หลายวันต่อมา
ตึก ๆ ๆ
“…ซอ ยัยซอ!” เสียงเรียกจากด้านหลังมาพร้อมร่างบางของเพื่อนรักที่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหา ฉันดึงหูฟังออกข้างหนึ่ง เลิกคิ้วมองแยมส้ม
“มีอะไร ทำไมต้องวิ่ง?” ยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา “ยังไม่ถึงเวลาเรียนนิ”
“โธ่! ไม่รู้ร้อนรู้หนาวขนาดนี้แสดงว่าแกยังไม่ได้ยินข่าวอะไรใช่ไหมเนี่ย” แยมส้มดึงแขนฉันมานั่งลงที่โต๊ะหินอ่อนหน้าคณะ เหล่านักศึกษาที่เดินผ่านไปมาหันมองพวกเราเป็นระยะ ๆ ก่อนหน้านี้ฉันไม่ได้คิดอะไรเพราะชินกับการถูกมองแล้ว แต่พอมาสังเกตดี ๆ ก็รู้สึกว่ามันมีอะไรแปลก ๆ เหมือนกัน
“ข่าวอะไรอ่ะ”
“ก็ข่าว…” แยมส้มอ้าปากจะพูดแต่กลับชะงักไว้ สายตามองข้ามไหล่ฉันไปด้านหลังก่อนทำตาโต “แย่แล้ว หมอนั่นเจอตัวแกแล้ว!”
“อะไร?” ฉันขมวดคิ้วงุนงงก่อนมองตามสายตานาง และเห็นร่างสูงของใครคนหนึ่งกำลังจ้ำอ้าวมาทางนี้ด้วยท่าทางเดือดดาลสุด ๆ ดวงตาดุดันเอาเรื่องจ้องมาทางฉัน “จีซัส?”
“ตายแน่! แกโดนหมอนั่นลากไปแน่ ๆ ยัยซอ! หมอนั่นมันกำลังคลั่ง แกรีบหนีไปเดี๋ยวนี้เลย!” แยมส้มดึงฉันให้ลุกขึ้นยืนแล้วออกแรงผลักหลังให้เดินไปอีกทาง แม้ฉันจะยังมึนงงแต่ก็พอเดาสถานการณ์ออกจึงไม่รีรอรีบวิ่งหนีออกมาจากตรงนั้นทันที ได้ยินเสียงจีซัสตะโกนดังลั่นแต่ไม่มีเวลาหันไปมองแล้ว
ให้ตายเหอะ! ทำไมฉันต้องวิ่งหนีหมอนี่อีกแล้วล่ะเนี่ย!
“หยุดเดี๋ยวนี้นะซอ! ครั้งนี้ฉันไม่ยอมให้เธอหนีแน่!” เสียงตะโกนตามหลังมาไม่หยุด ฉันวิ่งมาทางหลังตึกคณะ ผ่านผู้คนอยู่บ้าง แต่พวกเขาก็ไม่ได้สนใจฉันเท่าไหร่ วิ่งมาจนถึงทางเดินไปอีกตึกซึ่งเป็นโถงทางเดินทอดยาว สองฝั่งมีห้องซึ่งถูกปิดประตูเอาไว้หลายห้อง ฉันมองหาห้องที่สามารถเข้าไปหลบได้ แต่เหมือนมันจะล็อกทุกห้องเลยนี่น่ะสิ!
“มึงตรวจแผงผังอีกรอบแล้วใช่ไหมวะ นี่จารย์ทวงเช้าทวงเย็นจนกูจะบ้าตายล่ะ” เสียงพูดคุยของผู้ชายคนหนึ่งดังมาจากปลายทางเดินฝั่งตรงข้ามฉัน เขาคือพี่เธียกับพี่โซ่ที่เดินขนานข้างกันมา ฉันเหมือนเห็นแสงสว่างร่ำไร ไม่ต้องใช้เวลาคิดรีบวิ่งเข้าไปหาพวกเขาทันที
“พวกพี่… ช่วยฉันด้วยค่ะ!”
