15 ไม่ปกป้อง
"เกิดอะไรขึ้น!!" เสียงของเตวิชญ์ที่เพิ่งไปเข้าห้องน้ำมาร้องขึ้นเมื่อจู่ๆ ทิชากรก็วิ่งเข้ามาชนร่าง จากนั้นก็เห็น 'มาร์ติน' หุ้นส่วนของเขาวิ่งตามหลังมาติดๆ
"พะ...เพื่อนคุณจะข่มขืนฉัน!!"
"เฮ้! ฉันไม่ได้จะข่มขืนเธอนะ"
"คุณพยายามดึงฉันไปที่โต๊ะ! ถ้าไม่เรียกว่าข่มขืนจะเรียกว่าอะไร!"
"ฉันจะให้เธอไปชงเหล้าต่างหาก" มาร์ตินรีบแก้ต่าง
ทิชากรกำหมัดแน่น ก็เห็นๆ อยู่ว่าไอ้หมอนี่มันจะข่มขืนเธอ!
"บอกฉันมาว่าเกิดอะไรขึ้น!" เตวิชญ์ที่ยืนมองเหตุการณ์อย่างงงๆ ถามขึ้น เขารู้สึกท้องเสียกะทันหันก็เลยออกมาเข้าห้องน้ำ ไม่คิดว่าแค่เสี้ยวนาทีทิชากรจะก่อปัญหา
“เพื่อนของคุณจะข่มขืนฉันจริงๆ ถ้าไม่เชื่อ...ลองไปถามคนในหองนั้นดูก็ได้!”
“เธอเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า ฉันไม่ได้กะจะข่มขืนเธอ ก็บอกแล้วไงว่าจะให้เธอไปชงเหล้า” ชั่วครู่ทิชากรเห็นไอ้หนุ่มตาน้ำข้าวกระตุกยิ้มมุมปาก
ดูก็รู้ว่าผู้ชายคนนี้ตอแหล!
“แค่ชงเหล้าบอกกันดีๆ ก็ได้ แต่นี่คุณเล่นดึงฉันไป...ถะ..แถมยังลวนลามฉันอีก” ทิชากรสงสายตาอ้อนวอนไปที่สามีหมาดๆ หวังว่าเขาจะเชื่อเธอ แต่ก็พบกับความผิดหวัง...เพราะดูเหมือนเขาจะเชื่อเพื่อนมากกว่า ทั้งๆ ที่เธอเกือบโดนไอ้โรคจิตนี่ข่มขืน!
“เฮ้เพื่อน! กูว่าผู้หญิงคนนี้ชักจะเลอะเทอะแล้วว่ะ คนอย่างกูเนี่ยนะจะไปลวนลามผู้หญิง?” มาร์ตินแลดูภูมิอกภูมิใจในความหล่อ ประหนึ่งว่าผู้หญิงทุกคนต้องขอคลานขึ้นเตียงกับเขา แต่ไม่ใช่คนอย่างทิชากรแน่นอน!
“มันลวนลามเธอจริงๆ หรอ” เตวิชญ์ถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง ทิชากรสบตาพร้อมพยักหน้าขึ้นลงยืนยันคำตอบ “ถ้างั้นฉันจะไปถามคนในห้องให้แน่ใจ ว่ามันลวนลามเธอจริงไหม”
ทิชากรได้ยินเสียงมาร์ตินหัวเราะในลำคอเบาๆ เธอหันกลับไปมองเห็นเขายืนอมยิ้มเหมือนได้ทำอะไรผิด
“เฮ้! พวกมึงที่นั่งอยู่ในห้อง มีใครเห็นไอ้มาร์ตินลวนลามผู้หญิงคนนี้ไหม” ทุกคนที่กำลังดื่มกันอย่างสนุกสนานหันหน้ามาพร้อมกัน ก่อนที่ชายหน้าตี๋หนึ่งในหุ้นส่วนจะตอบกลับ
“ลวนลามไรวะ มันก็แค่จะไปชวนเพื่อนมึงมานั่งด้วยเพราะเห็นว่าอยู่คนเดียว…กลัวว่าจะเหงา”
“โกหก! พวกคุณไม่ได้สนใจด้วยซ้ำแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าเพื่อนของคุณไม่ได้ลวนลามฉัน!!”
“คิดว่าผู้หญิงหน้าตาธรรมดาๆ อย่างเธอไอ้มาร์ตินมันจะสนใจหรอ เพราะส่วนมากคนที่มันเอา...มีแต่ดารากับนางแบบทั้งนั้น” ชายหน้าตี๋แก้ต่างแทนเพื่อน
ดูก็รู้ว่าเตี๊ยมกันมา!
“พวกคุณเป็นเพื่อนกันก็ต้องเข้าข้างกันสิ!!”
“พอสักทีเถอะ!!” เตวิชญ์ร้องขึ้นเหมือนกำลังจะหมดความอดทน
“คุณต้องเชื่อฉันนะคะ ฉันถูกเพื่อนคุณลวนลามจริงๆ!”
“กะอีแค่ไปชงเหล้ามันยากขนาดนั้นเลยหรอ!”
“คะ...คุณ” หญิงสาวอุทานออกมา มองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่เชื่อสายตา เขาเป็นคนพามาอย่างน้อยก็น่าจะเชื่อเธอบ้าง
จู่ๆ ก็รู้สึกผิดหวังขึ้นมาทันใด ไม่ควรคาดหวังอะไรในตัวผู้ชายคนนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะเขาเกลียดเธอยิ่งกว่าอะไร
มาร์ตินยิ้มสะใจเมื่อหญิงสาวเงียบไป เขายักคิ้วให้เธอแล้วเดินผิวปากผ่านหน้าไปก่อนจะนั่งลงข้างๆ เตวิชญ์ที่เพิ่งเดินกลับไปนั่งประจำที่ ส่วนทิชากรหน้าแตกหมอไม่รับเย็บ เธอยืนเคว้งอยู่ตรงนั้นก่อนจะได้ยินเสียงมาร์ตินพูดขึ้น
"กูขอโทษนะเพื่อน ตอนแรกคิดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นเด็กที่มึงจ้างมาชงเหล้าซะอีก"
"ขอโทษกูทำไมวะ?"
"เอ้า! ก็ผู้หญิงคนนี้เป็นเมียมึงไม่ใช่หรอ เธอบอกว่าพึ่งแต่งงานกับมึง ตลกว่ะ ไปมีเมียตอนไหนวะ"
กร๊อดด!
เสียงเตวิชญ์กำหมัดแน่น!
ทั้งๆ ที่เขาตกลงกับทิชากรไว้แล้วว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครเพราะในอนาคตยังไงก็หย่ากันอยู่ดี กล้าดียังไงถึงไปบอกคนอื่นว่าแต่งงานกับเขา!
“อ่าว มึงมีเมียแล้วหรอเพื่อน” หนุ่มหน้าตี๋ที่กำลังนั่งนัวเนียกับสาวแทรกขึ้น ก่อนจะมีเสียงของชายอีกคนที่มีใบหน้าคมเข้มผิวสีแทนดังตามมา
“พกเมียมาด้วยหรอวะ”
“แบบนี้เด็กๆ ในฮาเร็มก็เสียใจแย่สิ”
ทุกคนพูดเหมือนเป็นเรื่องตลก แต่เตวิชญ์ดันไม่ตลก! เขาไม่อนุญาตให้ทิชากรบอกเรื่องนี้กับใคร เพราะเธอไม่ใช่คนที่เขาอยากจะแต่งงานด้วย!
