15 ไม่ปกป้อง

1216 Words
15 ไม่ปกป้อง "เกิดอะไรขึ้น!!" เสียงของเตวิชญ์ที่เพิ่งไปเข้าห้องน้ำมาร้องขึ้นเมื่อจู่ๆ ทิชากรก็วิ่งเข้ามาชนร่าง จากนั้นก็เห็น 'มาร์ติน' หุ้นส่วนของเขาวิ่งตามหลังมาติดๆ "พะ...เพื่อนคุณจะข่มขืนฉัน!!" "เฮ้! ฉันไม่ได้จะข่มขืนเธอนะ" "คุณพยายามดึงฉันไปที่โต๊ะ! ถ้าไม่เรียกว่าข่มขืนจะเรียกว่าอะไร!" "ฉันจะให้เธอไปชงเหล้าต่างหาก" มาร์ตินรีบแก้ต่าง ทิชากรกำหมัดแน่น ก็เห็นๆ อยู่ว่าไอ้หมอนี่มันจะข่มขืนเธอ! "บอกฉันมาว่าเกิดอะไรขึ้น!" เตวิชญ์ที่ยืนมองเหตุการณ์อย่างงงๆ ถามขึ้น เขารู้สึกท้องเสียกะทันหันก็เลยออกมาเข้าห้องน้ำ ไม่คิดว่าแค่เสี้ยวนาทีทิชากรจะก่อปัญหา “เพื่อนของคุณจะข่มขืนฉันจริงๆ ถ้าไม่เชื่อ...ลองไปถามคนในหองนั้นดูก็ได้!” “เธอเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า ฉันไม่ได้กะจะข่มขืนเธอ ก็บอกแล้วไงว่าจะให้เธอไปชงเหล้า” ชั่วครู่ทิชากรเห็นไอ้หนุ่มตาน้ำข้าวกระตุกยิ้มมุมปาก ดูก็รู้ว่าผู้ชายคนนี้ตอแหล! “แค่ชงเหล้าบอกกันดีๆ ก็ได้ แต่นี่คุณเล่นดึงฉันไป...ถะ..แถมยังลวนลามฉันอีก” ทิชากรสงสายตาอ้อนวอนไปที่สามีหมาดๆ หวังว่าเขาจะเชื่อเธอ แต่ก็พบกับความผิดหวัง...เพราะดูเหมือนเขาจะเชื่อเพื่อนมากกว่า ทั้งๆ ที่เธอเกือบโดนไอ้โรคจิตนี่ข่มขืน! “เฮ้เพื่อน! กูว่าผู้หญิงคนนี้ชักจะเลอะเทอะแล้วว่ะ คนอย่างกูเนี่ยนะจะไปลวนลามผู้หญิง?” มาร์ตินแลดูภูมิอกภูมิใจในความหล่อ ประหนึ่งว่าผู้หญิงทุกคนต้องขอคลานขึ้นเตียงกับเขา แต่ไม่ใช่คนอย่างทิชากรแน่นอน! “มันลวนลามเธอจริงๆ หรอ” เตวิชญ์ถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง ทิชากรสบตาพร้อมพยักหน้าขึ้นลงยืนยันคำตอบ “ถ้างั้นฉันจะไปถามคนในห้องให้แน่ใจ ว่ามันลวนลามเธอจริงไหม” ทิชากรได้ยินเสียงมาร์ตินหัวเราะในลำคอเบาๆ เธอหันกลับไปมองเห็นเขายืนอมยิ้มเหมือนได้ทำอะไรผิด “เฮ้! พวกมึงที่นั่งอยู่ในห้อง มีใครเห็นไอ้มาร์ตินลวนลามผู้หญิงคนนี้ไหม” ทุกคนที่กำลังดื่มกันอย่างสนุกสนานหันหน้ามาพร้อมกัน ก่อนที่ชายหน้าตี๋หนึ่งในหุ้นส่วนจะตอบกลับ “ลวนลามไรวะ มันก็แค่จะไปชวนเพื่อนมึงมานั่งด้วยเพราะเห็นว่าอยู่คนเดียว…กลัวว่าจะเหงา” “โกหก! พวกคุณไม่ได้สนใจด้วยซ้ำแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าเพื่อนของคุณไม่ได้ลวนลามฉัน!!” “คิดว่าผู้หญิงหน้าตาธรรมดาๆ อย่างเธอไอ้มาร์ตินมันจะสนใจหรอ เพราะส่วนมากคนที่มันเอา...มีแต่ดารากับนางแบบทั้งนั้น” ชายหน้าตี๋แก้ต่างแทนเพื่อน ดูก็รู้ว่าเตี๊ยมกันมา! “พวกคุณเป็นเพื่อนกันก็ต้องเข้าข้างกันสิ!!” “พอสักทีเถอะ!!” เตวิชญ์ร้องขึ้นเหมือนกำลังจะหมดความอดทน “คุณต้องเชื่อฉันนะคะ ฉันถูกเพื่อนคุณลวนลามจริงๆ!” “กะอีแค่ไปชงเหล้ามันยากขนาดนั้นเลยหรอ!” “คะ...