ทั้งคู่หยุดชะงักฝีเท้าหันมองฉันด้วยสีหน้าตกใจปนประหลาดใจ ไม่มีเวลาอธิบายอะไรแล้ว จีซัสวิ่งตามหลังมาเจอฉันเข้าแล้ว
“สายซอ! หยุดหนีฉันสักที!”
ฉันรีบหลบข้างหลังพี่โซ่ทันที หมอนั่นมันบ้าไปแล้ว ทำไมต้องวิ่งไล่ฉันอย่างเอาเป็นเอาตายแบบนั้นด้วย นี่มันเข้าข่ายคุกคามทางเพศแล้วนะ!
“ไอ้เวรนี่อีกแล้ว มันตามราวีน้องซอเหรอ” น้ำเสียงพี่เธียเข้มขึ้นกว่าปกติ เขาจำจีซัสได้ และจีซัสเองก็จำเขาได้เช่นกัน
“พวกมึง…! ไสหัวไปซะ! อย่ามาเสือกเรื่องของกู!” จีซัสไม่เคยกลัวอะไรเลยจริง ๆ เขายังคงหยาบคายได้เสมอต้นเสมอปลาย ไม่สนว่าใครจะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง เหมือนก่อนหน้านี้ในห้องปฏิบัติการ 4 ไม่มีผิด
“หมอนี่เป็นใครเหรอซอ” พี่โซ่หันมาถามฉันอย่างใจเย็น
จริงสิ วันนั้นที่จีซัสอาละวาดเขาไม่ได้อยู่ด้วยนี่นะ
“เป็นแฟนเก่าค่ะ” ฉันตอบอย่างไม่เต็มเสียงนัก รู้สึกพลาดที่ครั้งหนึ่งเคยคบกับผู้ชายคนนี้
“แฟนเก่างั้นเหรอ? เหอะ! ฉันยังไม่ได้เลิกกับเธอจะเป็นแฟนเก่าได้ไงวะ?!” จีซัสยกยิ้มชั่วร้าย สายตาดุดันจ้องฉันเขม็ง ทำไมเขามันดื้อด้านขนาดนี้นะ ฉันต้องทำยังไงถึงจะสลัดหมาบ้าอย่างเขาพ้นสักที
“ผู้หญิงเขาบอกว่าเลิกกันแล้ว มึงยังจะดึงดันเพื่อ? ไม่มีศักดิ์ศรีสักหน่อยหรือไงวะ?” พี่เธียตะโกนถามกลับ สัมผัสได้ถึงบรรยากาศมาคุรอบตัว
“มึงเสือกเหี้ยอะไรด้วย!”
“ไม่เสือกไม่ได้ว่ะ เพราะน้องซอเป็นแฟนเพื่อนกู จะปล่อยให้ถูกหมาอย่างมึงมาตามราวีได้ไง”
คำว่าแฟนเพื่อนของพี่เธียทำฉันชะงักเล็กน้อย เขาหมายถึงฉันเป็นแฟนเฮียสิงห์หรือเปล่า? ฉันเงยหน้ามองร่างสูงทั้งสองด้วยความรู้สึกตกใจหน่อย ๆ ไม่คิดว่าพวกเขาจะจริงจังกับคำพูดเฮียสิงห์ขนาดนั้น
วันนั้นหลังจากเฮียสิงห์พูดประโยคนั้นออกมาก็ไม่มีใครพูดอะไรอีกเลย พี่เคย์ลากยัยพี่พริมออกจากห้อง ส่วนฉันก็ขอตัวกลับมาเรียนต่อซึ่งเฮียสิงห์ก็ยอมให้กลับออกมาง่าย ๆ ฉันก็คิดว่าเรื่องมันคงจบตรงนั้น คงไม่มีอะไรแล้วซะอีก กลับกลายเป็นว่าพวกเพื่อน ๆ เฮียสิงห์จริงจังกับเรื่องนั้นอย่างงั้นเหรอ
“แฟนเพื่อน? งั้นข่าวเวรนั่น…” จีซัสพึมพำกับตัวเอง ฉันมองเขาด้วยความไม่เข้าใจ เขาพูดถึงข่าวเหมือนแยมส้มเลย ข่าวอะไรกัน…
“ถ้าหมายถึงข่าวลือที่ว่าไอ้สิงห์มีแฟน ถูกต้อง… ผู้หญิงคนนั้นก็คือสายซอ”
อะไรนะ…
ฉันหันขวับมองหน้าพี่โซ่เจ้าของประโยคน่าตกใจนั่น เขากำลังพูดถึงข่าวอะไร… เฮียสิงห์มีแฟนงั้นเหรอ…
“ดะ เดี๋ยวนะคะ มีข่าวลือแบบนั้นด้วยเหรอคะ?”
