CHAPTER 7
PUNYAH TALK
อกฉันจะระเบิด วันนี้มีแต่เรื่องน่าตกใจจริงๆ ทั้งเจอคุณพอร์ชที่ร้านกาแฟและไหนจะดั้นด้นมาหาที่ห้องฉันอีก เขาเป็นคนที่น่ากลัวยังไงชอบกลอาจเพราะฉันเดาไม่ถูกเลยว่าเขาคิดอะไรอยู่กันแน่ แล้วนี่ไล่ฉันออกมาข้างนอกแบบนี้มีอะไรจะคุยกับแม่ฉันเหรอ? เจอกันครั้งแรกแม่ฉันต้องตกใจกับการพูดน้อยของเขาแน่ๆ โอ้ยยยยยย ปั้นหยาเครียด
ฉันเดินลงมานั่งคอยข้างล่างเพราะให้ยืนรอหน้าห้องก็ไม่รู้จะทำอะไร จนตอนนี้ผ่านไปสิบนาทีแล้วแม่ยังไม่โทรเรียกฉันขึ้นไปอีก ฉันกลัวอ่ะ คุณพอร์ชยิ่งชอบพูดว่าชอบฉันอยากได้ฉันนักหนาอยู่ด้วย แม่ฉันคงช็อคน่าดูเลยสิมีผู้ชายมาบอกชอบลูกสาวตัวเอง
เอ๊ะ นั่นมันมอเตอร์ไซค์ฉันนี่!!
มีรถกระบะสีดำคันหนึ่งมาจอดเยื้องกับตึกที่ฉันอยู่ หลังรถกระบะคันนั้นบรรทุกมอเตอร์ไซค์ของฉันและขณะนี้มีผู้ชายร่างบึกบึนเดินลงมายกรถของฉัน ทว่าสองขาฉันรีบวิ่งเข้าไปหาทันที
“นี่รถฉันเองค่ะ”
“คุณพอร์ชให้ผมเอารถมาจอดที่นี่ครับ”
“คุณพอร์ชจัดการเหรอคะ? แล้วค่าจ้างเท่าไหร่คะเดี๋ยวฉันจ่ายเองเพราะตอนนี้คุณพอร์ชอยู่ข้างบนค่ะ”
“ไม่ต้องหรอกครับคุณ ผมก็กินเงินเดือนคุณพอร์ชอยู่แล้ว”
“ขอบคุณมากนะคะ เดี๋ยวพี่อย่าเพิ่งไปค่ะรอแป๊บนึง”
ฉันปล่อยให้พี่กล้ามบึกสองคนยืนทำหน้างงอยู่ตรงนั้นแล้วตัวฉันเองก็วิ่งมาร้านขายของชำ คือฉันเกรงใจเขาน่ะเงินก็ไม่ได้ให้เลยจะซื้อของให้นิดหน่อยเป็นสินน้ำใจแทนเงิน
“อาแปะ กระทิงแดงสองขวดค่ะ”
“ลื้อกินกระทิงแดงด้วยเหรออาหยา”
“เปล่าจ่ะแปะ หนูจะซื้อไปให้พี่สองคนนั้น นี่เงินนะแปะ”
“เออ ลื้อนี่มันเด็กดีจริงๆอาหยาเอ้ย”
แหม ก็ไม่ได้ดีอะไรนักหรอกฉันเป็นคนแบบนี้แหละขี้เกรงใจ ขี้กลัว บางทีทำปากเก่งแต่ในใจกลัวมากก็มี ฉันวิ่งถือกระทิงแดงสองขวดกลับมายังรถกระบะที่พี่สองคนนั้นยืนพิงประตูอยู่
“นี่ค่ะพี่ หนูไม่มีอะไรจะตอบแทนหนูมีให้แค่นี้นะคะ”
“โถ่คุณ ไม่น่าล่ะคุณพอร์ชถึงเอ็นดูคุณเป็นพิเศษ ขอบคุณครับ”
เอ๊ะ พูดถึงคุณพอร์ชป่านนี้จะเป็นไงบ้างเนี่ย ฉันไม่รอให้แม่โทรมาตามแล้วล่ะฉันว่าฉันขึ้นไปเลยดีกว่า
[ย้าส์ อ้ากกกก]
นี่มันเสียงคุณพอร์ชนี่!! ฉันรีบเปิดประตูออกอย่างรวดเร็วด้วยความสงสัยและเป็นห่วงทั้งคู่ ทว่าสิ่งที่เห็นกลับทำฉันโล่งอกแต่ก็อดสงสัยไม่ได้ คุณพอร์ชนอนคว่ำหน้าอยู่บนที่ฟูกที่ฉันกับแม่นอนและที่นั่งข้างๆตัวคุณพอร์ชนั้นคือแม่ฉันเอง แม่ฉันกำลังนวดหลังให้คุณพอร์ช
“ค่ำแล้วนะคะคุณพอร์ช ไม่รีบกลับบ้านเหรอคะ”
เขาค่อยๆลุกขึ้นนั่งก่อนจะช้อนตาคมมองฉันอยู่ตรงนั้น
“ไม่อยากให้อยู่เหรอ?”
“นั่นสิลูก แม่ยังนวดให้คุณเขาไม่เสร็จเลยนะ”
“อ้าว ทำไมแม่เข้าข้างเขาอย่างนั้นล่ะเนี่ย”
“ใครรักลูกแม่แม่ก็รักด้วยทั้งนั้นแหละ”
คุณพอร์ชลุกขึ้นเดินไปหยิบสูทตัวนอกมาใส่แล้วหันไปบอกขอบคุณแม่ฉันจากนั้นก็เดินออกจากห้องไปเลย แต่ตอนเดินออกไปทำตาขวางใส่ฉันด้วยหนึ่งที นี่เขางอนอะไรฉันอีกเนี่ย!!
“แม่ เขาโกรธอะไรหนูหรือเปล่าทำไมมองหนูแบบนั้น”
“ไม่รู้สิ วัยรุ่นนี่เข้าใจยากจริงๆแต่ว่าเขาก็จริงใจดีนะ พูดตรงดี ไม่ได้อวยหยาจนเกินจริงและรู้จุดดีจุดด้อยของลูกแม่ ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังรับได้ที่เราเป็นแบบนี้ อืม แม่ชอบ”
“หนูว่าหนูไปส่งเขาดีกว่าเนอะ”
หูฉันฟังที่แม่พูดก็จริงแต่ในหัวฉันกลับนึกถึงสายตาตัดพ้อที่เขาส่งมาให้เมื่อครู่ เป็นอะไรของเขากันนะ ฉันวิ่งออกจากห้องตามคุณพอร์ชออกมาแต่ก็มาเจอคุณพอร์ชอยู่ชั้นล่างกำลังเดินไปที่รถแล้ว เดินไปจริงๆ ฉันวิ่งไปดักหน้าไม่ให้เขาเดินต่อไปได้อีก
“มีอะไร”
“เอ่อ ขอบคุณเรื่องรถนะคะอุตส่าห์หาคนมาส่งให้หยา”
“อืม”
เขาตอบมาแค่นั้นแล้วเบี่ยงตัวเดินผ่านฉันไปเลย ฉันรู้สึกไม่ดีชะมัด ทั้งที่ปกติเขาไม่เคยเมินเฉยฉันแบบนี้
“เดี๋ยวค่ะคุณพอร์ช หยุดก่อน”
“อะไรอีก”
“คุณโกรธอะไรหยาเหรอคะหยาจะได้ขอโทษถูก”
“ไม่อยากให้อยู่ก็จะกลับ”
อะไรของเขาเนี่ย! นี่ยังงอนเรื่องนี้อีกเหรอ? ฉันก็ไม่ได้ไล่สักหน่อยเห็นว่าค่ำแล้วเลยไม่อยากรบกวนเวลาส่วนตัวมากนัก วันนี้วันหยุดเขาควรมีเวลาพักผ่อนไม่ใช่เหรอ?
