EP.16 [ท้าทาย]

1133 Words
“ซอรู้จักกับเขาด้วยเหรอ” พี่จีนกระซิบถาม คำว่า ‘เขา’ ในที่นี้ของพี่จีนน่าจะหมายถึงสิงห์คำราม เพราะเขาเอาแต่จ้องฉันไม่วางตา ฉันกำลังจะปฏิเสธทว่าคำถามของพี่จีนเหมือนไม่ต้องการคำตอบ เพราะเธอดึงฉันมายืนด้านหน้า และนั่นทำให้ฉันต้องเผชิญหน้ากับสิงห์คำรามอย่างไม่เต็มใจ “ถ้างั้นซอช่วยพูดกับเขาหน่อยสิ นะซอนะ งานนี้มันสำคัญกับพวกเรามากนะ” ฉันอยากจะปฏิเสธเธอมาก แต่พอเห็นสายตาขอร้องของเธอ เสียงของฉันมันหายไปหมด บ้าจริง… ทำไมฉันต้องมาอยู่ในสถานการณ์กดดันแบบนี้ด้วย แถมยังเป็นต่อหน้าสิงห์คำรามอีก โอ๊ย… อยากจะบ้าตาย! “…” ฉันยืนเงียบนานมาก มันอ้ำอึ้ง พูดไม่ออก ไม่รู้จะเริ่มพูดจากตรงไหนก่อนดี สิงห์คำรามยังคงจ้องฉันตาเขม็ง จนกระทั่งเขาละสายตาแล้วทำท่าจะเดินหนี ฉันถึงหาเสียงตัวเองเจอ “คะ คือว่า… อนุญาตให้พวกเราถ่ายรูปคู่กับรถเฮียด้วยเถอะ… ค่ะ” ฉันกัดริมฝีปากตัวเองเบา ๆ ตอนนี้ไม่กล้าเงยหน้าสบตากับเขาเลย ร่างสูงหยุดชะงักฝีเท้า เขาหันกลับมาหาฉัน พอเห็นว่าเขาเอาแต่ยืนเงียบ ฉันจึงค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาเฉยชามีแววบางอย่างพาดผ่าน ก่อนมันจะจางหายไป “แค่ห้านาทีก็พอค่ะ ไม่สิ สี่นาทีก็ได้” ฉันยื่นข้อเสนอ เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้ปฏิเสธเหมือนตอนแรก “หนึ่งนาที” น้ำเสียงเย็นชาเปล่งออกมาไม่ดังและไม่เบา ฉันเบิกตานิด ๆ เพราะเขาให้เวลาฉันน้อยมาก แค่หนึ่งนาทีมันจะไปพออะไรกัน “สะ สามนาที” ฉันต่อรอง คิ้วเข้มเลิกขึ้นเล็กน้อย ฉันรีบชี้แจง “หนึ่งนาทีมันไม่พอจริง ๆ แค่กดชัตเตอร์ก็หมดเวลาแล้วนะคะ” “สองนาที” “…” ฉันอ้าปากจะแย้ง ทว่ากลับถูกสายตาเย็นชากดดัน “แค่สองนาที แล้วไปซะ” . . . สุดท้าย… สิงห์คำรามยอมอนุญาตให้เราถ่ายรูปคู่กับรถซูเปอร์บิ๊กไบค์คู่ใจของเขา พี่จีนดีใจมาก แม้จะได้เวลามาแค่สองนาทีก็ตาม เธอรีบเรียกช่างภาพมาหา จับฉันยืนประจำตำแหน่งที่เธอต้องการ นั่นทำให้ฉันคิดได้อีกเรื่องว่าฉันจะต้องมายืนโพสท่าถ่ายรูปต่อหน้าสิงห์คำราม! และมันไม่ได้มีแค่สิงห์คำรามเท่านั้นที่กำลังยืนกอดอกมองการถ่ายภาพครั้งนี้ แต่ทุกคนในงานต่างพากันมารุมล้อมด้วยความสนใจ ราวกับว่าไม่เคยมีใครได้ทำอย่างพวกเรามาก่อน ตอนนี้กลายเป็นว่าฉันถูกสายตานับร้อยคู่จับจ้องการทำงาน เกร็งยิ่งกว่าเกร็งอีกสิคะ! “น้องซอครับ ยิ้มหน่อยครับ” เสียงพี่ธิม ช่างภาพสายติสตะโกนบอกเบา ๆ ฉันจึงได้สติกลับมา เพิ่งสังเกตว่าตอนนี้ตัวเองกำลังเกร็งมากแค่ไหน เกร็งทั้งหน้า ทั้งท่าทาง ทั้งรอยยิ้มเลยล่ะ “ซอเป็นอะไรหรือเปล่า พวกเราต้องทำเวลานะ ไหวไหม” พี่จีนที่กำลังโพสต์ท่าอยู่ด้านข้างกระซิบถาม เธอจิกตามองกล้องโพสต์ท่าเซ็กซี่ขยี้ใจมาก ฉันสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ขณะสายตาบังเอิญสบกับดวงตาคมแสนเย็นชาเข้าพอดี วูบหนึ่ง… เหมือนเห็นริมฝีปากหนายกขึ้นบาง ๆ ราวกับกำลังยิ้มเยาะกัน ก่อนมันจะกลับมาราบเรียบตามเดิม ฉันเม้มปากจ้องตาใส่เขา ในแววตาเฉยชาคู่นั้นคล้ายจะท้าทายกันอยู่หน่อย ๆ นี่สิงห์คำรามกำลังท้าทายฉันงั้นเหรอ? คิดจะยิ้มหยันใส่ฉันงั้นสินะ ฟู่… ฉันเป่าปากเรียกสมาธิให้ตัวเองพลางหลับตาลง แกทำได้สายซอ เรียกความมั่นใจของแกกลับมา แล้วทำให้ผู้ชายคนนั้นได้เห็นว่าคนอย่างฉันก็มี ‘ดี’ ให้อวดเหมือนกัน! The show must go on!! “ดีครับ สวยมาก อย่างนั้นแหละน้องซอ” พี่ธิมรัวชัตเตอร์ไป เอ่ยชมฉันไป ขณะที่คนอื่น ๆ ยกกล้องกับโทรศัพท์มือถือขึ้นถ่ายตามไปด้วย ฉันโพสต์ท่าเบา ๆ ไม่ได้เซ็กซี่มาก แต่เน้นจิกตาและอายคอนแทคกับกล้องให้มากที่สุด บางครั้งความเซ็กซี่ก็ไม่จำเป็นต้องโพสต์ท่าล่อแหลมเสมอไป การถ่ายภาพผ่านไปนาทีกว่าเห็นจะได้ ฉันเสสายตาไปสบกับดวงตาคมอีกครั้ง เขาไม่ได้ยิ้มเยาะและไม่ได้ท้าทายฉันทางสายตาอีกแล้ว สีหน้าของสิงห์คำรามตอนนี้นิ่งมาก นิ่งจนเดาอารมณ์ไม่ออก ริมฝีปากสีแดงสดยกขึ้นเล็กน้อยขณะอายคอนแทคกับเขาไปด้วย ตาจ้องตาอย่างไม่มีใครยอมใคร ให้มันรู้กันไปว่าระหว่างฉันกับเขาใครจะเป็นฝ่ายหลบสายตาก่อนกัน “…” เราจ้องตากันชั่วครู่ ทั้งเขาและฉันต่างไม่มีใครยอมถอนสายตาหนี กระทั่งสิงห์คำรามขยับเดินมาด้านหน้า ท่ามกลางแสงแฟลชและสายตาผู้คนมากมาย ร่างสูงยืนหันหลังให้บรรดากล้องต่าง ๆ ขณะที่สายตาเขายังคงตรึงอยู่ที่ฉัน ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไร สีหน้าและแววตาของเขามันนิ่งเกินไป นิ่งจนใครก็เดาอารมณ์เขาไม่ถูก ฉันหยุดโพสต์ท่าแล้ว พี่จีนก็เช่นกัน “หมดเวลาแล้ว” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาจนน่าขนลุก ความกดดันบางอย่างแผ่ออกมาจากรอบตัวเขา “…” “ออกไปซะ” “…” ฉันเป็นฝ่ายละสายตาจากเขาก่อน ไม่ใช่อะไรหรอก แค่ไม่อยากตกเป็นที่สนใจมากไปกว่านี้ สิงห์คำรามเป็นคนดังของสนาม การที่เขาพูดหรือทำอะไรย่อมมีคนสนใจเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นฉันไม่ยุ่งกับเขามากไปกว่านี้จะดีที่สุด “ไปกันเถอะซอ เราได้รูปเยอะแล้ว” พี่จีนจับแขนฉันให้เดินผ่านร่างสูงออกมา จังหวะที่ฉันกำลังจะเดินผ่านเขานั้น เราสบตากันอีกครั้ง และครั้งนี้แววตาคมเข้มมีแววคุกรุ่นพาดผ่านเข้ามา เอาจริง ๆ ไหม ฉันคิดว่าผู้ชายคนนี้เดาใจยากมากที่สุดในโลก เขาเหมือนกับคนที่เฉยชาและเมินเฉยต่อทุกสิ่งอย่างก็จริง แต่ในบางครั้งการแสดงออกทางอารมณ์จากแววตาของเขามันก็มีให้เห็นอยู่บ่อย ๆ แม้จะเพียงแวบเดียวก็ตาม พูดง่าย ๆ คือ… ผู้ชายคนนี้ไม่ได้เย็นชาหรือว่าตายด้านไปซะทุกอย่างหรอก สิงห์คำรามยังคงมีอารมณ์ของมนุษย์อยู่บ้างละนะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD