ตอนที่3.แมวกับปลาย่าง

1772 Words
เช้าของอีกวัน "อืม...เรียบร้อยดี"ชีคฮาซันคืนสมุดบัญชีรายรับรายจ่ายเมื่อตรวจสอบเสร็จให้เจ้าหน้าที่บัญชีแล้วก้าวขามุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถ เป็นเวลาเดียวกับหญิงสาวที่ก้าวออกจากลิฟต์มุ่งตรงไปยังหน้าอพาร์ทเม้นท์เพื่อเรียกแท็กซี่ "นั่น...เขานี่ คุณท่านชีค" ฉันค่อยๆเดินออกมาไม่เร่งรีบหาทางหนีทีไล่ว่าจะไปทางไหนดีที่เขาจะไม่เห็นทำตัวรีบเล็กแล้วเดินไปแอบที่ต้นไม้ใหญ่คิดว่าน่าจะทันนะ "สาธุบังตา ธรรมะบังตาเพี้ยง...อย่าหันมานะเว้ย" บริกรรมคาถาไปแล้วไม่รู้ว่าได้ผลไหมใจฉันเต้นตึกตักลุ้นระทึกออกอาการเหมือนคนหนีออกจากบ้านรีบกางร่มทันที ขณะที่เขากำลังเปิดรถก็เห็นเงาร่างของหญิงสาวที่คุ้นเคยอยู่ด้านหลังของเขาแม้เธอจะเอาร่มคันเล็กบังใบหน้าไว้แต่แค่นั้นมันไม่พอหรอกดวงตาคมหรี่ตามองอย่างรู้ทัน "เฮ้....บาหลี" น้านไง...คาถาบังตา "สวัสดีค่ะ..." ฉันโบกมือทักทายแบบเนียนๆแล้วรีบเดินไปรอแท๊กซี่กลัวเขาตามทัน จากนั้นซุปเปอร์คาร์คันหรูก็มาจอดเทียบแล้วลดกระจกลง "คุณจะไปไหนผมไปส่ง.." "ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวไปแท็กซี่ค่ะ" "ขึ้นรถ...ผมไปส่ง" ตาคมมองกดดันฉันด้วยสายตาที่ไม่อาจปฏิเสธได้ เชื่อแล้วที่เขาว่าผู้ชายที่นี่ชอบคนเชื่อฟัง คำว่าเผด็จการน่าจะเหมาะกว่าล่ะมั้ง "ขอบคุณค่ะ" ฉันจำใจก้าวขึ้นรถนั่งหน้าคู่กับเขา "คุณจะไปไหน" "ไปซุปเปอร์มาร์เก็ตไทยค่ะ" "อาหารที่นี่ไม่อร่อยเหรอ" "ก็อร่อยค่ะ..แต่อยากซื้อผักกับผลไม้ติดตู้เย็นค่ะ" "อ้อ...." "คุณไปร้านไหน" "ร้านไทยคอเนอร์ซื้อของแห้งก่อนค่ะ" "แล้วอีกที่ล่ะ" "ไปร้านนี้เลยค่ะ" ฉันยื่นสมาร์ทโฟนให้เขาดูเป็นร้านที่ยูทูปเปอร์คนดังที่อยู่ที่นี่มานานรีวิวไว้ พอไปถึงฉันรีบลงจากรถแล้วมุ่งเข้าร้านทันที โดยมีเขาเข็นรถใส่ของอยู่ข้างๆ ฉันหยิบของใช้ในครัวจนครบที่นี่มีทุกอย่างเหมือนในไทยแม้กระทั่งปลาร้าขวดหลายยี่ห้อก็วางเบียดกันแน่นเชลล์ "คุณทำอาหารเป็นด้วยเหรอครับ" "ง่ายๆค่ะ พอกินได้" "ผมชักอยากกินอาหารไทยบ้างแล้วสิ" ชีคฮาซันที่คิดมาตลอดว่าจะหาวิธีอย่างไรจะได้ใกล้ชิดแบบไม่น่าเกลียดและแนบเนียน "ผมมีข้อเสนอ" "หืม...ข้อเสนอ" ฉันงงค่ะคุณท่านชีค "ค่าอาหารทั้งหมดวันนี้ผมจ่ายเอง" "เนื่องในโอกาส..." ฉันมองใบหน้าหล่อที่มีเคราเข้มนั้นพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่สบตากับสายตาหวานซึ้งคู่นั้น "แลกกับคุณทำอาหารให้ผมทานวันละหนึ่งมื้อตอนเย็น" "ทุกวันแลกกับค่าอาหารของวันนี้" ชีคฮาซันคิดว่าข้อเสนอของเขาน่าสนใจอยู่ไม่น้อย "จะดีเหรอคะ" ฉันคิดคำนวณในใจขณะใช้สมองบวกลบคูณหารค่าของแห้งบนรถเข็นน่าจะหลายพันบาท "คิดดูดีๆนะคุณ ผมกินไม่จุหรอก" เขาคงต้องงัดความเจ้าเล่ห์ออกมาใช้กับหญิงสาวคนนี้เสียแล้ว เอาวะหญิง...แล้วถ้ากินไม่ได้ขึ้นมาอย่ามาด่าลับหลังแล้วกันนะ...คุณท่านชีค "ตกลงค่ะแต่ถ้าไม่อร่อยจะว่ากันไม่ได้นะคะ" "โอเค....." เมื่อเขาโอเคฉันก็หยิบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำกุ้งเพิ่มอีกสองแพค ร้านนี้ท่านชีคจ่ายไปราวสามพันบาทได้ของมาเยอะพอสมควรน่าจะอยู่ได้ทั้งเดือน จากนั้นต่อด้วยซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งที่สองฉันหยิบของสดมากมายสำหรับประกอบอาหาร แน่นอนต้องมีหมูมาด้วยหลายแพค หมูสไลด์ก็ต้องมีของแปรรูปครบครันผักผลไม้สดพอกินไปทั้งอาทิตย์ รวมเบ็ดเสร็จแล้วท่านชีคจ่ายไปราวสองหมื่นบาท "คุณจะกลับเลยไหม" ใบหน้าหล่อหันมาถามในขณะที่ยังจับพวงมาลัยอยู่ "กลับเลยค่ะ..." "แล้วคุณจะไปไหนต่อคะ" อย่าหาว่าฉันเผือกเด้อทีเขายังอยากรู้เรื่องของฉันได้เลย "ไปหาท่านแม่" "คุณจะไปด้วยกันไหม" เขาหันหน้าถามจนเครากระดิก "ไม่...ไม่ดีกว่าค่ะ" ฉันต้องหันหน้าออกมองวิวข้างทาง ใครจะกล้าไปบ้านผู้ชายให้โดนจับกินตับแต่วันแรกกันบ้าง "หึ...หึ..ผมนึกว่าคุณอยากไปเที่ยวบ้านผมซะอีก" คุณท่านชีคคะ..ตอนนี้ฉันกลัวฉันเข็ดผู้ชายอยู่ค่ะ "วันนี้ผมคงกลับดึกคุณไม่ต้องทำอาหารเผื่อผมนะ" "ค่ะ..." ฉันรับคำแล้วต้องแสร้งทำหน้ามึนมองวิวสองข้างทางไม่อยากมองใบหน้าหล่อนั้นมันทำให้จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แต่ในใจกลับนึกด่าตัวเองว่า ยังไม่เข็ดอีกใช่ไหม ของไทยยังเอาตัวไม่รอดนี่ของนอกนะยะหล่อน... เฮ้อ!!! เข็ดจร้าเข็ดแล้ว