“หยาไม่ได้ไล่คุณสักหน่อยนะคะ คุณคิดไปเอง แต่ถ้าคุณไม่พอใจเรื่องนี้หยาก็ต้องขอโทษจริงๆค่ะ หยาไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณคิดมาก อย่าโกรธหยาเลยนะคะ”
“มีข้อแลกเปลี่ยน”
“อะไรคะ? พรุ่งนี้จะสั่งงานหยาเพิ่มก็ได้นะคะเป็นการไถ่โทษ”
ฟอดดดดดด
แม่เจ้าโว้ยยย ไม่น่าก้มหน้าก้มตารู้สึกผิดเลย ลืมไปว่าคุณพอร์ชน่ะมือไว เขาดึงตัวฉันเข้าไปกอดก่อนจะกดจูบที่หน้าผากค้างไว้อย่างนั้นและฉันพยายามจะดันตัวเขาออกแต่ก็ไม่เป็นผล
“อ้าวปั้นหยา นั่นผัวเหรอลูก”
เสียงคุณป้าที่รู้จักกันดังแทรกขึ้นมาทำให้ทั้งฉันและคุณพอร์ชผละออกจากกันทันที เขินอ่ะ นี่ก็ที่สาธารณะมาทำแบบนี้มันไม่ถูกต้อง
“คือว่าเขาเป็น..”
“เป็นผัวครับ”
“คุณพอร์ช!!!”
กลับมารับผิดชอบคำพูดตัวเองก่อนได้ไหม? นี่เขาพูดแบบนั้นแล้วเดินไปเลย ส่วนป้าคนที่ทักก็ยิ้มกรุ้มกริ่มให้ฉันแล้วก็เดินไปอีกทาง ทิ้งฉันให้ยืนจมกับความมึนงงและหน้าแดงอยู่ที่เดิม
บ้าจริง คุณพอร์ชนะคุณพอร์ช!!
แล้วฉันจะยืนเขินอยู่ทำไมเนี่ย รีบขึ้นห้องดีกว่า
“คุณพอร์ชว่าไงบ้างลูก”
“แหม ถามหาเขาก่อนเลยนะแม่ ก็ไม่เป็นยังไงหรอก เขางอนที่หนูบอกให้เขากลับบ้าน เขาคิดว่าหนูไล่เขาไม่อยากให้เขาอยู่มั้ง”
“น่ารักดีเนอะ หล่อ รวย พูดเก่ง ถ้าได้ลงเอยกับหยาจริงๆลูกสาวแม่คงสบายไม่ต้องลำบากเหมือนทุกวันนี้”
“หนูก็ไม่ได้ลำบากสักหน่อย แล้วเมื่อกี้แม่บอกคุณพอร์ชพูดเก่งเหรอ?? คุณพอร์ชเนี่ยนะ?? พูดน้อยจนหนูจับใจความไม่ได้ด้วยซ้ำ”
ฉันถือจานที่คุณพอร์ชกินข้าวมาล้าง ในหัวก็นึกตามที่แม่พูดไปด้วย ใช่ที่ว่าเขาหล่อ เขารวย เพราะหน้าตาของเขานั่นล่ะทำให้ฉันลืมหายใจนับครั้งไม่ถ้วน ฉันชักจะต้านทานหัวใจตัวเองไม่ไหวแล้วนะ
“เขาคุยกับแม่เยอะเลยนะ คุยเก่งเชียวล่ะ อย่าว่าแต่หยาเลยแม่เองนั่งมองหน้าเขายังหลงไหลแทบแย่ หล๊อหล่อว่าที่ลูกเขยแม่”
“คุณพอร์ชจ้างแม่มาพูดแบบนี้กี่บาทเนี่ย อวยจังเลย”
แม่ฉันหัวเราะร่า ฉันกับแม่เราไม่ได้ใช่คำพูดสวยหรูหรือไพเราะอะไรแต่เราสามารถคุยกันได้ทุกเรื่องจริงๆเพราะเรามีกันแค่นี้ แม่คือทุกอย่างของฉัน เป็นสิ่งสำคัญอย่างเดียวในโลกใบนี้
“เขาบอกว่าจะหาที่ให้แม่เข้าไปขายข้าวในบริษัท”
“จริงเหรอแม่? ก็ดีน่ะสิ ที่บริษัทคนเยอะต้องขายดีแน่ๆเลย ยิ่งฝีมือแม่แล้วนะลูกค้าติดตรึมเลยล่ะเชื่อหนูสิ ดีเหมือนกันถ้าแม่ได้ไปขายหนูจะได้ลงมาช่วยแม่ได้ไง”
“เลขาประธานบริษัทที่ไหนเขามาขายกับช้าวกันล่ะ ขายหน้าขายตาเจ้านายเราหมดสิ เออ แล้วมอเตอร์ไซค์น่ะเลิกขี่ไปทำงานได้แล้วนะแม่ว่าคนอื่นจะมองหยาไม่ดี ตำแหน่งเรามีหน้ามีตานะลูก”
“แม่คิดอย่างงั้นเหรอ? แต่หนูไม่อายนะแม่”
“ตั้งแต่พรุ่งนี้นั่งแท็กซี่ซะ เงินเก็บยังพอดีก็ใข้ไปก่อนเดี๋ยวเงินเดือนออกค่อยเอามาโปะก็ได้ คุณพอร์ชเขาให้เกียรติเรา เราก็ควรให้เกียรติเขานะแม่ว่า ไม่รู้สิ ดูเขาเป็นคนดี๊ดีอ่ะ เขาชอบลูกสาวแม่มาก”
แม่ฉันนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เวลาพูดถึงคุณพอร์ช คุยกันไม่กี่นาทีอะไรจะถูกอกถูกใจกันขนาดนั้น
วันรุ่งขึ้น
“แม่จ๋าหนูไปทำงานก่อนนะ”
“เอานี่ไปด้วย ฝากให้คุณพอร์ชนะเขาบอกให้แม่ทำให้”
“ห่อข้าวไปให้เนี่ยนะ?”
“อืม ตั้งใจทำงานล่ะ อย่าทำผิดพลาดบ่อยนัก”
ผิดพลาดอะไรเหรอนี่ฉันยังไม่เคยทำงานพลาดเลยนะ...
วันนี้ฉันนั่งแท็กซี่ไปทำงานซึ่งมันสบายกว่าขี่มอเตอร์ไซค์เป็นไหนๆ ไม่ต้องมีลมตีหน้ามีแต่แอร์เย็นฉ่ำ ไม่ค่อยชินเลยแหะ ฉันค่อนข้างมาช้ากว่าทุกวัน ปกติแล้วจะมาถึงที่ทำงานก่อนเวลาประมาณครึ่งชั่วโมงแต่วันนี้มาก่อนเวลางานห้านาทีเองเพราะนั่งแท็กซี่มันขี่ซิกแซ็กไม่ได้เหมือนมอเตอร์ไซค์นี่เนอะ
เอ๊ะ... คุณพอร์ชยังไม่มาอีกเหรอ?
ฉันรีบดูเอกสารที่แต่ละแผนกมาวางไว้บนโต๊ะฉันเพราะต้องรายงานให้คุณพอร์ชทราบ มีรายงานหลายเรื่องเลยที่เป็นเรื่องใหม่ซึ่งฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลยต้องทำความเข้าใจเป็นพิเศษ
“ตอนทำงานสวยจัง”
“เย้ยยยยย คุณพอร์ช”
“ครับ พอร์ชแฟนหยา”
“เอ่อ ขี้ตู่จริงๆเลยนะคะ รายงานตารางงานวันนี้นะคะ มี..”
“ไปคุยในห้องกัน”
สายตาแบบนั้น องศาหน้าแบบนั้น ให้เดายังถูกเลยว่าคิดทะลึ่งกับฉันอยู่แน่ๆ ถ้าฉันบอกว่าไม่เข้าไปในห้องเขาก็คงไม่ยอมอยู่ดีแล้วลูกน้องอย่างฉันจะทำอะไรได้ล่ะนอกจากทำตามคำสั่งและระวังตัว
ทุกทีก็ระวังตัวตลอดนะแต่ก็พลาดท่าทุกครั้งเลย...
“วันนี้ไม่มีงานข้างนอกค่ะแต่เอกสารค่อนข้างเยอะ มีเรื่อง...”
“อืมมม พูดต่อสิครับ”
เสียงหายลงไปในคอทันทีที่ร่างสูงสวมกอดฉันจากด้านหลังแล้วเอาคางเกยไหล่ไว้ เมื่อฉันจะเดินหนีเขาก็รั้งไม่ให้ไปไหน ตายๆๆ เสียงก็หายขาก็ก้าวไม่ออก ฉันสูดหายใจลึกๆแล้วพูดต่อเพื่อให้เสร็จไวๆ
“มีเรื่องอนุมัติเครื่องจักรที่โรงงาน สั่งซ่อมและปรับปรุงเครื่องจักร รายงานการสรุปยอดต้นทุนและกำไรของเดือนที่แล้ว สัญญาเช่า...”
“ตัวหอมจัง”
“สัญญา อ๊ะ กัดคอหยาทำไมคะ!!”
“อยากกัด”
นั่นเรียกเหตุผลหรือเปล่าทำไมสั้นจัง เขาผละออกจากกอดแล้วยกมือลูบหัวฉันเบาๆแล้วโน้มหน้าลงมาใกล้ๆฉันเลยก้าวถอยหลังเพื่อหนีแต่มือใหญ่คว้าไหล่ฉันไว้ซะก่อน
“หยาขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ วันนี้งานเย๊อะเยอะค่ะ”
จุ๊บ
เขากระชากตัวฉันเข้าไปจูบด้วยความรุนแรง เรียวลิ้นเข้าซุกไซร้เข้ามาในโพรงปาก มันอุ่น มันนุ่ม รสชาติจูบที่เขามอบให้ฉันจำได้เสมอเพราะนี่มันไม่ใช่ครั้งแรก เขารุกฉันหนักมาตลอดนั่นแหละ
เสียงหัวใจดังโครมครามประท้วงความรู้สึกของตัวเองว่าห้ามใจอ่อน แต่ความรู้สึกฉันมันทรยศสิ้นดี ทั้งใจอ่อน ทั้งรู้สึกดีที่เขาทำแบบนี้ นี่ฉันชักจะห้ามใจตัวเองไม่อยู่แล้วนะ หรือบอกไปเลยดีว่าชอบ โอ้ยยยย คิดอย่างนั้นก็ไม่กล้าบอกหรอกใครจะกล้าล่ะ ถ้าบอกก็เข้าทางเขาเลยสิ
“จูบตอบด้วย”
“คะ?”
ฉันจูบตอบไปด้วยเหรอ? ทำไมไม่รู้ตัวเลยอ่ะ
“หวานดี ผมชอบ”
“อะไรหวานเหรอคะ?”
“น้ำลายหยา ผมชอบ”
“ขอตัวทำงานดีกว่าค่ะ อ่อ วันนี้แม่ฝากกับข้าวมาให้คุณด้วยนะคะเดี๋ยวตอนเที่ยงหยาจะเอาเข้ามาให้ค่ะ แล้วเดี๋ยวหยาอ่านรายงานให้ดีก่อนจะเอาเข้ามาให้เซ็นต์นะคะ เอ่อ น้ำลายคุณก็หวานนะคะ”
ฉันวิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว ให้ตายเถอะกะว่าจะลองตอบโต้ดูเวลาเขารุกแต่มันตื่นเต้นซะจนไม่กล้าสบตาเลยอ่ะ แต่ฉันก็พูดจริงๆนะที่ว่าน้ำลายเขาหวาน อืมมม ก็หวานจริงๆนี่นาเลยอยากบอก >//<
END TALK