“เอ่อ… สะ สวัสดีค่ะ”
โอ๊ย… ฉันอยากตบปากตัวเองแรง ๆ นั่นมันใช่คำทักทายในสถานการณ์แบบนี้เหรอ? แล้วดูสีหน้าของสิงห์คำรามสิ เย็นชายิ่งกว่าน้ำแข็งขั้วโลกซะอีก!
ร่างสูงยืนกอดอกมองฉันด้วยสายตาเย็นชา ฉันกลืนน้ำลายดังอึก หันซ้ายหันขวาว่าตัวเองควรทำอย่างไรต่อไปดี ถอยหลังก็ไม่ได้ ก้าวต่อไปก็ไม่ได้อีก ทำไมวันนี้แกถึงได้ซวยซ้ำซวยซ้อนขนาดนี้นะสายซอเอ๊ย! เกือบโดนจีซัสอุ้มจนต้องหนีตายเข้ามาในถ้ำสิงโตแบบนี้ คิดผิดคิดถูกกันเนี้ย!
“เธอคงไม่ได้เข้าบล็อกผิดอีกหรอกนะ”
เพราะเห็นว่าฉันยืนอึกอักอยู่นานสองนาน สิงห์คำรามจึงเป็นฝ่ายถามขึ้น น้ำเสียงเขาเรียบ ๆ แต่กดดันเหลือแสน ฉันส่ายหน้าหวือ แผ่นหลังยังคงแนบชิดกับบานประตู
“มะ ไม่ผิด แต่ไม่ได้ตั้งใจ… ค่ะ”
คิ้วเข้มขมวดหน่อย ๆ พอเขาเริ่มแสดงอารมณ์ออกมา ค่อยดูเป็นมนุษย์ขึ้นมาบ้าง เขาทำตาดุใส่ฉันเมื่อเห็นว่าตัวเองกำลังถูกจ้องอย่างเอาเป็นเอาตาย ฉันรีบเสสายตาหนีทันที
“คือว่า… ฉันหนีคนอยู่ ขอหลบในนี้สักพักนะคะ” ตัดสินใจบอกไปตรง ๆ เขาคงไม่ใจร้ายใจดำไล่ตะเพิดฉันออกไปหรอกมั้ง…
“ออกไป”
เฮ้ย…!
“ว่าไงนะ?” ฉันเบิกตากว้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ นี่เขากำลังไล่ฉันงั้นเหรอ? ทั้งที่บอกไปแล้วว่ากำลังหนีคนอยู่เนี่ยนะ?
“ฉันบอกให้เธอออกไปไง” ไม่พูดเปล่า ร่างสูงใหญ่กำยำขยับเดินเข้ามาใกล้ ฉันยกมือขึ้นกอดอกพลางส่ายหน้ารัว ๆ
“ไม่ไป! ฉันไม่ออกไปตอนนี้เด็ดขาด!”
เชื่อเถอะว่าตอนนี้บริเวณหน้าบล็อกสิบต้องมีพวกจีซัสยืนอยู่แน่ ๆ เพราะก่อนที่ฉันจะวิ่งเข้ามาในนี้ ฉันเห็นพวกเขากำลังเดินมาแถวนี้พอดี ถ้าเปิดประตูออกไปละก็… ฉันโดนจีซัสอุ้มกลับไปเชือดแน่
“เมาแล้วก็กลับไปซะ อย่าวุ่นวาย”
“เมา?” ฉันทวนคำหน้าซื่อ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองดื่มแชมเปญเข้าไป นี่กลิ่นแอลกฮอล์มันแรงขนาดนั้นเลยเหรอไง “ฉะ ฉันไม่ได้เมานะ”
“หุบปาก ฉันไม่อยากฟัง” เขาพูดปัดไม่ไยดี เดินเข้ามาหมุนลูกบิดประตูด้านหลังฉัน หัวใจฉันเต้นระทึกขึ้นมา นี่เขาคิดจะโยนฉันออกไปจริงดิ? ฉันไม่ยอมเด็ดขาด!
หมับ!
สองแขนตวัดโอบรอบคอคนสูงกว่าตามสัญชาตญาณเอาตัวรอด สิงห์คำรามชะงักเล็กน้อย ใบหน้าหล่อคมเข้มหันมาจ้องตาใส่ฉันอย่างเย็นชาโคตร ๆ
โอย ๆ ฉันจะถูกเขาแช่แข็งตายแล้วนะ! แต่โดนเขาแช่แข็งก็ดีกว่าโดนจีซัสอุ้มไปอ่ะ! ความเป็นหญิงของฉันได้ถูกหมอนั่นย่ำยีไม่เหลือชิ้นดีแน่!
“จะทำอะไร?” น้ำเสียงเขาเย็นชามาก เชื่อมะ ถ้าสิงห์คำรามมีพลังวิเศษ ป่านนี้ฉันคงถูกหอกน้ำแข็งทิ่มแทงจนพรุนไปทั่วตัวแล้ว โชคดีที่เขาเป็นแค่มนุษย์ธรรมดา เพราะงั้นฉันไม่กลัวเขาหรอก
“บอกแล้วไงว่าฉันไม่ไป! ถ้าเฮียคิดจะจับฉันโยนออกไป ฉันก็จะจับจะกอดเฮียไว้แบบนี้แหละ” สองแขนกระชับรอบคอเขามากขึ้น ทำให้ร่างสูงจำเป็นต้องโค้งตัวลงมาหา ใบหน้าหล่อก้มลงมาใกล้หน้าฉันจนแทบจะชิดกัน ฉันถลึงตาสู้ ไร้ความหวาดกลัวหรือความขัดเขินใด ๆ
เอาสิ! ออกไปฉันอาจจะเสียตัว แต่ถ้ารั้นจะอยู่ที่นี่ เต็มที่ก็แค่เสียศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงนิดหน่อย ถือว่าคุ้ม!
“ปล่อยมือซะ” สิงห์คำรามพูดอย่างใจเย็น แต่ไม่หรอก อารมณ์เขาเวลานี้ไม่ได้เย็นเหมือนสีหน้าหรอก ดูจากความคุกรุ่นในแววตาก็รู้
“ไม่!” ฉันเชิดหน้าตอบ
“สายซอ!” อยู่ ๆ หน้าก็ร้อนขึ้นมายามถูกคนตรงหน้าเรียกชื่อ ฉันตกใจจนเกือบจะผละมือออกอยู่แล้ว แต่ฉุดใจไว้ซะก่อน
“ทำไม? เฮียหวั่นไหวกับฉันเหรอ?”
“…”
โอเค ประโยคคำถามของฉันทำให้อุณหภูมิรอบตัวติดลบกว่าเดิมมาก สิงห์คำรามยกสองแขนค้ำยันกับบานประตู กลายเป็นว่าฉันถูกเขากักกันซะเอง ความรู้สึกเริ่มร้อน ๆ หนาว ๆ ขึ้นมาบ้าง หน้าฉันถอดสีทีละนิด
“อย่าเล่นกับความอดทนของฉัน เพราะฉันความอดทนต่ำกว่าที่เธอคิด ปล่อยมือแล้วออกไปซะในตอนที่ยังมีโอกาส”
นับว่าเป็นประโยคยาว ๆ ประโยคแรกที่สิงห์คำรามพูดกับฉันเลยก็ว่าได้ และมันก็ดันกลายเป็นคำขู่ซะด้วยสิ ฉันเม้มปากอย่างคิดหนัก ลังเลอยู่แวบหนึ่งก่อนจะเชิดหน้าฮึดสู้เขา
“เฮียนั่นแหละ อย่าคิดว่าทุกคนจะต้องกลัวเฮียหมดสิ ฉันก็แค่เข้ามาขอหลบภัยชั่วคราว พอปลอดภัยแล้วก็จะรีบออกไป ทำไมต้องใจดำไล่ฉันไปตอนนี้ด้วยล่ะ ยังไงเราก็เคยเห็นหน้าคร่าตากัน ช่วยเหลือกันแค่นี้ไม่ได้หรือไง” ฉันพูดออกมายาวเหยียด ถลึงตามองเขาอย่างตำหนิไปอีกหนึ่งที ความเมาทำให้ฉันขาดสติและดับเครื่องชนกับผู้ชายตรงหน้าอย่างไม่กลัวตาย
“ช่วยเหลือ? แล้วทำไมเธอไม่ไปหลบในบล็อกแฟนเก่าเธอ?”
“บล็อกแฟนเก่าฉัน?” ฉันทวนคำสีหน้างุนงง สิงห์คำรามทำหน้ารำคาญ เขาปลดมือฉันออกอย่างง่ายดายแล้วถอยออกไปยืนห่างหลายก้าว
โอ้โห… ทำเหมือนรังเกียจฉันมากอ่ะ!
“ไอ้นับกาลไง แฟนเก่าเธอไม่ใช่?”
นับกาล? นับกาลไหนอ่ะ…
ฉันขมวดคิ้ว พยายามนึกถึงชื่อนับกาลในหัว กระทั่งเหตุการณ์เมื่อหลายเดือนก่อนผุดเข้ามา
อ้ออออ จำได้แล้ว!
“นั่นมัน…” ฉันกำลังจะอธิบายว่าเรื่องตอนนั้นมันเป็นเรื่องโกหก ทว่ายังไม่ทันได้พูดอะไร จู่ ๆ ร่างสูงเข้ามาประชิดตัวแถมยังใช้ฝ่ามือหนาปิดปากฉันด้วย ฉันตาลีตาเหลือกทันที “อื้อ ๆ”
นี่เขาคิดจะทำอะไรฉัน?!
“ชู่ว์!” สิงห์คำรามหลุบตาดุใส่ฉัน คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ยกมือข้างที่ว่างเกี่ยวผ้าม่านข้างบานประตูออกช้า ๆ ฉันจึงเหลือบมองตามสายตาเขา บริเวณหน้าประตูปรากฏเงาร่างสูงของใครคนหนึ่งยืนอยู่ เขาเดินวนไปวนมาเกือบนาทีก่อนจะเดินห่างออกไป
คนคนนั้นต้องเป็นจีซัสแน่ ๆ เขามาตามหาฉันถึงที่นี่แต่คงไม่กล้าเคาะประตูถาม แน่ล่ะ เจ้าของบล็อกนี้คือสิงห์คำรามนี่ ใครจะกล้ายุ่งกับเขากันล่ะ นับว่าฉันคิดถูกที่เข้ามาหลบในนี้
ว่าแต่ว่า… เขาจะปิดปากฉันอีกนานไหม?