คุณ” หญิงสาวอุทานออกมา มองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่เชื่อสายตา เขาเป็นคนพามาอย่างน้อยก็น่าจะเชื่อเธอบ้าง จู่ๆ ก็รู้สึกผิดหวังขึ้นมาทันใด ไม่ควรคาดหวังอะไรในตัวผู้ชายคนนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะเขาเกลียดเธอยิ่งกว่าอะไร มาร์ตินยิ้มสะใจเมื่อหญิงสาวเงียบไป เขายักคิ้วให้เธอแล้วเดินผิวปากผ่านหน้าไปก่อนจะนั่งลงข้างๆ เตวิชญ์ที่เพิ่งเดินกลับไปนั่งประจำที่ ส่วนทิชากรหน้าแตกหมอไม่รับเย็บ เธอยืนเคว้งอยู่ตรงนั้นก่อนจะได้ยินเสียงมาร์ตินพูดขึ้น "กูขอโทษนะเพื่อน ตอนแรกคิดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นเด็กที่มึงจ้างมาชงเหล้าซะอีก" "ขอโทษกูทำไมวะ?" "เอ้า! ก็ผู้หญิงคนนี้เป็นเมียมึงไม่ใช่หรอ เธอบอกว่าพึ่งแต่งงานกับมึง ตลกว่ะ ไปมีเมียตอนไหนวะ" กร๊อดด! เสียงเตวิชญ์กำหมัดแน่น! ทั้งๆ ที่เขาตกลงกับทิชากรไว้แล้วว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครเพราะในอนาคตยังไงก็หย่ากันอยู่ดี กล้าดียังไงถึงไปบอกคนอื่นว่าแต่งงานกับเขา! “อ่าว มึงมีเมียแล้วหรอเพื่อน” หนุ่มหน้าตี๋ที่กำลังนั่งนัวเนียกับสาวแทรกขึ้น ก่อนจะมีเสียงของชายอีกคนที่มีใบหน้าคมเข้มผิวสีแทนดังตามมา “พกเมียมาด้วยหรอวะ” “แบบนี้เด็กๆ ในฮาเร็มก็เสียใจแย่สิ” ทุกคนพูดเหมือนเป็นเรื่องตลก แต่เตวิชญ์ดันไม่ตลก! เขาไม่อนุญาตให้ทิชากรบอกเรื่องนี้กับใคร เพราะเธอไม่ใช่คนที่เขาอยากจะแต่งงานด้วย! “มีเมียแล้วก็ต้องพามาเปิดตัวที่ฮาเร็มสิวะ เด็กๆ จะได้รู้ว่าใครคือมาดาม” “ไปยุ่งกับเมียเพื่อนระวังจะไม่ตายดีนะไอ้มาร์ติน ฮ่าฮ่าฮ่า” “ไม่เจอกันแค่ไม่กี่วัน มึงแอบเพื่อนไปเมียมีตอนไหนวะ” “เรื่องจริงหรอวะ? ผู้หญิงหน้าตาแบบนี้เนี่ยนะเป็นเมียมึง หน้าร้ายๆ เหมือนตัวร้ายในละครหลังข่าว” ทิชากรยืนกำหมัดแน่นกับคำพูดดูถูกดูแคลนของผู้ชายกลุ่มนี้ ไม่แปลกใจเลยที่เตวิชญ์จะนิสัยเสีย ก็ดูเพื่อนของเขาแต่ละคนสิ ปากปีจอยิ่งกว่าอะไร ด้อยค่าผู้หญิงสารพัด คิดว่าหล่อแล้วจะพูดอะไรยังไงก็ได้หรอ เธอก็เป็นคน มีความรู้สึกเหมือนกัน! “คนอย่างไอ้เต้มันชอบ..ขาว..สวย..หมวย..อึ๋ม ส่วนผู้หญิงคนนี้…” มาร์ตินไล่มองทิชากรตั้งแต่หัวจรดเท้าพร้อมเบ้ปากเล็กน้อย “ไม่มีอะไรเลยนอกจาก...อึ๋ม” “พวกมึงหยุด!” “จะไม่แนะนำเมียให้เพื่อนรู้จักหน่อยหรอ เมียคนแรกของกลุ่มเลยนะเว้ย” “กูบอกให้หยุด!!” น้ำเสียงที่ไม่ได้แสดงท่าทีตลกทำให้เพื่อนๆ รีบสงบปากสงบคำ เตวิชญ์ตวัดหน้าหันกลับไปมองทิชากรที่ยืนอยู่ข้างหลัง สายตาดุจัดมองปานจะกินเลือดกินเนื้อ หญิงสาวเผลอจิกเล็บเท้าลงบนพื้น ที่เธอพูดแบบนั้นไม่ใช่เพราะอยากให้คนอื่นรู้ว่าแต่งงานกัน แต่ที่พูดเพราะอยากให้ไอ้มาร์ตินเลิกลวนลามต่างหาก “กล้าดียังไงไปบอกคนอื่นว่าเราสองคนแต่งงานกัน ฉันบอกแล้วไม่ใช่หรอว่าให้เก็บเป็นความลับ!” “ฉันไม่ได้ตั้งใจค่ะ คือว่า...พะ...เพื่อนคุณจะลวนลามฉัน...เอ่อ...ฉันก็เลยพูดไปเผื่อเขาจะปล่อย” “แต่มันบอกแล้วว่าไม่ได้ลวนลามเธอ” “แต่เขาแตะเนื้อต้องตัวฉัน” “แค่แตะนิดแตะหน่อยทำเป็นหวงตัวไปได้ คิดว่าตัวเองสะอาดขนาดนั้นเลยหรอทิชากร!” “คุณเตวิชญ์...” หญิงสาวอ้าปากค้าง นอกจากจะไม่ปกป้องแล้วเขายังมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติอีก อย่างน้อยก็น่าจะปกป้องเธอในนามภรรยาบ้าง ถึงจะไม่ใช่ภรรยาที่เขาอยากแต่งงานด้วยก็ตาม แต่เธอก็มีทะเบียนสมรส “ถ้ามันจะลวนลามจริงๆ ก็ไม่ผิดนิ เพราะเมื่อก่อนคนอย่างเธอ...มันก็ไม่ได้ต่างอะไรจากไอ้มาร์ตินหรอก ผู้หญิงโสมมจิตใจสกปรก!!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD