เช้าของอีกวัน
"อืม...เรียบร้อยดี"ชีคฮาซันคืนสมุดบัญชีรายรับรายจ่ายเมื่อตรวจสอบเสร็จให้เจ้าหน้าที่บัญชีแล้วก้าวขามุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถ
เป็นเวลาเดียวกับหญิงสาวที่ก้าวออกจากลิฟต์มุ่งตรงไปยังหน้าอพาร์ทเม้นท์เพื่อเรียกแท็กซี่
"นั่น...เขานี่ คุณท่านชีค" ฉันค่อยๆเดินออกมาไม่เร่งรีบหาทางหนีทีไล่ว่าจะไปทางไหนดีที่เขาจะไม่เห็นทำตัวรีบเล็กแล้วเดินไปแอบที่ต้นไม้ใหญ่คิดว่าน่าจะทันนะ
"สาธุบังตา ธรรมะบังตาเพี้ยง...อย่าหันมานะเว้ย" บริกรรมคาถาไปแล้วไม่รู้ว่าได้ผลไหมใจฉันเต้นตึกตักลุ้นระทึกออกอาการเหมือนคนหนีออกจากบ้านรีบกางร่มทันที
ขณะที่เขากำลังเปิดรถก็เห็นเงาร่างของหญิงสาวที่คุ้นเคยอยู่ด้านหลังของเขาแม้เธอจะเอาร่มคันเล็กบังใบหน้าไว้แต่แค่นั้นมันไม่พอหรอกดวงตาคมหรี่ตามองอย่างรู้ทัน
"เฮ้....บาหลี"
น้านไง...คาถาบังตา
"สวัสดีค่ะ..." ฉันโบกมือทักทายแบบเนียนๆแล้วรีบเดินไปรอแท๊กซี่กลัวเขาตามทัน
จากนั้นซุปเปอร์คาร์คันหรูก็มาจอดเทียบแล้วลดกระจกลง
"คุณจะไปไหนผมไปส่ง.."
"ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวไปแท็กซี่ค่ะ"
"ขึ้นรถ...ผมไปส่ง" ตาคมมองกดดันฉันด้วยสายตาที่ไม่อาจปฏิเสธได้ เชื่อแล้วที่เขาว่าผู้ชายที่นี่ชอบคนเชื่อฟัง
คำว่าเผด็จการน่าจะเหมาะกว่าล่ะมั้ง
"ขอบคุณค่ะ" ฉันจำใจก้าวขึ้นรถนั่งหน้าคู่กับเขา
"คุณจะไปไหน"
"ไปซุปเปอร์มาร์เก็ตไทยค่ะ"
"อาหารที่นี่ไม่อร่อยเหรอ"
"ก็อร่อยค่ะ..แต่อยากซื้อผักกับผลไม้ติดตู้เย็นค่ะ"
"อ้อ...."
"คุณไปร้านไหน"
"ร้านไทยคอเนอร์ซื้อของแห้งก่อนค่ะ"
"แล้วอีกที่ล่ะ"
"ไปร้านนี้เลยค่ะ" ฉันยื่นสมาร์ทโฟนให้เขาดูเป็นร้านที่ยูทูปเปอร์คนดังที่อยู่ที่นี่มานานรีวิวไว้
พอไปถึงฉันรีบลงจากรถแล้วมุ่งเข้าร้านทันที โดยมีเขาเข็นรถใส่ของอยู่ข้างๆ ฉันหยิบของใช้ในครัวจนครบที่นี่มีทุกอย่างเหมือนในไทยแม้กระทั่งปลาร้าขวดหลายยี่ห้อก็วางเบียดกันแน่นเชลล์
"คุณทำอาหารเป็นด้วยเหรอครับ"
"ง่ายๆค่ะ พอกินได้"
"ผมชักอยากกินอาหารไทยบ้างแล้วสิ" ชีคฮาซันที่คิดมาตลอดว่าจะหาวิธีอย่างไรจะได้ใกล้ชิดแบบไม่น่าเกลียดและแนบเนียน
"ผมมีข้อเสนอ"
"หืม...ข้อเสนอ" ฉันงงค่ะคุณท่านชีค
"ค่าอาหารทั้งหมดวันนี้ผมจ่ายเอง"
"เนื่องในโอกาส..." ฉันมองใบหน้าหล่อที่มีเคราเข้มนั้นพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่สบตากับสายตาหวานซึ้งคู่นั้น
"แลกกับคุณทำอาหารให้ผมทานวันละหนึ่งมื้อตอนเย็น"
"ทุกวันแลกกับค่าอาหารของวันนี้" ชีคฮาซันคิดว่าข้อเสนอของเขาน่าสนใจอยู่ไม่น้อย
"จะดีเหรอคะ" ฉันคิดคำนวณในใจขณะใช้สมองบวกลบคูณหารค่าของแห้งบนรถเข็นน่าจะหลายพันบาท
"คิดดูดีๆนะคุณ ผมกินไม่จุหรอก" เขาคงต้องงัดความเจ้าเล่ห์ออกมาใช้กับหญิงสาวคนนี้เสียแล้ว
เอาวะหญิง...แล้วถ้ากินไม่ได้ขึ้นมาอย่ามาด่าลับหลังแล้วกันนะ...คุณท่านชีค
"ตกลงค่ะแต่ถ้าไม่อร่อยจะว่ากันไม่ได้นะคะ"
"โอเค....." เมื่อเขาโอเคฉันก็หยิบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำกุ้งเพิ่มอีกสองแพค
ร้านนี้ท่านชีคจ่ายไปราวสามพันบาทได้ของมาเยอะพอสมควรน่าจะอยู่ได้ทั้งเดือน จากนั้นต่อด้วยซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งที่สองฉันหยิบของสดมากมายสำหรับประกอบอาหาร
แน่นอนต้องมีหมูมาด้วยหลายแพค หมูสไลด์ก็ต้องมีของแปรรูปครบครันผักผลไม้สดพอกินไปทั้งอาทิตย์ รวมเบ็ดเสร็จแล้วท่านชีคจ่ายไปราวสองหมื่นบาท
"คุณจะกลับเลยไหม" ใบหน้าหล่อหันมาถามในขณะที่ยังจับพวงมาลัยอยู่
"กลับเลยค่ะ..."
"แล้วคุณจะไปไหนต่อคะ" อย่าหาว่าฉันเผือกเด้อทีเขายังอยากรู้เรื่องของฉันได้เลย
"ไปหาท่านแม่"
"คุณจะไปด้วยกันไหม" เขาหันหน้าถามจนเครากระดิก
"ไม่...ไม่ดีกว่าค่ะ" ฉันต้องหันหน้าออกมองวิวข้างทาง ใครจะกล้าไปบ้านผู้ชายให้โดนจับกินตับแต่วันแรกกันบ้าง
"หึ...หึ..ผมนึกว่าคุณอยากไปเที่ยวบ้านผมซะอีก"
คุณท่านชีคคะ..ตอนนี้ฉันกลัวฉันเข็ดผู้ชายอยู่ค่ะ
"วันนี้ผมคงกลับดึกคุณไม่ต้องทำอาหารเผื่อผมนะ"
"ค่ะ..." ฉันรับคำแล้วต้องแสร้งทำหน้ามึนมองวิวสองข้างทางไม่อยากมองใบหน้าหล่อนั้นมันทำให้จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
แต่ในใจกลับนึกด่าตัวเองว่า ยังไม่เข็ดอีกใช่ไหม ของไทยยังเอาตัวไม่รอดนี่ของนอกนะยะหล่อน...