“มีเมียแล้วก็ต้องพามาเปิดตัวที่ฮาเร็มสิวะ เด็กๆ จะได้รู้ว่าใครคือมาดาม”
“ไปยุ่งกับเมียเพื่อนระวังจะไม่ตายดีนะไอ้มาร์ติน ฮ่าฮ่าฮ่า”
“ไม่เจอกันแค่ไม่กี่วัน มึงแอบเพื่อนไปเมียมีตอนไหนวะ”
“เรื่องจริงหรอวะ? ผู้หญิงหน้าตาแบบนี้เนี่ยนะเป็นเมียมึง หน้าร้ายๆ เหมือนตัวร้ายในละครหลังข่าว”
ทิชากรยืนกำหมัดแน่นกับคำพูดดูถูกดูแคลนของผู้ชายกลุ่มนี้ ไม่แปลกใจเลยที่เตวิชญ์จะนิสัยเสีย ก็ดูเพื่อนของเขาแต่ละคนสิ ปากปีจอยิ่งกว่าอะไร ด้อยค่าผู้หญิงสารพัด คิดว่าหล่อแล้วจะพูดอะไรยังไงก็ได้หรอ
เธอก็เป็นคน มีความรู้สึกเหมือนกัน!
“คนอย่างไอ้เต้มันชอบ..ขาว..สวย..หมวย..อึ๋ม ส่วนผู้หญิงคนนี้…” มาร์ตินไล่มองทิชากรตั้งแต่หัวจรดเท้าพร้อมเบ้ปากเล็กน้อย “ไม่มีอะไรเลยนอกจาก...อึ๋ม”
“พวกมึงหยุด!”
“จะไม่แนะนำเมียให้เพื่อนรู้จักหน่อยหรอ เมียคนแรกของกลุ่มเลยนะเว้ย”
“กูบอกให้หยุด!!” น้ำเสียงที่ไม่ได้แสดงท่าทีตลกทำให้เพื่อนๆ รีบสงบปากสงบคำ เตวิชญ์ตวัดหน้าหันกลับไปมองทิชากรที่ยืนอยู่ข้างหลัง สายตาดุจัดมองปานจะกินเลือดกินเนื้อ
หญิงสาวเผลอจิกเล็บเท้าลงบนพื้น ที่เธอพูดแบบนั้นไม่ใช่เพราะอยากให้คนอื่นรู้ว่าแต่งงานกัน แต่ที่พูดเพราะอยากให้ไอ้มาร์ตินเลิกลวนลามต่างหาก
“กล้าดียังไงไปบอกคนอื่นว่าเราสองคนแต่งงานกัน ฉันบอกแล้วไม่ใช่หรอว่าให้เก็บเป็นความลับ!”
“ฉันไม่ได้ตั้งใจค่ะ คือว่า...พะ...เพื่อนคุณจะลวนลามฉัน...เอ่อ...ฉันก็เลยพูดไปเผื่อเขาจะปล่อย”
“แต่มันบอกแล้วว่าไม่ได้ลวนลามเธอ”
“แต่เขาแตะเนื้อต้องตัวฉัน”
“แค่แตะนิดแตะหน่อยทำเป็นหวงตัวไปได้ คิดว่าตัวเองสะอาดขนาดนั้นเลยหรอทิชากร!”
“คุณเตวิชญ์...” หญิงสาวอ้าปากค้าง
นอกจากจะไม่ปกป้องแล้วเขายังมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติอีก อย่างน้อยก็น่าจะปกป้องเธอในนามภรรยาบ้าง ถึงจะไม่ใช่ภรรยาที่เขาอยากแต่งงานด้วยก็ตาม แต่เธอก็มีทะเบียนสมรส
“ถ้ามันจะลวนลามจริงๆ ก็ไม่ผิดนิ เพราะเมื่อก่อนคนอย่างเธอ...มันก็ไม่ได้ต่างอะไรจากไอ้มาร์ตินหรอก ผู้หญิงโสมมจิตใจสกปรก!!”