“อ้าว น้องซอไม่รู้เหรอ ตอนนี้น้องดังมากเลยนะ พวกสาว ๆ อิจฉาน้องกันทั้งมหาลัยแล้ว” พี่เธียหันมายิ้มตอบ สีหน้าเขากลับมาทะเล้นยามคุยกับฉัน
“ทะ ทำไมคะ?”
“แหม ไอ้สิงห์มันเคยมีแฟนซะที่ไหน น้องซอเป็นคนแรกเลยนะ ใคร ๆ ก็ต้องอิจฉาสิ จริงไหมไอ้โซ่” เขาหันไปหาแนวร่วมยืนยันคำพูด พี่โซ่ทำเพียงพยักหน้ารับขณะสายตาจับจ้องไปทางจีซัสไม่ยอมละ
“แต่ว่าเรื่องนั้นมัน…” ฉันกำลังจะปฏิเสธ ทว่าสายตาเลื่อนไปสบกับดวงตาเดือดดาลของจีซัสพอดี คำปฏิเสธก่อนหน้าถูกกลืนลงคอทันที
ไม่ได้… นี่อาจจะเป็นหนทางที่ดีในการหนีจากจีซัสก็เป็นได้ ถ้าหมอนี่เข้าใจว่าฉันเป็นแฟนกับเฮียสิงห์ เขาก็จะแตะต้องฉันไม่ได้อีก
“เธอโกหกใช่ไหมซอ เธอกับไอ้เวรนั่นไม่ได้เป็นแฟนกันจริง ๆ ใช่ไหมวะ?” จีซัสเดินเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้น ขณะที่ฉันขยับเข้าหาพี่โซ่มากขึ้นเช่นกัน หมอนั่นมันหมาบ้า ฉันไม่กล้าเสี่ยงกับเขาหรอก
“ชะ ใช่ ฉันเป็นแฟนเฮียสิงห์จริง ๆ” ฉันตัดสินใจโกหกคำโต แฟนก็แฟนสิ นี่คือสิ่งที่ฉันต้องการจากเฮียสิงห์อยู่แล้วนี่นา ใช้เขาเป็นไม้กันหมา กันจีซัสออกไปจากชีวิตฉัน
มันช่วยไม่ได้นี่… ถ้าการเป็นแฟนเฮียสิงห์สามารถช่วยให้ฉันหนีพ้นเงื้อมมือจีซัสได้ และยังได้รับการปกป้องจากบรรดาเพื่อนของเฮียสิงห์ด้วยแบบนี้ งั้นฉันจะขอรับไว้แล้วกัน… สถานะนี้น่ะ!
“ไม่จริง เธอโกหก!” จีซัสทำท่าจะพุ่งเข้ามาหาฉัน ทว่าไหล่ข้างซ้ายของเขากลับถูกมือหนาของใครคนหนึ่งคว้าไว้จากด้านหลังก่อนกระชากเขาสุดแรงจนเสียหลักถอยไปหลายก้าวพร้อมกับการปรากฏตัวของเจ้าของการกระทำนั้น
“คิดจะแตะต้องยัยนั่น มึงเตรียมพังไว้แล้วสินะ”