เฮ้อ!!! เข็ดจร้าเข็ดแล้ว
รุ่งเช้าของวันอาทิตย์
วันนี้เป็นการทำงานวันแรกที่ออกไซต์งานแบบจริงจัง ประเทศนี้วันทำงานเริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ถึงพฤหัสบดีหยุดวันศุกร์กับเสาร์ ซึ่งฉันใช้มันไปหมดแล้ว
ฉันตื่นเช้าลุกขึ้นมาทำอาหารแบบง่ายๆและเตรียมอาหารกลางวันไปด้วยในตัว จัดข้าวกล่องใส่กระเป๋าเก็บความร้อน คว้ากระเป๋าโน๊ตบุ๊คมาสะพายหลังแล้วออกจากห้อง
"เรียกแท๊กซี่ดีกว่า"
หญิงสาวกดปุ่มลิฟต์แล้วยืนรอที่นี่ที่ชั้นนี้มีแค่เพียงสองห้องคือห้องของบาหลีกับชีคฮาซัน ตอนนี้ไม่มีเขากับเท่ากับว่ามีเธออยู่เพียงคนเดียว
ติ๊ง!! ประตูลิฟต์เปิดออกฉันก้าวขาเข้าไปยื่นมือจะกดเลขหนึ่ง
"ไฮ! รอผมด้วย" ไม่เพียงแต่เสียงของเขามือและขาก็ยื่นเข้ามาทันที
"สวัสดีค่ะ" ฉันแอบสำรวจเขาเช้านี้เขาแต่งตัวดูเท่ห์ดูสมาร์ทแบบเต็มยศเต็มเหนี่ยวมากับสูทสากลสีน้ำเงินเข้มเซ็ตผมเรียบจนแทบไม่กระดิกใบหน้าละมุนปากเขาเป็นกระจับจมูกโด่งคิ้วเรียวยาวที่สำคัญเขามาพร้อมกับกลิ่นหอมเฉพาะตัวอีกเช่นเคย
อื้อหือ..เข้มทรมานใจ
แล้วตาโตๆของเขาก็มองมาทางฉัน " ผมไปส่งคุณก่อนแล้วค่อยเข้าออฟฟิศ"
"เอ่อ...ไม่ต้องลำบากก็ได้ค่ะ บาหลีไปแท๊กซี่ได้ค่ะ" ฉันเกรงใจเขาจะแย่ที่สำคัญกว่านั้นก็กลัวเคลิ้มไปกับความหล่อนี่แหละ
ด้านชีคฮาซันสำรวจหญิงสาวอย่างพึงพอใจ ที่ใบหน้าหวานแต่งหน้าสวยงามพอดิบพอดีไม่มากไม่น้อย เก็บรูปร่างสมส่วนซุกไว้ในชุดทำงานทะมัดทะแมงสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวกางเกงยีนส์ขายาวรัดรูปเห็นช่วงขาเรียวสวยรับกับสะโพกกลมกลึงและเอวคอดน่ามองภาพแบบนี้เหมือนที่เคยเจอในไทยครั้งที่แล้ว
แบบนี้เขาเรียกมีเสน่ห์น่าดึงดูด เขาเชื่อว่าภายใต้เสื้อผ้านั้นผิวเธอจะต้องเนียนนุ่ม ทรวดทรงอวบอิ่มแบบลืมไม่ลงเป็นแน่แท้แต่เธอก็ออกจะดื้อดึงอยู่เหมือนกัน ไม่เหมือนสาวเมืองนี้ที่ว่านอนสอนง่าย
เขาชอบความท้าทายเสียด้วยสิ.....
@ เกาะกลางทะเล
ท่ามกลางกองปูนกองทรายผู้คนขวักไขว่แรงงานต่างด้าวทำงานอย่างขยันขันแข็ง ก็จะมีสองหนุ่มสาวที่ยืนรอนั่งรออยู่หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่อย่างใจจดใจจ่อ
"ข้าวฟ่างเธอไม่รู้จะมาทำไมต่างคนต่างอยู่ไม่ได้หรือไง" ชายหนุ่มสวมหมวกพลาสติกสีเหลืองใบหน้าบ่งบอกถึงความกังวลและไม่พอใจ
"ข้าวฟ่างมารอเพื่อนรัก กวีนั่นแหละไม่รู้จะตามมาทำไม"
"รู้หรอกน่าว่าอยากเจอบาหลีเขาใจจะขาด" หญิงสาวส่งค้อนขวับไปยังผู้ชายตัวโตที่นั่งอยู่ข้างๆ
ทันใดนั้นซุปเปอร์คาร์สีดำวาววับก็เลี้ยวเข้ามาจอดที่หน้าคฤหาสน์ กระจกใสมองเห็นคนขับซึ่งดูก็รู้ว่าเป็นเจ้าของโครงการที่ทั้งหล่อและร่ำรวยมหาศาลแล้วยังเป็นถึงเจ้าชายผู้สูงศักดิ์แต่ที่นั่งข้างกันนั่นคือเพื่อนสาวของทั้งสอง บาหลี
เธอมักจะโชคดีเสมอนะ......บาหลี
"ท่านชีคฮาซัน" ข้าวฟ่างยืนขึ้นทันทีเมื่อชีคหนุ่มลงจากรถในมือยังถือกระเป๋าใบเล็กใส่อาหารติดมือมาด้วย ความอิจฉาแล่นเข้าสู่ดวงตาในฉับพลันดูก็รู้ว่าเป็นของเพื่อนเธอ
"สวัสดีค่ะท่านชีค"
"สวัสดีครับท่านชีค" กวีวิศวกรหนุ่มทักทายชีคฮาซันแต่สายตากลับจับจ้องไปที่หญิงสาวคนรักเก่า ใบหน้าสวยยังคงนิ่งเฉยไม่ปรากฏอาการใดๆ จนเขาแทบทนไม่ได้เหมือนโดนไฟเผาทั้งเป็น
ก็เป็นเขาทำผิดต่อเธอมากจนไม่อยากจะเจอหน้ากันได้แบบนี้ยิ่งทำให้รู้สึกกระอักกระอ่วนใจเข้าไปอีกเพราะความมักมากของเขาเองจะโทษใคร
"หวัดดีข้าวฟ่าง กวีสบายดีเหรอ" ฉันฉีกยิ้มกว้างแบบนางเอกในละครใสซื่อ
"อืม...สบายดี" กวีตอบด้วยเสียงที่จุกอยู่ในอก
"คุณสองคนมีธุระอะไรอีกไหมผมขอให้คุณบาหลีเขาทำความรู้จักกับพื้นที่ก่อนนะครับ ผมรีบ"
"ได้ค่ะ งั้นตอนเย็นเรามาอีกนะ" ข้าวฟ่างตัวต้นเหตุที่ไม่คิดจะล้มเลิกความตั้งใจ
"เราไม่รู้จะว่างหรือเปล่านะไม่รับปาก" ฉันเชิดหน้าใส่มันทั้งสองคนหญิงก็ร้ายชายก็เลว ตอนนี้แม้สายตาก็ไม่อยากแลกระชับกระเป๋าแล้วเดินตามท่านชีคขึ้นด้านบนชั้นสองอดไม่ได้ที่จะเบ้ปากใส่กวีที่ถูกยัยข้าวฟ่างกินไปทั้งตัวจนโทรมแบบนี้
"พักผ่อนกันบ้างนะอย่าหักโหมกันนักดูซิโทรมจนดูไม่ได้แล้ว"
"นี่เธอโดนของหรือเปล่ากวีหรือว่าโดนตัวไหนเข้าไปถึงได้เป็นแบบนี้เนี่ย"
ฉันทิ้งระเบิดไว้ให้ทั้งสองคนมองด้วยสายตาหยามเหยียดข้าวฟ่างคงแค้นน่าดู
ผู้ไม่อร่อยให้ฟรีก็ไม่กิน.....
บาย...ลาล่ะนะ
@@@@@@@@
ออนไรท์