่าเธอกำลังยั่วเขา ไร้เดียงสาบ้าบออะไรกัน นี่มันดาวยั่วชัดๆ
“อย่าเล่นตัวนักเลยน่า ต่อให้แกล้งทำเป็นไร้เดียงสาแค่ไหนฉันก็ไม่หลงกลเธอหรอก และมันก็ไม่เหมาะกับผู้หญิงอย่างเธอด้วย”
“ฉันไม่ได้ใช้ให้นายมาจูบฉันนะ ฉันก็ขยะแขยงนายเหมือนกัน สกปรก นายเองก็คงผ่านผู้หญิงมานับร้อย ติดโรครึเปล่าก็ไม่รู้”
ปากหนาโฉบเข้ามาหาปากเรียวเล็กอีกครั้งอย่างเร็ว แต่ธาราเบี่ยงหน้าหลบไปมาเป็นเหตุให้ปากของภูผาเลื่อนไปถูกแก้มบ้าง ตาบ้าง จมูกบ้าง พลาดไปมาอย่างน่าหงุดหงิด
มือใหญ่ข้างหนึ่งของเขานั้นต้องจับข้อมือเรียวเล็กทั้งสองข้างของธารารวบกดไว้ที่เหนือหัว ส่วนมืออีกข้างจับหน้าเธอไว้ไม่ให้หันหนีไปทางไหนได้
แล้วปากของทั้งสองก็ได้ประกบกันอีกครั้ง ปากเรียวเล็กนั้นถูกบดขยี้อย่างแรงจนบวมเจ่อ
เขาจูบเธอเนิ่นนานจนธารารู้สึกเจ็บร้าวที่ริมฝีปากนุ่มและได้ลิ้มรสคาวเลือดจากริมฝีปากนั้น เธอขัดขืนจนสุดแรงสะบัดหน้าไปมาจนปากทั้งสองหลุดออกจากกันอีกครั้ง
แต่ร่างกายยังอยู่ภายใต้การกักขังของร่างใหญ่ที่กดทับอยู่
ฝ่ามือที่สากหนาที่จับใบหน้าสวยก่อนนั้น เลื่อนลงมาบีบเน้นเค้นคลึงอกอวบอิ่มอย่างแรงผ่านชุดแต่งงานสวยราคาแพง
ที่ดูเหมือนว่ามันช่างเป็นสิ่งกีดขวางอารมณ์ดิบของภูผาตอนนี้ ที่กำลังพลุ่งพล่านเพียงแค่ได้เค้นคลึงอกอวบนั้น
เขาไม่ได้คิดจะเบามือแต่อย่างใด บีบขยำซ้ายที ขวาที สลับกันไป เพราะคิดว่าธาราเองก็คงเชี่ยวชาญอยู่แล้ว
ส่วนท่าทีเหนียมอายกับร่างกายที่สั่นเทานั้น อาจเป็นกลเม็ดเด็ดเอาไว้มัดใจลูกค้าของเธอก็ได้
กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ปนกับกลิ่นกายสาวของธารามันยั่วยวนใจและปลุกอารมณ์ปรารถนาของภูผาให้ลุกโชนมากแล้ว
มือหนากระชากเจ้าเกาะอกสีขาวลงมากองอยู่ที่เอวคอดกิ่วในคราเดียว
“กรี๊ด”
หญิงสาวร้องลั่นเมื่อเกาะอกที่รัดความอวบอิ่มของเธอเลื่อนหลุดไปพร้อมกับบราปีกนกจนเผยให้เห็นอกอวบเต่งตึงรวมถึงปลายยอดปทุมสีชมพูอ่อนนั้นด้วย
เธออยากเอามือมาปกปิดไว้เหลือเกิน แต่ก็ทำไมได้เพราะยังถูกรวบกดไว้อยู่เหนือหัวด้วยมือข้างเดียวของเขา