รุ่งเช้าของวันอาทิตย์ วันนี้เป็นการทำงานวันแรกที่ออกไซต์งานแบบจริงจัง ประเทศนี้วันทำงานเริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ถึงพฤหัสบดีหยุดวันศุกร์กับเสาร์ ซึ่งฉันใช้มันไปหมดแล้ว ฉันตื่นเช้าลุกขึ้นมาทำอาหารแบบง่ายๆและเตรียมอาหารกลางวันไปด้วยในตัว จัดข้าวกล่องใส่กระเป๋าเก็บความร้อน คว้ากระเป๋าโน๊ตบุ๊คมาสะพายหลังแล้วออกจากห้อง "เรียกแท๊กซี่ดีกว่า" หญิงสาวกดปุ่มลิฟต์แล้วยืนรอที่นี่ที่ชั้นนี้มีแค่เพียงสองห้องคือห้องของบาหลีกับชีคฮาซัน ตอนนี้ไม่มีเขากับเท่ากับว่ามีเธออยู่เพียงคนเดียว ติ๊ง!! ประตูลิฟต์เปิดออกฉันก้าวขาเข้าไปยื่นมือจะกดเลขหนึ่ง "ไฮ! รอผมด้วย" ไม่เพียงแต่เสียงของเขามือและขาก็ยื่นเข้ามาทันที "สวัสดีค่ะ" ฉันแอบสำรวจเขาเช้านี้เขาแต่งตัวดูเท่ห์ดูสมาร์ทแบบเต็มยศเต็มเหนี่ยวมากับสูทสากลสีน้ำเงินเข้มเซ็ตผมเรียบจนแทบไม่กระดิกใบหน้าละมุนปากเขาเป็นกระจับจมูกโด่งคิ้วเรียวยาวที่สำคัญเขามาพร้อมกับกลิ่นหอมเฉพาะตัวอีกเช่นเคย อื้อหือ..เข้มทรมานใจ แล้วตาโตๆของเขาก็มองมาทางฉัน " ผมไปส่งคุณก่อนแล้วค่อยเข้าออฟฟิศ" "เอ่อ...ไม่ต้องลำบากก็ได้ค่ะ บาหลีไปแท๊กซี่ได้ค่ะ" ฉันเกรงใจเขาจะแย่ที่สำคัญกว่านั้นก็กลัวเคลิ้มไปกับความหล่อนี่แหละ ด้านชีคฮาซันสำรวจหญิงสาวอย่างพึงพอใจ ที่ใบหน้าหวานแต่งหน้าสวยงามพอดิบพอดีไม่มากไม่น้อย เก็บรูปร่างสมส่วนซุกไว้ในชุดทำงานทะมัดทะแมงสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวกางเกงยีนส์ขายาวรัดรูปเห็นช่วงขาเรียวสวยรับกับสะโพกกลมกลึงและเอวคอดน่ามองภาพแบบนี้เหมือนที่เคยเจอในไทยครั้งที่แล้ว แบบนี้เขาเรียกมีเสน่ห์น่าดึงดูด เขาเชื่อว่าภายใต้เสื้อผ้านั้นผิวเธอจะต้องเนียนนุ่ม ทรวดทรงอวบอิ่มแบบลืมไม่ลงเป็นแน่แท้แต่เธอก็ออกจะดื้อดึงอยู่เหมือนกัน ไม่เหมือนสาวเมืองนี้ที่ว่านอนสอนง่าย เขาชอบความท้าทายเสียด้วยสิ..... @ เกาะกลางทะเล ท่ามกลางกองปูนกองทรายผู้คนขวักไขว่แรงงานต่างด้าวทำงานอย่างขยันขันแข็ง ก็จะมีสองหนุ่มสาวที่ยืนรอนั่งรออยู่หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่อย่างใจจดใจจ่อ "ข้าวฟ่างเธอไม่รู้จะมาทำไมต่างคนต่างอยู่ไม่ได้หรือไง" ชายหนุ่มสวมหมวกพลาสติกสีเหลืองใบหน้าบ่งบอกถึงความกังวลและไม่พอใจ "ข้าวฟ่างมารอเพื่อนรัก กวีนั่นแหละไม่รู้จะตามมาทำไม" "รู้หรอกน่าว่าอยากเจอบาหลีเขาใจจะขาด" หญิงสาวส่งค้อนขวับไปยังผู้ชายตัวโตที่นั่งอยู่ข้างๆ ทันใดนั้นซุปเปอร์คาร์สีดำวาววับก็เลี้ยวเข้ามาจอดที่หน้าคฤหาสน์ กระจกใสมองเห็นคนขับซึ่งดูก็รู้ว่าเป็นเจ้าของโครงการที่ทั้งหล่อและร่ำรวยมหาศาลแล้วยังเป็นถึงเจ้าชายผู้สูงศักดิ์แต่ที่นั่งข้างกันนั่นคือเพื่อนสาวของทั้งสอง บาหลี เธอมักจะโชคดีเสมอนะ......บาหลี "ท่านชีคฮาซัน" ข้าวฟ่างยืนขึ้นทันทีเมื่อชีคหนุ่มลงจากรถในมือยังถือกระเป๋าใบเล็กใส่อาหารติดมือมาด้วย ความอิจฉาแล่นเข้าสู่ดวงตาในฉับพลันดูก็รู้ว่าเป็นของเพื่อนเธอ "สวัสดีค่ะท่านชีค" "สวัสดีครับท่านชีค" กวีวิศวกรหนุ่มทักทายชีคฮาซันแต่สายตากลับจับจ้องไปที่หญิงสาวคนรักเก่า ใบหน้าสวยยังคงนิ่งเฉยไม่ปรากฏอาการใดๆ จนเขาแทบทนไม่ได้เหมือนโดนไฟเผาทั้งเป็น ก็เป็นเขาทำผิดต่อเธอมากจนไม่อยากจะเจอหน้ากันได้แบบนี้ยิ่งทำให้รู้สึกกระอักกระอ่วนใจเข้าไปอีกเพราะความมักมากของเขาเองจะโทษใคร "หวัดดีข้าวฟ่าง กวีสบายดีเหรอ" ฉันฉีกยิ้มกว้างแบบนางเอกในละครใสซื่อ "อืม...สบายดี" กวีตอบด้วยเสียงที่จุกอยู่ในอก "คุณสองคนมีธุระอะไรอีกไหมผมขอให้คุณบาหลีเขาทำความรู้จักกับพื้นที่ก่อนนะครับ ผมรีบ" "ได้ค่ะ งั้นตอนเย็นเรามาอีกนะ" ข้าวฟ่างตัวต้นเหตุที่ไม่คิดจะล้มเลิกความตั้งใจ "เราไม่รู้จะว่างหรือเปล่านะไม่รับปาก" ฉันเชิดหน้าใส่มันทั้งสองคนหญิงก็ร้ายชายก็เลว ตอนนี้แม้สายตาก็ไม่อยากแลกระชับกระเป๋าแล้วเดินตามท่านชีคขึ้นด้านบนชั้นสองอดไม่ได้ที่จะเบ้ปากใส่กวีที่ถูกยัยข้าวฟ่างกินไปทั้งตัวจนโทรมแบบนี้ "พักผ่อนกันบ้างนะอย่าหักโหมกันนักดูซิโทรมจนดูไม่ได้แล้ว" "นี่เธอโดนของหรือเปล่ากวีหรือว่าโดนตัวไหนเข้าไปถึงได้เป็นแบบนี้เนี่ย" ฉันทิ้งระเบิดไว้ให้ทั้งสองคนมองด้วยสายตาหยามเหยียดข้าวฟ่างคงแค้นน่าดู ผู้ไม่อร่อยให้ฟรีก็ไม่กิน..... บาย...ลาล่ะนะ @@@@@@@@ ออนไรท์
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD